The Downward Spiral เป็นคอนเซปต์อัลบั้มที่ว่าด้วย 'การด่ำดิ่งสู่จุดที่ตกต่ำที่สุด' ของชายคนหนึ่ง -ตามชื่ออัลบั้มที่หมายความว่า การตกลงเรื่อยๆ เป็นรูปก้นหอย (เรซเนอร์บอกว่าเขาได้แรงบันดาลใจมาจากอัลบั้มชุด Low (1977) ของเดวิด โบวี่ และ The Wall (1979) ของ Pink Floyd) เนื้อหาในอัลบั้มพูดถึงชายซึ่งไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับโลก เขามีความขัดแย้งต่อทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ระบบสังคม, คนรัก ไปจนถึงตัวเอง โดยเฉพาะกรณีหลังนี้เป็นความขัดแย้งที่ร้ายแรงที่สุด หลายเพลงในอัลบั้มเป็นเหมือนการด่าทอกันระหว่างจิตสำนึกกับจิตใต้สำนึกด้วยซ้ำ และในที่สุดชายคนนี้ก็ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงด้วยการยิงตัวตาย (ในเพลง The Downward Spiral ที่เนื้อร้องว่า He put the gun into his face / Bang! / So much blood for such a tiny little hole)
ช่วงที่อัลบั้มชุดนี้ออกจำหน่าย มันก็กลายเป็นผลงานที่อื้อฉาวอยู่เอาการ โดยเนื้อเพลงของเรซเนอร์ที่มีลักษณะไม่เชื่อในคุณค่าของศีลธรรมหรือศาสนาใดๆ (Nihilistic) โดยเห็นได้ชัดจากเพลง Heresy ที่มีเนื้อเพลงว่า "Your God is dead / And no one cares / If there is a hell / I will see you there" หรือกระทั่งซิงเกิ้ลที่โด่งดังจากอัลบั้ม (และถือเป็นเพลงที่ดังที่สุดของ NIN) อย่าง Closer ก็ดันมีท่อนฮุคว่า "I want to fuck you like an animal" (เพราะฉะนั้นห้ามจำเพลงนี้สับสนกับ Closer ของวง Travis โดยเด็ดขาด) นี่ยังไม่นับรวมถึงมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ที่ค่อนข้างมีเนื้อหารุนแรงและหมิ่นเหม่ด้วย (ซึ่งผมจะเขียนถึงข้างล่าง)
เรซเนอร์ไม่ปิดบังว่า ตัวละครเอกใน The Downward Spiral ก็คือภาพแทนชีวิตของเขาในช่วงนั้น ซึ่งมันคงเป็นสาเหตุที่ทำให้งานชิ้นนี้กลายเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ NIN เพราะมันกลั่นออกมาจากความเจ็บปวดของเจ้าของผลงาน และดนตรีแนวอินดัสเทรียลซาวด์ก็เป็น 'สื่อ' อันเหมาะที่สุดชนิดหนึ่งในการแสดงภาวะเช่นนั้น
อาจด้วยวัยและวุฒิภาวะที่มากขึ้น เรซเนอร์จึงสามารถจัดการกับชีวิตของเขาได้ดีขึ้น แต่นั่นก็แลกมาด้วยความอ่อนด้อยลงในผลงานชุดถัดๆ มาของเขา (หลังจาก The Downward Spiral เขาใช้เวลาถึงอีก 5 ปีกว่าจะออกอัลบั้มชุดถัดมา The Fragile ในปี 1999) ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ย่ำแย่อะไรนัก แต่มันก็ไม่เคยถึงจุดสูงสุดแบบที่ The Downward Spiral เคยทำไว้
1. Pretty Hate Machine (1989) 2. Broken (1992) 3. The Downward Spiral (1994) 4. The Fragile (1999) 5. With Teeth (2005) 6. Year Zero (2007) 7. Ghosts IIV (2008) 8. The Slip (2008)
Nine Inch Nails - Music Video
NIN เป็นอีกหนึ่งวงที่มีมิวสิกวิดีโอน่าประทับใจอยู่เสมอ โดยในที่นี้ผมขอเลือกมาสองเพลงครับ
เสน่ห์ของมิวสิกวิดีโอตัวนี้อยู่ที่การรวมเอาสิ่งน่าขยะแขยงทั้งหลาย เช่น หัวใจสดๆ, หัวหมู, หัวควาย, แมลง, ปลาไหล ไปจนถึงไมค์รูปหัวนม (!?) มารวมกันแล้วกลายเป็นสิ่งที่ดูสวยงามได้ แต่สิ่งที่แรงที่สุดในเอ็มวีนี้น่าจะเป็นภาพลิงที่ถูกตรึงไม้กางเขนเหมือนพระเยซู (ในเพลงมีร้องว่า "You get me closer to God") ตอนที่เอ็มวีนี้ออกมา MTV ก็เปิดบ่อยมาก แต่ต้องมีการเซ็นเซอร์บางฉาก
ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอตัวนี้ก็คือ มาร์ค โรมาเน็ค เขาเคยมีผลงานเด่นๆ อย่าง Bedtime Story," Madonna (1995) / "Scream," Michael Jackson & Janet Jackson (1995) / "Criminal," Fiona Apple (1997) และล่าสุดกับ "Speed of Sound", Coldplay (2005) โรมาเน็คเคยทำหนังยาวเรื่อง One Hour Photo (2002) (ที่มี โรบิน วิลเลียม เล่นเป็นคนล้างรูปโรคจิต) ล่าสุดเขาเพิ่งถอนตัวจากการกำกับ The Wolf Man และมีข่าวลือว่าเขากำลังจะทำหนังเกี่ยวกับชีวิตของ มารอน แบรนโด
2. We're in This Together (1999) (Director: Mark Pellington)
เอ็มวีเพลงนี้กำกับโดย มาร์ค เพลลิงตัน ซึ่งเคยกำกับเอ็มวีเพลงดังๆ อย่าง "Jeremy" Pearl Jam (1992) และ "One" U2 (1992) ส่วนหนังยาวที่เขากำกับได้แก่ Arlington Road (1999), The Mothman Prophecies (2002), ซีรี่ส์ชุด Cold Case ผลงานล่าสุดของเขาคือ U2 3D (2008) ที่นำเสนอคอนเสิร์ตของวง U2 ในรูปแบบสามมิติ
The Downward Spiral ฟังตอนประมาณม.4 กรี๊ดมาก แต่จริงๆ รู้จัก manson ก่อน nin แล้วตามไล่มานี่แหละ แต่ชุดอื่นๆ ได้ฟังไม่กี่เพลงเอง (ส่วนชุดหลังๆ ไม่ได้ฟังเลย)
เพลงที่ทำประกอบซาวด์แทร็ก lost highway ก็เจ๋งดีนะ เอ็มวีสวยด้วย
HYPOTHESIS
สมมติฐานและการทดลองของตุลพบ แสนเจริญ
ฉายวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2551
เวลา 19.00 น. / BIOSCOPE THEATER
รายละเอียด
//thirdclasscitizen.exteen.com
- - - - - - - - - - - - -
5 สิ่งดีๆ ที่ชอบตอนนี้
1. อัลบั้มชุด Untrue ของ Burial
2. วง Damn Chestnut ของน้องตุลพบ (เจ๋งโคตร)
3. บทความ "หนังวิจารณ์หนังตกงาน" ใน Bioscope เล่มใหม่
4. บทสัมภาษณ์ แอนดรูว เบเกอร์ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ในฟ้าเดียวกัน เล่มใหม่
5. ช่วงนี้ลมแรงและเย็นดี ชอบมากๆ