แมว-นิโคล แถลงสื่อรับจดทะเบียนหย่าแล้ว
" นิโคล เทริโอ้ " ควง " แมว จิระศักดิ์ " แถลงสื่อรับจดทะเบียนหย่าแล้ว หลังใช้ชีวิตคู่เพียง 4 ปี แจง ทัศนะไม่ตรงกัน ขณะที่ฝ่ายชาย รับทำหน้าที่สามีได้ไม่ดีพอ
หลังจากที่ใช้ชีวิตคู่มานานถึง 5 ปี ในที่สุดคู่รัก นิโคล เทริโอ และ แมว-จิระศักดิ์ ปานพุ่ม ก็จูงมือกันไปจดทะเบียนหย่าเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 15 ก.พ. โดยวันนี้ทั้งคู่ควงกันมาแถลงข่าวต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชน ชี้แจงถึงสาเหตุของการแยกทางกัน เนื่องจากทั้งคู่ทำงานหนักไม่มีเวลาให้กัน ไม่สามารถปรับตัวเข้าหากันได้ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน และฝ่ายชายก็รู้สึกว่าตนเองยังทำหน้าที่ของสามีได้ไม่สมบูรณ์ ประจวบกับตอนนี้น้องทิคเกอร์ลูกชายยังอายุน้อยอยู่น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสม หากยื้อต่อไปอาจไม่เกิดผลดีกับลูกชาย
พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีเรื่องของมือที่สามอย่างแน่นอน แม้ทั้งคู่จะเปลี่ยนสถานภาพจากสามีภรรยาแต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไม่มีความขัดแย้งสามารถพูดคุยปรึกษากันได้ ยังช่วยกันดูแลลูกและอยู่ด้วยกันในลักษณะรูมเมทเหมือนเดิม ส่วนอนาคตอาจจะต้องมีการแยกที่พักกัน อีกทั้งยังเปิดทางให้ต่างฝ่ายต่างมีสิทธิ์ที่จะเรียนรู้ใหม่ได้
สำหรับแมว จิระศักด์และนิโคล ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2547 ที่โรงแรม แชงกรี-ลา ซึ่งตอนนั้นนักข่าวและเพื่อนนักแสดงมาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง โดยเจ้าบ่าวกล่าวว่าแต่งงานแล้วจะมีลูกเลย ทำเอาเพื่อนๆและแขกในงานต่างส่งเสียงแสดงความยินดี ปิดท้ายเจ้าบ่าวร้องเพลง 'ดาวประดับฟ้า' มอบให้แก่เจ้าสาว ทำให้เจ้าสาวถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลยทีเดียว
สำหรับสาวกี้ออกอัลบั้มกับค่ายยักษ์ใหญ่แกรมมี่ มาหลายอัลบั้มเป็นที่รู้จักทั่วทุกแขนง ซึ่งตอนนั้นถือว่าสาวกี้ประสบความสำเร็จมาก แถมยังมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แวะเวียนเข้ามาแจกขนมจีบไม่ใช่น้อย ซึ่ง 1 ในนั้น ที่บรรดาแฟนคลับต่างลุ้น ต่างเชียร์กันนั้น ก็ คือ นักร้องหนุ่มสุดหล่อ 'ปีเตอร์ คอปไดเรนดัล' แต่ลุ้นกันเหนื่อยก็แป้กส่วนพี่แมวก่อนหน้าที่จะคบหาดูใจกับสาวกี้นั้น เคยคบหากับ สาวมั่นเสียงดี 'ทราย เจริญปุระ' แต่พอหลังจากเลิกรากันไปได้สักระยะ ก็มีข่าวว่า ว่าแอบคบหากัน กับสาวกี้ ไม่นานหลังนั้นก็มีข่าวประกาศแต่งงานสายฟ้าแล่บเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
"แมว" รับเป็นสามีที่ไม่ดีของ "นิโคล" ยันเหตุหย่าไม่เกี่ยวมือที่สาม
"แมว-นิโคล" ประกาศหย่า ยันเหตุไม่ใช่เรื่องมือที่สามแต่เพราะต่างฝ่ายไม่มีเวลาให้กัน ลั่นแม้เลิกกันแต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและยังอยู่คอนโดเดียวกันเพื่อลูก ส่วนบ้านนักร้องแอ๊บแบ๊วรีบชิงบอกขายพร้อมปฏิเสธข่าวทอมตามจีบ ด้านร็อคเกอร์หนุ่มรับเป็นสามีที่บกพร่อง ออกปากอยากกลับมาใช้ชีวิตครอบครัวกันอีก มีข่าวออกมาได้สักระยะแล้วถึงข่าวเตียงหักของคู่นักร้องดัง "แมว จีระศักดิ์ - นิกกี้ นิโคล" แต่ทั้งคู่ก็ได้ปฏิเสธข่าวมาตลอด ล่าสุดวันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. "แมว-นิกกี้" ได้จัดแถลงข่าวด่วนที่ตึกแกรมมี่ ชั้น 21 เพื่อประกาศว่าได้เซ็นใบหย่ากันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ก.พ.) ก็ทำเอาช็อควงการไปเลยทีเดียวซึ่งเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมาก็เป็นวันครบรอบ 5 ปีที่แต่งงานกันมาอีกด้วย ทั้งนี้นักร้องหน้าแอ๊บเด็กมีสีหน้าเศร้าสลดและก้มหน้าอยู่ตลอดการแถลงข่าวส่วนฝ่ายชายมีสีหน้าที่เคร่งเครียดเล็กน้อยและพยายามฝืนยิ้มพร้อมยอมรับว่าตนยังทำใจไม่ได้กับการหย่าร้างในครั้งนี้ กี้ : "ที่เราออกมาแถลงให้เร็วที่สุดเพราะอยากให้แฟนเพลงเข้าใจเราทั้ง 2 คนว่าเป็นอย่างไรเนื่องจากมีคนถามกันมาเยอะมาก ตอนนี้เราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแต่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มันไม่ได้มีเรื่องกัน ไม่ได้ทะเลาะกันมากมายแต่ว่าเรามานั่งตัดสินใจ ไตร่ตรองกันว่าวิธีการที่ดีที่สุดคือวิธีไหนก็คือวิธีนี้ ถามว่าการตัดสินใจง่ายมั้ยมันไม่ง่ายหรอก เราคิดกันทุกมุมคิดดีที่สุดแล้ว" "เราได้หย่ากันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาค่ะ เราไม่อยากหย่ากันวันวาเลนไทน์เพราะไม่อยากทำให้วันแห่งความรักเป็นวันโศกเศร้าหรือเป็นวันที่เราจะมีความทรงจำที่ไม่ดี เราเลยเลือกที่จะหย่าหลังวาเลนไทน์วันหนึ่ง" แมว : "ถ้าเราหย่ากันวันวาเลนไทน์ คงเป็นความทรงจำที่แย่มากและเลวร้ายมากสำหรับผมนะครับ ไม่ว่าเราจะแยกกันอย่างไรผมบอกตรงๆว่าผมก็ยังทำใจไม่ได้" กี้ : "ถามว่ารู้สึกอย่างไรกี้ใจหายนะ เป็นเรื่องที่เสียใจอยู่แล้วเพราะเวลาใครแต่งงานก็อยากแต่งแค่ครั้งเดียวแล้วเราก็แต่งมาตั้ง 5 ปีแล้วเราก็อยากมีชีวิตคู่ที่ดีต่อไปแต่พอมาถึงวันนี้เราก็ต้องช่วยกันเลี้ยงทิกเกอร์ต่อไปเรื่อยๆ" ทั้งคู่ยืนยันเหตุเลิกราไม่ใช่ปัญหามือที่สามแต่เป็นเรื่องของเวลาที่ไม่เคยมีให้กันทำให้ไม่ได้ใช้ชีวิตครอบครัวในแบบที่สมบูรณ์ แมว : "มันไม่ใช่เรื่องของมือที่สามแต่เป็นเรื่องของมือที่สี่ คือมือของเรา 2 คนรวมกันเป็นสี่มือ บอกเลยว่ามันไม่ใช่สาเหตุที่รุนแรงถึงขนาดแย่งสมบัติหรือเธอมีกิ๊กแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือเรางานเยอะด้วยกันทั้งคู่ สังเกตเห็นว่ากี้จะไปไหนคนเดียวตลอดทั้งที่เมื่อก่อนไปไหนก็ไปคู่ ผมขอสรุปเลยละกันว่าผมทำหน้าที่สามีบกพร่อง ผมอยากดูแลเขาให้ดีกว่านี้" "ที่ผ่านมาเราแทบจะไม่ได้คุยกันเลย อยู่ด้วยกันแต่แทบไม่คุยกันเลยมันเลยทำให้กลับไปคิดว่าตอนที่เราเป็นเพื่อนกันเราดูแลกันดีกว่านี้ พูดง่ายๆคือเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแต่เป็นครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ทุกวันนี้ก็ยังดีต่อกันนะแต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมตอนนี้คือต้องดูแลทิกเกอร์ ผมรักลูกมากแค่ไปทองหล่อผมก็ไม่ไหวแล้ว บอกตรงๆเลยนะถึงเราไม่ได้เป็นผัวเป็นเมียกันแล้วแต่ลูกเป็นเรื่องที่สำคัญก็ต้องช่วยกันดูแลต่อไป"
กี้ : "อย่างตัวกี้เองก็ต้องไปทัวร์คอนเสิร์ตบ้าง ครอบครัวไม่เคยอยู่พร้อมกันเลย อีกคนอยู่อีกคนไม่อยู่ กี้อยู่พี่แมวไม่อยู่ พี่แมวอยู่กี้ก็ไม่อยู่ เราไม่เคยมีโอกาสอยู่พร้อมหน้าพ่อ-แม่-ลูกเลยค่ะ เราอาจจะเป็นคู่สามีภรรยาที่แปลกมากคือไม่ค่อยได้คุยกันและไม่ได้ทะเลาะกันเลยแต่ก็เลิกกัน จริงๆเรื่องหย่ากี้ก็ปรึกษาคุณแม่มาตลอด คุณแม่ก็ทราบเรื่องมาตลอดก็ไม่ได้ตกใจอะไรกัน" แมว : "ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่เฟคนะ ไม่ได้พูดเพื่อให้ออกมาดูดี เรารู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ผมกลับบ้านมาไปเจอกี้ กี้ก็ทำงานดึกๆดื่นๆพอมันเป็นแบบนี้สักระยะก็เห็นปัญหา ชีวิตครอบครัวมันยากน่ะ มันละเอียดอ่อนพี่ๆนักข่าวเคยแต่งงานรึเปล่า นั่นแหละมันจะมีช่วงหนึ่งที่เราก็หาคำตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไร ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็ต้องเคยผ่านตรงนี้" เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าก่อนที่จะตกลงหย่ากัน ทั้งคู่ได้มีการพูดจาประนีประนอมกันหรือไม่ นิกกี้บอกพูดไปก็ป่วยการพร้อมออกปากถึงหย่าขาดจากกันแต่คู่ตนยังอยู่ร่วมชายคาเดียวกันเพื่อลูก กี้ : "ตอนนี้ทิกเกอร์ 3 ขวบแล้วคือการประนีประนอมเราก็มานั่งคุยกันแต่เรารู้สึกว่าลูกโตขึ้นเรื่อยๆแล้ว โตขึ้นทุกวัน มันป่วยการแล้ว มันไม่ใช่เวลาที่มาประนีประนอมกัน" แมว : "จริงๆเมื่อวันวาเลนไทน์นี้เรายังให้ดอกไม้กันอยู่เลยนะ เรามีความสุขกันมาตลอด เราเป็นเพื่อนที่ดีกันมาก่อนความสัมพันธ์ก็เลยไม่ได้ลดน้อยลงไป ดีต่อกันเหมือนเดิมตอนนี้ถึงหย่ากันแล้วก็ยังอยู่คอนโดเดียวกัน เป็นเหมือนรูมเมทกัน แล้วที่ใครบอกว่าเราแยกกันอยู่ไม่จริงนะครับ เรายังอยู่ด้วยกันยังเห็นกันทุกมุม ถามว่าเราได้บอกทิกเกอร์มั้ยที่เราหย่ากัน เราไม่ได้บอกลูกครับเพราะเดี๋ยวลูกจะถามว่า Daddy ,what is หย่า ?" กี้ : "ลูกเราจะสลับกันเลี้ยงค่ะ เราก็อยู่คอนโดเดียวกันที่สุขุมวิทแหละค่ะเพราะต้องดูแลทิกเกอร์ ส่วนบ้านก็ประกาศขายตรงนี้เลยนะคะ" การหย่าร้างถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชีวิตครอบครัวซึ่งต้องมีผลกับทางด้านจิตใจของคู่สามี-ภรรยาพอสมควร อีกทั้งทั้งคู่เป็นศิลปินต้องคิดงานเพลงและทำงานบันเทิง ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าเรื่องร้ายนี้มีผลต่อการทำงานมากน้อยแค่ไหน ร็อคเกอร์หนุ่มนิ่งไปอึดใจก่อนตอบว่า... แมว : "ไม่น่าถามเรื่องงานเลย ผมกำลังหนักใจอยู่เลย บางทีผมก็ไปดูหนังนะจะได้ไม่ต้องคิดมาก เพิ่งได้หนังเรื่องช็อกโกแลตมา แล้วก็ไปดูเรื่องที่โจวซิงฉือเล่นแล้วรู้เลยว่าลูกคือสิ่งที่สำคัญที่สุด" กี้ : "จริงๆเรื่องงานเนี่ย เรากำลังจะได้ร้องเพลงประกอบละครคู่กันด้วยในเรื่อง "นิมิตมาร" ชื่อเพลง "ผิดด้วยหรือ" ซึ่งป็นเพลงที่เศร้ามากน่ะค่ะ (แมวพูดแทรก) ประกอบละครเรื่องที่น่ากลัวมากครับ" ต่อข้อซักถามที่ว่าในอนาคตทั้งคู่มีสิทธิ์จะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้งหรือไม่ ฝ่ายชายออกปากอยากให้เป็นอย่างนั้น แมว : "เราไม่ได้ปิดกั้นกันนะ ถ้าพูดกันแฟร์ๆเลยว่าทั้งเขาและผมก็มีสิทธิ์ที่จะมีคนใหม่ได้ทั้งคู่ แต่ถ้ารีเทิร์นได้ก็จะดี" กี้ : "เรื่องอนาคตก็ต้องเป็นเรื่องของอนาคต ปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติดีกว่าค่ะ" ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าสาวกี้มีทอมมาขายขนมจีบนั้น หม้ายสาวหมาดๆบอกสาวหล่ออาจเป็นแค่แฟนคลับ เปล่าตามจีบตนอย่างที่เป็นข่าว "ไม่มีค่ะ ถ้ามีก็ขอดูรูปหน่อย กี้นึกไม่ออก อาจจะเป็นแฟนคลับก็ได้เพราะกี้เจอคนเยอะแต่คิดว่าไม่มี คิดว่าเป็นแฟนคลับมากกว่าที่บางคนก็ตามเอาขนมมาให้ตามงาน ถ้ามีรูปขอด้วยนะคะ" แมว : "ทำไมไม่มีคนถามผมบ้างว่าผมมีผู้ชายมาติดมั้ย" สุดท้ายคู่ร้างคู่ล่าสุดของวงการบันเทิงได้ฝากถึงแฟนเพลงว่า... กี้ : "อยากจะบอกว่าจริงๆแล้วการเลิกกันครั้งนี้เป็นเหตุผลที่ดี ผ่านการคิดการไตร่ตรองมาแล้ว การกระทำทุกอย่างมีเหตุผลค่ะ" แมว : "ผมรู้ว่าผมต้องเป็นแบบอย่างของเยาวชน ทุกครั้งที่กระดิกตัวทำอะไรก็มีคนมอง ผมอาจจะเป็นครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ เป็นสามีที่ไม่ดีแต่จะเป็นพ่อที่ดีของลูกครับ"
ที่มา //www.innnews.co.th ผู้จัดการ
Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2551 17:55:11 น. |
Counter : 1469 Pageviews. |
|
|
|