The Bourne Identity กูชื่อเจสัน บอร์น
[Image.jpg]

กูชื่อเจสัน บอร์น The Bourne Identity (1980) โดย Robert Ludlum

สนพ.ดอกหญ้า แปลโดย ธนิต ธรรมสุคติ


เขาหมดสติลอยน้ำมาติดชายหาด เมื่อฟื้นขึ้นมา ก็จำตัวเองไม่ได้
แต่ในตัวของเขามีไมโครฟิล์มที่มีเลขที่บัญชีธนาคารใน Switzerland ที่ระบุชื่อ... Jason Bourne
เขาชื่อ Jason Bourne อย่างนั้นหรือ
เมื่อถูกคนทำร้าย เขาสามารถป้องกันตัวเอง และตอบโต้อย่างอัตโนมัติ
ที่แย่ที่สุด เขาสามารถฆ่าคนได้โดยปราศจากความรู้สึกใดๆ
เขาคือใครกันแน่...
เขาเองก็อยากรู้เหมือนกัน...


เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ดังที่สุดของ Ludlum แล้วล่ะ แล้วก็หายากมากพอๆกับภาคต่อที่ตามมาอย่าง Bourne Supremacy และ Bourne Ultimatum เลย หรือถ้าเจอก็ เอ่อ...จะแพงไปไหนนี่ แต่เล่มนี้พอทน 360 บาท ก็ 2 เท่าจากราคาปก...ก็แพงอยู่

เริ่มเรื่องมา ถ้าคนดูหนังมาก่อน ก็ไม่ต่างกันกับหนังสือเท่าไหร่ เมื่อตัวเอกอย่าง Jason Bourne ตกทะเล ลอยน้ำแบบไม่รู้สึกตัวหลังจากถูกยิง แล้วมีคนช่วยเหลือขึ้นมา หลังจากนั้น Bourne ก็สงสัยว่าตัวเองเป็นใคร เคยทำอะไร แล้วทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ คุ้นๆกับเหตุการณ์บางครั้ง สถานที่บางแห่ง สัญชาตญาณบางอย่างก็เป็นไปโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องคิด

แล้วด้วยการช่วยเหลือของหมอ Geoffrey Washburn (ในหนังไม่มีนะ ถ้าจำไม่ผิด) เขาก็เริ่มรู้บางอย่างจากไมโครฟิล์มที่ฝังอยู่ในตัวเขา ที่หมอผ่าออกมาให้ Bourne เริ่มสืบตามสัญชาตญาณ และความทรงจำที่เลือนลาง ที่บางครั้งก็ตัวเขาเองก็ยังสับสน จนไปเจอกับบัญชีธนาคารใน Zurich ตามหมายเลขในไมโครฟิล์มนั่นเอง โดยมีชื่อว่า Jason Charles Bourne พร้อมกับเงินจำนวน 5 ล้านดอลลาร์ นั้นทำให้เขารับรู้ว่าเขาใช้ชื่อนี้เอง

แต่ในระหว่างที่อยู่ในธนาคาร ก็เหมือนกับมีคำสั่งว่า ถ้าใครมาเบิกเงินในบัญชีนี้ ให้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคาร เพื่อตรวจสอบไปยัง Treadestone 71 (มี David Abbott เจ้าของฉายา"สงฆ์เงียบ" เป็นหัวหน้าหน่วย) หน่วยงานลับที่ตั้งขึ้นเพื่อภารกิจลับๆ ซึ่งเป็นเจ้าของเงินที่โอนมาให้ ซึ่งทำให้ Bourne ถูกตามเก็บหมายเอาชีวิต  ทั้งจาก Treadstone เองที่กำลังสืบเรื่องที่เขาหายตัวไปตั้ง 6 เดือนหลังจากภารกิจสุดท้ายของเขาและคิดว่าเขาทรยศแปรพักตร์ และทั้งจากทีมสังหารของ Carlos นักลอบสังหารที่ Bourne เองก็ไม่รู้ว่าตัวเขาไปทำอะไรให้

ในระหว่างเอาตัวรอด Bourne ก็ได้จับกุมตัว Dr.Marie St.Jacques ที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจของแคนาดาที่มาประชุมอยู่ (ในหนัง Marie เป็นคนธรรมดาๆ ที่จับพลัดจับผลูมาเจอ Bourne แล้ว Bourne ก็จ้างให้ขับรถให้) เพื่อเอาตัวรอดจากทีมสังหารของ Carlos และก็เป็น Marie นีแหละที่เป็นตัวช่วยฟื้นความทรงจำของ Bourne ทีละนิดๆ

ท้ายที่สุด Bourne เหมือนถูกตะลุมบอน ทั้งจากนักลอบสังหารของ Carlos ที่ Bourne ปฎิบัติภารกิจเป็นตัวล่อให้กับ Treadstone โดยทำตัวแทรกซึมเป็นมือลอบสังหาร ที่ลอกเลียนแบบยุทธวิธีที่ Carlos ใช้ รวมถึงบางคราวก็อ้างว่าเป็นฝีมือตนเองทั้งๆที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย เพื่อคอยตัดลูกค้าและเป็นคู่แข่งกับ Carlos เพื่อล่อให้ Carlos มือสังหารชั้นนำออกมาจากมุมมืดและเผยตัวว่าเป็นใคร เพื่อให้ Treadstone จับตัวในที่สุด (Carlos เคยทำงานให้กับ Treadstone มาก่อน แต่ในหนังสือ สายลับนี่อย่างกับกิ้งก่าเปลี่ยนสี มีวิธีปลอมแปลง ผ่าตัดใบหน้า จนไม่สามารถจำได้)

อีกทั้ง Bourne ยังถูก CIA ซึ่งนำโดย Alexander Conklin (ในหนังอยู่ใน Treadstone ไม่ใช่ CIA) ตามล่าเนื่องจากคิดว่า เขาเป็นผู้ลอบสังหารสมาชิกของ Treadstone ซะจนเกือบเกลี้ยง ทั้งยังถูกคิดว่าเขาแปรพักตร์ไปอยูฝ่ายรัสเซียอีกด้วย

Bourne จะเอาตัวรอดได้อย่างไร ในเมื่อเขามีความทรงจำที่ลางเลือน บางทีก็สับสนซะด้วย...


ผมดูหนังมาก่อนเกือบๆจะ 10 ปีแล้ว ซึ่งหนังมันก็ไม่ได้เหมือนหนังสือซะทีเดียว ในหนัง Bourne จะถูกตามล่าจาก Treadstone ส่วนเดียว ไม่มีในส่วนของ Carlos ซึ่งผมว่าสนุกกว่า เพราะภูมิหลังของ Carlos ในหนังสือมีไม่เยอะพอ แถมในหนังเหมือนจะเน้นการหักหลังทรยศกันเองใน Treadstone ซึ่งทำให้เรื่องซับซ้อนมากกว่าในหนังสือที่ Bourne เหมือนค้นหาคำตอบว่าเขาเป็นใคร และยังทำให้ Bourne เหมือนตกเป็นเหยื่อมากกว่า มันจึงลุ้นเอาใจช่วย Bourne ที่เหมือนถูกบีบคั้นมากกว่า

Ludlum วางพล็อตของเรื่องใช้ได้เลยทีเดียว การเล่าเรื่องไม่กลับไปกลับมาทำให้สับสน ติดอยู่อย่างเดียว คือ ภาษาที่ Ludlum ใช้ในการบรรยายเรื่องราว รวมถึง Dialogue ต่างๆมันแปร่งๆ แปลกๆ อ่านแล้วผมจะเป็นโรค Amnesia เป็นเพื่อนพระเอกอยู่รอมร่อแล้ว อ่านแล้วมันติดๆขัดๆ ยิ่งกว่าเรื่อง The Matarese Circle ซะอีก

Bourne ในเรื่องก็ไม่ได้บู๊สะบั้นหั่นแหลก เหมือนในหนังเท่าทีควรด้วย

ตอนจบของเรื่องเหมือนจะเปิดช่องให้เขียนภาคต่ออยู่แล้ว เพราะ Carlos หนีไปได้ และ Bourne ก็จำได้แล้วว่า เขาคือ David Webb ศาสตราจารย์ที่เคยสอนในมหาวิทยาลัย ผู้เคยไปรบที่เวียดนาม สังกัดหน่วย Medusa ซึ่งภายหลังก็พัฒนามาเป็น Treadstone นั่นเอง... แต่ก็ยังแปลกใจอยู่ดีที่ Ludlum ทิ้งช่วงเขียนภาคต่อมาถึง 6 ปีแหน่ะ 


ป.ล. ชอบเรื่อง เพชรตัดเพชร (The Matarese Circle) มากกว่า ทั้งตัวละคร เนื้อเรื่อง การเล่าเรื่อง ตอนจบที่หักมุม มันดูกลมกลืนกว่า ลื่นไหล สนุกกว่า แต่แปลกกลับดังน้อยกว่า แถมหาหนังสือง่ายกว่า ราคาถูกกว่าด้วย

นี่ยังชั่งใจอยู่ว่าจะตามหนังสือต่อดีไหม เห็นคุณสุวิทย์จะพิมพ์ใหม่ทั้ง 3 ภาคเลย

คะแนน 7.7/10





Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2557 13:52:44 น.
Counter : 3607 Pageviews.

4 comments
  
น่าอ่านดีครับ ชอบชื่อไทยอ่ะ โดนใจมาก ฮ่าๆ
โดย: ปีศาจความฝัน วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:53:39 น.
  
ตอนแรกเห็นชื่อบล็อค นึกว่าตั้งขำๆ แต่พอคลิกเข้ามาเจอชื่อไทยบนปกจริงแล้ว...หะ! เอาจริงงะ 555

เรื่องนี้เคยดูแต่หนังค่ะ ส่วนตัวเฉยๆ ไม่ถึงกับชอบมาก
โดย: kunaom วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:12:39:19 น.
  
ชอบเพชรตัดเพชร มากกว่าเช่นกันครับ เรื่องนี้อ่านแค่ภาคแรกเองครับ
โดย: สามปอยหลวง วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:12:52:04 น.
  
@ปิศาจความฝัน ชื่อไทยตรงดีจริงๆ ผมชอบหนังมากกว่านะ ถ้าจะอ่านของ Ludlum แนะ The Matarese Circle ก่อนเลยครับ

@kunaom ตรงๆ แสกหน้าอย่างนี้ล่ะครับ 55 หนังทั้ง 3 ภาคผมชอบสุดๆ แต่ภาคแรกยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่

@สามปอยหลวง ใช่ครับๆ มี Ludlum อีกหลายเรื่อง ไว้อ่านเรื่องอื่นต่อดีกว่า
โดย: leehua (สมาชิกหมายเลข 755059 ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:16:04:29 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 755059
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]



New Comments
กุมภาพันธ์ 2557

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
All Blog