ตะเกียกตะกาย ไขว่คว้าหาอำนาจ แต่ไม่อาจเอื้อมถึง จึงหมดสิ้น ไร้ศักดิ์ ไร้ศรี อาจไร้ซึ่งแผ่นดิน มีมลทิน ถึงคราวสิ้นศักดิ์ที่มี
สิ้นชื่อ สิ้นเสียง ที่ใฝ่หามา เพราะเข่นฆ่า ไล่ล่าและย่ำยี ใครขวางทาง ก็จะคอยต่อยและตี คอยราวี ห้ำหั่นจนบรรลัย
สนใจแต่พวกพี่น้อง ผองพวกข้า คอยปกปักษ์รักษา ถ้าอยากได้ จงบอกมา ว่าอยากได้ในสิ่งใด ก็จะให้ ถึงจะผิดไม่หวั่นเกรง
เพราะไม่คิดว่าจะมีใครใหญ่กว่ากัน ตัวกูนั้นยิ่งใหญ่ หรือใครกล้ามาข่มเหง พวกกูมีมากมาย พวกมึงจงยำเกรง กูจะเบ่ง รึมึงกล้ามาต่อกร
วันนี้พวกมึงได้เห็นดี กูส่งคนมีสี มาสั่งสอน ไม่เกรงกริ่ง แก๊สน้ำตา เลิกเว้าวอน กูจะสอน ด้วยปืนยาง และปืนจริง
ความเลวกูยังมีอีกหลายสิ่ง โง่ และหยิ่ง คิดแบบควาย กัดแบบหมา กูจะสู้ กูจะทำ เพื่อให้จะได้มา แค่กูบ้า แค่กูบอ แค่เป็นอันธพาล
โอ้อนิจจา กูมิรู้ตัวเลยว่า... ตระกูลแค่ขี้ข้า ที่เขาเล่ากล่าวขาน กูแค่มักใหญ่ใฝ่สูง จนเกินการ ทะเยอทะยาน อยากเป็นใหญ่ในพารา
กูคงตกนรก หมกไหม้ทรมาน ไฟนรกเผาผลาญ ในวันหน้า เพราะกูสะสมความชั่วไว้นานา ไม่นานช้า กูคงต้องรับกรรมเวร...
บล๊อกนี้ขอเรียกร้องและขอต่อต้าน การลอบทำร้ายทุกรูปแบบ อย่าได้คิดทำร้ายประชาชน หรือกลุ่มคนเสื้อแดงอีก ..ไม่ว่าจะเป็นแกนนำ หรือประชาชนที่เข้าร่วม ด้วยการส่งมือสังหาร หรือใครก็ตามเข้าไปปฏิบัติการในกลุ่มผู้ชุมนุมอีก คุณทำร้ายประชาชนมาพอแล้ว...จะสร้างบาปกรรมเวรกรรมไปถึงไหน น่าจะหยุดได้แล้ว...ถ้าอยากจะทำก็ทำกันซึ่งๆ หน้า ตัวต่อตัวให้รู้แพ้รู้ชนะ อย่าแอบสั่งการ หรือลอบทำร้ายใครๆ อีก แบบที่เรียกกันว่า "หมาลอบกัด" ถ้าอยากเป็นหมาก็จงทำ หรือคิดว่าไม่อยากเป็นคนอยากเป็นหมาล่ะ...แต่หมาก็คงไม่ยอมรับเพราะจิตใจหมายังประเสริฐกว่าคนบางคนนะ...จขบ.ว่า
ผ่านมา 1 วันกว่าแล้ว ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ได้สั่งการให้ทหารสลายการชุมนุม ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายมากมายยอดผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนถึง 21 คน เป็นประชาชน 17 คน เป็นทหาร 5 คนและได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมากมายถึง 863 คน จนเป็นข่าวไปทั่วโลก ซึ่งต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงในการสลายม๊อบไม่ว่าจะเกิดจากการกระทำของใครก็ตาม ก็ยังคงแสดงความเสียใจสำหรับความสูญเสียที่ถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ของทางราชการตรงนี้...ไม่ว่าประชาชน หรือ ทหาร ก็มีค่าความเป็นคนเช่นกัน ไม่ว่าใครผิดใครถูก คนผิดไม่ได้ตาย คนตายไม่ได้ผิด เพียงออกมาเพราะคำสั่งที่ต้องปฏิบัติก็ตาม ก็ขอไว้อาลัยให้ทั้งสองฝ่ายด้วยความยุติธรรมไม่ลำเอียงค่ะ..
ในความเห็นส่วนตัวเห็นว่าถ้าหากรัฐบาลไม่นำทหารมาสลายม๊อบก็จะไม่มีวันเกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่ายแบบนี้ โดยเฉพาะการสลายม๊อบในยามค่ำคืน ถ้าหากคิดได้สักนิดก็ควรสั่งการให้หยุด เวลาค่ำคืนยากยิ่งที่จะควบคุมสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดและแฝงมาในความมืด จึงเป็นความผิดของฝ่ายรัฐบาลเต็มๆ ที่สั่งและส่งทหารไปตายและไปฆ่าประชาชนที่บริสุทธิ์ อย่ามาอ้างว่าไม่คิดว่าจะเกิดกรณีมือที่สาม เมื่อเห็นว่ามืดค่ำแล้วถ้าสั่งหยุดก็คงไม่มีมือมืดออกมาเพ่นพ่าน แอบยิงตามหลังคาตึกหรือตามมุมเสา ซอกหลืบต่างๆ จนดูเหมือนเป็นการจงใจ ตามหลักฐานที่แกนนำคนเสื้อแดงจับทหารหลายคนมาได้และส่งให้กับตำรวจไปแล้วหรือจากคลิปที่ไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายใด ก็ยังหวังว่าเรื่องนี้คงไม่เงียบหายไปเหมือนปีที่แล้ว...
ตอนนี้..เป็นรัฐบาลฝ่ายเดียวที่ได้ออกมาพูด หรือคนที่พูดก่อนมักถูกเสมอเหรอ...ใช่เหรอ..อ่อ..สังคมเป็นแบบนี้นี่เอง..และที่ออกมาแถลงการณ์ว่ามีคนสวมเสื้อดำถือปืนออกมากราดยิงใส่ทหารและยังได้ยินได้เห็นภาพที่สื่อทางทีวีนำมาออกเป็นชายใส่เสื้อดำถือปืนออกมาเดินเพ่นพ่านมีห้อยผ้าแดงไว้ที่กระเป๋ากางเกงเสียด้วยสิ...หลักฐานแค่นี้ก็เหมาว่าเป็นฝีมือของคนเสื้อแดงตามหน้าเวปต่างๆ แล้วเหรอ ผ้าแดง กะคนใส่ชุดดำ หายากนักหรือในเมืองไทย ถึงต้องเป็นสัญญลักษณ์ที่คนเสื้อแดงนำไปใส่ได้เพียงกลุ่มเดียวหรือ อยู่ๆ ใครอยากใส่ขึ้นมาไม่ได้ใช่ไหม และถ้าคนใส่มีเจตนาไม่ดีใส่เพื่อมาแอบแฝงเข้ามาปลอมปนไม่ได้ใช่ไหม พูดแบบนี้ก็หาว่ามาแก้ตัว...ดิฉันไม่ใช่รัฐบาลค่ะถึงจะได้หมั่นแก้ตัว...แต่เป็นคนนอกที่มองเหตุการณ์และออกความเห็นว่าคนนอกเค้าคิดยังไง ไม่ได้เอนเอียง ไม่ได้เข้าข้างผู้ใด เห็นยังไงก็พูดอย่างนั้นล่ะ...ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างคืนวันที่ 10 เม.ย ที่ผ่านมานี้...ก็อย่างที่บอกว่า..ทั้งปืน และวิถีกระสุนที่ยิงไม่ว่าหัวประชาชน หรือหัวทหารเองดูช่างเจาะจงและแม่นยำเสียเหลือเกิน ถ้าหากประชาชนคนไหนยิง คงต้องส่งไปแข่งขันยิงปืนโอลิมปิค หรือซีเกมส์ ซะแล้วสิคะ เก่ง และแม่นอะไรปานนั้น...
และในสื่อหน้าเวปต่างๆ เป็นเวปที่ รบ. ไม่ได้สั่งปิด คำพูดบางคำโจมตีว่าเป็นพวกเสื้อแดง ก็มีคนมาตอบโต้ว่า...กลุ่มเสื้อแดง คือ ประชาชนไม่ได้ผ่านการฝึกให้โจมตีแบบทหารหรือตำรวจ และอาวุธที่นำมายิงก็เป็นอาวุธหนักที่ประชาชนคนทั่วไปไม่อาจมีไว้ในครอบครองได้ แต่ก็ยังได้ยินในสื่อต่างๆ กล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของคนเสื้อแดง..ลองใช้วิจารณญานไตร่ตรองสักนิด ก่อนที่จะพูดหรือปรักปรำ หรือเป็นนิสัยในการปรักปรำคนอื่นแต่ไม่เคยปรักปรำในสิ่งที่ตัวเองทำผิด พูดผิด พูดกล่าวหาผู้อื่นตลอดเวลา ไม่ยักกะมีใครหรือแม้แต่ รบ. ออกมาพูดถึงว่ามีกลุ่มทหารกลุ่มหนึ่งที่แกนนำคนเสื้อแดงจับได้คาหนังคาเขา ไปแอบยิงประชาชนบนตึกใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำไมต้องยัดเยียดความผิดให้กับคนที่บริสุทธิ์ที่ไม่มีอาวุธ ที่ต่อสู้เพื่อให้ได้ซึ่งประชาธิปไตยด้วยมือเปล่า หรือว่า...ประชาชนพวกนี้เค้าไปแอบเรียนการต่อสู้ วิชาการยิงปืนได้แม่นยำมากันหนอนี่... ถ้าหากเป็นเช่นนั้น รบ. ไม่ลองพิจารณาติดต่อแกนนำคนเสื้อแดงผ่านไปยังมือปืนให้เข้ามารับราชการช่วยชาติเลยดีป่ะคะแม่นยำเก่งกล้าสามารถปานนั้นน่ะ
นับว่าการสูญเสียในครั้งนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่เกิดจากความผิดพลาดที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัว เห็นแก่พรรค และเห็นแก่สิ่งที่เรามองไม่เห็นและไม่รู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับสังคมการเมืองและความคิดของคนระดับผู้นำประเทศ หรือว่าเป็นเรื่อง ของคนที่ปราศจากภาวะของการเป็นผู้นำที่ดี อาจเป็นเพราะคุณวุฒิ วัยวุฒิ และประสบการณ์ของคนเป็นผู้นำยังไม่ถึงขั้น แต่ถูกแรงดันให้ขึ้นมาเป็นผู้นำ คิดแบบนี้ได้หรือไม่ ใครตอบได้บ้าง...
เมื่อวาน แอบดีใจอยู่ช่วงหนึ่ง ดีใจแบบมีความหวัง เรื่องที่ กกต.ตัดสินให้ยุบพรรค ปชป. แบบ 4:1 ตอนแรกคิดถึง เรื่องเวรกรรม เลยล่ะ...คิดว่าเวรกรรมติดจรวด เหมือนที่ใครไม่รู้บัญญัติศัพท์เอาไว้ ใครทำกรรมอะไรไว้ไม่ช้าไม่นานกรรมนั้นมักสนอง เหมือนเช่นเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่ผ่านมาแม้แต่วันที่ 10 เม.ย ที่ผ่านมานั่นล่ะ มันคุ้นๆ ตาเหมือน เม.ย ที่ผ่านมาเมื่อปีที่แล้วยังไงไม่รู้...รู้สึกได้แบบนั้น...ว่าเวรกรรมกำลังคืนมาอย่างช้าๆ กับคนที่เคยทำกรรมเวรไว้...ต่อให้คิดว่ามีของดีคอยคุ้มครองก็ตาม...แต่เราว่าของดีที่ว่าถ้าคุ้มครองคนผิดก็ไม่ใช่ของดีแล้วค่ะ...แต่ความดีใจยังไม่ทันข้ามคืน เห็นภาพการประชุมพรรคของ รบ. ในข่าวก็เห็นหน้าระรื่นยิ้มแย้ม ไม่รู้สึกรู้สากับเหตุการณ์ใดๆ ทั้งสิ้นไม่ว่าความตายของทหาร ประชาชน หรือแม้แต่พรรคกำลังจะโดนยุบ เหมือนรู้ชะตากรรมตัวเองว่า...ไม่มีทางยุบอยู่แล้ว ต้องมีใครสักคนในบ้านเมืองนี้ช่วยให้หลุดพ้นจนได้...มิน่าล่ะๆ หน้าตาถึงเป็นบล๊อกเดียวกันหมดทั้งพรรค..อะไรจะระรื่นได้ปานนั้นคะ...ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้...เฮ้อ..
และขอเอาบทความของคุณศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ที่เขียนถึงความผิดพลาดของนายอภิสิทธิ์และความรับผิดชอบกรณีสลายการชุมนุมในเวปที่นี่ ซึ่งเขียนไว้ในหนังสือพิมพ์มติชน เอามาลงเผื่อใครสนใจอ่าน จะได้รู้อะไรมากยิ่งขึ้นในสถานการณ์ที่ รบ. ปิดหูปิดตาปิดสื่อ มีแต่สื่อของฝ่าย รบ. หรือ สื่อที่ รบ. สามารถกำกับดูแลได้เท่านั้น...ท่านเขียนไว้ดังนี้ค่ะ :-
ขณะที่รอยเลือดของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทุกฝ่ายยังไม่จางไป นายกรัฐมนตรีรีบอธิบายว่าผู้ชุมนุมผิดกฎหมาย ส่วนท่านก็เพียงทำตามหน้าที่ในการต่อสู้เพื่อผิวจราจร นักวิชาการบางกลุ่มเสนอว่าประชาชนมีอาวุธ นายกจึงสั่งสลายการชุมนุมได้ สื่อมวลชนบางประเภทไปไกลขนาดว่าประชาชนคือฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบที่เกิดการเสียชีวิตขึ้นมา
กล่าวอย่างรวบรัดแล้ว คำอธิบายของนายกและผู้สนับสนุนวางอยู่บนตรรกะสองข้อ ข้อแรกคือการชุมนุมเป็นเรื่องผิดรัฐธรรมนูญ และข้อสอง นายกมีสิทธิสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรง นั่นคือใช้กระสุนจริง ใช้ระเบิดควัน ใช้แก๊สน้ำตา ใช้รถถัง ใช้รถหุ้มเกราะ ฯลฯ
พูดให้สั้นก็คือสมควรแล้วที่ประชาชนมือเปล่าและเจ้าหน้าที่จะบาดเจ็บล้มตาย ประชาชนควรเจ็บควรตายเพราะผิดกฎหมาย ส่วนทหารควรเจ็บควรตายเพื่อสนองนโยบายนายกรัฐมนตรี
เรื่องที่ต้องวินิจฉัยคือการชุมนุมของประชาชนครั้งนี้ผิดรัฐธรรมนูญจริงหรือไม่ คำตอบคือไม่ผิด รัฐธรรมนูญมีหลักใหญ่คือคุ้มครองการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ส่วนหลักรองคือคุ้มครองการชุมนุมที่ไม่ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น
การชุมนุมที่ผ่านฟ้าและราชประสงค์เข้าเงื่อนไขนี้ เพราะมีการรวมตัวของประชาชนมหาศาลอย่างสันติ ความรุนแรงที่มีบ้างคือความรุนแรงทางสำนวนโวหาร ซึ่งต่อให้ใครจะชอบหรือไม่ชอบ นั่นไม่ใช่เหตุให้อ้างได้ว่าการชุมนุมทำลายทรัพย์สินหรือชีวิต และยิ่งไม่ใช่เหตุให้นายกมีอำนาจสลายการชุมนุม
เแน่นอนว่าการชุมนุมด้วยวิธีนี้มีผู้ไม่พอใจ และผู้ชุมนุมก็ต้องยอมรับความเสี่ยงจากการเลือกวิธีสู้แบบนี้ แต่นั่นเป็นคนละประเด็นว่าประชาชนไม่มีสิทธิในการชุมนุม รัฐธรรมนูญยอมรับว่าประชาชนมีสิทธิชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ และผ่านฟ้ากับราชประสงค์ก็คือพื้นที่สาธารณะจริง
ตราบใดที่ไม่มีกฎหมายห้ามชุมนุมในบริเวณผ่านฟ้าหรือราชประสงค์ ตราบนั้นประชาชนก็มีสิทธิตามกฎหมายในการชุมนุมในบริเวณนั้นอย่างสมบูรณ์
นายกอ้างว่าการชุมนุมละเมิดกฎหมายและทำให้มีผู้เดือดร้อน แต่กฎหมายที่การชุมนุมละเมิดคือกฎหมายระดับ พรบ.การจราจร กฎหมายการใช้เสียง กฎหมายความสะอาด ฯลฯ ซึ่งมีศักดิ์ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญทั้งนั้น ซ้ำโทษจากการกระทำผิดนี้ก็คือการปรับ ไม่ใช่การปราบหรือสลายการชุมนุมจนล้มตาย
การชุมนุมไม่ควรทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน แต่ต้องประเมินความเดือดร้อนตามข้อเท็จจริงรายกรณี เช่นการชุมนุมเป็นอุปสรรคต่อการทำงานจริงหรือไม่ เข้าพื้นที่ราชประสงค์ไม่ได้จริงหรือ ส่งเสียงรบกวนบริเวณใกล้เคียงขนาดไหน ฯลฯ ผู้ชุมนุมต้องชดเชยความเสียหายนี้ แต่นายกไม่มีสิทธิฉวยความเดือดร้อนนี้เป็นข้ออ้างสลายการชุมนุม
อย่าลืมว่าประเทศเราไม่มีกฎหมายให้รัฐบาลใช้กองทัพติดอาวุธสลายผู้ขัดขวางทางจราจรหรือใช้เสียงดัง
นอกจากพิจารณาเรื่องนี้ในแง่กฎหมาย เรื่องที่ต้องพิจารณาด้วยก็คือผู้ชุมนุมเป็นเจ้าของพื้นที่สาธารณะไม่ต่างจากประชาชนคนอื่น เขามีสิทธิใช้ถนนเท่าผู้ใช้รถและอภิมหาเศรษฐีที่ผูกขาดถนนนี้มาตลอดชีวิต ให้ผู้ชุมนุมใช้สิทธินี้บ้างจะเป็นไรไป ความลำบากในการขับรถไม่พึงเป็นเหตุให้ใช้กำลังสลายประชาชน
เมื่อรัฐธรรมนูญคุ้มครองการชุมนุมของประชาชนอย่างครบถ้วน นายกรัฐมนตรีจึงผิดตั้งแต่ประกาศพรบ. ความมั่นคง และผิดมากขึ้นที่ประกาศ พรก. ฉุกเฉิน ผิดแง่กฎหมายเพราะใช้อำนาจนายกโดยละเมิดรัฐธรรมนูญ ผิดแง่การเมืองเพราะใช้กฎหมายสำหรับจัดการศัตรูของชาติมาจัดการผู้เรียกร้องยุบสภา แต่นายกก็เลือกทางนี้เพื่อแลกกับเครื่องมือทางกฎหมายในการจัดการผู้ชุมนุม
ถ้าพูดลงรายละเอียดให้มากขึ้น นายกฯ กระทำผิดในการสลายการชุมนุมอย่างน้อยอีก 3 ข้อ
ข้อแรก เมื่อประชาชนเริ่มรวมตัวชุมนุมที่แยกผ่านฟ้า นายกฯ ให้สัมภาษณ์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่าชุมนุมที่นั่นไม่ได้ แต่เมื่อย้ายการชุมนุมไปราชประสงค์ นายกฯ กลับคำใหม่ว่าการชุมนุมผ่านฟ้าเป็นการชุมนุมที่รัฐธรรมนูญคุ้มครอง คำวินิจฉัยที่กลับไปมาแบบนี้ไม่มีเหตุให้เชื่อได้เลยว่าเป็นคำวินิจฉัยที่ยึดหลักอะไรจริง
ต้องถามด้วยซ้ำว่านายกฯ มีสิทธิอะไรในการวินิจฉัยว่าการชุมนุมไหนขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญ? นายกอ้างอำนาจนี้ตามอำเภอใจไม่ได้ และถ้ายังไม่มีการวินิจฉัยปัญหานี้ให้เป็นที่ยุติ ก็ต้องคุ้มครองสิทธิตามรัฐธรรมนูญไปก่อน หาไม่ก็จะกลายเป็นการวินิจฉัยเพื่อละเมิดสิทธิเปะปะตามอำเภอใจ
ต่อให้เชื่อว่านายกมีสิทธิวินิจฉัยเรี่องนี้ คำถามคือทำไมสั่งสลายการชุมนุมที่ผ่านฟ้าซึ่งเคยบอกเองว่าทำได้ ฤาสิทธิตามรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่เปลี่ยนตามใจนายกฯ? หรือแท้จริงแล้วไม่เชื่อว่าผู้ชุมนุมมีสิทธิตั้งแต่ต้น จึงไม่เคยเคารพหลักนี้ แต่พูดเพื่อกล่าวโทษผู้ชุมนุมเป็นประเด็นข่าวไปวัน ๆ
ข้อสอง นายกฯ อ้างว่าต้องสลายผ่านฟ้าเพื่อทวงพื้นผิวจราจร แต่การจราจรในกรุงเทพฯ เวลานี้เป็นปัญหาตรงไหน? ทุกคนรู้ว่ากรุงเทพฯ ยามสงกรานต์จะกลายสภาพเป็นมหานครใกล้ร้างไปอีกเกือบหนึ่งอาทิตย์ จึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ต้องเร่งรีบสลายการชุมนุมโดยอ้างเหตุอย่างที่กระทำไป
ถ้านายกฯ หมกมุ่นเรื่องยึดพื้นที่ให้น้อยลง ท่านสามารถชะลอการสั่งสลายการชุมนุมได้ ใช้เวลาระหว่างนั้นทำการเจรจาภายในไปพลาง ไม่ใช่ทำตัวเป็นยามเฝ้าถนนแบบเอาเป็นเอาตายจนทำคนตายไปจริงๆ
นายกต้องตอบให้ได้ว่าทำไมสลายการชุมนุมที่ผ่านฟ้า ท่านควรคิดให้รอบด้านว่าผู้ชุมนุมไม่เพียงมีสิทธิใช้ถนนในฐานะสิทธิในการชุมนุม หากพวกเขายังมีสิทธิใช้ถนนเหมือนประชาชนทั่วไป
นอกจากจะผิดที่สั่งสลาย นายกยังผิดมากขึ้นที่ให้ปฏิบัติกิจนี้ยามวิกาล รัฐบาลประชาธิปไตยไม่ทำแบบนี้ การสลายยามวิกาลเสี่ยงต่อการปะทะระหว่างทหารกับประชาชน เสี่ยงเกิดเหตุวุ่นวาย สร้างโอกาสที่ทหารจะฆ่าคนโดยไม่ต้องรับผิดชอบ และที่สำคัญคือไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ชุมนุมที่จะเดินทางกลับในเวลากลางคืน
การเสียชีวิตจำนวนมากที่สุดเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสั่งสลายการชุมนุมแบบนี้เอง
ข้อสาม นายกฯ พูดนับครั้งไม่ถ้วนว่าจะดำเนินมาตรการสลายการชุมนุมจากเบาไปหาหนัก แต่หลักฐานทั้งหมดปรากฏชัดว่าท่านสลายการชุมนุมที่ผ่านฟ้าด้วยมาตรการจากหนักไปหนักที่สุด ไม่มีคำเตือน ไม่มีการฉีดน้ำ การสลายเริ่มต้นด้วยแก๊สน้ำตา ระเบิดควัน จากนั้นเป็นการตีพื้นที่ด้วยอาวุธสงคราม
ลำพังไม่รักษาคำพูดเรื่องนี้ยังพอทำเนา แต่ที่ไม่อาจเข้าใจได้เลยคือการอนุญาตให้นายทหารระดับสัญญาบัตรพกอาวุธสังหารและใช้กระสุนจริงสลายการชุมนุม
ท่านนายกฯ จะมองผู้ชุมนุมอย่างไรก็ว่าไป แต่อาวุธที่ทหารยิงใส่ประชาชนคืออาวุธที่ท่านให้ทหารพกพา คำถามคือท่านให้เขาขนอาวุธสงครามไปสลายการชุมนุมได้อย่างไร? ทำไมไม่สั่งหยุดเมื่อเกิดการปะทะ? ยิ่งกว่านั้นคือท่านอนุญาตให้พกพาอาวุธก่อนที่การปะทะจะเกิดขึ้นจริง จะอ้างการปะทะในภายหลังเป็นเหตุในการสั่งใช้อาวุธได้อย่างไร?
นายกอ้างว่าประชาชนมีอาวุธ แต่กองทัพสลายประชาชนด้วยอาวุธสงครามที่รุนแรงกว่า ประชาชนใช้ลูกโป่งก่อกวนเฮลิคอปเตอร์ ใช้ด้ามธงปกป้องตัวเองจากทหาร ใช้ปิ๊คอัพขวางรถหุ้มเกราะ ขณะที่กองทัพใช้ปืนกล รถถัง เอ็ม 60 รถหุ้มเกราะ แก๊สน้ำตา ระเบิดควัน ฯลฯ ส่วนอาวุธที่คร่าชีวิตทหารนั้นไม่ปรากฏว่าเป็นของใคร
ถ้าสรุปให้ชัดไม่ได้ ก็อย่าปัดให้เป็นของประชาชน
คำสั่งสลายกรณีนี้ผิดเกินกว่าเหตุ ไม่ทำตามขั้นตอนอารยะ และเป็นเหตุของการปะทะจนมีผู้บาดเจ็บล้มตาย ประชาชนผู้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญไม่ควรตาย เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ควรตายจากคำสั่งให้ปะทะกับประชาชน
ถ้าไม่มีคำสั่งสลายการชุมนุม ก็จะไม่มีการปะทะ ถ้าไม่มีการปะทะ ก็จะไม่มีการบาดเจ็บล้มตาย นายกคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อความสูญเสียนี้ ไม่ใช่ประชาชนผู้ชุมนุม ไม่ใช่ทหารผู้ปฏิบัติตามคำสั่ง แต่คือท่านผู้เริ่มต้นออกคำสั่งสลายการชุมนุม
คำขอโทษอย่างเดียวไม่พอ ชีวิตคนที่บาดเจ็บล้มตายและความสูญเสียด้านอื่นมีค่ากว่าคำพูดสั้นๆ ของนายกรัฐมนตรี การตัดสินใจผิดกรณีนี้เป็นความรับผิดชอบของท่าน สัตตบุรุษพึงแสดงความรับผิดชอบด้วยการกระทำ
อย่ารอให้ถึงวันที่แม้กระทั่งการลาออกก็ยังไม่เพียงพอ
และขอแถมบทความ "ความแตกต่างระหว่าง "เจ้านาย" กับ "ผู้นำ" (ที่ดี)" ซึ่งเจ้านายมักใช้วิธี "สั่ง" แต่คนเป็นผู้นำจะใช้วิธี "สอน" เขียนโดย คุณขอขวัญ
เจ้านายใช้อำนาจ ผู้นำใช้ความเมตตา
เจ้านายสร้างความหวาดกลัว ผู้นำสร้างความกระตือรือร้น
เจ้านายเรียกตัวเองว่า ฉัน ผู้นำเรียกตัวเองว่า เรา
เจ้านายสั่งให้มาตรงเวลา ผู้นำมาก่อนเวลา
เจ้านายแก้ตัวเมื่อเกิดความเสียหาย ผู้นำแก้ไขเมื่อเกิดความเสียหาย
เจ้านายรู้ว่าทำงานให้เสร็จอย่างไร ผู้นำทำงานนั้นให้ดู
เจ้านายทำให้งานไม่น่าเบื่อ ผู้นำทำให้งานเหมือนการเล่น
เจ้านายสั่งว่า ทำ ผู้นำสั่งว่า ลุย (อันนี้ผิดป่ะน่าจะเจ้านายสั่งลุย ผู้นำสั่งทำ ซะมากกว่านะ..)
เจ้านายมองหาคนทำผิด ผู้นำแอ่นอกรับผิดเอง
ที่มา: คอลัมภ์ Woman on Top Cleo Magazine
ท้ายสุดนี้ ขอฝากคำสุดฮิตให้กับ รบ. นี้ว่า "ยุบสภา" เถอะค่ะ
โปรดช่วยกันดูแลคนดี ตั๊กแตน ชลดา กว่าจะมีคนที่ดีดี สักคน ยอมอุทิศตน เพื่อคนส่วนใหญ่ กว่าจะเจอคนที่เราเห็น ว่าเป็นคนใช่ ต้องรอนานเท่าใด จึงได้มา
แต่คนดีก็อยู่กับเรา ไม่นาน โดนแรงเสียดทาน โถมจนพ่ายล้า ใครโง่ไม่เป็น ใครเด่นเกินไป ต้องโดนคนว่า ทำถูกใจช้า ยังด่าทอ
ใช้คนดีเปลือง ฝืดเคืองคำชม โยนเรื่องทับถม ถึงทนก็ท้อ เมื่อทำดียาก ใครอยากจะทำดีต่อ ก่อนที่คนดีจะท้อ จึงร้องขอแรงส่งมา
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหา จนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรีและยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำความดี
อยากให้มีคนที่ทำดี มากมาย ยืนหยัดสู้ไหว แรงใจมากมี กว่าจะเจอก็ยากนักหนา ควรรักษาให้ดี ใช้เพชรที่เรามี อย่างรู้ค่า
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหาจนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรี และยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำดี
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหาจนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรี และยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำความดี
|