Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
10 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
เหรียญทองมาแล้ว “เก๋” คว้าชัยแถมทุบสถิติโอลิมปิก



“น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล คว้าเหรียญทองรุ่น 53 กิโลกรัมหญิง เป็นเหรียญแรกให้ทีมชาติไทย ในโอลิมปิก 2008 พร้อมยังทำลายสถิติโอลิมปิกในท่าคลีนแอนด์เจิร์กอีกด้วย

การแข่งขันกีฬายกน้ำหนักในมหกรรมโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2551 มีการชิงชัยกัน 2 เหรียญทอง จากรุ่นน้ำหนัก 53 กิโลกรัมหญิง และรุ่นน้ำหนัก 56 กิโลกรัมชาย

โดยในรุ่น 53 กิโลกรัมหญิงนั้น ทีมชาติไทยส่ง “น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ความหวังเหรียญทองที่ชวดโอกาสไปลุยเอเธนส์เกมส์ เมื่อ 4 ปีก่อนแบบฉิวเฉียดลงแข่งขันด้วย

เริ่มการแข่งขันด้วยท่าสแนทช์ ซึ่ง ประภาวดี เรียกน้ำหนักในครั้งแรกที่ 92 กิโลกรัม และก็ผ่านไปได้แบบสบายๆ ขณะที่ตัวเต็งในรุ่นนี้อย่าง ยูน จินฮี จากเกาหลีใต้ เรียกน้ำหนักครั้งแรกที่ 94 กิโลกรัม ซึ่งก็ผ่านไปแบบไร้ปัญหาเช่นกัน ด้าน นาสตาสเซีย โนวิกาวา ตัวเต็งอีกรายจาก เบลารุส เรียกน้ำหนักครั้งแรกที่ 92 กิโลกรัม และก็ทำสำเร็จ

สำหรับการยกในครั้งที่ 2 สาวไทยเรียกน้ำหนักที่ 95 กิโลกรัม ก่อนออกมายกผ่านไปได้ แต่ ยูน จินฮี คู่แข่งกลับเรียกน้ำหนักครั้งที่ 2 ไปที่ 97 กิโลกรัม ทว่า ยกไม่ผ่าน ส่วน โนวิกาวา เรียกน้ำหนักที่ 95 กิโลกรัม และก็ผ่านมาได้เช่นกัน

ขณะที่การยกครั้งที่ 3 ของ ประภาวดี เรียกน้ำหนักที่ 97 กิโลกรัม แต่กลับยกไม่ผ่าน ส่วน จินฮี นั้นยกครั้งที่ 3 ที่น้ำหนัก 97 กิโลกรัม แต่ก็ยังไม่ผ่านอีกครั้ง ทำให้สาวแดนโสมยกในท่านี้ได้สถิติ 94 กิโลกรัม ด้าน โนวิกาวา ที่เรียกน้ำหนัก 97 กิโลกรัม ก็ยกไม่ผ่านเช่นกัน ทำให้ท่าสแนทช์ “น้องเก๋” ทำได้ 95 กิโลกรัม เท่ากับจอมพลังสาวจากเบลารุส ทว่า น้ำหนักตัวของสาวไทยน้อยกว่า จึงได้เป็นผู้นำในการยกน้ำหนักท่าสแนทช์

กลับมายกกันต่อในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก โนวิกาวา เรียกเหล็กที่ 116 กิโลกรัม ทว่ายกไม่ผ่านในครั้งแรก โดยการตัดสินจากผู้ตัดสิน 2 ใน 3 แต่ก็มายกได้ในครั้งที่ 2 ขณะที่ ยูน จินฮี เรียกน้ำหนักครั้งแรกในท่านี้ที่ 116 กิโลกรัมเท่ากัน แต่ยกผ่านไปได้ ส่วนครั้งที่ 2 จินฮี เรียก 118 กิโลกรัม และก็ยกผ่านได้อีก มาถึงการยกในครั้งสุดท้ายสาวแดนโสมเรียกน้ำหนักที่ 119 กิโลกรัม และก็สามารถยกผ่านได้

ขณะที่ “น้องเก๋” ออกมายกครั้งแรกที่ 120 กิโลกรัม และก็ผ่านได้แบบไม่น่าเป็นห่วงเลย พร้อมกับคว้าเหรียญทองมาครองได้เมื่อมีน้ำหนักรวมที่ยกได้เหนือกว่าคู่แข่งทุกคน อย่างไรก็ตาม จอมพลังสาวไทยเหลือการยกน้ำหนักอีก 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 ยกได้ 126 กิโลกรัม พร้อมกับทำลายสถิติโอลิมปิกท่าคลีนแอนด์เจิร์กที่ 121 กิโลกรัมไปแล้ว ส่วนครั้งที่ 3 ยกที่ 130 กิโลกรัม แต่ก็ไม่สำเร็จ

ส่งผลให้ ประภาวดี คว้าเหรียญทองไปครองด้วยน้ำหนักรวม 221 กิโลกรัม (สแนทช์ 95 กิโลกรัม, คลีนแอนด์เจิร์ก 126 กิโลกรัม) ส่วนเหรียญเงินตกเป็นของ ยูน จินฮี จากเกาหลีใต้ ทำน้ำหนักรวม 213 กิโลกรัม (สแนทช์ 94 กิโลกรัม, คลีนแอนด์เจิร์ก 119 กิโลกรัม) ขณะที่เหรียญทองแดงเป็นของ นาสตาสเซีย โนวิกาวา จาก เบลารุส ที่ทำน้ำหนักรวมได้ 213 กิโลกรัม เท่ากับสาวเกาหลี แต่ได้อันดับ 3 เพราะน้ำหนักตัวมากกว่า (สแนทช์ 95 กิโลกรัม, คลีนแอนด์เจิร์ก 118 กิโลกรัม)





“คุณพ่อ” เตรียมแก้บน “คุณแม่” ลมจับ หลัง “เก๋” ซิวทอง


คุณพ่อและคุณแม่ของ “น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล อยู่ในอารมณ์ตื้นตันสุดขีด ทันทีที่ทราบว่า ลูกสาวคนเก่ง คว้าเหรียญทองแรกให้กับทัพนักกีฬาไทยได้สำเร็จในศึกปักกิ่งเกมส์ 2008


หลังจากที่ “น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล จอมพลังสาวไทย สามารถคว้าเหรีญทองในการยกน้ำหนักรุ่นไม่เกิน 53 กิโลกรัม มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

บรรยากาศที่ที่บ้านเลขที่ 399/54 ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปรากฏว่า ทั้งคุณพ่อคุณแม่รวมถึงญาติพี่น้องและแฟนกีฬาเมืองสี่แคว ที่แห่มาให้กำลังใจกันล้นหลามต่างโห่ร้องด้วยความดีใจเป็นการใหญ่

โดย คุณพ่อจันทร์แก้ว เจริญรัตนธารากุล เผยถึงลูกสาวคนเก่ง ทั้งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ว่า “วันนี้พอภูมิใจที่ลูก (น้องเก๋) ทำได้ วันนี้ความฝันของลูกเป็นจริง พ่อภูมิใจในตัวเก๋มากๆ”

นอกจากนี้ คุณพ่อของฮีโร่สาวไทยยังเผยถึงการบนบานในการที่ลูกสาวคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ ว่า “ได้มีการบนไว้ที่ศาลหลักเมืองจังหวัดนครสวรรค์ ด้วยการถวายไข่ต้ม 100 ฟอง รวมถึงจะมีการจ้างละครมาเล่นถวายที่วัดนครสวรรค์ แต่ทั้งนี้ ต้องรอให้เก๋กลับมาเมืองไทยก่อน”

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวก็พยายามรุมสอบถามความรู้สึกไปยัง คุณแม่ภาวลี แต่ด้วยความปลื้มปิติแบบสุดๆ ทำให้คุณแม่ถึงกับเป็นลมล้มลงท่ามกลางความดีใจของกองเชียร์ชาวไทยทั้งประเทศ





“บิ๊กจา” ยิ้ม “เก๋” เบิกทองให้ไทย “บิ๊กอ๊อด” ฉีดเพิ่ม 2 ล้าน


พลตรี จารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ยินดีที่เห็น “น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ประเดิมคว้าเหรียญทองแรกให้ทัพนักกีฬาไทยใน “ปักกิ่งเกมส์” ด้าน พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประกาศอัดฉีดฮีโร่สาวเพิ่มอีก 2 ล้านบาท

ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล จอมพลังสาววัย 24 ปี ไม่ทำให้แฟนๆ ชาวไทยผิดหวัง ประกาศศักดาคว้าเหรียญทองรุ่น 53 กก.ใน “ปักกิ่งเกมส์” หลังยกท่าสแนทช์ทำหนักน้ำได้ 95 กก. ส่วน คลีน แอนด์ เจิร์ก ยกไปถึง 126 กก.ทำลายสถิติโอลิมปิกท่านี้ ที่ หยาง เซีย ของจีน เคยทำเอาไว้ 125 กก.ทำให้น้ำหนักรวม “น้องเก๋” เป็น 221 กก.ซิวเหรียญทองแรกให้ทัพนักกีฬาในครั้งนี้ได้สำเร็จ

ภายหลังการแข่งขัน ทีมข่าว MGR Sport ที่ไปเกาะสถานการณ์ที่สนาม Beijing University of Aeronautics & Astronautics Gymnasium ได้พบกับ พลตรี จารึก อารีราชการัณย์ ที่เข้ามาให้กำลังใจนักกีฬาไทย ซึ่ง “บิ๊กจา” กล่าวผ่านสื่อในเบื้องต้นสั้นๆ “ก็มีความยินดีที่เราทำเหรียญทองแรกในปักกิ่งเกมส์ได้สำเร็จ ตอนนี้เราขอยืนพื้นว่า ไทยน่าจะได้ 2 เหรียญทองในโอลิมปิกครั้งนี้ เพื่อไม่เป็นการไปกดดันสมาคมมวยสากลสมัครเล่นเกินไป”

นอกจากนี้ MGR Sport ยังมีโอกาสพูดคุยกับ “บิ๊กอ๊อด” พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภาพ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยถึงเหรียญทองแรก “รู้สึกยินดีด้วยกับเด็ก เมื่อวาน เก๋ เข้ามากระซิบกับผมว่าถ้าได้เหรียญทอง ขอเงินอัดฉีดเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านได้หรือไม่ และถ้าทำลายสถิติโอลิมปิกด้วยก็ขออีกสัก 1 ล้าน ซึ่งผมก็ตอบตกลงไปและก็จะหาเงินมาให้ฮีโร่ของชาวไทยให้จงได้”

การคว้าเหรียญทองในครั้งนี้ ทำให้ ประภาวดี กลายเป็นเศรษฐินีย่อยๆ ในช่วงข้ามคืน เพราะก่อนหน้านี้ มีการประกาศอัดฉีดนักกีฬาไทยที่คว้าเหรียญทองได้ ก็จะรับเงินสดเข้ากระเป๋าทันที 5 ล้านบาท ส่วนอีก 5 ล้านบาท ทางกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติจะแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ภายในระยะเวลา 20 ปี






“น้องเก๋” ตื่นจากฝันร้ายมาคว้าเหรียญทอง


“น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล หรือชื่อเดิม คือ จันทร์พิมพ์ กันทะเตียน เกิดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2527 เป็นบุตรสาวคนโตในจำนวนพี่น้อง 4 คน ของ นายจันทร์แก้ว และ นางภาวลี ในจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งพื้นฐานแล้วครอบครัวมีฐานะยากจน โดย นายจันทร์แก้ว นั้นยึดอาชีพเป็นกรรมกรก่อสร้างมานาน

ทว่า หลังจากที่ เก๋ เมื่อวัย 11 ปี มุ่งหน้าเข้าสู่การฝึกซ้อมกีฬายกน้ำหนักอย่างจริงจัง ทำให้ฐานะครอบครัวแต่เดิมที่เคยลำบากนั้นเริ่มดีขึ้น โดยเด็กสาวรายนี้ถือเป็นกำลังหลักของครอบครัว

ซึ่งจากน้ำพักน้ำแรงของจอมพลังสาววัย 24 ปี รายนี้ ปัจจุบัน คุณพ่อจันทร์แก้ว ไม่จำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพกรรมกรอีกแล้ว โดยหันไปยึดอาชีพขายไอศกรีมทอดแทน

นอกจากนี้ “น้องเก๋” ยังเก็บหอมรอมริบเงินรางวัลจากการแข่งขันเพื่อนำเงินมาปลูกบ้านให้กับพ่อแม่ที่จังหวัดนครสวรรค์ได้อีกด้วย แม้ว่าจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ตาม

ชีวิตคนเราย่อมมีขึ้นลง ซึ่ง “น้องเก๋” เองก็หลีกหนีวัฏจักรนี้ไปไม่พ้น เมื่อในชีวิตนักกีฬาต้องเสียน้ำตาถึง 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกเมื่อการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ซึ่งในครั้งนั้นจอมพลังสาวจากเมืองปากน้ำโพ ถือเป็นนักกีฬาดาวรุ่งอยู่ อีกทั้งยังลงแข่งขันในรุ่นเดียวกับ “น้องอรสู้โว้ย” อุดมพร พลศักดิ์ อีก ส่งผลให้สมาคมยกเหล็กตัด ประภาวดี ออกจากทีมชุดลุยโอลิมปิก ส่งผลให้นักยกเหล็กรายนี้เสียศูนย์จนหอบเสื้อผ้าหนีจากค่ายซ้อมไปพักใหญ่ๆ ก่อนที่ “เจ๊บุษ” บุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมยกเหล็กจะตามตัวกลับมา พร้อมปลุกปลอบให้กลับมาร่วมแคมป์ซ้อมทีมชาติไทยอีกครั้ง

หลังจากนั้น ประภาวดี ก็กลับมาเป็นคนเดิม ตั้งใจฝึกซ้อม เพื่อโอกาสในการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2008 ทว่าโชคร้ายของจอมพลังรายนี้ยังไม่จบ เมื่อต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บข้อศอกหลุดระหว่างการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2007 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งส่งผลให้ “น้องเก๋” ต้องชวดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2007 ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งก่อนหน้านั้น มีความหวั่นเกรงว่าอาการบาดเจ็บขนาดนั้นอาจทำให้จอมพลังรายนี้ต้องจบชีวิตนักกีฬาทีมชาติ

แม้จะไม่ได้เดินทางร่วมทีมไปโคราชเกมส์ ทว่า ระหว่างนั้น “เก๋” ประภาวดี ก็หมั่นฝึกซ้อมและเรียกความฟิตอยู่เสมอ ซึ่งนับเป็นผลดีกับสภาพร่างกาย รวมทั้งความมุ่งมั่นที่มีมาก อีกทั้งสภาพจิตใจที่เยือกเย็นขึ้น ทำให้จอมพลังสาวเมืองปากน้ำโพก้าวมาถึงวันที่ประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการคว้าเหรียญทองปักกิ่งเกมส์ พร้อมสร้างสถิติโอลิมปิกในท่าคลีนแอนด์เจิร์กขึ้นมาใหม่ที่ 126 กิโลกรัมอีกด้วย

สำหรับผลงานของ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล
1 เหรียญทอง ซีเกมส์ 2005 ที่ฟิลิปปินส์
1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน ยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกที่กาตาร์
1 เหรียญเงิน เอเชียนเกมส์ ที่กาตาร์
1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน ยกน้ำหนักชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจีน
1 เหรียญทอง โอลิมปิก 2008 ที่ประเทศจีน








































ที่มา
ผู้จัดการ
คุณ ความสุขอยู่ที่ใจ@pantip.com
gettyimages


Create Date : 10 สิงหาคม 2551
Last Update : 10 สิงหาคม 2551 17:10:12 น. 8 comments
Counter : 1366 Pageviews.

 
สุดยอด เยี่ยมไปเลย


โดย: MM (ongchai_maewmong ) วันที่: 10 สิงหาคม 2551 เวลา:17:18:29 น.  

 

บอกได้คำเดียวว่า สุดยอดดดดดดดดด


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 10 สิงหาคม 2551 เวลา:17:22:04 น.  

 

ขออนุญาติcopy รูปสวยๆไปฃื่นฃมนะคะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 10 สิงหาคม 2551 เวลา:17:35:59 น.  

 
เยี่ยมจริง ไชโยประเทศไทย


โดย: wildbirds วันที่: 10 สิงหาคม 2551 เวลา:17:39:34 น.  

 
นั่งเชียร์ที่กาน่าอยู่ค่ะ แบบว่าลุ้นๆๆๆๆ แล้วโม้ไปว่า...นี่ๆๆ คนประเทศฉ้านน ปลื้มม๊ากกกกกกกกกกกกก
ขอบคุณน้องเก๋ที่ทำให้คนไทยมีความสุขค่ะ


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 10 สิงหาคม 2551 เวลา:18:42:34 น.  

 
เก่งจังค่ะ


โดย: offita วันที่: 10 สิงหาคม 2551 เวลา:21:15:52 น.  

 
ขอร่วมแสดงความยินดีกับนักยกน้ำหนักไทยครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 10 สิงหาคม 2551 เวลา:21:34:14 น.  

 
เป็นตำนานหน้าใหม่แก่วงการกีฬาไทย


โดย: K_chang วันที่: 11 สิงหาคม 2551 เวลา:15:57:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.