ทุกครั้งที่ดูทีวีจะเปิดดูช่อง 3 แต่ทุกวันเสาร์ตอนบ่ายจะมีถ่ายทอดมวย ไม่ชอบดูเลย...ไม่ชอบการใช้กำลังห้ำหั่นกัน...ก็เลยเปิดดูช่องอื่น เปิดไปเรื่อยๆ กดช่องไล่ไปจนถึงเลข 5 ก็คือ NBT หรือช่อง 11 เดิมนั่นเองก็เจอรายการประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าเห็นพิธีกรกำลังถามนายปราโมทย์ นาครทรรพ หรือที่เรียกกันว่า ดร. ปราโมทย์ นาครทรรพ ตอนแรกก็ไม่สนใจอะไร แต่เผอิญได้ยินประโยคที่พาดพิงถึงคนเสื้อแดงที่มาชุมนุม ได้ใช้คำพูดว่าถูกจ้างมาด้วยเงิน..การพูดแบบนี้ถือเป็นการปรักปรำกันจนเกินไป...ก็เลยลองเปิดเสียงให้ดังขึ้นและฟังว่านายคนนี้เป็นใครมาจากไหนก็ได้ความว่าเป็นนักวิชาการอิสระ ฟังนายคนนี้พูดต่อไปพร้อมสังเกตท่าทีในคำพูดแล้วทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีในหลายๆ คำพูดของนักวิชาการคนนี้ที่พูดถึงคนมาชุมนุม เช่น เมื่อหมดเงิน 2000 ก็คงกลับไป หรือการชุมนุมครั้งนี้ของคนเสื้อแดงทำไม่ถูกกฏหมาย เป็นต้น ก็เลยเสริชหาประวัติก็เลยได้รู้ว่านายคนนี้เป็นคนสำคัญของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเป็นนักเขียนของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เคยได้รับเชิญให้ขึ้นเวทีพันธมิตรมาแล้วเมื่อครั้งพวกเสื้อเหลืองมาชุมนุมยึดทำเนียบและสนามบิน มองหน้าแล้วดูไม่น่าเชื่อถือทั้งหน้าตา และคำพูด ดูน่าชังนัก แก่มากแล้วด้วยไม่น่าจะมีคำพูดแบบนี้ ผิวตกกระเรียกว่าวัยตกระได้แล้ว ผมหงอกเต็มหัวแบบนี้เป็นวัยที่ควรจะปลงและเข้าวัดเข้าวาได้แล้ว ไม่ควรออกมาพูดแบบนี้ให้เด็กๆ รุ่นหลังเสื่อมศรัทธา วาจาที่พูดออกมาดูแล้วไม่น่าจะเป็นนักวิชาการที่ดีได้เลย เพราะการพูดปรักปรำดูถูกดูหมิ่นคนอื่นโดยไม่มีหลักฐานมายืนยันแบบนี้ นักวิชาการที่ดีจะไม่ทำกัน แต่พออ่านประวัติแล้วก็ถึงบางอ้อ...มิน่าล่ะ..การพูดแนวนี้ แบบนี้คุ้นๆหู ท่าทีก็คุ้นๆ ตา พูดเอาดีเข้าหาตัวเป็นอย่างเดียว...



เสริชหาได้ข้อมูลการขึ้นเวทีพันธมิตรของนายปราโมทย์ได้ว่า ได้ขึ้นแสดงความคิดเห็นปลุกประชาชนสร้างสุญญากาศการเมือง ทวงคืนประชาธิปไตยจากรัฐบาลสมัยนั้นน่าจะเป็นสมัยคุณสมัคร ว่าเป็นรัฐบาลเถื่อนที่มาจากระบอบเผด็จการพลเรือน พร้อมได้แนะให้ขยายแนวร่วมทั่วประเทศด้วยการให้ความรู้การเมืองใหม่ในทุกภาคส่วนทั้ง ข้าราชการ ทหาร และพลเรือน โดยตั้งจุดมุ่งหมายในการปกป้อง ชาติ พระมหาษัตริย์ ด้วยการทำอารยะขัดขืนทุกคำสั่งของรัฐบาล ว่า ปัจจุบันการเมืองเปลี่ยน การนองเลือด ความบกพร่องของรัฐบาล และเชื่อว่าการชุมนุมของพันธมิตรตอนนั้น ต้องได้รับชัยชนะ โดยไม่มีการนองเลือด และประชาชนส่วนใหญ่จะหันเข้ามาเป็นแนวร่วม นอกจากนี้ยังอ้างว่ารัฐบาลชุดนี้เข้ามาอย่างไม่ถูกต้อง และผิดเจตนารมณ์ของศาลที่สั่งห้ามให้คนที่เกี่ยวข้องกับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้ามามีส่วนร่วมกับการเมือง แต่กลับให้พวกพ้อง ภรรยาและญาติสนิทเข้ามาทำงานในรัฐบาล ซึ่งทำให้หมดความชอบธรรม และอีกหลายข้อกล่าวหา ซึ่งต้องไปติดตามอ่านกันเองที่ //news.pattaya.com/thai/took/Answer.asp?id=1243 พออ่านแล้วเกิดความรู้สึกว่าไม่น่าเข้าไปอ่านให้เสียสายตาและความรู้สึกเลยเรา...เอียงแบบเห็นชัดเจน เช่นเดียวกับการที่ออกรายการที่ สถานี NBT ในวันนี้เช่นกัน...ไม่เข้าใจว่าสถานีนี้กลายเป็นสถานีของพันธมิตรไปตั้งแต่เมื่อไร ไหนใครบอกว่าเป็นสถานีของทางราชการเสนอข่าวเป็นกลางของทางราชการอย่างเดียวแล้วไหงพวกพันธมิตรถึงมาพูดจาปรักปรำคนอื่นได้แบบนี้ โดยแสดงความไม่เป็นกลางออกมาทางหน้าจอแบบนี้ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์การชมที่ตั้งใจจะเปิดเพราะคิดว่าสถานีโทรทัศน์ทุกช่องจะแสดงความเป็นกลาง ไม่เป็นแบบ ASTV ที่ไม่อยากดูและไม่เคยคิดจะดู..ไม่คิดว่าจะมีทีวีแบบนี้ตามมารบกวนในสื่อที่คิดว่าน่าจะทำตัวเป็นกลาง...อยากรู้จริงๆ ว่าใครรับผิดชอบสถานีนี้และใครจะรับผิดชอบรายการแบบนี้ที่ให้ใครไม่รู้ออกมาพูดทำนองปรักปรำคนอื่น หรือพูดชักชวน ชวนเชื่อให้เชื่อในสิ่งที่ตัวเองพูดเหมือนจะถูกต้อง แต่ถูกต้องไหม...หรือต้องให้ดีลิสสถานีนี้ออกจากระบบในการรับชมคะ...แล้วปล่อยให้พวกเดียวกันดูให้สะใจไปเลย...เหมือนที่ทำได้กับ ASTV ล่ะ....ผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบสถานีช่วยรับไปพิจารณาผังรายการด้วยค่ะ...



เพื่อตอบแทนสิ่งที่สถานีทำ (เกี่ยวกันม่ะคะเนี่ย....555555.....) ก็เลยขอเอาความคิดของคุณตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) ซึ่งเขียนเมื่อ 20 มี.ค. 53 รู้สึกจะเป็นห้องราชดำเนินถ้าจำไม่ผิดนะคะ ถ้าหากผิดก็ขออภัยด้วยค่ะ...เขียนว่า...."ผลงานของมาร์คแบบนี้เค้าเลยเข้าข้างแม้ว" ก็อ่านขำๆ นะคะ แต่จะขำจริงขำเล่นก็ต้องลองอ่านดูค่ะ เก่งนะคะหามาได้ตั้ง 44 ข้อแน่ะแต่คุณลืมนมเน่าไปอย่างหนึ่งค่ะ ขอเพิ่มเติมตรงนี้นะคะ..แต่ จขบ. ก็ชอบค่ะขอบคุณคุณตุ้มค่ะที่ทำให้ได้รู้มากกว่าที่รู้ค่ะ...



1.แค่ปีแรกก็กู้จนยอดหนี้สาธารณะไปเข้าไปสี่ล้านล้านบาทโดยที่ไม่มีแผนการสร้างรายได้ ในการที่จะเอาเงินไปจ่ายคืนหนี้เงินกู้


2.ลอกประชานิยมจากแม้วมาทำต่อ ทั้งๆที่ตอนนั้นด่าแม้วซะเละ


3.ห้ามประชาชนที่เป็นเสื้อแดงมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากับเสื้อเหลือง


4.ให้เลขาฯพรรคออกหน้าคุยกับทหารเพื่อตั้งรัฐบาลเพื่อรักษาภาพความสะอาดของตนเองไว้ไม่ให้เปื้อน


5.ทำให้ไทยต้องทะเลาะกับเพื่อนบ้านรอบด้าน
-พม่าของดการไปเยือนของมาร์คเมื่อ 31 พค.2552เพราะ "ปาก" ของมาร์คที่ไปพูดเรื่องออง ซาน ซูจี
-ลาวประกาศขอไม่รับการสนับสนุนการจัดซีเกมส์จากไทย
-กับเขมรก็เผลอไม่ได้ เพราะฮึ่มๆใส่กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
-มาเลเซียไม่ให้ความร่วมมือ แถมยังยอมให้แม้วแวะจอดเติมน้ำมัน


6.ทรยศได้แม้กระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ


7.สร้างภาพเรื่องหวยใต้ดิน (แน่จริงยุบกองสลากฯไปเลยซิ)


8.บริหารจนเงินคงคลังแทบจะไม่มีเหลือจ่ายเงินเดือน ขรก.


9.อยู่ภายใต้การครอบงำของอำมาตย์ และ ทหาร


10.ให้สื่อของรัฐเสนอข่าวด้านลบกับฝ่ายตรงข้าม


11.ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ดันไปขอนายก ม.7


12.ทำลายความเชื่อถือในระบอบประชาธิปไตยด้วยการประกาศบอยคอตต์การเลือกตั้งหน้าตาเฉย


13.คลุมเครือเรื่องการรับราชการทหารเงื่อนเวลาในการจบการศึกษากลับมารับหมายเกณฑ์ขัดกับหลักความเป็นจริงในทางราชการแบบน่าเกลียด


14.ทำงานหน้าโพเดียม พูดเก่ง แต่ทำไม่เป็น


15.เคยเรียกร้องให้คนอื่นยุบสภาฯ แต่ดันลืมคำพูดของตนในวันที่ได้เป็นนายก


16.นายก ชอบการเมืองข้างถนนเพราะเคยไปให้กำลังใจม๊อบเหลือง เมื่อครั้งที่เหลืองยึดทำเนียบ ปิดสภา

17.ถ่มน้ำลายรดฟ้า เรื่องกองทุนน้ำมัน เพราะคุยโอ่ว่า 99 วันทำได้จริง


18.หุบปากนิ่งสนิทตอนที่มีการปฏิวัติทั้งๆ ที่เป็นนักการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย


19.นั่งเก้าอี้ไม่นาน ก็มีเรื่องโกงทันที กรณีปลากระป๋องเน่า ที่มาร์คต้องยอมเซ่น วิทูรย์ งามบุตร


20.นอกจากปลากระป๋องเน่าแล้ว ยังตามมาด้วย "ข้าวขึ้นมอด"ตะกรุมตะกรามกับของอุปโภคบริโภคของคนจนทั้งนั้น


21.ยังไม่พอ ยังมีเรื่องของไทยเข้มแข็งที่ต้องสังเวยด้วย วิทยา แก้วภารดัย อีกหนึ่งคน


22.ยังไม่หนำใจ ยังมีเรื่องของชุมชนพอเพียงที่เลือกเช็คบิลตัวเล็ก และปกป้องกอร์ปศักดิ์ราวไข่ในหิน


23.ไม่สามารถตั้ง ผบ.ตร.ได้ทั้งๆที่เป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศนี้ และมีเสียงสนับสนุนอยู่ใน ก.ตช.


24.ล้มเหลวเรื่องภาคใต้เพราะยังฆ่ากันอยู่ทุกๆวัน แถมหนักข้อขึ้นด้วย


25.เป็นนายกฯที่ไปได้แค่บางที่ไม่สามารถไปปฏิบัติราชการได้ทั้ง 76 จว.


26.ยาบ้าในยุคของนี้ขายกันครื้นเครงไม่มีวันไหนที่ไม่มีข่าวจับยาบ้าเลย


27.สตช.ในยุคนี้ฉาวโฉ่เรื่องการขายเก้าอี้โดยมีวอลเปเปอร์ทำหน้าที่นายหน้ากรณี "จ่าเพียร ขาเหล็ก" คือความอัปยศของ ตร.ยุคมาร์คดูแล


28.ญี่ปุ่นแทบจะถอนการลงทุนเมื่อเจอหลักการแบบเด็กๆกรณีของ "มาบตาพุด" ที่ยังคาราคาซัง


29.รฟท.ในยุคนี้สไตร้ค์กันเป็นว่าเล่นถึงขนาดต้องเอาทหารลงไปดูแลตามสถานีชุมทาง รัฐบาลก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเกรงใจฐานเสียง "สีเหลือง"


30.มาตรฐานในการทำงานมี 2 มาตรฐานคดีของแดงจะไปเร็วมาก แต่คดีของเหลืองอาจต้องรอชาติหน้า


31.งบ รปภ.สูงที่สุดกว่านายกฯทุกคนเพราะที่มาที่ไปในการขึ้นสู่ตำแหน่งนั้นมันเป็นการมาแบบแปลกประหลาด และสร้างศัตรูรอบด้าน


32.ทหารเกณฑ์ผู้น้อยดีใจที่นายกไปค้างบ้านนายเขาแค่ส่ง sms ไปบอกครอบครัว แต่ต้องลงเอยด้วยความตาย


33.เป็นนายกที่ต้องนั่งรถกันกระสุนตลอดเวลาหานายกคนไหนที่มีคน "รัก" แบบมาร์คน้อยมาก


34.วางเฉยกับเรื่อง GT2000 ทั้งๆ ที่รัฐเสียหายเป็นพันล้านกับเรื่องนี้ แต่ไม่กล้าลงดาบ เพราะเกรงใจทหารที่อุ้มชู


35."ใบ้กิน" เรื่องเรือเหาะที่ทหารซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้จริง


36.ฮึดฮัดอยากเก็บภาษีที่ดิน และ มรดกแต่ต้องติดเบรค เพราะดันมีแต่คนกันเองที่เข้าข่ายต้องเสีย


37.ล้มเหลวเรื่องเรียนฟรี 15 ปี เพราะทำไม่ได้จริง


38.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กรณีโกงอย่างโจ๋งครึ่มในการสอบนายอำเภอที่มีการ "ล็อค" คำตอบในข้อสอบด้วยลายมือเดียวกันนับร้อยคน ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล กลับทำนิ่งเฉยไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น


39.สนับสนุนลูกพรรคให้เป็นเด็กเลี้ยงแกะ ทั้งเรื่องเงินท่อน้ำเลี้ยงผ่านสุวรรณภูมิ ทั้งเรื่องแท็บโทรศัพท์ของสหรัฐ ทั้งเรื่องจ้าง 3 ล้านเพื่อปาอุจจาระและอื่นๆอีกมากมาย ออกมาเป็นรายวัน


40.ไม่สง่างามในเรื่องของ "ที่มาที่ไป" ในการขึ้นสู่ตำแหน่ง


41.ตามหาพ่อให้น้องเคอิโงะจนเจอ


42.ส่งน้องหม่องไปแข่งพับจรวดได้สำเร็จ


43.ทำหลิยฮุ่ยท้อง จนไทยเรามีช่องเรียลลิตี้ หลินปิง


44.เปลี่ยนชื่อไข้หวัดหมู เป็นไข้หวัด 2009


45.ได้เข็มขัดแช้มป์จาก โฮเซ่ สุไลมาน และได้ถ่ายรูปคู่กับ แมนนี่ ปาเกียว

หนูน้อยเสื้อแดง ลูกใครหนอน่ารักจริงๆ เจอในห้องราชดำเนินค่ะขออนุญาตตรงนี้เอามาลงเพราะหนูน้อยน่ารักจริงๆ ด้วยค่ะ