Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
27 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
Mix them up (update)

• Mix Them Up (update) •


ก็จาก Mix them up! อันก่อน เราซื้อ L-Ascorbic Acid (30 g), Alpha Lipoic Acid (ALA) (30 g), และ Kojic Acid Dipalmitate (15 g) มา ก็เริ่มทดลองใช้ไปซักเดือนกว่าๆ ก็เลยเอามาแปะไว้ในนี้เล่นๆ แค่ดูว่าเราเล่นอะไรกับมันอยู่



• L-Ascorbic Acid •


มาเริ่มที่ L-Ascorbic Acid ก่อน ซื้อมา 4USD (ถูกโคดๆ) เอามาจับใส่กระปุก 50 ml ก็เต็มกระปุก (แบบอัดๆ หน่อย) ตอนนี้ก็ใช้อย่างเมามันมาก หมดไปครึ่งกระปุกแล้ว (ใช้เร็วมาก) เห็นมันถูกเลยใช้แบบฟุ่มเฟือยมากเลย ทั้งทาหน้า ทาคอ ทาตัว (ถ้าไม่ขี้เกียจ)

ก็มาพูดถึงการทาหน้าละกัน ช่วง 1/3 หรือ 1/4 กระปุก เราใช้ L-ascoribic acid ผสมกับ HA serum หรือ Ceullular Serum แต่ serum สองตัวนี้หมดขวดเกลี้ยงหมดไปแล้ว ไม่ได้ซื้อต่อเพราะว่าของที่มีอยู่เยอะแยะไปหมด ต้องใช้ให้หมดก่อน ช่วงแรกใช้มากเกินไป เห็นมันถูก ทาแล้วมุมปากไหม้ไปเหมือนกัน >_< คือแบบว่าแสบๆ แดงๆ ต้องหยุดใช้ไปสามวัน พอหายแล้วก็ใช้ต่อ แต่ลดปริมาณให้น้อยลง ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ชอบมาก

ตอนนี้ก็เหลือไม่ถึงครึ่งกระปุกแล้ว ... ก็กำลังใช้ร่วมกับ La Roche Posay Toleriane Soothing Protective Light Facial Fluid (มีส่วนผสมของ น้ำ squalane และ glycerin เป็นหลัก ที่เหลือก็ไม่มีอะไร) เราเอามาผสมกับ vitamin c ทำให้มันซึมได้ดีกว่าการผสมกับน้ำเปล่า ... เนื้อโลชั่นของ LRP ตัวนี้ค่อนข้างเหลวอยู่แล้ว แต่พอผสมกับ vitamin c แล้ว ความข้นของ LRP หายไปหมดเลย กลายเป็นน้ำเลย ... วิธีผสมก็ง่ายๆ ตัก vitamin c ใส่มือ กด LRP fluid ลงไป 3-5 ปั๊ม แล้วแต่อารมณ์ (เพราะมันซึมง่ายมาก) ... ผสมให้ดี โดยใช้นิ้วกวนๆ จนมั่นใจว่าละลายหมด จากนั้นก็เอาไปแปะๆ ที่หน้า ทาแล้วก็มีอาการยิบๆ เล็กนอย (ร้อนนิดหน่อย)



รอนิดนึงให้มันซึม แล้วก็ตามด้วย Clarins Thirst Quenching Hydra-Balance Serum เราก็เขย่าขวดก่อน แล้วก็ปั๊ม 2-3 ปั๊ม ใส่มือ แล้วก็เอาไปแปะๆ นวดๆ หน้าเบาๆ ... แป๊บเดียวก็ซึมหายไป ผิวหน้าดูชุ่มชื้น บางเบามาก ... ระยะแรกก็ทาแค่นี้ แล้วก็ตามด้วย sunscreen เลย

... แต่พักหลังก็ต่อด้วย Juice Organics Brightening Serum เพิ่งได้มาไม่นานนัก ทาอันนี้แล้วจะรู้สึกร้อนๆ นิดหน่อย (มันมี AHA) เนื้อ serum ค่อนข้างบางเบา (แต่ไม่เบาเหมือน Clarins และ LRP Fluid) เราใช้ serum ตัวนี้เป็น moisturizer มากกว่า (เสร็จแล้วก็ตามด้วย sunscreen เลย)



ตอนกลางคืนก็ทาแบบเดียวกัน แต่ตามด้วย La Roche Posay Toleriane Soothing Protective Cream Riche แต่มันหมดไปพักนึงแล้ว ตอนนี้ก็ทาทับด้วย Evian Affinity Original Hydrating Lotion Sensitive Skins ซึ่งมีส่วนผสมหลักเป็น Shea butter + vitamins + aloe ทาแล้วก็ออกมันนิดหน่อย เพราะมี shea butter เยอะ รู้สึกว่าหน้าชุ่มชื้นดี



ผลที่ได้: ก็ไม่รู้จะพูดอะไรมาก ... ก็ vitamin c ... ตอนนี้ก็ผิวใสดี (ปกติดี) ให้ผลเหมือนหรือใกล้เคียงกับ vit c serum ตัวอื่นๆ แต่รู้สึกบางเบากว่า ... ไม่มีปัญหาหน้าหมองระหว่างวัน แต่ก็อย่าใช้เยอะเกินไปเพราะจะทำให้หน้าไหม้ หรือระคายเคือง พูดถึงเรื่องคุณภาพและราคา ให้ไปเลย 10/10 เพราะว่าราคาถูกมากๆ ใช้ง่าย ละลายง่าย ให้ผลในทางที่ดี

ข้อเสีย: ก็คงหนีไม่พ้นการผสม ที่ต้องเสียเวลาพอสมควร ความจริงเสียเวลานี่ไม่ใช่ issue สำหรับเราอีก เพราะมันชินแล้ว แล้ว LRP fluid มันเปิดฝา และปั๊มง่าย ขนาดขวดพอเหมาะมือ เคยไม่ยุ่งยาก แต่ปัญหาที่ตามมาคือหลังจากผสมแล้ว มันจะเลอทั้งมือ ถึงแม้ว่าจะไม่เหนอะ ก็ตาม พอเราจะหยิบขวดต่อไปมาใช้ มันจะเลอะเทอะ บางทีก็ ทิ้งคราบๆ ไว้กับขวดอื่นๆ ที่เราหยิบต่อไป แต่ถ้ารอให้มันแห้งหน่อย ก็ไม่ใช่ปัญหา อีกปัญหานึงคือ เล็บส้ม คือหลังทาแล้วเราไม่ได้ล้างมืออีก (กะให้บำรุงมือด้วย) แต่ผลที่ได้คือเล็บส้มเลย โดยเฉพาะนิ้วที่เราใช้ผสม vit c ไม่ชอบเลย >_< พักหลังเราเลยพยายามล้างมือหลังทาครีม ถ้าไม่ขี้เกียจหรือลืม ก็หวังว่าเล็บส้มคงเป็นปัญหาน้อยลง



• Alpha Lipoic Acid (ALA) และ Kojic Acid Dipalmitate •


ต่อมาก็เป็น Alpha Lipoic Acid (ALA) และ Kojic Acid Dipalmitate เราใช้อาทิตย์ละครั้ง บางทีก็สองครั้ง ผลเหรอ ก็ไม่รู้ซิ ผิวก็ดีอะนะ แต่ไม่รู้ว่าอะไรมันช่วยหรอก ถ้าไม่ใช้เราว่ามันก็คงไม่มีผลอะไรเท่าไหร่ ... เหอะๆๆ แต่ก็ใช้เล่นๆ ไป เพราะใช้แล้วก็ไม่ได้ให้ผลร้ายอะไร สนุกดีด้วย ใช้ไปนานๆ ก็คงบำรุงผิวได้บ้างแหล่ะ

เราเล่นอะไรกับสองตัวนี้มาก็มาดูกัน

อันดับแรก มาดู จานเพาะเชื้อ ...



รูปมันออกเหลืองๆ หน่อย เพราะเราถ่ายในห้องน้ำ (ไฟมันออกเหลืองๆ หน่อย)

เราก็ตัก ALA 1 ช้อน แล้วก็ Kojic Acid Dipalmitate อีก 1 ช้อน ... อ้อ สองตัวนี้เราควรใช้ประมาณ 2-5% แต่เราก็ใช้มั่วๆ แหล่ะค่ะ

ALA จากที่เห็น เป็นสีเหลือง ละลายในน้ำมัน แต่ขอบอก ละลายยาาาาาาาาาก มาก เราลองน้ำมันที่เรามีอยู่ทุกตัว ก็ยังละลายไม่ค่อยหมด ... เริ่มจาก Jojoba Oil ก็ไม่ค่อยละลาย, Decleor Ylang Ylang ก็ไม่ค่อยละลาย, Mineral Oil ก็ไม่ค่อยละลาย แล้วเราก็ลองน้ำมัน Decleor ของแถมอีกหลายๆ ตัวก็ไม่ค่อยละลาย ... ใครลองผสม ALA แล้วไม่ละลาย ระวังให้ดี เราลองมาแล้ว โคตรร้อนเลย ... คือมันรู้สึกยังเป็นเม็ดอยู่ ไอ้ตรงเม็ดๆ ที่ไม่ละลายนั่นแหล่ะ อุ่นมาก มากจนร้อนเลย ครั้งแรกที่เราทำ เราเททุกอย่างผสมกัน (น้ำมัน mask ALA Kojic) แล้วผสมกันรวดเดียว แล้วกวนๆ โบ๊ะหน้าเลย ... ไม่ถึงนาทีต้องรีบล้างออกเพราะมันร้อน

ก็เลยเอามาแยกละลายดู ตัว ALA ละลายยากมาก แถมมันเป็น Acid ด้วย ร้อนมากๆ ที่หลังก็เลยต้องละลายให้ดีๆ ก่อนผสมอย่างอื่นลงไป

ส่วนตัว Kojic Acid Dipalmitate มันเป็นเกล็ดเล็กๆ เงาๆ เหมือน glitter เลย ยังกะ mac pigment พวก frost เลย ... ละลายไม่ยากนัก ก็ไม่มีปัญหาอะไร

อันนี้ก็มาดู จานเพาะเชื้อ หลังจากหยดน้ำมันไปแล้ว (อันนี้เราใส่ Ylang Ylang ลงไป)



จากนั้นก็หยดน้ำลงไปนิดหน่อย (เรารู้สึกว่ามันละลายได้ดีกว่า) ใช้นิ้วกวนๆ วนไปวนมา ซัก 1 นาทีกว่ามันจะละลาย แต่ก็ยังไม่หมดดี อาจจะเพราะเราใส่น้ำมันน้อยไปรึไงก็ไม่แน่ใจ แต่เราอยากทำเป็น mask เราเลยไม่อยากใส่น้ำมันมากไป

เราพบว่าใส่ moisturizer ตัวนี้ไปแล้วมันละลายได้ดี (แต่บางทีก็ไม่ใส่ แล้วแต่อารมณ์)



Lac-Hydrin lotion ตัวนี้ก็ไม่มีอะไร ก็แค่ AHA lotion (lactic acid) ที่มีส่วนผสมไม่มากมายอะไร นอกไปจาก 12% lactic acid แล้วก็ cetyl alcohol, glycerin และ preservatives (ขวดเบ้อเริ่ม ได้มาจาก drugstore ค่ะ) ความจริงซื้อมาทาตัว แต่เอามาทาหน้าได้ (ราคา 20CAD, 225 ml)

Active Ingredients: Lactic acid 12%
Other Ingredients: Ammonium hydroxide, cetyl alcohol, fragrance, glycerin, glyceryl stearate/PEG-100 Stearate, Laureth-4, magnesium aluminum silicate, methylcellulose, methylparaben, mineral oil, PEG-40 stearate, propylene glycol, propylparaben, water.



ก็ไม่ได้ใส่มากนัก เอาให้มันละลายแค่นั้นเอง

อ้อ บางทีเราก็ใส่ l-ascorbic acid ไปอีกด้วย บางที่ก็หยด SKi-Essence ที่ตั้งไว้ ไม่ได้ใช้อีก (กลัว breakouts) เอามาหยดๆ ใส่ไปด้วย แต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่ได้ใส่มากนัก ... เอาเป็นว่า อยากใส่อะไรก็ใส่ไป ... ประมาณนั้น



พอกวนจนได้ที่ ... แล้วก็ใส่ส่วนผสมอันสุดท้ายลงไป ... ความจริงจะเอาทาหน้าเลยก็ได้ แต่มันเหลวไปหน่อย แล้วก็เข้มข้นมากด้วย เราก็เลยเอา mask มาผสม ... mask อันนี้ก็ไม่มีอะไรเลย แบบได้มาจาก homestay mother เมื่อก่อนโน้น คือตอนนี้ก็เจอกันบ่อยๆ เค้าขา Avon เค้าก็ขน Avon มาให้เรา ไอ้เราก็ไม่ชอบหรอก แต่ไม่ได้บอกเค้าว่าเราไม่ชอบ มีอะไรมาก็ลองเล่นบ้าง แจกคนอื่นบ้าง ไปเรื่อยๆ เปื่อย ... เจ้า mask ตัวนีก็ไม่มีอะไรพื้นๆ



ก็บีบ mask นี้ไปผสม



แล้วก็กวนๆ ให้เข้ากัน หน้าตาออกมาประมาณนี้



จากนั้นก็โบ๊ะลงไปบนหน้าที่สะอาด แล้วก็ซับน้ำออกแล้ว พอโบ๊ะปุ๊บ จะรู้สึกว่าร้อนๆ (อุ่นๆ มากกว่า) จาก ALA ... แบบว่า วืบๆ ตลอดการ mask เลย ... เราทิ้งไว้ 10 นาทีโดยประมาณ

... ไม่รู้ปกติระหว่าง mask หน้าจะทำอะไรกัน ... ส่วนตัวเราชอบที่จะ สระผม และล้างหน้าให้สะอาดก่อน จากนั้นก็ใส่ครีมหมักผม แล้วก็โบ๊ะ mask แล้วก็นอนแช่ในอ่าง เปิดเพลงฟัง แล้วก็เล่นเกม freecell ที่มากับ handheld (เอาใส่ ziplock กันน้ำ) อ่างน้ำก็ใส่พวกน้ำมัน หรือ shea butter ลงไปด้วย ... relax ดี

พอครบ 10 นาทีก็ล้างออก ... ถามว่ารู้สึกยังไง ไม่รู้ซิ เฉยๆ หน้านุ่มเนียนดีเหมือนกัน ... เราว่ามันคงจะ exfoliate ผิวพอสมควรเลย ... มันก็ ALA+AHA+Kojic ก็ไม่ได้ใช้ทุกวันด้วย ผิวเราก็ไม่ค่อยมีปัญหา ก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร >_< แล้วจะใช้ทำไม ... แต่เราว่าใช้ไปๆ คงจะช่วยอะไรบ้างแหล่ะ ... อ้อ เราพอกคอด้วย คอจะได้ขาวๆ เหมือนหน้า ... ผิวเราตอนนี้ก็เนียนดี สิอุดตันไม่มี สิวไม่มี จุดด่างดำไม่มี ก็ได้ผิวประมาณนี้น่ะ แต่เราเครดิต vit c + facial serums มากกว่า

หลังล้างหน้าเสร็จก็นอนแช่ต่อซักพัก ก็ฟอกสบู่ ล้างผม ล้างตัว ล้างหน้าด้วย facial wash ก็เป็นอันเสร็จ



• Conclusion •


หมดแล้วแหล่ะ ... สรุป ละกัน ... ตัว ala + kojic acid คงจะไม่ซื้อมาเล่นแล้วหล่ะ เพราะมันละลายยากมากๆๆๆๆๆๆ แล้วตอนนี้เห็น เริ่มเห็น ala แบบที่ค่อนข้างเข้มข้นใน drugstore ในราคาไม่แพงมาก ไม่ยุ่งยากดี ... ส่วน kojic acid ก็คงไม่ซื้ออีก เราคงไม่ขาวไปกว่านี้แล้วอะ

ส่วนตัว vitamin c ต้องบอกว่า ไม่แน่ ... นอกจากปัญหาเล็บส้ม เราแบบเทใจให้เต็มร้อยเลย ... มันอาจจะซึมไม่ดีหากผสมกับอะไรที่ไม่ค่อยช่วยในการซึม ซึ่งอาจจะทำให้เห็นผลช้ากว่า vit c serum แต่เราคิดว่า vit c มันสด บริสุทธิ์ และ ราคาถูกดี เป็นอะไรที่คิดว่าจะซื้ออีกนะ

พูดถึงการผสม vitamin c นิดนึง สำหรับคนที่ผสม vitamin c แบบ ผง กับ cream (ไม่ใช่ lotion หรือ lotion ที่ค่อนข้างเข้น) ... เราว่า ผสมกับอะไรที่เป็นน้ำก่อน จะหยดน้ำหยดเล็กๆ หรือ toner ดีๆ ไปผสมก่อน ทำให้มันละลายให้ดีก่อนที่จะผสมกับ facial cream จะช่วยให้ vitamin c ละลายได้ดี และลดการเกิดออกซิไดซ์กับอากาศทำให้หน้าหมอง (เป็นสีส้ม) แล้วหลังจากผสมแล้ว ต้องล้างมือ โดยเฉพาะเล็บ ไม่งั้นเล็บส้มค่ะ




Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2550 22:30:04 น. 9 comments
Counter : 1870 Pageviews.

 
Super Cool again....
You are really awesome.
Thank a lot ka.


โดย: ผึ้ง IP: 203.188.9.35 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:28:01 น.  

 
คุงฟีบี้ วิตซีของเราไม่ส้มอ่ะ เสร่อไปซื้อแบบที่เขาเอาไว้ละลายน้ำชงดื่มอ่ะ รู้สึกว่าจะเป็นผงโรสฮิปอะไรเนี่ยล่ะ (ไม่ได้ซื้อที่เดียวกะฟีบี้จังเพราะเราไม่มีเพพาว) แต่ทาแล้วก็ร้อนๆใช้ได้เลยนะ แสบเชียว แต่แอบแพงกว่าของฟีบี้จังนิดนุงไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม



มาวิวให้คราวนี้ เดี๋ยวจะเอาไปอะแด๊ปแล้วทำตามนะก๊ะ thanks


โดย: uchiara IP: 68.79.154.94 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:23:06 น.  

 
อีกทีนะ เพิ่งนึกได้ว่า เพราะเราซื้อผิดประเภท หรือ เราผสมไม่ถูกวิธีหว่า มันเลยไม่อ๊อกซิไดเป็นสีส้ม (ผงวิตซีของเราสีขาวเหมือนฟีบี้จังล่ะ) แล้วถ้าผสมไม่ถูกวิธีมันก็ไม่เกิดประโยชน์อ่ะจิ


โดย: uchiara IP: 68.79.154.94 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:28:25 น.  

 
หาซื้อผงวิตซีได้ที่ไหนอ่ะคะ ไทยมีขายรึป่าวคะ อยากลองดูมั่ง ท่าทางจะประหยัดเงินได้เยอะเลย ขอบคุณหลายๆ ที่นำสูตรดีๆ มาให้นะคะ ^^


โดย: cupid*-*berry IP: 58.9.60.207 วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:8:31:07 น.  

 
ผงวิตซีของเราก็เป็นผงๆสีขาวอ่ะค่ะ ที่กระปุกมันก็เขียนบอกว่าเอาไว้ผสมอาหารเหมือนกัน ไม่รู้ว่าแบบนี้จะใช้ได้หรือป่าว ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่เราก็แอบลองทำเองดูแล้วด้วยสองครั้ง หุหุ

เราเอามาผสมกับโทนเนอร์ของ La Roche Posay เจ้าตัวที่สุดยอดๆนั่นแหละ หมุนๆวนๆนวดๆบนฝ่ามือตั้งนาน ประมาณห้านาทีได้มั้ง ไอเจ้าตัววิตซีมันก็ยังไม่ค่อยละลายเท่าไหร่ เราก็เอามาโบ๊ะหน้าซะแล้ว อิอิ ผลที่ได้คือ แสบๆยิบๆคันๆ แต่ไม่ร้อนนะ และรู้สึกว่าตอนที่เอามาทาที่หน้ามันจะเหมือนกับว่า บาดหน้าอ่ะ แต่ก็ไม่ได้มีรอยอะไรที่หน้าหรอก สงสัยคิดไปเองมั้งเรา แต่พอทิ้งไว้สักพักอ่ะนะ หน้าเราก็จะกลายเป็นคราบขาวๆอ่ะ และไอตัววิตซีมันก็จะเป็นผงประกายๆทั่วหน้าเลย แอบสากๆและบาดหน้าด้วยเวลาลูบๆ และมันก็ยิบๆมากๆๆๆๆๆ และรู้สึกว่าหน้าแห้งๆๆๆๆๆๆด้วย หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอีกเลย เพราะคิดว่าสงสัยซื้อมาผิดตัวมั้ง หรือก็ผสมผิดสูตร

ปล.ตอนที่เราทำเรายังไม่ได้อ่านของพี่ฟีบี้ง่ะ ทำเอาเองมั่วๆอิอิ

สรุปนะ
ก็รอคำตอบจากพี่ฟีบี้และกันว่า ไอเจ้าวิตซีที่เราใช้เนี้ยมันถูกประเภทหรือป่าว ถ้าถูกก็จะได้เล่นอีก อิอิ ชอบอ่ะแบบว่ามีกิจกรรมอะไรให้ทำกับหน้าตัวเองและหน้าของชาวบ้าน อิอิ ถ้าไม่ถูกก็คงเอาไว้กินอย่างเดียวแหละ แต่ว่าไม่รู้จะเอามาผสมอาหารอะไรด้วยซิ เพราะว่ามันเปรี้ยวง่ะ


โดย: JiBang IP: 62.240.182.4 วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:4:30:52 น.  

 
สนุกสนาน ทำการทดลองใหญ่เลย
Thanks for sharing ka


โดย: crotte IP: 66.30.8.48 วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:14:30:47 น.  

 
ชอบบล็อคนี้จัง ตอนนี้เราเพิ่งจะเริ่มใช้ลาโลส เพราะชอบครีมกันแดดมากที่เป็นสีส้ม (แต่หาซื้อยากโคตร )เลยลุกล่ามมาใช้ยกเซ็ต เห็นคุณมีการเเนะนำเราเลยชอบมากเวลาจะตัดสินใจซื้อจึงไม่ต้องคิดหนัก เราเป็นคนหน้ามัน เเละเป็นสิวง่ายมากๆ เคยลองยูเซอรีน ไม่ดี(สำหรับเราน่ะ) เเพ้ค่ะผื่นขึ้น สิวเหาะมาเกาะบนหน้าเลยต้องไปหาหมอ 55+

เเนะนำสวยๆงามๆแบบนี้ ชอบจัง ;]


โดย: Jk ;] IP: 124.121.56.215 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:11:55:06 น.  

 
รบกวน คุณ Phobe ช่วย review สบู่ล้างหน้า ตัวนี้ของ Erno Lazlo ให้หน่อยได้ไหมครับ เป็นคนที่หน้ามันมาก มีสิวอุดตันเยอะพอสมควร และมีสิวหัวหนอง (ขาวๆ) เม็ดเล็กๆ พอสมควร ระหว่าง 2 ตัวนี้

Erno Lazlo sea mud Soap

กับ

Erno Lazlo special skin Soap


ตัวไหน เหมาะสมกับสภาพผิวของผมที่สุดครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ


โดย: L.G. IP: 58.8.16.226 วันที่: 26 เมษายน 2550 เวลา:17:02:18 น.  

 
รบกวนพี่ Phoebe ช่วยแนะนำวิตามินซีที่เจ๋งๆให้สักตัวสองตัวด้วยนะค่ะ เอาแบบใช้แล้วหน้าใสกิ๊งและใช้เวลาไม่นาน(มีไหมหนอ?) ขอแบบที่มีวางขายในไทย หาซื้อได้ง่ายๆด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ขอรบกวนอีกอย่างค่ะ คือ หนูอยากทราบว่าถ้าหน้ามีสิอักเสบนิดหน่อยจะสามารถใช้วิตามินซีได้หรือเปล่าค่ะ ขอบคุณมากๆอีกครั้งค่ะ


โดย: น้องหมี IP: 203.113.76.7 วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:14:54:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Phoebe Buffay
Location :
ทุ่งหญ้า Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 173 คน [?]




"It's Phoebe! That's, P as in Phoebe; H as in hoebe, O as in oebe; E as in ebe; B as in bebe; and E as in ... Ello there mate." Friends

There is no copyright here, unless otherwise specifically mentioned. If you find it useful, just take it. Thanks!

CHAT BOX



LAST UPDATES
LOSEING WEIGHT (BBC)
SKINCARE MINI SERIES
FAVORITES

Friends' blogs
[Add Phoebe Buffay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.