deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
5 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 
ว่าด้วยนิสัยไม่ดี 6 ข้อที่ควรละ ลด เลิก





ชีวิตของคนเราในปัจจุบันเมื่อมาอยู่ร่วมกันมักมาจากร้อยพ่อพันแม่และจำเป็น

ต้องมาอยู่ร่วมกันสังคมจึงเป็นสังคมที่หลากหลายบางทีก็มาจากต่างถิ่นต่างภาษา

ก็มี สังคมการทำงานก็เหมือนกันเมื่อทุกคนมาจากต่างครอบครัว ต่างที่ที่ความ

เป็นอยู่ สังคมแตกต่างกันก็ย่อมมีปัญหาต่างๆ ทำให้เกิดปัญหาของการอยู่ร่วม

กัน จนบางครั้งทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาบางคนยิ้มตลอดเวลา บางคนก็อารมณ์

ร่าเริงอยู่เสมอ ไม่ทุกข์ไม่ร้อน นั่นแสดงว่าเป็นคนที่มีีสุขภาพจิตดี ซึ่งคนที่มี
สุขภาพ

จิตที่ดีจะเป็นคนที่สามารถปรับตัวเองให้มีความสุขอยู่ได้ในทุกสังคมและจะเป็นคน

ที่มีสัมพันธภาพที่ดีงามกับคนอื่น ซึ่งจะตรงกันข้ามกับคนที่มีสุขภาพจิตที่แย่ จะเป็น

คนที่มองโลกในแง่ร้าย คิดอะไรเป็นด้านลบไปหมด มีีข้อขัดแย้งภายในจิตใจอยู่

เสมอ และจะเป็นคนที่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง เกิดความรู้สึกหวาดระแวงกับสิื่ง

ต่างๆ รอบตัวเอง...



แล้วถามหน่อยว่าคนทุกคนต้องการเป็นคนแบบไหนระหว่างคนที่สุขภาพจิตดี

มองโลกในเง่ดีกับคนที่สุขภาพจิตที่แย่ มองโลกในแง่ร้าย คำตอบก็คงเป็นทุกคน

อยากมีีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนที่มองโลกในแง่ร้าย

นอกจากจะมาจากปัจจัยที่มาจากสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวแล้ว ยังอาจเกิดจาก

นิสัยส่วนตัวก็ได้ซึ่งมีคนสำรวจนิสัยส่วนตัวที่ไม่ดีนี้ว่ามีนิสัยต่อไปนี้ คือ




1. นิสัยขี้ระแวง


คนที่มีนิสัยขี้ระแวงจะเป็นคนที่ไม่เคยไวใจใครเลย คอยคิดหวาดระแวงคนอื่น

ตลอดเวลา ไม่เคยเห็นใครดีเท่าตัวเอง เพราะตัวเองไม่เชื่อใจใครว่าในโลกนี้จะมี

ใครดีเท่ากับตัวเอง คิดแต่ว่าใคร ๆ ก็ไม่รัก ไม่ให้ความสำคัญ ไม่นับถือ ระแวง

ว่าจะถูกทรยศ หักหลัง ใครจะทำอะไรจะคิดอะไรก็นึกคิดไปว่าเขามีความ

ประสงค์ร้ายกับตนเองกับความคิดของตัวเองเข้าขั้นประเภทคิดมากจิตตก

คิดจริงบ้างไม่จริงบ้าง สมมติฐานนิดเดียวก็คิดเป็นตุเป็นตะ รวมกันเป็นเรื่อง
ยาว

ทั้งที่มีมูลเหตุเพียงนิดเดียวแต่มีความสามารถขยายให้ใหญ่โตขึ้นได้ คนขี้ระแวง

ไม่ว่าจะทำอะไร ทุกอย่างที่ทำหรือคิด ก็จะทำและคิดให้เป็นปัญหาได้ จะสร้าง

เงื่อนไขให้กับตัวเองจนตัวเองรู้สึกทุกข์ และในที่สุดคนที่ทุกข์ที่สุดก็คือตัวเอง

และคนใกล้ชิดรอบกาย ถ้าอยู่ในองค์กรใหญ่ คนประเภทนี้ก็จะโน้มน้าวชักจูง

ให้คนอื่นมีแนวร่วมคิดเหมือนที่ตัวเองคิด ถ้าหากมีใครคิดไม่เหมือนตัวเอง ก็จะรู้สึก

ร้อนรนวุ่นวาย โกรธ ไม่พอใจที่คนอื่นคิดไม่เหมือนตัวเอง ถ้าเป็นเจ้านายก็อาจ

เกิดความระแวงว่างานที่มอบหมายให้ลูกน้องทำจะไม่่สำเร็จ หรือได้งานที่ไม่ดี

เท่าที่ตัวเองต้องการ ถ้าเกี่ยวกับความรักก็จะระแวงว่าอีกคนจะมีคนใหม่ หรือกลัว

คนอื่นจะเอาเรื่องตัวเองไปซุบซิบนินทา ซึ่งความจริงแล้วนิสัยระแวงนั้นก็มีส่วนดี

ตรงที่ทำให้เรารู้จักการระแวดระวังกับสิ่งต่างๆ รอบตัวแต่ถ้าระแวงไปเสียทุกเรื่อง

ชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไร




2. คนที่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง


จะเป็นคนที่ไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตได้ อย่าว่าแต่เรื่องใหญ่เลย

แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็ยังไม่สามารถจะตัดสินใจได้ ต้องมีคนคอยเป็นที่ปรึกษา

จะทำได้อย่างเดียว คือ ทำตามที่คนอื่นสั่ง หรือคิดอะไรไม่เป็นต้องมีคนชักจูง

ชักนำถึงจะคิดจะทำตามคนอื่น ใครว่าอะไรก็ว่าตามกันไม่มีแง่คิดเป็นของตนเอง

มักไม่ค่อยใช้สติตริตรองอะไร และจะมีนิสัยไม่มั่นคง เค้าบอกว่าพวกนี้มักจะทุกข์

เนื่องจากไม่รู้จักตัวเองว่าตัวเองนั้นต้องการอะไร เห็นใครทำอะไรก็ทำบ้าง ใคร

พูดอะไรก็คล้อยตามไปหมด ไม่รู้ว่าตนเองชอบอะไร แบบไหน ไม่รู้ว่าควร
วาง

ตัวแบบไหนในสังคม



เค้าว่ากันว่าคนที่มีนิสัยขาดความเชื่อมั่นในตนเองนี้มักจะมีปมด้อยบางอย่าง และ

ใช่ว่าเจ้าของนิสัยจะชอบนิสัยแบบนี้ของตัวเอง แต่เป็นเพราะไม่รู้จะลบล้างความ

รู้สึกที่มีปมด้อยในใจตนเองได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ตัวเองยังไม่รู้สิ่งที่ตัวเอง

คิดว่าเป็นปมด้อยของตัวเองนั้น เป็นปมด้อยหรือไม่ในความรู้สึกของคนอื่นๆ




3. นิสัยกล่าวโทษผู้อื่นอย่างไม่รู้จบสิ้น


เค้าบอกว่าจะเป็นคอยเห็นความผิดของคนอื่นตลอดเวลา จะเห็นความผิดของคน

อื่นยิ่งใหญ่เท่าภูเขาเห็นเป็นความผิดที่ร้ายแรงและไม่มีวันที่จะให้อภัยได้ มอง

เห็นแต่ความไม่ดี ความไม่ถูกต้องของคนอื่น แต่ไม่เคยหันมามองดูตัวเองหรือ

เห็นความผิดของตัวเอง ไม่มองสิ่งต่างที่เกิดด้วยใจที่เป็นกลางและเป็นธรรม ไม่ได้

มองอย่างที่ควรจะเป็นในสภาวการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มองด้วยเหตุผล

ถ้าใครมีนิสัยแบบนี้ย่อมทำให้เกิดทุกข์ และไม่มีความสุขเพราะในความคิดจะคิด

แต่ว่า ไม่มีใครจะเป็นผู้ที่ถูกต้องดีงามเท่ากับตัวเองและความคิดตัวเอง โดย
ลืม

คิดไปว่า ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด แม้แต่ตัวคุณเองก็เคยทำผิดพลาดบางสิ่ง

บางอย่างมาแล้วในชีวิต




4. นิสัยหลีกหนีปัญหา


พวกนี้เวลามีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น มักจะหาทางออกให้กับตนเองด้วยการ หนีปัญหา

การดื่มสุรา ติดยาเสพติด เที่ยวเล่นไปวันๆ ฆ่าเวลาด้วยการเล่นการพนัน และ

อบายมุขต่างๆ โดยคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาให้ตนเองได้ โดยลืมคิดไปว่า

ความจริงแล้วสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้เลยแต่กลับเป็นการเพิ่ม

ปัญหาให้มากขึ้นไปอีก หรืออาจมีใครหลายๆ คนจะเป็นลักษณะไม่รับรู้ปัญหา

ที่เกิดขึ้น ทำเพิกเฉยหรือหลบเลี่ยงปัญหา แล้วรู้บ้างมั๊ยว่าการแก้ปัญหาด้วยการ

หลบหลีก หรือเพิกเฉย นั้นไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเช่นกัน เพราะปัญหาก็ยัง
คงอยู่

และถ้าปล่อยปัญหาทิ้งไว้ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนมากยิ่งขึ้นไปอีก




5. นิสัยมองโลกในแง่ร้าย


เป็นคนที่คิด หรือมองอะไรในแง่ลบตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้ชีวิตขาดความสุข

ชีวิตมีแต่ความหดหู่เศร้าหมอง มองเห็นใครต่อใครเป็นศัตรูคอยแต่หวาดระแวง

คิดไม่ดีกับคนอื่นอยู่เรื่อยไป ไม่ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับตนเอง ก็จะเห็นเป็น

สิ่งที่็เลวร้ายไปเสียหมด แล้วรู้บ้างมั๊ยว่า คนที่คิดแบบนี้เป็นความคิดที่มีแต่ทำลาย

ตัวเองโดยไม่รู้ตัว




6. คนที่มีจิตใจหมกมุ่นอยู่กับความอาฆาตแค้น ชิงชัง ริษยา


จะเป็นคนที่ไม่รู้จักการให้อภัย และให้โอกาสคนอื่น จะคอยซ้ำเติมคนที่ตัวเอง

ไม่ชอบมีจิตใจที่ขุ่นมัวหาความสงบไม่ได่ เพราะร้อนรนกับความคิดร้าย ๆ ของ

ตนเองต่อคนอื่น
มัว

อาฆาตแค้นและไม่ยอมอภัยบางทีถึงขนาดคอยคิดทำร้าย โดยไม่รู้ว่าความร้อน

ของไฟอิจฉาริษยา ชิงชัง คิดไม่ดีกับคนอื่น ล้วนทำลายตัวเอง ด้วยคิดว่าคนอื่น ๆ

ดีเกินหน้าเกินตาตนเอง หรือไม่ก็คิดว่าตัวเองสู้คนอื่นไม่ได้ คนที่คิดแบบนี้เป็น

คนที่ดูถูกตัวเองอย่างรุนแรง เพราะมัวแต่คิดว่าตนนั้นต่ำต้อย ถ้าหากมีทางใดที่

จะเอาชนะหรือทำให้คนที่ตนเห็นเป็นศัตรูเดือดร้อน เจ็บปวดเดือดเนื้อร้อนใจได้ก็

จะทำถ้าใครมีนิสัยอย่างนี้ ก็จะมีแต่ความทุกข์ร้อนรนเหมือนข้ออื่นเช่นกัน และ

จะมีแต่เรื่องราวต่างๆ เข้ามาในชีวิตตลอดไม่หยุดหย่อน



ควรหาหนทางดับทุกข์ด้วยการ ปรับปรุงกาย ใจเสียใหม่ โดยมองโลกในแง่ดีบ้าง

รู้จักการให้อภัยคนอื่น คิดทุกอย่างในแง่บวก มองข้ามสิ่งที่ตัวเองไม่พึงพอใจ

ด้วยเหตุและผล และผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นส่วนใหญ่ อย่าคิดอะไรในแง่ตัวเอง

หรือกลุ่มของตัวเอง ควรมอง คนรอบข้างอย่างเข้าใจว่าคนทุกคนล้วนแตกต่างกัน

จะให้คนทุกคนเหมือนกันน้ั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะผู้คนในโลกนี้ต่างมีนิสัยที่ดีและ

ไม่ดีกันทุกคน ควรมองในส่วนที่ดีของเขาหรือถ้าเป็นไปได้ยอมรับในส่วนที่ไม่ดี

ของคนอื่น และพยายามปรับตัวในทางที่ถูกต้องในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

อย่างมีเหตุและผลและความถูกต้องของสังคมโดยไม่คิดอะไรที่เข้าข้างตัวเอง

และทำหรือคิดทุกอย่างอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำและคิดได้




ใครก็ตามที่ละ ลด เลิก 6 นิสัยนี้ได้ก็จะมีสุขภาพจิตที่ดี และเกิดผลสำเร็จในการ

ปรับตัวที่ดี และสามารถอยู่ร่วมสังคมกับคนอื่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะมีผลทำให้

สังคมเราน่าอยู่และสงบสุขไม่ต้องกับร้อนรนไปตามสภาวะโลกที่ร้อนแรงขึ้นทุกวัน

และสิ่งสำคัญนี้จะทำให้เป็นรางวัลแห่งชีวิตแก่ตนเองและเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน





Shake It

กิร์ลลี่ เบอร์รี่ (Girly Berry)




อ้นฉันก็นึกว่าเธอก็คิดว่าเธอน่ะจะเป็น boyfriend

ก็เธอไปไหนไปกับเธอ แล้วก็หนีหายทั้งหัวและก็ตัวไป

เอ๊ะ!!เธอยังไงแน่ หรือว่าเห็นฉันนะเป็นอ่ะเพียงแค่ตุ๊กตา

ตั้งไว้ข้างเธออยู่ในรถ เมื่อไม่รักแล้วเหมือนจะโละและเธอจะทิ้งทำไม

ห้อยฉันเอาไว้ใต้รถเธอ


อุ้ยส์!! เจ็บใจ ทำอย่างงั้นไม่ยอม

ตุ๊กตาน่ารักขนาดฉันต้องหน้ารถ


เด้งๆ ต้องเด้ง เด้งอยู่ข้างหน้า เด้งๆ ต้องเด้ง ให้มันเข้าท่า

เด้งๆ ต้องเด้ง เด้งอยู่ข้างหน้า สั่นไหวเร้าใจอยู่ข้างเธอ

เด้งๆ ต้องเด้ง Shake It Baby เด้งๆ ต้องเด้ง เอาให้ Sexy

เด้งๆ ต้องเด้ง Shake It Baby เด้งๆ อย่างเนี่ยดีไหมเธอ


ถ้าฉันไม่รักไม่สนไม่แคร์ไม่บ่นฉันน่ะก็จนใจ

ก็คงต้อง Bye Bye จากเธอ

รถตั้งเยอะรถตั้ง แยะฉันนั้นจะแคร์ทำไม ไม่ง้อไม่รอแต่รถเธอ


อุ้ยส์!! เจ็บใจ ทำอย่างงั้นไม่ยอม

ตุ๊กตาน่ารักขนาดฉันต้องหน้ารถ


เด้งๆ ต้องเด้ง เด้งอยู่ข้างหน้า เด้งๆ ต้องเด้ง ให้มันเข้าท่า

เด้งๆ ต้องเด้ง เด้งอยู่ข้างหน้า สั่นไหวเร้าใจอยู่ข้างเธอ

เด้งๆ ต้องเด้ง Shake It Baby เด้งๆ ต้องเด้ง เอาให้ Sexy

เด้งๆ ต้องเด้ง Shake It Baby เด้งๆ อย่างเนี่ยดีไหมเธอ








Create Date : 05 มิถุนายน 2551
Last Update : 5 มิถุนายน 2551 23:41:47 น. 1 comments
Counter : 642 Pageviews.

 
เกือบมีทุกข้อในนิสัยบางช่วง
ของตัวเอง แบบว่าๆ
จะดีไปสักหมด เดี๋ยวโลก
นี้ก็ไม่อาจเปรียบเทียบว่า
ความไม่ดี มันมีได้อย่างไร
(ขอบคุณที่เยี่ยมชม นะ)


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:23:54:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.