ประเทศสารขันธ์

นักข่าวสายกีฬาได้เข้ามารายงานข่าวว่า...ได้มีการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษระหว่างนายกประเทศสารข้นธ์ กับ นักเตะหญิงทีมเก่งสุดของประเทศสารขันธ์ เนื่องมาจาก เตะกะผู้หญิงดีกว่าเตะกับนักฟุตบอลผู้ชาย โอกาสชนะผู้หญิงก็มีมากกว่า โอกาสพลาดพลั้งเสี่ยงกับการเจ็บตัวเพราะถูกบาทาผู้ชายด้วยกันอัดก็น้อยกว่า และอาจเป็นเพราะ...นิสัยไม่กล้าสู้ใครแบบซึ่งๆ หน้า หรือชอบลอบกัดคนอื่นจนเป็นสันดานที่เคยชินแบบถาวร ไม่สู้ใครซึ่งๆ หน้า ก็เลยขอลงแข่งกับผู้หญิงน่าจะดีกว่า...แต่ผลที่ออกมาคือ ทีมนายกประเทศสารขันธ์ต้องพ่ายแพ้นักบอลหญิงอย่างไม่เป็นท่าแพ้แบบหมดรูปนายก ทำให้เป็นที่ขบขันกับประชาชนและผู้คนที่เฝ้าติดตามข่าว...ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า...ที่นายกแพ้อย่างหมดรูปเนื่องจากเมื่อคืน ต้องทำการบ้านหนัก...เกิดอาการเข่าอ่อนหมดแรง...วิ่งวนไปวนมาในสนามจนหมดแรงและเสียประตูให้กับนักบอลหญิงไปแบบหลุดลุ่ย เห็นท่าไม่ดี มีทีท่าจะเสียมากกว่านี้ก็เลยขอชิ่งหลบก่อนจะถูกประนามการพ่ายแพ้อย่างหมดรูปมากกว่านี้ มีประชาชนได้ออกมาแสดงความคิดเห็น...ว่า...."บ้านเมื่องวุ่นวายขนาดนี้ ยังมีหน้ามาเตะบอลอีกแฮะ หนีทหาร มาเตะบอล ขำจริงๆ วุ๊ย เวรกรรมประเทศสารขันธ์ วันๆ เอาแต่สร้างภาพ ไม่คิดจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ผลาญเงินงบประมาณไป วันๆ ดีแต่สร้างหนี้สร้างสิน บ้านก็ถูกคนบ้าปาขี้ ไปเล่นบอลก็มีคนออกมาขับไล่แล้วยังหน้าด้านอยู่ไปวันๆ เวลาไปไหนมาไหนก็มีคนรักษาความปลอดภัยเป็นกองทัพ ไปแข่งบอลก็มีคนรักษาความปลอดภัยมากกว่าคนดูบอลเสียอีก..ทำตัวเป็นอีแอบ ไปตีวอลเล่ย์ บอลดีกว่ามั๊ง เตะกะผู้หญิง ระวังแต๋วแตกล่ะ...อ่อน จริงๆ ว่ะ แพ้ 7-1 อายใหมเนี่ย ขนาดทหารยังไม่กล้าเกณฑ์ เตะบอลก็ยังไปเตะกับผู้หญิง คงจะคิดว่า ยังไงก็ชนะ ขำจริงๆ"

กรณีนายแสนทุเรศ เทือกเขา ให้สัมภาษณ์ทางทีวีช่องหนึ่ง ถึงกรณีการชุมนุมคนรักนายกทักษิโด ที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้โดยบอกว่า ทางรัฐบาลประเทศสารขันธ์ได้ดำเนินการดังนี้ จัดให้มีเจ้าหน้าที่ที่มีกระบอง โล่ห์ เกราะ รถดับเพลิง ก๊าซน้ำตาแบบขว้างซึ่งมีผลต่อระบบหายใจเหมือนแบบยิง และคาดว่ามีคนมาร่วมแค่หลักหมื่นหลักแสน ไม่ถึงหลักล้านแบบที่พวกคนรักนายกทักษิโดกล่าวอ้าง และยังพูดถึงการทำงานของนายกประเทศสารขันธ์ว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งก็ทำงานหนักมาตลอด จะเห็นได้จาก....พยายามหาเงินมาให้แม่ยก..เอ๊ย..มาให้ประชาชนคนละ พันสองพัน เป็นการจิ้มกล้องให้ประชาชนตายใจว่าทำเพื่อประชาชน แล้วติดตามมาด้วยโครงการฝันเฟื่องต่างๆ ด้วยการไปกู้เพื่อบังหน้าจะได้พ้นข้อครหาในการนำเงินมาทำนุบำรุงพรรคที่ทรุดโทรมเพราะประชาชนเมินไม่ยอมเลือกมาเกือบสิบปี เงินส่วนหนึ่งก็จัดสรรปันส่วนด้วยความอดอยากปากแห้งมานาน อีกส่วนเก็บไว้เพื่อการเลือกตั้งในครั้งหน้า เพราะรู้ตัวว่าไม่อาจอยู่เป็นรัฐบาลได้ตลอดสมัยด้วยความไม่ประมาทเลยรีบเม้มไว้ทำทุนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และตอนนี้ได้เตรียมรับม๊อบด้วยการเตรียมอาวุธ เครื่องมือทำลายม๊อบมากมาย วางแผน วิธีการรับมือม๊อบ ด้วยการก่อกวน ยุยง ใส่ความ แทรกแซงทุกรูปแบบ เป็นแผนลับ ที่ตอนนี้ได้เตรียมการพร้อมแล้ว.....(ข้อความที่เป็นสีข้างต้น นายแสนทุเรศคิดในใจ) แต่ที่พูดออกมา คือ จะเห็นได้จากที่นายกออกงานที่โน่นที่นี่ไม่ขาด..เหนื่อยที่ต้องสั่งการให้ทหารและตำรวจเกือบกองทัพมาคอยดูแล เหนื่อยเพราะเมื่อยตามากๆ เพราะไม่เคยไว้ใจในการทำงานการดูแลรักษาความปลอดภัยของตำรวจและทหารที่ติดตาม ที่สำคัญกลัวการปาอึเป็นชีวิตจิตใจ งานหนักอีกอย่างที่นายกต้องรับผิดชอบ คือ ต้องแก้ตัวไปวันๆ เพื่อให้ตัวเองและพรรคพวกพ้นผิด และตอนนี้มีข่าวว่าจะมีการชุมนุมประท้วง ต้องเหนื่อยและหนักใจที่ต้องหาเสื้อเกราะมาสวมใส่ไหนจะร้อนตับแลบเพราะเป็นช่วงหน้าร้อน เกราะที่ใส่ก็ยังไม่พอดีตัว ต้องไปแก้แล้วแก้อีก..นายแสนทุเรศยังกล่าวต่อไปอีกว่า...ไม่เคยทำงานกับใครสบายใจเท่ากับนายกประเทศสารขันธ์คนนี้อีกแล้ว (คิดในใจ..มีนายกโง่ ปัญญาอ่อน อีเดียด จูงจมูกแบบวัวแบบควายง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ไม่มีวิสัยทัศน์ ความคิดเป็นของตัวเอง ชักจูงก็ง่าย กูชอบๆๆๆ) แต่คำพูดที่หลุดออกมา...นายกคนนี้ฉลาดปราดเปรื่อง สมองดี ให้อ่านแฟ้มอะไรก็จำได้หมด เหมือนท่องไว้ไม่ผิดเพี้ยน เป็นคนไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง (คิดในใจ...เพราะกูเอาผลประโยชน์มาหมดแล้ว..ฮิ ฮิ...ปล่อยให้มันโง่ให้กูหลอกใช้ต่อไป..ฮิ ฮิ)...พูดจบก็ยืนยิ้มกริ่ม..แต่เผอิญมีนักข่าวบางคนเก่งทางใน เข้าไปอ่านความคิดในใจของรองนายกคนนี้ออก...จบข่าว....5555555....

บ้านเมืองสารขันธ์ตอนนี้เข้าสู่ยุคมืดจริงๆ มียาบ้าเกลื่อนตลาดหาซื้อง่ายยิ่งกว่าซื้อลูกอมชุบปาจุ๊บ จี้ปล้นฉกชิงวิ่งราวแค่หลับตาทรัพย์สินที่อยู่บนตัวประชาชนพร้อมหายได้ ข้าวยากหมากแพง (หมากฝรั่งนะ...55555...) แค่ออกไปเรียนหนังสือ ไปทำงานก็ต้องเสียค่ารถเมล์ไปกลับเกือบร้อยบาท ยังไม่รวมค่าอาหารที่แพงแบบขูดรีด ข้าวแกงกับหนึ่งอย่าง 25 บาท สองอย่าง 30 ถึง 35 ก๋วยเตี๋ยวชามละ 25-30 บาท เด็กอนุบาลต้องพกเงินไม่ต่ำกว่า 50 บาทเพราะนมแพง จะอาศัยนมโรงเรียนที่รัฐบาลแจกให้ดื่มก็ไม่ได้เพราะเป็นนมเน่าซะส่วนใหญ่ (สรุปควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไปดีมั๊ยคะเนี่ย) รายได้ของประชาชนก็ต่ำกว่ารายจ่ายจนประชาชนบางคนต้องไปหากินกับการเสี่ยงโชค ด้วยการไปหาเลขจากธรรมชาติที่มี ต้นไม้บ้าง สิ่งแปลกมหัศจรรย์ โอ่ง ขันน้ำ แม้แต่แอ่งน้ำขังเล็กๆ ที่มีลูกน้ำอยู่ก็ไปนั่งนับตัวลูกน้ำเพื่อเก็บตัวเลขมาแทงหวยก็มี....วันก่อนฟังคนเล่าถึงการทำงานของตำรวจเมืองสารขันธ์ที่หากินทุกทาง...ได้ไปแอบถามว่า..ไม่กลัวบาปกรรมบ้างเหรอไง...ได้รับคำตอบมาว่า...บาปกรรมไม่กลัวครับกลัวอด กลัวเจ้านายหาเงินไม่ได้ตามเป้าหมายตามที่ผู้ใหญ่สั่ง...คนเดิมได้เล่าต่อว่า...วันก่อนเจอตำรวจรีดไถ ด้วยการยัดข้อหา...ไม่ว่าเมาแล้วขับ...คดีนี้เป็นคดีที่ตำรวจจดจ้องมากเพราะเรียกเงินได้เป็นกอบเป็นกำเอาไปเลี้ยงลูกและเมียน้อยไม่ให้อดหยากปากแห้งได้ เมื่อได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุที่ไหนตำรวจมีหน้าที่ซ้ำเติม ด้วยการยัดเยียดข้อหาเมาแล้วขับถ้าหากรายไหนไม่จ่ายก็ขู่ทำสำนวนฟ้องให้ขึ้นศาล มีรายได้ไม่ต่ำกว่ารายละ 5 พันเงินสารขันธ์..หรือตามท้องถนนคอยจ้องคนขับขี่โดยเฉพาะผู้หญิง ยัดเยียดการผิดจราจรโน่นนี่นั่น วันหนึ่งสิบยี่สิบรายก็สามารถส่งเงินให้ผู้ใหญ่ และเลี้ยงลูกเมียได้แล้ว...คนเดียวกันนี้ยังพูดต่อว่า...สังเกตป่ะพวกนี้มีเวรกรรม ผัวออกไปรีดไถ เมียเอาเงินที่ผัวหามาได้เข้าบ่อน และบ่อนก็ไม่ไกลอยู่ในแฟลตตำรวจนั่นล่ะ....บางคนก็มีชู้ให้สะใจสังเกตตามหน้าข่าวสิที่เมียตำรวจมักมีชู้...555555....นักข่าวเถียง...พูดแบบนี้ได้ไง...ตำรวจดีๆ ก็มีเยอะนะ...มีเสียงตอบกลับมาว่า...ตำรวจชายแดนป่ะ หรือตำรวจนอกรีดที่ทำตัวไม่เหมือนตำรวจ (เลว) ทั่วไปตำรวจของจริงเสียงจริงต้องแบบที่บอกนั่นล่ะ นอกนั้นไม่ใช่ตำรวจเป็นตำรวจปลอมตัวมามั๊ง....555555....แล้วที่เกิดคดีต่างๆ อยากรู้มั๊ยเพราะอะไร...5555555....เพราะตำรวจไม่พอไง...ตำรวจต้องไปทำหน้าที่คุ้มกันนายกรัฐมนตรีประเทศสารขันธ์ซะส่วนใหญ่ กำลังบางเหล่าต้องไปประจำตามจุดที่แต่ละวันนายกต้องเดินทาง คิดดูดิ๊ เดินทางไป 10 กิโลใช้คนไป 1000 คนให้ตำรวจเบียดกันป้องกัน เพื่อบังวิถีกระสุน และอึที่อาจจะถูกปามาได้ทุกเมื่อและทุกที่ที่เดินทางไป แล้วแบบนี้จะมีตำรวจพอไปปราบปรามผู้ร้าย ดูแลทุกข์สุขประชาชนได้อย่างไรล่ะครับ....555555555.....จบข่าว....อ่าว...ฝันหรือนี่...ว๊าา...ฝันไม่ดีเลยเนอะ...เพราะความเป็นจริงบ้านเมืองสารขันธ์ ตำรวจไม่ได้เป็นแบบนี้ซะกะหน่อย....หรือใครว่าไงคะ....