BKK - RATCHABURI :: วัดหนองหอย
สำหรับใครที่มองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลเกินไปนักจากกรุงเทพฯ ราชบุรี ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจ นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงอย่างตลาดน้ำดำเนินสะดวกแล้ว ขับรถเลยมาอีกสักหน่อย ก็สามารถแวะนมัสการเจ้าแม่กวนอิมที่ตั้งอยู่บนยอดเขาเขตวัดหนองหอย ซึ่งเป็นที่ลำลือกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ขออะไรก็ได้ดังใจ จนทำให้สถานที่แห่งนี้ในแต่ละวันมีผู้คนแวะเวียนเข้ามาสักการะบูชาเจ้าแม่กวนอิมเป็นจำนวนมาก
จากเส้นทางหลักมุ่งตรงเข้าสู่จังหวัดราชบุรี เข้าเขตจอมบึงขับรถตรงมาเรื่อยๆ โดยใช้เส้นทางที่ไปเขางู ไม่นานนักก็จะพบวัดหนองหอย ซึ่งวัดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2416 ตั้งอยู่ในเขตตำบลเขาแร้ง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 12 กิโลเมตร จากทางเข้าวัดหนองหอยขับรถตามเส้นทางมาเรื่อยๆ ก็จะพบกับอาคารที่เป็นพระวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิมตั้งอยู่บนยอดเขาหนองหอย ดูจากสถานที่แล้วต้องยอมรับกับความพยายามในการสร้างสถานที่แห่งนี้ เพราะสถานที่ใช้ยอดเขาทั้งลูกเนรมิตเป็นพระวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระแม่เจ้ากวนอิม
พวกเราเดินทางมาถึงราวๆ เกือบสี่โมงเย็นแล้วล่ะ สภาพอากาศวันนี้ไม่ค่อยเอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ แต่มาด้วยใจขับรถฝ่าฝนมาวัดดวงเอาข้างหน้า สงสัยเทวดาจะเห็นใจนานๆ จะมาทำบุญเสียที ฟ้าจึงเปิดฝนหยุดชั่วขณะ วันนี้พวกเราถึงได้เก็บรูปสถานที่แห่งนี้มาฝากเพื่อนๆ ถึงแม้จะดูมืดฟ้ามัวดินไปบ้างก็ตาม เมื่อมาถึงที่จอดรถด้านบน สิ่งแรกที่เป็นที่สะดุดตานั่นก็คือ ผู้คนจำนวนมากกำลังเพลิดเพลินกับการโยนเหรียญใส่สะดือของพระสังกระจาย และอีกมุมหนึ่งก็จะเห็นผู้คนกำลังถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ด้านบนของภูเขาสูงแห่งนี้ ซึ่งมองเห็นผืนแผ่นดินสีเขียวไกลสุดลูกตา และเมื่อคนซาลงไปแล้ว พวกเราก็ลองไปโยนเหรียญกันดูบ้าง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะนั่น มิน่าล่ะทำไมคนข้างๆ ถึงลุ้นกันตัวโก่งกันเลยทีเดียว
เมื่อโยนเหรียญอธิษฐานกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ขึ้นไปยังด้านบนอาคาร ซึ่งตลอดการเดินทางขึ้นไปนั้น ก็จะได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงคลอๆ ไปตลอดเส้นทางการเดินขึ้นไปบนพระวิหาร บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในร้านฟูจิเลยล่ะ เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนก็จะพบผู้คนจำนวนมากกำลังไหว้พระขอพร แล้วเราจะชักช้าอยู่ใยล่ะ
เริ่มจากไปที่จุดรับธูปเทียนทองและดอกไม้ โดยต้องจุดธูปทั้งหมด 11 ดอก ซึ่งธุปสามดอกแรกใช้สำหรับไฟว้ฟ้าดินซึ่งเป็นกระถางใหญ่หน้าวิหาร และธูปสามดอกต่อมากับเทียนหนึ่งเล่มทองคำเปลวหนึ่งแผ่นใช้สำหรับไหว้พระโพธิสัตว์กวนอิมในวิหาร และธูปอีกสามดอกต่อมาใช้สำหรับไหว้พระเวทโพธิสัตว์อ่วยโท๊ยที่อยู่ด้านขวาของวิหาร และธูปสองดอกสุดท้ายใช้สำหรับไหว้เทพผู้รักษาประตูข้างละหนึ่งดอก
เมื่ออ่านวิธีการไหว้เจ้าแม่กวนอิมเสร็จแล้วพวกเราก็เดินไหว้ตามเส้นทางที่กำหนด โดยเริ่มจากไหว้ฟ้าดิน จากนั้นก็ไปขอพรพระสังกัจจายน์ ว่ากันว่าเป็นพระมหาลาภร่ำรวยเงินทองความสุข สมปรารถนา และการที่ท่านชูทองนั้นหมายถึงการค้ำจุนค้ำชูให้ฐานะการงานการเงินมั่นคง โชคลาภเงินทอง ไหลมาเทมา ซึ่งตรงนี้ให้อธิฐาษแล้วลูบองค์ท่านขอพรเข้ากระเป๋าเรา ซึ่งต้องนี้ไม่มีใครพลาดควักกระเป๋าตังค์ขึ้นมากันเป็นแถวเลย จากนั้นก็เดินไปอธิษฐานขอพรต่อที่ไฉ่เส่งเอี้ยเทพเจ้าแห่งโชคลาภและความร่ำรวย โดยตรงนี้ให้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรโชคลาภ เงินทอง เกียรติยศชื่อเสียง ความสำเร็จ โดยใช้มือลูบองค์ท่านขอพรสู่กระเป๋าเราเช่นกัน
เมื่อได้เงินทองเข้ากระเป๋าเราแล้ว ก็เดินเข้าด้านในเพื่อไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมขอพรและปิดทององค์ท่าน และวันนี้มาขอพรกันทั้งทีมีหรือจะไม่เสี่ยงเซี่ยมซี ดูคำพยากรณ์กันเสียหน่อย จากนั้นก็เดินชมด้านในของพระวิหารแห่งนี้
ด้านหลังรูปเจ้าแม่กวนอิมก็จะพบกับวัตถุมงคลซึ่งมีมากมายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นองค์ฮกลกซิว เจ้าแม่กวนอิมปางต่างๆ แล้วก็ยังมีวัตถุเสริมมงคลแต่ละปีอีกด้วย แต่ที่ติดใจเห็นจะเป็นองค์ฮกลกซิวนี่แหละ สวยมากๆ
เมื่อเลือกเช่าวัตถุมงคลกันเรียบร้อยแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการมาที่นี่นั่นก็คือการตีระฆังรอบพระวิหาร ประมาณในใจเอานะว่าน่าจะเกือบร้อยลูกน่าจะได้ เพราะว่าเป็นระฆังที่แขวนไว้รอบพระวิหารแห่งนี้ ยาวเยียดเชียวแหละ ว่ากันว่าการตีระฆังหมายถึงความดังกังวานซึ่งก็เปรียบเหมือนมีชื่อเสียงก้องกังวานนั่นเอง
เนื่องจากว่าวันนี้เรามาที่นี่กันเย็นมากแล้วพวกเราจึงเป็นกลุ่มสุดท้ายของวันนี้ พอลงไปด้านล่างก็แทบจะไม่เห็นผู้คนแล้วล่ะ เมื่อเก็บภาพวิวทิวทัศน์ด้านบนแห่งนี้ที่ปราศจากผู้คนแล้ว พวกเราจึงเดินทางกลับ
แต่ด้วยความที่เหลือรถเกือบสุดท้ายแล้ว ประกอบกับมาเป็นครั้งแรกขาลงเลยลงกันไม่ถูกหลงแล้วหลงอีก กว่าจะหาทางกลับกันมาได้เล่นเอาแม่กลัวแทบแย่ คุณนายแกกลัวไม่ได้กลับบ้านเพราะมืดแล้วประกอบกับไร้ร่องรอยของผู้คนให้ถามทาง แต่โชคยังดีที่มีรถเจ้าหน้าที่ผ่านมาบอกให้ไปย้อนกลับอีกทางถึงได้กลับบ้านกัน เพราะฉะนั้นหากใครจะมาที่นี่ละก็อย่ามาเย็นอย่างพวกเรานะ พอหลงแล้วประตูปิดนี่ก็ทำเอาใจเสียอยู่เหมือนกันนะ วันนี้ก็เลยเป็นอีกวันที่ประทับใจสำหรับการเดินทางมาเที่ยวจังหวัดราชบุรีล่ะ ว่างๆ ก็ลองแวะมาชมทิวทัศน์บนยอดเขาแห่งนี้กันดูนะคะ
Create Date : 28 กรกฎาคม 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2556 23:14:49 น. |
Counter : 4936 Pageviews. |
|
|
|
๙
๙๙
๙๙๙
๙๙๙๙
๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙
เจิมค่ะ