Tell No One อย่าบอกใคร

อย่าบอกใคร Tell No One (2001) โดย Harlan Coben

สนพ.แพรว แปลโดย อริณี เมธเศรษฐ

ตอนที่ตำรวจพบศพ Elizabeth ภรรยาของเขา David Beck เข้าใจทุกอย่างได้ดี เขารู้ว่าจะไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอดเธออีก และเขาก็รู้ว่านี่คือจุดจบอย่างแท้จริง ไม่มีทางผ่อนปรนหรือต่อรองใดๆทั้งสิ้น

8 ปีหลังจากเธอตายไป Beck ก็ยังไม่อาจทำใจและเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใครคนอื่นได้ จนเมื่อเขาได้รับ e-mail ฉบับหนึ่ง ข้อความในนั้นมีเพียงเขาและ Elizabeth เท่านั้นที่รู้ และจู่ๆ Beck ก็เริ่มสงสัยในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เขาสงสัยว่า ณ ที่ใดที่หนึ่ง และด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง Elizabeth อาจยังมีชีวิตอยู่

และเพราะ e-mail ฉบับนั้นเตือนเขาว่า อย่าบอกใคร Beck จึงก้าวเข้าไปสู่เกมการไล่ล่าที่อาจมีอันตรายถึงชีวิตโดยลำพัง ก่อนจะพบว่า ในขณะที่เขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อไขปริศนาที่คาใจนี้ให้กระจ่าง ใครบางคนก็พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาความลับนั้นไว้

เรื่องนี้ตอนแรกชั่งใจ ว่าจะอ่านดีไม่อ่านดี เคยอ่านรีวิวทั้งของไทย ของเทศ ถ้าคนชอบก็ชอบไปเลย บางคนก็ไม่ชอบเอาซะเลย แถมคนใกล้ตัวอย่างน้องสาวกับแฟนบอกเฉยๆทั้งคู่ ก็เลยดองอยู่ในกองดองตามระเบียบนานมาก

ปกติผมจะอ่านหนังสือสลับแนวกันไปเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ กันอาการ Reader’s Block Syndrome (อาการของหนอนหนังสือทั้งหลาย) หลังอ่าน The Venetian Betrayal จบก็เลยหยิบเล่มนี้มาอ่านต่อ

ผมว่าที่ทั้งน้องสาวกับแฟนเฉยๆ อาจเป็นเพราะสเกลของเนื้อเรื่องนั้นเล็ก ไม่ผจญภัย อลังการ ซับซ้อนอย่างหนังสือของ Dan Brown, Steve Berry, James Rollins

เปิดเรื่องมาก็อย่างที่คำโปรยปกหลังเค้ากล่าวไว้ Elizabeth ภรรยาของหมอ Beck ได้ตายจากเขาไปแล้ว 8 ปี แล้วจู่ๆเขาก็ได้รับ e-mail ฉบับแรกจากใครก็ไม่รู้ ซึ่งมีคำปริศนาที่เขาและภรรยาเท่านั้นที่รู้ หลังจากนั้นก็มีมาอีกฉบับแถมยังลงท้ายไว้อีกว่า “มีคนจับตาดูอยู่ อย่าบอกใคร” 

ขณะเดียวกันก็มีการพบศพชาย 2 คน ณ บริเวณใกล้เคียงทะเลสาบชาร์เมน (ที่ 8 ปีที่แล้วหมอ Beck และ Elizabeth ประสบเหตุร้ายจน Elizabeth ต้องตาย และตัวเขาเองรอดตายมาจากการถูกทำร้าย) แถมยังพบไม้เบสบอลที่มีคราบเลือด ซึ่งคราบเลือดนั้นมีกรุ๊ปเลือดเดียวกันกับหมอ Beck อีกด้วย

แล้วเรื่องทั้งหมดมันเกี่ยวพันกันยังไง ...หมอ Beck จะประสบเคราะห์กรรมซ้ำเติมอะไรอีก ทั้งๆที่ยังทำใจกับเรื่องเมื่อ 8 ปีที่แล้วยังไม่ได้เลย

คงต้องเลิกเล่าแล้วล่ะ เดี๋ยวมันจะสปอยล์เนื้อเรื่องมากไปกว่านี้ แล้วมันจะไม่สนุก บอกได้คำเดียวว่า ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ทั้งบีบคั้น กดดัน ไม่รู้คำตอบ เต็มไปด้วยปริศนา ชีวิตเหมือนลอยอยู่กลางทะเล เช่นเดียวกันกับหมอ Beck นี่...โห...เหมือนมีก้อนอะไรมาจุกทีคอหอยเลยทีเดียว

Coben เล่าเรื่องได้รวดเร็วฉับไว ลึกลับ ซ่อนเงื่อน ตื่นเต้นดีมาก ทั้งๆที่ประเด็นของเรื่องนั้นธรรมดามาก อาจจะมีตัวละครมากหน่อย แต่ไม่งง แถมเฉลยได้ดี เดาไม่ถูกว่าที่เหตุการณ์เป็นอย่างนี้มันเริ่มมาจากตรงไหน แล้วใครเป็นคนทำ บอกได้แค่มันต่อเนื่องกันไปหมด มีจุดตินิดเดียวตรงที่ Coben ชอบอธิบายสภาพของห้องแต่ละห้อง มีอะไรบ้าง วางอยู่ตรงไหน มากเกินไป

ป.ล. เป็นหนังสือประเภท Page-Turner, Unputdownable, Fast Pace อย่างแท้จริง อ่านแล้วทำให้ต่อมอยากรู้ทำงานไม่หยุด จนไม่อยากวางหนังสือเลย แก้โรค Reader’s Block Syndrome ได้ชะงัดจริงๆ

คะแนน 9.2/10

 

 

 

 

 

 




Create Date : 18 พฤษภาคม 2556
Last Update : 18 พฤษภาคม 2556 10:51:39 น.
Counter : 2491 Pageviews.

2 comments
  
อ่านนานแล้ว ปมเหมือนจะลึกลับ แต่พอเปิดออกมาก็ดูไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่
โดย: kunaom วันที่: 18 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:31:48 น.
  
ประเด็นของเรื่อง ไม่ได้มีอะไรมาก แต่ Coben เล่าเรื่องได้เก่งมากๆ รวดเร็วฉับไวดีแท้ จนมันลุ้น แล้วก็อยากรู้ กระทั่งมันไม่อยากวางหนังสือน่ะครับ K.kunaom

ผมว่าดีกว่าบางเรื่องนะ ประเด็นและปมที่ผูกไว้สุดยอดมาก แต่เล่าเรื่องได้แบบว่า น่าเบื่อมาก จนอ่านๆไป แล้วก็คิดว่า เมื่อไหร่มันจะจบซักทีน้อ
โดย: leehua (สมาชิกหมายเลข 755059 ) วันที่: 28 พฤษภาคม 2556 เวลา:1:23:41 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 755059
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]



New Comments
พฤษภาคม 2556

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
 
18 พฤษภาคม 2556
All Blog