นก โวยแหลก...เวที มิสซิส เวิล์ด แหกตา !!
นก-ชลิดา ตันติภิภพ แฉกลโกงข้ามชาติ จัดประกวดนางงามบังหน้า หลอกให้สาวไม่โสดทั่วโลกขึ้นเวทีประกวด มิสซิส เวิล์ด แต่สุดท้ายกลับตาลปัตรกลายเป็นเรียลลิตี้ โชว์สุดโหด ดูหมิ่น สาวไทย แบบไม่ไว้หน้า แอบวางคอนเซปท์ให้เป็น สาวเซ็กซี่ ให้ตากล้องส่อง เก็บภาพหลุดตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าไปออกอากาศ !!
นก ชลิดา ตัวแทนสาวไทย
หลังจากเดินทางกลับจากการประกวด มิสซิล เวิล์ด 2006 ที่ประเทศรัสเซีย อดีตนางสาวไทยปี 2541ที่แต่งงานออกเรือนไปกับหนึ่งในผู้บริหารใหญ่ของห้างหรูสยาม พารากอน กบ-เกรียงศักดิ์ ตันติภิภพ เมื่อหลายปีก่อน ก็ถึงกับร่ำไห้แบบสุดทนกับพฤติกรรมของทีมงานที่สรรหากลโกงสารพัดรูปแบบมาใช้
ทั้งนี้ นก กล่าวว่า การประกวดมิสซิส เวิล์ด ในปีนี้ได้ถูกเปลี่ยนแปลงรูปแบบการประกวดอย่างกะทันหัน โดยไม่แจ้งให้ผู้ประกวดทราบเลย จนถึงวันประกวด งานกลับกลายเป็นรายการเรียลลิตี้ โชว์ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ว่าเน้นการส่งเสริมสถาบันครอบครัว ผู้หญิงเก่ง มีความสามารถ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและครอบครัว มีการใช้กติกาที่ไม่เป็นธรรม เพื่อให้รายการเป็นไปตามที่ผู้จัดอยากให้เป็นเรียลลิตี้ โชว์ แทนที่จะเป็นการประกวดอย่างที่เคยทำกันมาตลอด โดยเพิ่มกติกาให้ผู้เข้าประกวดที่ตกรอบไม่ได้ติด 1 ใน 10 โหวตผู้เข้าประกวด 1 ใน 10 ออกหนึ่งคน และเข้าใหม่หนึ่งคน สร้างความไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่คณะกรรมการได้คัดเลือกตามกติกาอย่างถูกต้อง ผู้จัดการประกวดไม่โปร่งใส มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ สร้างความเสื่อมเสียแก่ผู้เข้าประกวด ไม่ดูแลผู้เข้าประกวดอย่างสมศักดิ์ศรีและความภูมิใจในฐานะตัวแทนของแต่ละประเทศ
นกเล่าต่อว่า ตลอดสองอาทิตย์ที่ไปทำกิจกรรมที่นั่น เป็นช่วงเวลาที่เศร้ามาก ไม่เคยคิดเลยว่า การประกวดระดับอินเตอร์จะเป็นแบบนี้ เริ่มตั้งแต่ให้ตากล้องผู้ชาย ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอเข้าไปถ่ายรูปในห้องแต่งตัวของนางงาม โดยบอกกับผู้เข้าประกวดว่า อยากจะให้ใกล้ชิด เห็นอิริยาบทต่างๆของนางงามมากขึ้น แต่จริงๆ แล้วคือ ต้องการนำภาพหลุดต่างๆที่ไม่สมควร ออกไปใช้ในรายการเรียลลิตี้ โชว์ นอกจากนี้ เขายังตีค่าผู้หญิงไทยเหมือนเป็นสาวเซ็กซี่แบบนางโชว์ คอยแต่จะถ่ายภาพเราตอนเปลี่ยนเสื้อ ทั้งที่เราไม่ต้องการให้ถ่าย แต่เวลารีบๆ เราก็ต้องมีภาพหลุดออกมาบ้าง เหมือนกับเป็นปาปาราสซี่
ส่วนเรื่องของอาหารการกินนั้น นกพรั่งพรูความรู้สึกแบบอัดอั้นตันใจว่า...เชื่อไหมว่า เขาเอาอาหารกล่องไปโยนๆไว้ใต้ท้องรถ แล้วให้นางงามไปหยิบมากินเอง เหมือนเราไม่ใช่ตัวแทนประเทศ ส่วนน้ำดื่มก็อย่าให้พูดเลย อย่าว่าแต่ขอเลย เราต้องซื้อกินเองทั้งหมด
สำหรับกิจกรรมของการประกวดนี้ เขาพาเราไปที่สวนสัตว์ ให้ไปดูคณะละครสัตว์ ไปดูบัลเล่ต์ แล้วเขาก็บังคับให้เราเต้นเพลงเกี่ยวกับละครสัตว์ เขาทำอะไรหยามเรามาก วันนั้นนกถึงกับร่ำไห้ สติแตกไปเลย เขาทำได้ตลาดที่สุด เวทีประกวดอินเตอร์ เขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก อย่างวันประกวดรอบสุดท้าย เขาโหวตให้นกออก ทั้งๆที่นกไปถามเพื่อนแล้ว ปรากฏว่า ไม่มีใครโหวตให้นกออกเลย เขาทำเหมือนกับว่าเราถูกโหวตออก เพราะจริงๆเขาเตี๊ยมกันไว้แล้วว่า อยากให้เราออก เพื่อเป็นการกระตุ้นเรตติ้งของรายการ ส่วนเรื่องการตัดสินตำแหน่ง ก็พิลึกที่สุด หลังจากที่มีการประกาศผลไปแล้วว่า มิสซิสคอสตาริกาได้รับตำแหน่ง พวกเราต่างยินดีมาก เพราะเป็นคนที่ใครๆก็คิดว่าเหมาะสม แต่หลังจากนั้นพักใหญ่ ก็มีฝรั่งเจ้าของรายการเดินขึ้นมาบอกว่า ไม่ใช่ ผิดแล้วๆ รางวัลนี้ต้องเป็นของมิสซิสรัสเซีย เท่านั้น ซึ่งคนที่ได้เป็นเด็กสาวอายุเพียง 18 ปี เพิ่งแต่งงานได้ 3 เดือน นกและเพื่อนๆถึงกับรับไม่ได้ พากันตัดสายสะพายทิ้ง พร้อมกับให้มิสซิสแอฟฟริกาใต้นำไปส่งคืน
ท้ายที่สุด แม้เจ้าตัวจะได้รับรางวัลชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมและรางวัลชนะเลิศการทำอาหารยอดเยี่ยม แต่นกก็ประกาศก้องว่า..ประเทศไทยควรจะหยุดส่งตัวแทนไปประกวดเวทีนี้ได้แล้ว ถ้าไม่อยากให้คนมองภาพลักษณ์ของสาวไทยเป็นสไตล์เซ็กซี่ ปล่อยให้เขาตีค่าเราเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีอีก !!!
ความรู้สึกของนางงามคอสตาริก้า
Andrea Bermudezนางงามคอสตาริก้าผู้น่าสงสาร
คุณเคยรู้สึกอายขายขี้หน้า ต่อหน้าคนอื่นไหม เชื่อว่าทุกคนก็คงเคย แต่ยังไงก็คงไม่เท่า Andrea Bermudez ลองเอาประสบการณ์ที่คุณเจอคูณเข้าไปด้วย10 ดูละกัน เพราะเธอคือเจ้าของตำแหน่ง MRS. WORLD 2006 ในเวลาที่สั้นที่สุด หลังจาก อลัน ทริค ประกาศผลว่า เบอร์มูเดซ มิสซิสคอสตาริก้าคือผู้ครอบครองมงกุฏในปีนี้ เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้นเจ้าของกองการประกวด David Marmel ก็ขึ้นมาบนเวทีให้นักข่าวหยุดถ่ายภาพ และบอกให้เธอเอามงกุฏออกเพราะ MRS. WORLD แท้ที่จริงแล้วคือ เจ้าภาพรัสเซีย!!!
เจ้าของการประกวด David Marmel
ความเสียใจที่ไม่อาจกลั้นออกมาได้ถูกแสดงออกผ่านน้ำตา เธอต้องทำใจยอมรับมัน และเดินทางกลับประเทศคอสตาริก้าไปเมื่อวันก่อนพร้อมสามี Francisco Garcia Bermudez โดยมีญาติๆ เพื่อนๆ และแฟนๆที่เป็นกำลังใจให้เธอมารอรับที่สนามบิน เสมือนกับว่าเธอคือผู้ชนะที่แท้จริงทั้งในและนอกเวทีเบอร์มูเดซกล่าวกับนักข่าวที่ไปรอที่สนามบินว่า"ฉันเสียใจกับเหตุการณ์ทอันแสนสับสนที่เกิดขึ้นที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนะคะ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของดิฉันในขณะนี้คือได้กลับมาบ้าน บ้านที่ทุกๆคนรอคอยดิฉันอยู่ นี่แหละคะคือชัยชนะที่แท้จริงของดิฉัน"
ถึงแม้ตอนนี้เบอร์มูเดซได้ยกโทษให้กับกองประกวดที่"ขโมย"มงกุฏของเธอไปเรียบร้อยแล้ว แต่สามีของเธอกลับยังคงไม่ยอมแพ้เค้าได้ขอให้กองประกวดส่งวีดีโอเทปในค่ำคืนการตัดสินมาให้พร้อมขอเหตุผลอย่างเป็นทางการจากผู้จัดว่าอะไรคือสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้ภรรยาของเขาโดนริบมงกุฏคืน ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะฟ้องร้องกับผู้จัดการกองประกวดหรือไม่อย่างไรต่อไป สาเหตุสำคัญที่ทำให้เค้าต้องออกมาต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงต้องการปกป้องภรรยาของเค้าเท่านั่น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นที่รัสเซียเป็นการดูถูกประเทศของเขาจนไม่อาจจะให้อภัยได้
สาวงามที่เคยเป็นตัวแทนของคอสตาริก้าต่างออกมาเรียงแถวตอบโต้การกระทำขององค์กร MRS. WORLD ไม่ว่าจะเป็น Johanna Fernandez มิสคอสตาริก้า 2005 ที่ได้ผ่านข้อความส่งกลับไปให้กองประกวดว่า.."สิ่งที่คุณทำมันน่าละอายและไม่น่าให้อภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างยิ่ง"
Johanna Fernandez มิสคอสตาริก้า 2005
Leonora Jimenez มิสคอสตาริก้าเวิลด์ 2005 กล่าวถึงความโปรงใส่ของกองประกวดนางงามต่างๆว่าผู้จัดมักจะตั้งกฏอะไรตามอำเภอใจโดยไม่สนใจความรู้สึกของนางงาม แม้กระทั่งมิสเวิลด์เองก็ตาม
Leonora Jimenez มิสคอสตาริก้าเวิลด์ 2005
Merilyn Villalta มิสคอสตาริก้า 2002 ที่เข้าร่วมการประกวดมิสยูนิเวอร์สที่ซาน ฮวน เปอร์โตริโก้ก็ฝากคำพูดอันบาดหูให้ใครหลายๆคนได้สะอึก..."อันที่จริงแล้วฉันไม่ค่อยเชื่อมั่นในการประกวดอะไรซักเท่าไหร่หรอกนะคะ มันไม่ค่อยยุติธรรมหรอกค่ะ ปีที่แล้วตอนที่ดิฉันไปประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนลที่โตเกียว ผู้หญิงเอเชียคนนั้น(เธอหมายถึงมิสฟิลิปปินส์ผู้ชนะ)กลับเอามงกุฏไปทั้งๆที่ใครๆก็บอกว่านางงามจากชิลีและคอสตาริก้าจะต้องชนะ
Merilyn Villalta มิสคอสตาริก้า 2002
ปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลให้นางงามคนหนึ่งเข้ารอบมีหลายอย่างนะคะ ไม่ว่าจะเป็นชื่อชั้นของประเทศบนสายสะพาย มันเป็นเรื่องของเส้นสาย การเมืองแล้วก็ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ได้รับสิทธิ์ในประเทศนั้นๆกับกองประกวดหนะคะ ยกตัวอย่างนะคะปี2002 ตอนที่ฉันไปเปอร์โตริโก้นางงามอินเดีย(เนฮา ดูเปีย)ทั้งๆที่เธอเตี้ยแล้วก็อ้วนเต็มไปด้วยเซลลูไลท์(a short woman filled with cellulite)ซะขนาดนั้นยังเข้ารอบไปได้เลยค่ะ
มีเพียงคนเดียวในคอสตาริก้าตอนนี้ที่กระโดดออกมาปกป้องกองประกวดมิสซิสเวิลด์ก็คือ Marisol Soto เจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศ เธอกล่าวว่า"อันที่จริงพวกเค้ารับผิดชอบนะคะ กองประกวดที่นั่นบอกฉันว่าความผิดพลาดเกินขึ้นเพราะว่าผู้หญิงที่เอามงกุฏไปสวมให้นางงามในคืนวันนั้นหนะคะ"
ความรู้สึกของนางงามนิวซีแลนด์
ทันทีที่มิสซิสนิวซีแลนด์เหยียบลงแผ่นดินอดีตประเทศหลังม่านเหล็กเพื่อเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ เธอหวังจะได้พบกับประสบการณ์การประกวดระดับโลกอย่างการแข่งขันทั่วไป แต่ตลอดการประกวด2อาทิตย์ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กบริษัท MARMEL ENTERTAINMENT โดย DAVID MARMELเจ้าของกองประกวด MRS. WORLDได้พิสูจน์ให้มิสซิสนิวซีแลนด์คนนี้เห็นแล้วว่า MRS. WORLD ยังห่างไกลกับคำๆนั้นอยู่มากนัก
เคยเชื่อว่าการประกวดนี่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเป็นผู้หญิง ความเป็นแม่ ความเป็นภรรยาที่ดี ซึ่งเป็นความงามภายในจิตใจพร้อมๆไปกันกับความงดงามทางด้านร่างกาย
แต่จริงๆแล้วไม่เลย....
ลำดับความอัปยศที่เกิดขึ้น
1) จดหมายเชิญอย่างเป็นทางการของกองประกวดเพื่อให้สาวงามนำไปใช้ขอวีซ่าเข้าประเทศรัสเซียมาถึงล่าช้ากว่ากำหนดมากทำให้นางงามกว่าอีก20ประเทศไม่สามารถส่งตัวแทนมาเข้าร่วมได้ทันเนื่องจากขอวีซ่าไม่ได้
2) ไม่มีผู้ดูแลมาคอยรับนางงามกับครอบครัวที่สนามบินตามที่ได้ตกลงกันไว้
3) ห้องพักในโรงแรมมีขนาดเล็กมาก เล็กเสียจนไม่สามารถเหลือที่ให้แขวนเสื้อผ้าได้
4) ไม่มีไดร์เป่าผม เตารีด หรือกาต้มน้ำในห้องพัก
5) ไม่มีน้ำดื่มจัดเตรียมให้ทั้งๆที่รู้ว่าน้ำในก๊อกดื่มไม่ได้
6) ไม่มีการอธิบายอย่างชัดเจนจากกองประกวดว่า กรรมการต้องการตัดสินจากอะไร
7) ไม่มีการพิสูจน์เอกสารถึงสถานภาพการแต่งงานและจำนวนบุตร
8)มีการถ่ายภาพในที่ๆไม่อนุญาตให้เอากล้องเข้าไป เช่นห้องแต่งตัว ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
9) ตารางการเดินทางไร้ระเบียบมาก บ่อยครั้งที่ต้องเลื่อนการรับประทานอาหารออกไป มีหลายวันที่นางงามทุกคนไม่ได้รับระทานอะไรเลยตลอดทั้งวันจนถึงเย็น
10) ผู้เข้าประกวดเพิ่งรู้ว่าการประกวดจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นReality Show หลังจากมาถึงรัสเซียได้11วันเข้าไปแล้ว และจำเป็นต้องโหวตคนใดคนนึงออกบนเวที(และแน่นอนเธอคนนั้นคือ นก ชลิดา)
11)หลังจากซ้อมเต้นได้10วัน Mrs. Russia บอกว่าเธอไม่อยากเต้นแล้ว วันรุ่งขึ้นครูสอนเต้นรำชาวรัสเซียจึงถูกเปลี่ยนตัวมาแทนที่
12) มีกฏอยู่ว่าถ้านางงามคนใดขาดซ้อมจะต้องถูกตัดสิทธิ์ออกจากการประกวดและแน่นอนนางงามรัสเซียไม่เคยอยู่ซ้อมจนจบการแสดงเลยแล้วในที่สุดก็ได้มงกุฎไปครอง
13)ผู้เข้ารอบสุดท้ายไม่มีนางงามที่ดูมีอายุเข้ารอบไปเลย แล้วเราจะมาประกวดMRS WORLD กันทำไม
14) กองประกวดเซทคนที่ต้องโหวตออกขึ้นมาเองโดยและอีกครั้ง คนซวยคือ นก ชลิดาโดยที่จริงๆแล้วไม่มีใครโหวตเธออกเลย
15) หลังจากมิสคอสตาริก้าถูกสวมมงกุฏได้ไม่นานDavid Marmel ผู้จัดการกองประกวดกระโดขึ้นบนเวทีดึงเอาดอกไม้ของเธอออกจากมือ ผลักช่างภาพออกไป และสั่งให้มิสคอสตาริก้าคืนมงกุฎและมอบมงกุฎให้มิสซิสรัสเซียแทน
16) ผู้เข้าประกวด2ใน3ประท้วงด้วยการลงจากเวที ตัดสายสะพายทิ้งแล้วให้นางงามจากแอฟริกาใต้โยนใส่หน้าผู้จัด
17) ผู้จัดไล่ให้สาวงามทั้งหมดขึ้นรถโค้ชกลับโรงแรมโดยทันที โดยพวกเธอทั้งหมดอยู่ในอาการตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น พวกเธอกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเธอขายหน้าซ้ำเรื่องที่เกิดขึ้นบนเวทีเมื่อซักครู่นี้มันน่าขยะแขยงและน่ารังเกียจยิ่งนัก ไม่นานนักรถโค้ชมาถึงหน้าผับแห่งหนึ่งซึ่งถูกใช้ให้เป็นสถานที่จัดงานโคโรเนชั่นบอลล์ ผู้จัดบอกให้นางงามลงจากรถ แต่นางงามทั้งหมดปฏิเสธและต้องการกลับโรงแรมเพียงอย่างเดียว แต่คนขับรถโค้ชได้รับคำสั่งให้หยุดรถที่นี่และไม่ทำตามคำเรียกร้องทั้งๆที่นั่นเป็นเวลาตี1แล้ว แถมนางงามอังกฤษก็ยังมีลูกอ่อนวัย9เดือนมากับเธอด้วย
คำแถลงการณ์ของกองประกวดมิสซิสเวิลด์
Bob Mazza รองประธานบริษัท Marmel Entertainment
ลอสแองเจลลิส-เมื่อวันที่7พ.ค.ที่ผ่านมา Bob Mazza รองประธานบริษัท Marmel Entertainment ได้ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชนถึงความผิดพลาดกรณีมอบมงกุฏ MRS WORLD 2006 ที่จัดขึ้นที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ให้กับนางงามคอสตาริก้าก่อนจะยึดคืนให้เจ้าภาพรัสเซียในเวลาต่อมาว่า...
"ความผิดพลาดของเราเกิดจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำหน้าที่สวมสายสะพายนั้นได้มอบสายสะพายตำแหน่งผิดคนกับนางงามคอสตาริก้าซึ่งเป็นรองอันดับที่1และนั่นเป็นเหตุเริ่มต้นของความสับสนทั้งหมด เราเลยรีบจัดการแก้ไขปัญหานั้นทันทีและมอบมงกุฏให้กับผู้ชนะตัวจริงในค่ำคืนนั้นคือมิสซิสรัสเซีย เราสามารถให้ทุกคนตรวจสอบใบคะแนนจากคณะกรรมการทุกคนได้ครับรับรองว่ามิสซิสรัสเซียคือผู้ชนะจริงๆแน่นอน"
มะปราง-ภาวดี ผู้จัดขอชี้แจง
มะปราง-ภาวดี วิเชียรรัตน์ อดีตมิสซิสเวิลด์ ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การส่งสาวไม่โสดชาวไทยเข้าร่วมประกวดบนเวทีมิสซิสเวิลด์ กล่าวกับ บางกอกทูเดย์ว่า ได้ทราบเรื่องที่นก-ชลิดาประสบปัญหาในเวทีมิสซิสเวิลด์แล้ว และได้ติดต่อกลับไปหาแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตามในฐานะที่ตนเคยผ่านเวทีนี้มาและเป็นผู้ส่งประกวดแล้วอยากจะบอกว่า
ปีที่ตนเข้าร่วมประกวดเขาก็จัดเป็นเรียลริตี้โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ช่วงแรกที่ไปผู้เข้าประกวดหลายคนก็เริ่มประท้วง รวมทั้งตนด้วย แต่ส่วนใหญ่ผู้จัดเขาจะเล่นกับคนที่มีชื่อติด 1ใน10เท่านั้น ในตอนแรกกะจะถอนตัวและเดินทางกลับแต่ขี้เกียจหาเหตุผลแจ้งให้สปอนเซอร์ทราบว่าทำไมต้องถอนตัว
ปีที่มะปรางประกวดผู้จัดแจ้งว่าที่ต้องทำเป็นเรียลริตี้ก็เพื่อ เป็นสีสันของการประกวด การถ่ายทอด เพื่อให้ผู้ชมได้รู้จักผู้เข้าประกวด ได้เห็นบุคลิกและท่าทางต่างๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าในสหรัฐอเมริกานั้นเรียลริตี้กำลังมาแรง เขาก็คงอยากให้มีผู้ชมมากๆ แต่มะปรางไม่ทราบเรื่องอื่นๆเลย
มะปรางกล่าวก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อว่า หลังทราบข่าวเรื่องนกก็พยายามเข้าไปดูในเว็บไซด์ของมิสซิสเวิลด์ ซึ่งเขาก็แจ้งเรื่องว่าพิธีกรประกาศผู้ได้ตำแหน่งผิด แต่ก็ไม่ได้มีการแจ้งเรื่องเรียลริตี้ของผู้เข้าประกวดให้ทราบ หรือแม้แต่เรื่องการไม่มีบริการต่างๆ แต่ก็คิดว่าเมื่อเราไปต่างประเทศก็อาจจะต้องช่วยตัวเองบ้าง ซึ่งในรายละเอียดเหล่านั้นมะปรางไม่รู้เรื่องเลย แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าปีนี้จะมีปัญหา แต่มะปรางจะยังคงส่งผู้เข้าประกวดต่อในปีถัดไป เพราะเป็นเวทีที่มีมานานและเป็นเวทีระดับโลก ทุกเวทีมีคนแพ้และคนชนะ ไม่มีเวทีไหนที่คนจะพอใจกับผล 100%
กระชากมงกุฎมิสซิสเวิลด์!!! นางงามตัดสายสะพายประท้วงคําตัดสิน
เจ็บมั่กมากค่ะ!!! ก็แหม...นึกว่าจะพกความประทับใจและความทรงจำดีๆ กลับเมืองไทย หลังเสร็จการประกวดมิสซิส เวิลด์ 2006 ณ กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งประกาศผลไปเรียบร้อยโรงเรียนหมีขาวเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา ในฐานะที่เป็นตัวแทนสาวไทย เข้าร่วมประกวดครั้งนี้ด้วย แต่ นก-ชลิดา (เถาว์ชาลี) ตันติพิภพ กลับพูดเป็นอยู่อย่างเดียวว่า ทุกอย่างเพี้ยน และไม่แฟร์ ถึงเธอจะคว้ารางวัลชุดแต่งกายประจำชาติ (Costume Finalist), รางวัลชนะเลิศการแข่งขันทำอาหาร ในเมนูส้มตำ กับมัสมั่นไก่ และเข้าถึงรอบ 10 คนสุดท้ายก็ตาม!!
ต้นตอที่ทำให้ นก อารมณ์เสียถึงกับของขึ้น!! เพราะการประกวดครั้งนี้ถูกปรับเปลี่ยน รูปแบบอย่างกะทันหัน จากวัตถุประสงค์เดิมที่ส่งเสริมสถาบันครอบครัว สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ กลายเป็นเวทีสำหรับผู้หญิงเก่งที่มีความสามารถ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและครอบครัว ยกตัวอย่างเช่น จัดเป็นรายการลักษณะเรียลลิตี้ โชว์ แฝงผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยให้ตากล้องเก็บภาพขณะผู้เข้าประกวดแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าในระยะซูม-อิน โดยไม่ฟังเสียงร้องขอของผู้เข้าประกวด!!! และยังเพิ่มกติกาช่วง 3 วัน ก่อนถึงวันตัดสิน โดยให้สาวงามไม่ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายโหวตผู้เข้ารอบ 1 ใน 10 ออก และโหวตคนตกรอบเข้าไปแทน!!! ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ผู้เข้าประกวดทั้งหมดตกลงกันแล้วว่า จะไม่ใช้สิทธินี้ ถือว่าสร้างความไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่คณะกรรมการได้คัดเลือกไว้แล้ว
ยังแสบไม่พอ!! ทางกองประกวดมองข้ามความสำคัญ ไม่เทกแคร์และให้เกียรติผู้เข้าประกวดให้สมกับเป็นตัวแทนของแต่ละประเทศ ที่เสียสละเวลาเข้าร่วมกิจกรรมระดับอินเตอร์ ซึ่งมีชื่อเสียงสั่งสมมานับ 20 ปี โดยครั้งนี้สาวงามต้องช่วยเหลือตัวเอง แม้แต่น้ำดื่มก็ไม่มีบริการภายในห้องพักของโรงแรม!! นก-ชลิดา เปรียบเปรยเสียงสั่นด้วยดวงตาแดงก่ำว่า เหมือนสวนสัตว์!! ยกเว้น Mrs.Sofia Arzhakovshaya สาวงามประเทศเจ้าภาพ ที่มีบอดี้การ์ดคอยดูแลอย่างออกหน้าออกตา!!!
คณะกรรมการกองประกวดเองก็มีเจตนาไม่ บริสุทธิ์ นก เชื่อว่า เป็นการจัดฉากให้เวทีนี้เป็นของ Mrs.Sofia...ไฮไลต์ ความโกลาหล คือช่วงที่ พิธีกรประกาศตำแหน่งผู้ครองมงกุฎ มิสซิสเวิลด์ ประจำปี 2006 ได้แก่ Mrs.Andrea Bermuderromero จากคอสตาริกา ท่ามกลางเสียงปรบมือและการแสดงความยินดีจากเพื่อนๆ สาวงามด้วยกัน ยกเว้น Mrs.Sofia ที่ชักสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด กระทั่งเจ้าหน้าที่กอง ประกวดตะโกนกลางฮอลล์ว่า โน!! มันเป็นความผิดพลาด ต้องประกาศใหม่!! แล้วยึดมงกุฎจากศีรษะ Mrs.Andrea คืน เพื่อมาสวมให้กับ Mrs.Sofia ที่ซักซ้อมรอท่าไว้ก่อนได้สวมมงกุฎจริง!!
บรรดาสาวงามกว่า 20 ประเทศทนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ วอล์กเอาต์ลงจากเวที แล้วพร้อมใจกันตัดสายสะพายของตนเอง เป็นการประท้วงคำตัดสินที่เอียงกระเท่เร่ หาความยุติธรรมไม่ได้เลย!!...เฮ้อ ยุคนี้ทำไมความเที่ยงธรรมช่างหายากไปเสียทุกแห่งหนจริงๆ!!
คลิกที่นี่เพื่อชมภาพบรรยากาศการประกวดมิสซิสเวิลด์
ภาพ-ข้อมูล
-mardoo.net
-บางกอกทูเดย์
-ไทยรัฐ
| Create Date : 09 พฤษภาคม 2549 |
| Last Update : 11 พฤษภาคม 2549 12:00:37 น. |
|
4 comments
|
| Counter : 2123 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
