deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 
อัมพวากับวันหยุด (Weekend Love)






สองวัน..เอ..ไม่ใช่สิ..สามวันที่บล๊อกปิดทำการ...คือ ปิดตั้งแต่ 8-10 พ.ค 52 สองวันแรกอยู่บ้านทำโน่นทำนี่ อ่านหนังสือบ้าง ดู Audition af บ้างดูหนังจากจานดาวเทียมบ้าง หมดไปสองวันแล้ว....55555...ไร้สาระจริงๆ เลยเรา เมื่อวาน (วันอาทิตย์ที่ 10) เลยชวนกันไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวากันดีกว่าตอนขาไปอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวมากๆ...คลำหาหนทางไปโดยแวะถามคนข้างทางเป็นระยะๆ..ผู้คนใจดีมากๆ ถามอะไรตอบได้ตรงคำถามหมด..บางคนบอกรายละเอียดได้ชัดเจน ทำให้ไม่หลงหนทางไป..บางคนบอกหนทางสั้นๆ ย่อๆ แต่หนทางกลับไม่สั้นและย่อตามที่บอก ผลหลงค่ะ...55555..แต่ในที่สุดก็คลำทางจนถึงตลาดน้ำอัมพวา





มีป้ายบอกทางก็จริง...แต่กว่าจะเห็นป้ายบอกทางก็ใกล้จะถึงแล้วเต็มที หนำซ้ำถึงมีป้ายบอกทางแบบนี้ก็ยังไปไม่ถูกอยู่ดี ต้องจอดรถถามข้างทางเป็นระยะๆ สำหรับคนไม่เคยไปเลยขอแนะนำให้ออกถนนพระราม 2 แล้วขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่านสะพานที่ข้ามแม่น้ำแม่กลองแล้วตรงไปเรื่อยๆ จนเห็นป้ายสมุทรสงคราม-เพชรบุรีก็ไปตามนี้ไม่ต้องเลี้ยวไปไหน สำหรับตัวเองเห็นป้ายบอกทางตรงนี้ งง เล็กน้อยเพราะมีทางเลี้ยวบอกทางให้ไปบ้านแพ้วหรืออะไรเนี่ยจำไม่ได้แล้วค่ะ...แล้วก็เห็นป้ายสมุทรสงคราม-เพชรบุรี ก็งงอีกตกลงจะให้ฉันขับไปทางไหนนะเนี่ย..ก็ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นว่าขอเลือกไปทางสมุทรสงครามแล้วกัน ไปได้สักพักต้องจอดรถถามอีก...5555...เพราะมาไกลมากตกลงฉันหลงหรือเปล่าเนี่ยไม่แน่ใจเลยต้องจอดรถถามทางกันล่ะ..ปรากฏว่าตัดสินใจถูกคนบอกทางบอกให้ไปอีกสักระยะก็เห็นป้ายต่อมาสมุทรสาคร-อัมพวา ก็ตัดสินใจขับตามป้ายและคนที่บอก มีเถียงกันในรถเป็นพักๆ ว่าไปตลาดน้ำอัมพวาแต่ป้ายไม่มีบอกว่าไปตลาดน้ำอัมพวา มีแต่ป้ายบอกไปตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นระยะๆ จนเข้าตลาดอัมพวานั่นล่ะถึงจะเห็นป้ายไปตลาดน้ำอัมพวา...55555...นั่งขำกันว่าแล้วคนไม่เคยมาจะมาถูกมั๊ยคะเนี่ย..ขาไปเลยใช้เวลาอักโขอยู่เพราะมัวหลงขับวนเล่นซะงั้น แต่ตลอดระยะทางบนถนนพระราม2 จะเห็นนาเกลือ และร้านข้างทางขายเกลือถุง เป็นระยะๆ





ในที่สุดก็ถึงทางที่จะไปตลาดน้ำอัมพวาจนได้ แต่อย่างนั้นยังไม่วายโดนอีก...55555....คือ ก่อนจะข้ามสะพานเข้าไปตลาดน้ำจะเจอป้ายบอกให้เลี้ยวไปที่จอดรถฟรี..ก็นะใครๆ ก็สนใจของฟรีกันทั้งนั้นล่ะค่ะ...ก็เลี้ยวเข้าซอยไปทันทีทันใด ป้ายบอกทางให้เลี้ยวเข้าไปในวัดรู้สึกว่าจะชื่อวัดบางนางลี่ใหญ่ คนในรถบางคนเคยมาแล้ว(แต่จำเส้นทางมาไม่ได้เพราะมาครั้งนั้นมากะคนที่คุ้นเส้นทางเลยไม่สนใจจะจำทาง) บอกว่า..เอ..รู้สึกว่าก่อนไปตลาดน้ำจะต้องขับรถข้ามสะพานข้ามแม่น้ำก่อนนะ..มารู้ตัวอีกทีก็เข้าไปที่ลานจอดรถของวัดซะแล้ว จอดฟรีจริงๆ ค่ะ แต่ไม่ถึงตลาดน้ำแน่นอนถ้าไม่นั่งเรือข้ามฟาก...5555...ถึงบ้างอ้อ..เลยทีนี้..เข้าใจทำเนอะให้หลงวนรถเข้ามา..แต่ที่น่าขำกว่าคือ มีรถหลายๆ คันเป็นแบบเราล่ะขับตามกันมาแล้วก็ขับรถวกออก นึกภาพในรถแต่ละคันคงคิดเหมือนเราและบ่นเหมือนเราว่า...หลอกให้มานั่งเรือข้ามฟากหรือเปล่าเนี่ย...(อันนี้มองโลกในแง่ร้าย) ถ้ามองโลกในแง่ดีก็คือเค้าหวังดีไม่อยากให้คนมาเที่ยวต้องเปลืองตังค่าที่จอดรถฝั่งตลาดน้ำเพราะต้องเสียค่าฝากรถจอดถ้าเป็นฝั่งที่ใกล้ตลาดเลยจะเสียค่าจอดคันละ 40 บาทกี่ช.ม ก็ได้ แต่ถ้าจอดอีกฝั่งถนนหรือจอดไกลตลาดหน่อยก็ 20-30 บาทนั่งคิดและขำกันในรถว่าพี่น้องแถวนี้มีรายได้โดยการคว้าวิกฤตให้เป็นโอกาส เมื่อมองเห็นความหวังดีในข้อนี้ก็เลยขับรถกันไปหัวเราะกันไปที่ขับรถเข้าไปแล้ววกออกเลยโดยมีรถขับตามเข้าและออกเป็นระยะๆ





หลังจากมาถึงตรงนี้แล้ว คือเข้าอ.อัมพวาได้แล้วก็จะมีป้ายบอกเส้นทางเป็นระยะ ไม่ต้องจอดรถถามทางอีกเลย...เฮ้อ..กว่าจะมาถึงได้อยากให้ปรับปรุงการบอกเส้นทางไปตรงนี้จังเลย...แต่เมื่อไปถึงแล้ว..ก็ได้คำตอบว่าไม่จำเป็นต้องทำป้ายบอกเส้นทางก็ได้ เพราะถึงไม่บอกคนก็มาไม่ขาดสายและเนืองแน่นไปหมด...ก็เลยสงสัยตัวเองและคนที่มาด้วยกันว่า..โง่เองที่มาไม่ถูกแล้วไปโทษเค้าไม่บอกเส้นทางได้ไง...5555....





เมื่อไปถึงตลาดน้ำจะเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำแบบนี้ค่ะ และเลยตลาดน้ำไปหน่อยก็เป็นวัดอัมพวันเจติยารามก็พากันแวะไปไหว้พระ ให้ท่านปะพรมน้ำมนต์และถวายปัจจัยทำบุญบำรุงวัดตามแต่ศรัทธาของแต่ละคน ทุกครั้งที่ได้ทำบุญรู้สึกสบายใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ





ขากลับเจอพายุฝน..เพราะมีลมแรงมากขนาดรถที่ฝ่าสายฝนมายังเหมือนรถจะปลิวตามแรงลมเลยค่ะ ไม่ได้เวอร์นะคะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ จนต้องค่อยๆ ขับมาเรื่อยๆ เพราะถนนนช่วงนี้จะลื่นจนต้องมีป้ายเตือนตลอดเส้นทางว่าให้ระวังฝนตกถนนลื่นอะไรแบบนี้ถ้าดูจากภาพแล้วทัศนวิสัยค่อนข้างไม่ดีเลย..





ที่ตลาดน้ำอัมพวาโชคดีที่ได้ที่จอดรถ ถึงจะแพงไปนิดเสียค่าฝากจอดรถ 40 บาทไม่จำกัดชั่วโมง แต่ก็ใกล้ทางเข้าตลาดน้ำมาก คือเดินทางเข้าตลาดไม่เกิน 20 เมตรก็ถึงทางเข้าและพอเลี้ยวขวาไปประมาณ 10 เมตร ก็ถึงสะพานข้ามคลองไปตลาดน้ำอีกฝั่งและถ้าเดินตรงไปอีกหน่อยก็จะเป็นวัดอัมพวันเพื่อไปอุทยาน ร.2 บนสะพานก็จะเห็นภาพนี้ในคลองเป็นเรือขายอาหารหลากหลายสองฝั่งคลองเลยล่ะได้ถ่ายภาพตรงนี้ได้เท่านี้เพราะคนเยอะเบียดเสียดกันมาก แบบว่ากลัวมัวแต่ถ่ายแล้วจะต้องไปถ่ายในคลองเพราะโดนเบียดอ่ะค่ะ...55555...





ภาพนี้เห็นพ่อค้ากับตั้งหน้าตั้งตาปั้นทอดมันหัวปลีอย่างตั้งอกตั้งใจก้เลยขอแชะมาซะหน่อยเพราะยังเป็นวัยรุ่นอยู่ออกมาช่วยครอบครัวทำมาหากินแทนที่จะออกไปเที่ยวเตร่ เหมือนวัยรุ่นที่เห็นกันอยู่มากมายก็เกิดความภูมิใจแทน ส่วนหน้าตาของทอดมันหัวปลีเป็นอย่างไรก็รูปถัดมาค่ะ..น่าทานป่ะคะ ไม่ได้น่าทานอย่างเดียวต้องแถมอร่อยด้วยอันนี้รับประกันความอร่อยเลยล่ะส่วนสองรูปด้านล่างเป็นเครื่องเติมก๋วยเตี๋ยวที่แวะทานตอนเที่ยง คนแน่นแย่งกันหาที่ทานข้าวกัน ไม่มีทางเลือกต้องเข้าร้านนี้ระหว่างนั่งรอก๋วยเตี๋ยวสังเกตเห็นพวงใส่เครื่องเติม มีน้ำตาลเหลวๆ แทนที่น้ำตาลทราย เข้าใจคิดดีแต่รสชาติแปลกๆ ดี สำหรับตัวเองไม่ชอบไม่อร่อยเลยเพราะตัวเองไม่ทานเผ็ด และไม่ชอบให้ใครมาเติมความเผ็ดโดยไม่บอกกล่าว เผอิญพาคุณแม่ไปด้วยท่านก็ไม่ทานเผ็ด เราสั่งเราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะปรุงโดยไม่ถามไถ่กันก่อนว่าลูกค้าคนไหนทานเผ็ดหรือไม่เผ็ด..555555...ผลตัวเองต้องรับภาระชามของคุณแม่อีก 1 ชาม แบบว่าเฉพาะของตัวเองก็ไปไม่รอดเพราะไม่อร่อยเอาของคุณแม่มารวมด้วยยิ่งเหลือเต็มชามให้เสียดายยังไงก็ฝืนใจตัวเองทานไม่ได้..แต่สั่งให้คุณแม่ใหม่ต้องสั่งเค้าไม่ใส่พริก..คนอื่นที่ไปด้วยเค้าก็ไม่ทานเส้นใหญ่กัน..เส้นใหญ่เค้าไม่อร่อยจริงๆ แบบว่ากินไปบ่นไป (ล้อเลียนอดีตนายกชิมไปบ่นไป) กะคุณแม่..5555...ราคาก็ค่อนข้างแพง คือ 20 บาทแต่ในชามมีไม่ถึงครึ่งชามเหมือนเรากินก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ยังไงยังงั้นล่ะค่ะ ส่วนอีกภาพก็เป็นขนมใส่หม้อดินเผาเล็กๆ น่ารักดีแต่รูปไม่ค่อยชัดเพราะอยู่ในตู้ที่คลุมด้วยพลาสติกถ่ายให้ตายก็ไม่ชัดค่ะ...ที่เห็นเป็นตะโก้กะสังขยาฟักทอง น่าทานป่ะคะ...อันนี้ไม่ได้ซื้อมาเพราะไม่ชอบทานของหวานๆ แบบนี้ค่ะ





ส่วนภาพนี้ชอบหัวคิดในการผลิตสินค้าออกมาขาย โดยใช้ของพื้นบ้านที่ไม่ได้ใช้ทำอะไร อย่างที่เห็นก็เป็นกะลามะพร้าวที่ใส่หัวคิดของคนประดิษฐ์มาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกมาสวยงามน่ารักดีค่ะน่าอุดหนุนนะคะนั่น





สองภาพข้างบนเป็นขนมกระจุกกระจิกน่ารักๆ บรรจุใส่กล่องพลาสติกเล็กๆ แล้วนำมาบรรจุใส่ถุง 3 กล่อง 50 บาทรวมขนมหลายๆ อย่าง เช่น ขนมกลีบลำดวน วุ้นเคลือบน้ำตาล อาลัว กาละแม ขนมผิง อะไรแบบนี้ส่วนมากขนมพวกนี้ดูสวยงามน่าซื้อ และจะซื้อกันมาเป็นของฝากเพราะน่ารักดี แต่ถามว่าอร่อยมั๊ยชิมแล้วไม่อร่อยเลยค่ะ...บางอย่างมีกลิ่นแปลกๆ ด้วยซ้ำไปอาจเป็นเทียนอบที่กลิ่นแปลกๆ ไม่เหมือนที่เคยได้กลิ่นเพราะเคยทานขนมอบเทียนที่มีกลิ่นที่หอมกว่านี้ ก็เลยไม่รู้ว่ากลิ่นอะไรค่ะที่ทำให้ขนมมีกลิ่นแบบนี้ รู้แต่ว่าไม่ชอบเลย..ส่วนขนม 2 ภาพล่าง คือ กะลอจี้ คุณแม่เห็นปั๊บแวะซื้อเลยค่ะกระทงโฟมกระทงละ 10 บาทเป็นแป้งทอดแล้วนำมาโรยน้ำตาลกะงา อีกอันเป็นแพนเค๊กที่ทำเป็นรูปโดเรมอน อันนี้เจ้าตัวน้อยหลานเราเค้าอยากได้ สั่งให้คนขายทำจมูกสีแดงด้วยแยมด้วยนะคะ..ขอทานบ้างเค้าจิกมาให้ชิมนิดเดียว จนถูกแม่เค้าดุเรื่องหวงของกินแต่เค้าก็ไม่ยอมให้อยู่ดี บอกทำไมไม่ซื้อกินเองอ่ะครับ...แน่ะดูเค้าพูดดิคะแค่ 5 ขวบกว่าเอง..ชิมเท่าที่เจ้าตัวน้อยให้มาก็อร่อยดีค่ะ หน้าตาก็น่ารักมิน่าเจ้าตัวน้อยหวงเหลือเกิน.





ระหว่างรอก๋วยเตี๋ยวหันไปหันมาเห็นฝั่งตรงข้ามหน้าร้านมีเจ้านี่แขวนอยู่ เห็นน่ารักดีก็เลยอดแชะเก็บไว้ไม่ได้..น่ารักมั๊ยคะ...



ส่วนภาพนี้ขอเอามาฝากน้องต้นอ้อค่ะ...วันก่อนคอมเมนท์กันเรื่องไข่นกกระทาทอด พอเห็นนึกถึงน้องต้นอ้อ อมยิ้มเลยค่ะ เลยเก็บมาฝากน้องต้นอ้อโดยเฉพาะเลยค่ะ....55555....



ไหนๆ ก็มาตลาดน้ำอัมพวาแล้วไม่แวะไปที่อุทยาน ร.2 หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่าอุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ก็กระไรอยู่ก็เลยเสียค่าเข้าไปดูคนละ 20 บาทสำหรับผู้ใหญ่และเด็กคนละ 5 บาท เข้าไปแล้วจะเห็นอาคารเรือนไทยสวยงามมากข้างหน้าจะเขียนว่า "พิพิธภัณฑ์พระพุทธเลิศหล้านภาลัย"





ขึ้นมาด้านบนจะเห็นบรรยากาศนี้ค่ะ ดูสงบร่มรื่นน่าอยู่น่านั่งและนอนมากค่ะเพราะในตัวเรือนแต่ละหลังที่เห็นจะมีเรือนชานให้ได้นั่งพักหลบแดดร้อนๆ กันค่ะ แต่ลองสังเกตนอกร่มดูสิคะ แดดส่องเปรี้ยงๆ เลยล่ะพื้นไม้จะร้อนจนเดินไม่ได้ ถ้าใครลองเดินตอนนี้ดูจะเหมือนเดินบนถ่านไฟเลยล่ะ...55555...แบบว่าความจริงแล้วก่อนขึ้นบนบ้านเค้าให้ถอดรองเท้าก่อนขึ้น และเค้ามีรองเท้าแตะให้เปลี่ยนเพื่อใช้เดินบนบ้าน ตัวเองกะคนที่ไปด้วยทุกคนไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเข้าใจอีกอย่างเค้าก้ไม่ได้เขียนบอกไว้ หรือเราไม่ได้สังเกตหว่าคะ ก็เลยนั่งขำกลิ้งกันไปเพราะมีอยู่เรือนหนึ่ง รูปซ้ายบนนั่นล่ะค่ะจะเห็นแดดส่องเปรี้ยงทางเดินเลย เห็นแค่นี้ล่ะค่ะวิ่งกันซะ..พอไปถึงอีกเรื่อนทุกคนที่วิ่งไปต้องสะบัดเท้าเร่าๆ เพราะเท้าแทบสุก ดูฝ่าเท้าแดงแจ๊ดแจ๋เลยค่ะ สมใจไม่ต้องไปซื้อฝ่าเท้าตบมาใช้แล้วค่ะ เท้าเรานี่ล่ะ...จะตบสู้พวกหลอกลวง โกหกมดเท็จให้แหลกเลยค่ะคอยดูสิ...5555...





ภาพนี้รวมภาพประตูหน้าต่างบ้านเรือนไทยซึ่งทำเป็นพิพิธภัณฑ์ซะให้พอแต่ละหน้าต่างจะเห็นบรรยากาศด้านนอกแตกต่างกันไปดูน่าสนใจดีค่ะ





ส่วนสี่ภาพนี้มันฟ้องว่าแอบถ่ายมาชัวร์...แต่ก็เห็นคนอื่นถ่ายกันเยอะแยะ..ที่สำคัญตัวเองถ่ายมาเพราะอยากมาถ่ายทอดและอยากให้คนอยากไปดูของจริงที่สวยงามยิ่งกว่าภาพที่ถ่ายมาและได้ไปเจอบรรยากาศจริงๆ ที่หาไม่ได้ใน กทม. และจังหวัดอื่นๆ อยากเชิญชวนให้ไปกันค่ะดีมากๆ เลยนั่งแล้วไม่อยากลุกไม่อยากกลับเลยค่ะ สบายและอากาศบนเรือนชานไม่ร้อนอย่างที่คิดยกเว้นอย่าไปเดินบนแผ่นไม้โดยไม่ใส่รองเท้าที่เค้าเตรียมไว้ให้ก็แล้วกันค่ะ





ภาพนี้ยืนมองนานมาก ไม่รู้ว่าเป็นอะไรค่ะ แต่เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับคนสมัยโบราณ เช่น สี่แผ่นดิน สายโลหิต กษัตริยา และเยอะแยะเกี่ยวกับเรื่องราวคนสมัยก่อนนี่ชอบมากๆ ค่ะชอบพวกโบราณคดีที่บอกเล่าเรื่องราวของอดีตที่ผ่านมามีหลายเล่มมากๆ รู้สึกว่าอาจเป็นที่รีดจับจีบสไบกะผ้ายกป่ะคะ ใครรู้บ้างช่วยเฉลยหน่อยค่ะ หรือว่าเป็นเครื่องหั่นหมากหนีบหมากรึเปล่า ตัวเองต้องยอมรับว่าไม่รู้ค่ะ และไม่มีเจ้าหน้าที่ให้ถามด้วยในห้องนี้ก็เลยขอมาถามตรงนี้เผื่อใครเข้ามาแล้วคุ้นๆ ว่าคืออะไรค่ะ...นอกจากนี้เมื่อออกจากพิพิธภัณฑ์แล้วไปดูบรรยากาศรอบๆ พิพิธภัณฑ์แล้วจะเห็นพันธ์ไม้มากมายรู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างตอนนี้เนื้อที่บล๊อกนี้ไม่พอนำเสนอแล้วค่ะขอยกไปเป็นบล๊อกต่อไปแล้วกันนะคะ....




Weekend Love


la la la la la la la la la la

You thought that this was love
But my plan wasn't that for us
I thought that you would understand
I didn't want you for my full time man

I like the way you made me feel that night
It's something that I can't deny
But I've been hurt before
I can't take it no more
That's why, that's why

A weekend love is all it was
Nothing serious because
We're playing games we're only young
Get with it, it was just a weekend love

You thought you'd break the rules
You thought that I would be a fool
But now that the tables have turned
This is a lesson you didn't want to learn

I like the way you made me feel inside
It's something I just had to try
But I've been hurt before
I can't take it no more
That's why, that's why

A weekend love is all it was
Nothing serious because
We're playing games we're only young
Get with it, it was just a weekend love

A weekend love is all it was
Nothing serious because
We're playing games we're only young
Get with it, it was just a weekend love

Don't try to make me believe that you'd never hurt someone
Now that pain has come back to you
You thought the love you had was true
And now you don't know what to do

Everytime I turn around you're standing right there
I really don't want you and I really don't care
I can't think about you no, not forever
What we had was good but theres much much better
You try to blame me, I'll put the blame on you
You play the game baby, I can play the game to
You say you want me back it's a simple fact that
Darkchild and all my girls got my back like that - yeah

Spice girls, Dark child

A weekend love is all it was
Nothing serious because
We're playing games we're only young
Get with it, it was just a weekend love

A weekend love is all it was
Nothing serious because
We're playing games we're only young
Get with it, it was just a weekend love
A little weekend love

la la la la la la la la la la


<a href="//www.wherearepop.com/dj/jojoe/mp3ss822s.swf" target="_blank">//www.wherearepop.com/dj/jojoe/mp3ss822s.swf</a>






Create Date : 11 พฤษภาคม 2552
Last Update : 24 ตุลาคม 2553 18:49:05 น. 8 comments
Counter : 2042 Pageviews.

 


สวัสดีค่ะ

นำอาหารจากบ้านมาฝากด้วยนะคะ



โดย: อิ่ม_Aim วันที่: 11 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:13:31 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปชมอาหารที่บ้านเรานะคะ

ที่นำมาฝากเป็นขนมจีนน้ำเงี้ยว ทำจากหมูค่ะ เป็นอาหารพื้นเมือง หวังว่าคงชอบนะคะ

ไปเที่ยวตลาดน้ำ สนุกไหมค่ะ
เราไปเที่ยวทางเหนือสงสารชาวบ้านจังเลย ขายของไม่ค่อยจะดี ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย เพราะคนไม่มีเงินเที่ยวกันน่ะ

ชอบภาพอุทยาน ร.๒ สวยค่ะ

ขอบคุณที่นำภาพมาฝากเพียบเลยนะคะ


โดย: อิ่ม_Aim วันที่: 11 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:20:57 น.  

 
โอ้โห ได้รูป ได้เรื่องราวมาเล่ากันเยอะเลยค่ะ

อยากเป็นคนเก็บรายละเอียดได้แบบนี้บ้างจัง...

ว่าแต่ ฝนตกหนักจริงๆเลยนะคะ ดูตามรูป แอบน่ากลัวนิดหน่อย

ดีนะคะที่ไม่ตกตอนเที่ยวตลาด ไม่งั้นคงเซ็งเนอะ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 11 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:34:07 น.  

 
รูปก็สวยเรื่องก็สนุกค่ะ อัมพวานี่เคยไปแค่ครั้งเดียวสัก 10 ปีมาแล้ว รู้สึกว่าจะเจริญขึ้นมากเลยค่ะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนิยายนะคะ ดีใจมากที่รู้ว่ามีคนติดตามอ่าน เพราะเขียนเป็นเรื่องแรกในชีวิต รับรองว่าเนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นไปเรื่อยๆค่ะ
ขอให้มีความสุขนะคะ


โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 11 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:36:03 น.  

 
ดีจ้า มาเที่ยวด้วยคนค่ะ ตรงจุดนี้เป็นสถานที่ที่เล็งเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวสักวันหนึ่ง

ชอบกาลอจี้มากค่ะฮ่าๆๆ แล้วก็ทอดมันด้วยชอบๆ

มีความสุขนะค่ะ


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 11 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:53:23 น.  

 





เห็นในหลายบล็อกแล้ว ... คงต้องหาโอกาสไปดูด้วยตนเองสักครั้งว่า อัมพวา มีอะไรดี




โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 11 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:10:42 น.  

 
น่าไปจังเลยครับ..อยู่ใกล้แท้ๆยังไม่มีดอกาศไปเลยครับ..


โดย: บูรพากรณ์ วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:41:01 น.  

 
โอกาศครับๆๆ...


โดย: บูรพากรณ์ วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:42:19 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.