ประทับใจแคนนารี่ เบย์ (รักไม่รู้ดับ)

	รักไม่รู้ดับ ถึงจะสิ้นวิญญาณกี่ครั้ง ฉันก็ยัง รักเธอฝังใจ ถึงจะสิ้น ดวงจันทร์ไฉไล ไม่เป็นไร เพราะยังมีเธอ ฟ้าจะมืด จะมัวช่างฟ้า ขอให้มี สายตาหวานละเมอ ถึงจะสิ้น แผ่นดินนะเออ ให้ได้เจอยิ้มเธอชื่นใจ ไม่ได้ชิด ก็ขอเพียงได้ชม ไม่ได้สม ไม่เห็นแคร์อะไร ขอให้ได้รัก ข้างเดียวเอาไว้ ไม่เช่นนั้น ใจฉันคงหลุดลอย ถึงโลกแตก แหลกรานสิบครั้ง ฉันก็ยังฝังใจรอคอย แม้จะสิ้น วิญญาณเลื่อนลอย ก็จะคอยพบเธอ ชาติอื่นเอย ถึงจะสิ้นวิญญาณกี่ครั้ง ฉันก็ยัง รักเธอฝังใจ ถึงจะสิ้น ดวงจันทร์ไฉไล ไม่เป็นไร เพราะยังมีเธอ ฟ้าจะมืด จะมัวช่างฟ้า ขอให้มี สายตาหวานละเมอ ถึงจะสิ้น แผ่นดินนะเออ ให้ได้เจอยิ้มเธอชื่นใจ ไม่ได้ชิด ก็ขอเพียงได้ชม ไม่ได้สม ไม่เห็นแคร์อะไร ขอให้ได้รัก ข้างเดียวเอาไว้ ไม่เช่นนั้น ใจฉันคงหลุดลอย ถึงโลกแตก แหลกรานสิบครั้ง ฉันก็ยังฝังใจรอคอย แม้จะสิ้น วิญญาณเลื่อนลอย ก็จะคอยพบเธอ ชาติอื่นเอย วันที่ 20-22 พ.ค 2552 ต้องหายหน้าไปจากบล๊อกเพราะติดภาระกิจต้องไปจัดการงานที่ได้รับมอบหมาย ที่จ.ชลบุรี จัดกระเป๋าเดินทางใบไม่ใหญ่ไม่โตออกเดินทางจากบ้านแวะไปเจอกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานแล้วออกเดินทางตอนบ่าย ใช้เวลาการเดินทางไม่นานก็ถึง จ.ชลบุรี โดยรถตู้ที่ทำงาน แวะไปหลายที่ก่อนจะเข้าพักที่โรงแรมแคนนารี่ เบย์ ซึ่งอดีตเป็นอพาร์ตเมนท์แล้วนำมาเปลี่ยนแปลงทำเป็นโรงแรมเพื่อให้รับกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน ในอดีตคงเปิดเป็นอพาร์ตเมนท์สำหรับให้คนญี่ปุ่นที่ต้องทำงานในย่านนี้นำครอบครัวมาเข้าพัก แต่ในปัจจุบันก็ยังมีคนญี่ปุ่นเข้าพักเยอะ แต่ไม่มากเหมือนเดิม อาจเป็นเพราะไปเปิดโรงงานในภูมิภาคอื่น ในประเทศอื่น ที่เค้าดูแล้วคงทำรายได้มากกว่ามั๊ง...เอาเป็นว่าคงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทาง ศ.ก นั่นล่ะ เพิ่งเปิดตัวทำเป็นโรงแรมได้ไม่นานราคาในการเช่าพัก 3500 บาทต่อห้อง แต่สำหรับข้าราชการอย่างเราๆ เค้ามีโปรโมชั่นพิเศษให้พักห้องละ 1500 บาทต่อคืน แพงกว่าโรงแรมธรรมดาซึ่งตามปกติเวลาไปทำงานและจะเช่าโรงแรมเป็นที่พักแค่คืนไม่เกิน 1200 บาท ราคาแพงกว่าที่อื่นจริงอยู่ แต่สิ่งที่ได้สามารถพูดได้ว่าคุ้มเกินราคา ดูตามภาพค่ะ... ห้องนอนเตียงคู่ แต่เค้าเอามาชิดกัน สามารถแยกนอนเดี่ยวได้ค่ะ มีเครื่องอำนวยความสะดวกเหมือนโรงแรมทั่วๆไป เช่นตู้ โต๊ะสำหรับเขียนหนังสือพร้อมทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัว เตียงนอน ทีวีขนาด 29 นิ้ว นอกจากมีตู้เสื้อผ้าแล้ว เค้ายังมีตู้นิรภัยสำหรับเก็บของมีค่าให้ด้วย (ลืมถ่ายตู้ค่ะ) ห้องน้ำก็เหมือนห้องน้ำตามโรงแรมใหญ่ๆ ทั่วไปแต่ที่นี่ดีตรงที่เป็นกระจกเลื่อน ส่วนมากจะเป็นผ้าม่านกันน้ำ ห้องน้ำที่นี่กว้างขวางดี แต่ที่ตลกคือ มีประตู 2 ด้าน คือด้านที่เปิดไปห้องนอน กับด้านที่เปิดไปที่แพลนทีน ด้านที่เป็นห้องนอนสามารถกดล๊อกได้ แต่ด้านที่เปิดไปสู่แพลนทีนล๊อกไม่ได้ค่ะ...55555...ใครเข้าห้องน้ำต้องบอกกันก่อนว่าจะเข้าห้องน้ำนะ...ไม่งั้น..ไม่อยากนึกภาพ...55555....จะเป็นแบบนี้ทุกห้องในโรงแรมค่ะ ลืมถามจุดประสงค์เค้าว่าทำแบบนี้ทำไมกันนะเนี่ย สำหรับห้องนี้จะอยู่ด้านหน้าเลย เมื่อไขกุญแจเข้าไปก็จะเจอแพลนทีนด้านซ้าย โต๊ะทานข้าวขนาด 4 คนนั่งด้านขวาพร้อมรูปภาพสวยๆ ตกแต่งฝาผนังให้เหมือนเราอยู่บ้าน และก็เป็นชุดรับแขกที่อยู่ใกล้ระเบียงมีเฟอร์นิเจอร์พวกโต๊ะเขียนหนังสือ ทีวี(เป็นแบบจอแบนทุกห้องจะมีแบบนี้ คือ มีสองเครื่องทุกห้อง) กระจกส่องทั้งตัวก่อนออกจากห้อง มันอบอุ่นบอกไม่ถูกเหมือนเราอยู่บ้านเราเองยังไงยังงั้นค่ะ...ที่สำคัญไฟสว่างมากทำให้อ่านหนังสือสบายตา ไม่เหมือนโรงแรมทั่วๆ ไปที่เคยเข้าพักและเปิดไฟแค่แสงสลัวๆ ทำให้อ่านหนังสือไม่ได้เลย มาที่นี่เลยน่าเสียดายที่ไม่ได้เอาหนังสือไปอ่านเลยเพราะคิดว่าจะเหมือนทุกๆ ครั้งที่ไปพัก คือ มีแสงไม่พอที่จะอ่านหนังสือ เรียกว่าเข้าไปเหมือนเข้าบ้านตัวเองเลยล่ะ ตอนแรกสงสัยว่ากล่องอะไรน๊า...ตั้งอยู่ใต้โต๊ะเขียนหนังสือทั้งในห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ เปิดดูถึงจะถึงบางอ้อ..ถังใส่ขยะนี่เอง..เข้าใจทำแฮะค่ะ แคนทารี่เบย์อย่างที่บอกว่าอดีตเคยเป็นอพาร์ตเมนท์ตอนนี้เปลี่ยนเป็นโรงแรม ก็ทำเหมือนโรงแรมทั่วไปล่ะ..แต่เค้ามีบริการพิเศษมากกว่าโรงแรมทั่วไปตรงที่สามารถใช้บริการห้องต่างๆ ที่เค้ามีให้ไม่ว่าห้องซาวด์น่า ห้องฟิตเนต สระว่ายน้ำ มีห้องสมุดด้วยล่ะ ยังไม่พอค่ะ มีห้องกาแฟสดให้คนที่เข้าพักที่อยากทานกาแฟไปชงทานได้ฟรีค่ะ...แต่พวกเราไม่มีเวลาที่จะไปใช้บริการอย่างที่ว่าเลยสักคนค่ะ เพราะกว่าจะทำงานเสร็จก็เย็นมากแล้ว เวลาพักผ่อนก็ประมาณไม่เกิน ช.ม เพราะสักพักก็จะมีคนมารับไปทานข้าว หลังกลับจากทานข้าว หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน ..ชวนให้ไปเล่นฟิตเนต กะอบซาวด์น่ากัน ไม่มีใครไปด้วยเลยสักคนค่ะ...หนำซ้ำยังตอกหน้ากลับมาอีกว่าผอมแล้วยังจะอบซาวด์น่าเล่นฟิตเนตอีกเหรอ เดี๋ยวก็เหลือแต่กระดูกหรอก...555555555....ก็คนอยากใช้บริการให้คุ้มนี่คะ....ว่าเค้าให้บริการดีจริงป่ะ ก็เท่านั้นเอง... โรงแรมนี้ตั้งอยู่ถนนอะไรบอกไม่ถูกค่ะเพราะเพิ่งไปครั้งแรก รู้แต่ว่าเป็นถนนเลียบชายหาดศรีราชาล่ะและหน้าซอยจะมีเซเว่นตั้งอยู่...55555..ใครอยากไปจะพาไปค่ะแต่ต้องออกค่าห้องให้ด้วยนะคะ... การบริการของโรงแรมนี้ถือว่าโอเคเลยค่ะ พนักงานเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส ราคาห้องรวมอาหารเช้าให้ 1 มื้อด้วยค่ะ อาหารเช้าที่นี่ก็พิเศษกว่าที่อื่น คือ จะมีอาหารญี่ปุ่นให้เราได้เลือกทานนอกเหนือจากอาหารเช้าแบบโรงแรมโดยทั่วไป ก็อย่างที่บอกเพราะที่นี่มีคนญี่ปุ่นพักกันเยอะแยะไปหมด ตอนเช้ามีรถรับส่งนักเรียนมารับลูกหลานคนญี่ปุ่นไปเรียนโรงเรียนนานาชาติด้วยล่ะ เค้ารอกันอย่างมีระเบียบมากค่ะ คือ เข้าแถวรอขึ้นรถ...เช้าวันแรก (ไม่มีรูป เพราะไม่กล้าถ่ายกลัวโดนว่า ว่าถ่ายอะไรนักหนาเนี่ย...5555...) ทานซุปเต้าเจี้ยว กะปลาซาบะย่างซีอิ้ว (ตอนแรกตักมาแค่ 2 ชิ้น แต่พอได้ทานรสชาติไปตักมาอีก 2 ชิ้น รวมเป็น 4 ชิ้นแบบไม่ใหญ่ไม่เล็ก รู้แต่ว่าอร่อยมากไม่คาวเลยสักนิด แค่นี้ก็เริ่มอิ่มค่ะ)ผัดผักอะไรไม่รุ้แบบญี่ปุ่นตักมาพร้อมข้าวผัดไข่ ออมเล็ต และตามด้วยผลไม้แบบไทยๆ 1 จานน้ำส้ม 1 แก้ว น้ำองุ่นแดง 1 แก้ว แค่นี้ท้องก็เริ่มกางแล้วค่ะ... อาหารกลางวันเป็นแบบบุฟเฟท์ที่เติมตลอด ก็มีอาหารญี่ปุ่นแซมมาประปราย เป็นพวกปลาซามอนนึ่งซีอิ๊วใส่ขิง รสชาติจะออกหวานปะแล่มๆ ที่ชอบ คือ ไม่คาวเลยสักนิด มีกระดูกหมูพริกไทยดำ ต้มยำกุ้งน้ำข้น แกงเผ็ดเป็ดย่างและหลายอย่างมากจนตัวเองจำไม่ได้ค่ะเขียนเท่าที่จำได้ วันที่สองก็แบบนี้ค่ะเปลี่ยนเมนูเป็นปลาอะไรไม่รู้ไม่คาวเหมือนกัน มันนิดหน่อยนึ่งหรือผัดขลุกขลิกในซอสค่ะ เรียกไม่ถูกเหมือนกัน และมีสปาเกตตี้ทานกะแกงเขียวหวานปลากราย ทุกมื้อจะมีผัดผัก มีเต้าหู้ปลาทอดทานกะน้ำจิ้มอะไรแบบนี้ เยอะมากค่ะแต่จำได้แค่นี้เพราะตัวเองไม่ทานมาก ทานแค่พออิ่ม..ต่อให้อร่อยแค่ไหนก็ตาม ถ้าอิ่มแล้วก็ไม่แตะต้องเลยค่ะ... ห้องประชุมที่นี่จะค่อนข้างเล็ก เพดานห้องประชุมจะค่อนข้างเตี้ย แต่ตกแต่งสวยงาม แอร์ไม่ค่อยเย็นหรือเพราะเราเตรียมตัวมาดีใส่สูทป้องกันความเย็นจนเกิดอาการร้อน เพราะเค้าคงปรับอุณหภูมิให้พอดีทั่วไป..พนักงานมาบริการในการจัดประชุมค่อนข้างน้อย แต่บริการดีรวดเร็ว เซลโรงแรมเอาใจใส่ดีทุกคน คอยติดตามงานตลอด ภาพโดยรวมแล้วถือว่าโอเคมาก แทบไม่มีที่ติเลย...สำหรับเราเองและเพื่อนร่วมงานทุกคนพึงพอใจโรงแรมนี้มากในทุกๆ ด้าน ถ้าใครสนใจจัดประชุมที่ไม่ใหญ่มากมาย มีคนเข้าร่วมประมาณ 100 คนก็เชิญที่นี่ได้ค่ะ รับรองจะประทับใจในการบริการ อาคาร สถานที่และรสชาติของอาหารค่ะ ภาพนี้ไม่มีอะไรค่ะ...เห็นโคมไฟส่องแสงสีนวลสวยดี รับกับเงาที่เกิดก็เลยอดจะถ่ายรูปแบบลองฝีมือการถ่ายภาพด้วยกล้องแบบปัญญาอ่อนดูค่ะว่าภาพจะออกมาสวยมั๊ย... สำหรับภาพนี้เป็นมุมมองภายนอกโรงแรมยามค่ำคืนที่เพิ่งไปถึง เลยขอถ่ายไว้ดูว่าจะนำรูปไปใช้ได้ป่ะน๊า...ก็เลยมืดๆ ไปหน่อยค่ะ ก็อย่างที่บอกกล้องธรรมดาๆ แบบกดปุ๊บติดปั๊บอะไรแบบนั้นล่ะค่ะ.... สำหรับภาพนี้ก็เป็นมุมมองถ่ายวันรุ่งขึ้นในตอนกลางวัน ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ คือเห็นภาพรอบๆ ตัวอาคารโรงแรมว่าตั้งอยู่มุมไหนบ้าง อันนี้รวบรวมภาพในห้องที่เค้านำภาพมาติดฝาผนังประดับไว้สวยงามมากและมีเยอะมาก ก็เลยถ่ายเก็บมาดูค่ะไม่ได้เดินไปดูห้องคนอื่นว่าติดภาพเหมือนกันหมดทุกห้องป่ะน๊า...

Create Date : 23 พฤษภาคม 2552		12 comments
Last Update : 24 ตุลาคม 2553 13:38:00 น.
Counter : 3789 Pageviews.
Share Tweet