|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
Au Revoir, My Valentine
โดย merveillesxx
 ไม่รู้จะฟังดูขี้เก๊กไปมั้ย ถ้าผมจะบอกว่า ณ ตอนนี้ ผมรู้สึกเฉยๆ กับวันวาเลนไทน์ไปแล้ว ถ้าย้อนไปอ่านบล็อกที่ผมเขียนถึงประวัติศาสตร์ความหายนะที่ผมมีต่อวันๆนี้ อาจจะเข้าใจมากขึ้น (คลิ้ก ที่นี่ จ้ะ)
แต่หลายคนคงยังให้ความสำคัญกับวันนี้ อย่างก่อนหน้านี้มีน้องคนหนึ่ง MSN มาถามผมว่า
"พี่คะ คนเรานี่เค้าดูกันที่หน้าตาใช่มั้ย แล้วหน้าอย่างหนูเนี่ย จะมีแฟนก่อนวันวาเลนไทน์ได้มั้ยคะ"
เจอคำถามแบบนี้เล่นเอามึนไปเหมือนกัน แต่ผมก็ตั้งสติแล้วตอบกลับไปว่า
"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ แต่พี่ว่า หาผัวให้ได้ก่อนวันวาเลนไทน์ ง่ายกว่าหาแฟนให้ได้ก่อนวันวาเลนไทน์แน่นอน" หลังจากนั้น เกิดอะไรขึ้น คงไม่ต้องอธิบาย
วาเลนไทน์ที่ผ่านมาก็เป็นวันธรรมดาๆ วันหนึ่งของผมเหมือนเดิม เพราะชีวิตตอนนี้ก็ไม่มีเหตุอันใดหรือใครที่ทำให้ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรเป็นพิเศษ (แปลเป็นภาษาง่ายๆ คือ ช่วงนี้ไม่มีแฟน) ผมก็นั่งดูละครสงครามนางฟ้าตามปกติ (ตอนนี้นังรินมันบ้าไปแล้ว เลยยิ่งสนุกใหญ่)
แต่สิ่งที่อยากจะเขียนถึงไม่ใช่เรื่อง วันวาเลนไทน์ แต่เป็นเรื่องของ ร้านวาเลนไทน์ มากกว่า
อาจจะงงกันว่า เอ๊ะ ไอ้ร้านวาเลนไทน์นี่มันคือร้านอะไรกันวะ (เพราะเมื่อกี้ผมลอง search คำนี้ดูในกูเกิ้ล ชื่อนี้มีตั้งแต่ร้านทำผม ร้านเครื่องเสียง ไปจนถึงร้านพระเครื่อง!) แต่ร้านวาเลนไทน์ที่ผมพูดถึงคือ ร้านขายซีดีของค่าย Red Beat...ไอ้ร้านที่ชอบเปิดเพลงแดนซ์เสร่อๆ ดังๆ นั่นแหละ
เริ่มนึกกันออกแล้วใช่มั้ยเอ่ย
 สำหรับคนฟังเพลง คุณต้องรู้จักค่ายเพลง Red Beat แน่นอน ค่ายนี้เป็นเจ้าแห่งเพลงแดนซ์ (ระดับล่าง) ถึงกับมีสโลแกนประจำตัวอยู่พักนึงว่า อยากจะแดนซ์ คิดถึงเรดบีท อัลบั้มยอดฮิตของค่ายก็ประมาณ Dance Hit No.1, Party Hit No.8, RCA Hit no.7 ไปจนถึงรวมเพลงเต้นแอโรบิก หรือเพลงเล่นโยคะก็ยังมี (ว่างๆ ก็ลองเข้าไปดูเวบของค่ายนี้ รับรองฮาแน่ๆ)
แล้วร้านวาเลนไทน์เองก็มีวิธีการโปรโมทเพลงอันเป็นเฉพาะตัวมาก นั่นคือ เปิดเพลงให้ดัง ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ชนิดว่าอยู่ไกลไป 200 เมตร คุณก็ได้ยินเพลงจากร้านแล้ว) แล้วเพลงแดนซ์พวกนี้ก็มีทำนองที่เสร่อแดกมากๆ (ประมาณพวก รัชดาแดนซ์ ตึ๊ง ดึ่ง ดึ๊ง ดึ่ง ตึง ดึ๊ง ดึ่ง ตะดึง ตึง ดึ่ง) เท่าที่ผมสังเกตเห็นก็คือ บรรดาประชาชนที่เดินผ่านไป ต่างกันพารีบเดินไปให้ไกลๆ จากร้านนี้ให้เร็วที่สุด ผลก็คือ ไม่เห็นมีใครเข้าไปร้านมันเลย! (ฮา)
แต่แท้จริงแล้ว Red Beat ในสมัยก่อนนั้นเหมือนเป็น ผ้าขี้ริ้วห่อทอง คือท่ามกลางเพลงเสร่อแดนซ์เหล่านั้น ค่ายนี้ก็มีเพลงดีๆ ซ่อนอยู่ อย่างแรกก็คือ แต่ก่อนค่ายนี้มีลิขสิทธิ์เพลงญี่ปุ่นของค่าย Avex Trax (ซึ่งเป็นค่ายใหญ่มากในญี่ปุ่น อารมณ์แกรมมี่บ้านเรา) มีศิลปินหลายรายเหมือนกันที่พอคุ้นหูในบ้านเราบ้างอย่าง Speed, Namie Amuro, Ayumi Hamasaki และอื่นๆ อีกมากมาย
 Speed สี่สาวเสียงแปร๋น แทงเข้าหู ทะลุถึงหัวใจ
 นี่คือ Ayumi Hamasaki ไม่ใช่ ฮันนี่ ภัสสร
อย่างที่สองก็คือ แท้จริงแล้วค่าย Red Beat นั้นมีอัลบั้มจากดีเจเพลงแดนซ์/อิเล็กโทรนิก ระดับโลกไว้มากมาย ที่เด่นมากสองคนก็คือ Paul Van Dyk และ Tiesto (ทั้งสองถือเป็นดีเจอันดับหนึ่งของโลกที่กินกันไม่ลง) ซึ่งผมก็ไม่เคยเข้าใจเลยว่า แล้วทำไมร้านวาเลนไทน์มันไม่เคยเปิดเพลงเก๋ๆเท่ๆ พวกนี้วะ!? ทำไมมันถึงต้องตะบี้ตะบันเปิดเพลงแดนซ์เสร่อๆ ด้วย กูไม่เข้าใจจริงๆ (เว้ย)
 Paul Van Dyk
 Tiesto (เขาจะมาเปิดแผ่นบ้านเราเร็วๆนี้)
ด้วยสองอย่างที่ว่ามา จึงทำให้ผมต้องเข้าร้านวาเลนไทน์อยู่เรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะต้องทนฟังเพลงแดนซ์เฉิ่มๆ จนหูแทบแตกก็ตาม
แต่ปัญหาคือ เพราะการเปิดเพลงที่ไร้รสนิยมแบบที่ว่าไป จึงทำให้เพื่อนๆ และคนรอบข้างผมมีมุมมองต่อร้านนี้ในระดับต่ำเตี้ยติดดิน ประมาณว่าถ้าเกิดเพื่อนมาเจอหรือเห็นว่าผมเดินเข้าร้านวาเลนไทน์ ผมจะถูกล้อและรุมประณามไปเกือบสองอาทิตย์ เรียกได้ว่ายอมให้เพื่อนเห็นตอนเราเดินเข้าอาบอบนวดหรือบาร์เกย์อะไรแบบนั้น ชีวิตอาจจะยังมีความหวังกว่า
ดังนั้นเวลาผมเดินเข้าร้านวาเลนไทน์ จึงต้องผมตัวหลบๆซ่อนๆ เหมือนไปซื้อยาบ้า โดยเฉพาะสาขามาบุญครองหรือสยามสแควร์ที่มีโอกาสเจอคนรู้จักสูง แต่ถึงแม้จะเป็นสาขาที่เซ็นทรัลลาดพร้าว (แถวบ้านตัวเอง) ความรู้สึกหวาดระแวง หรืออับอายต่อสายตาประชาชนแถวนั้นก็ยังมิวายจางหายไปอยู่ดี
ช่วงหลังๆ มาผมเองก็มีปฏิสัมพันธ์กับค่ายนี้ และร้านนี้น้อยลง เพราะลิขสิทธิ์เพลงของค่าย Avex Trax นั้นตกไปอยู่ในมือของ GMM Grammy แทน (ซึ่งพอได้ไปแล้ว ก็ทิ้งๆขว้างๆ ไม่ค่อยสนใจไยดีนัก เพราะเขาโอ๋พวกลูกๆเกาหลีมากกว่า) แต่ผมก็ยังแอบแวะเวียนเข้าไปร้านวาเลนไทน์อยู่เนืองๆ เพื่อไปเก็บตกอัลบั้มเก่าๆ ซึ่งบางทีทางร้านก็เอามาลดราคา (ผมคิดว่าพนักงานที่สาขาลาดพร้าวต้องจำผมได้แน่ เพราะเหมือนกับมีผมซื้อเพลงญี่ปุ่นในร้านอยู่คนเดียว!)
จนกระทั่งปลายปีที่แล้ว ผมไปเดินเซ็นทรัลลาดพร้าว และคิดจะแวะไปดูที่ร้านนี้ แต่ก็หาร้านไม่เจอ ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองจำตำแหน่งผิด ก็เลยเดินวนอยู่ 3 รอบ ก่อนจะรู้ตัวว่าร้านถูกแทนที่ด้วยร้านรองเท้าผู้หญิงไปเสียแล้ว ถัดมาสองสามวัน ผมไปเดินหาร้านที่สยามสแควร์และมาบุญครอง ก็พบว่าสาบสูญไปแล้วเช่นกัน ณ ตอนนั้นจึงตระหนักได้ว่าร้านวาเลนไทน์ได้หายไปจากโลกนี้เสียแล้ว
ความรู้สึกตอนนั้นก็ประมาณว่า เรามีเพื่อนร่วมห้องที่เรานานๆ คุยกันที แล้วลึกๆ เราก็ไม่ชอบมันเท่าไร แต่อยู่ดีๆ มันก็ย้ายโรงเรียนไป โดยไม่บอกไม่กล่าว และไม่ได้อำลากันเลย อารมณ์นั้นแหละครับ (นี่กูน้ำเน่าเกินไปมั้ย)
อย่างที่ผมพูดกับเพื่อนๆ ว่าปี 2550 เป็นปีที่เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับวงการดนตรี (จริงๆแล้ว ผมใช้คำว่า ปีแห่งความล่มสลาย เลยทีเดียว) ไล่ตั้งแต่ ค่าย EMI ปิดตัว, CD WAREHOUSE เจ๊ง แค่สองอันนี้ผมก็ hurt สุดๆ แล้ว ตอนปลายปีมาเจอเรื่องคลื่น The Radio ยุบอีก (แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะพยายามหาทางกลับมาอยู่)
เวลาผมเข้าไปร้านป้าโดเรมี ประเด็นเดิมๆ ที่เราต้องคุยทุกครั้งก็คือ อนาคตของวงการดนตรี อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า คนสมัยนี้ไม่ซื้อ CD กันแล้ว ป้าโดยังบอกเลยว่าผมอาจจะเป็นคนรุ่นสุดท้ายแล้วที่ยังซื้อ CD อยู่ (ดูจากผมเป็นลูกค้าที่เด็กที่สุดในร้าน) แต่การที่คนจะเลิกซื้อ CD ผมก็ไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดของเขานะครับ รูปแบบการใช้ชีวิตหรือการบริโภคของผู้คนย่อมเปลี่ยนแปลงไปเสมอ เหมือนที่เราเคยผ่านยุคม้วนวิดีโอ สู่ VCD มาถึง DVD และกำลังจะเข้าสู่ยุค Blueray Disc (ซึ่งยังไม่มีใครรู้ว่าจะติดตลาดจริงมั้ย)
ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกวินาทีครับ แล้วเราเองก็ต้องทำใจเตรียมรับกับมัน ไม่งั้นเราจะเจ็บปวดมาก
เพราะจนถึงวาเลนไทน์ปีหน้า ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องสูญเสียอะไรไปอีกบ้าง
Au Revoir, My Center Point อนึ่ง นอกจากเรื่องที่ว่ามาทั้งหมดแล้ว การจากไปของ Center Point ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่กระทบใจผมมาก (สารภาพว่าเมื่อทราบว่าที่ตรงนี้จะถูกแทนด้วยตึก ผมรู้สึกโกรธอย่างมากถึงมากที่สุด) ผมจึงขอปิดท้ายด้วยภาพของ Center Point ที่ผมถ่ายไว้เมื่อเดือนธันวาปีที่แล้ว (ปกติแล้วผมไม่มีกล้องของตัวเองนะครับ แล้วก็ไม่ใช่คนชอบถ่ายรูปด้วย แต่ช่วงนั้นผมยืมกล้องดิจิตอลจาก คุณเต๋อ คลีโอ มาถ่ายหนังสั้น ผมก็เลยได้ถ่ายรูปพวกนี้ไว้ด้วย)

น้ำพุที่ ณ ตอนนี้แห้งขอดไปแล้ว แต่ที่จริง ผมแทบไม่เคยนั่งพักหรือนัดเจอใครตรงนี้เลยครับ

สี่แยกรักแห่งสยาม (อยู่ในเอ็มวี กันและกัน ไง) เช่นกัน ผมไม่ค่อยเดินผ่านตรงนี้เท่าไร เพราะคนเยอะ ผมชอบเดินรอบนอกมากกว่า
Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2551 9:45:09 น. |
|
23 comments
|
Counter : 4838 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: merveillesxx วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:49:07 น. |
|
|
|
โดย: tiktokthailand IP: 119.42.71.185 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:52:28 น. |
|
|
|
โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:46:28 น. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:11:02 น. |
|
|
|
โดย: เมอี้ IP: 124.121.109.72 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:59:56 น. |
|
|
|
โดย: ^^ IP: 58.9.143.43 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:21:36 น. |
|
|
|
โดย: visuallyyours IP: 58.8.102.247 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:40:04 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy IP: 125.24.80.36 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:35:42 น. |
|
|
|
โดย: merveillesxx วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:49:58 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:56:35 น. |
|
|
|
โดย: merveillesxx วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:59:32 น. |
|
|
|
โดย: เสจัง IP: 124.121.164.75 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:07:15 น. |
|
|
|
โดย: merveillesxx วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:56:38 น. |
|
|
|
โดย: คนทับแก้ว วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:50:36 น. |
|
|
|
โดย: merveillesxx วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:26:27 น. |
|
|
|
โดย: เพอร์รี่ IP: 58.9.144.216 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:11:31 น. |
|
|
|
โดย: ale IP: 58.8.1.227 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:38:00 น. |
|
|
|
โดย: merveillesxx วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:24:03 น. |
|
|
|
โดย: Boyd IP: 58.8.116.134 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:31:20 น. |
|
|
|
โดย: 1846 Bochum IP: 125.27.122.253 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:10:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
TO INFORM
* ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมชมหนังของข้าพเจ้า ในวันศุกร์/เสาร์ที่ผ่านมา
* ตอนนี้เปิด group ใหม่ชื่อว่า GALLERY คลิ้กไปดูกันนะครับ (ซ้ายมือโลด) มีรูปจากงาน 2008 ที่นิเทศ จุฬา, งาน Fuse Camp 9, เดี่ยว 7 และมากมาย
* เขียนวิจารณ์ Atonement เอาไว้ คลิกหมวด MOVIE โลด
* เพิ่งไปดูเดี่ยว 7 มา สนุกมาก หัวเราะเกือบตาย
* โปรแกรมหนังน่าสนใจ
ล่อง/รอย ( Remains )
10 หนังสั้น ทำขึ้นใหม่แด่การจากไปของกนกพงศ์ สงสมพันธุ์
โดย
สถิตย์ ศัสตรศาสตร์
ปฐมพล เทศประทีป
สุขาดา สิริธนาวุฒิ
โอฬาร เนตรรังสี
นนทวัฒน์ นำเบ็ญจพล
นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์
จุฬญาณนนท์ ศิริผล
วิชาติ สมแก้ว
นฆ ปักษานาวิน
อรรถวุฒิ บุญยวง
โปรเจคท์ โดย คุณนิล แห่ง ร้านหนัง(สือ) 2521
ฉาย
เสาร์ 23 กุมภาพันธ์ 2551
17.30 น.
ที่ทำการสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย