ภัยในบ้านที่ไม่ควรมองข้าม
ในปัจจุบันมีพิษภัยจากสารเคมีต่าง ๆ ที่พวกเราใช้กันในบ้านหรือที่พักอาศัย จนเป็นเรื่องปกติธรรมดา จนทำให้ลืมไปว่าสารเคมีเหล่านี้คือยาพิษ หรือสารพิษที่เป็นอันตรายต่อคน และสัตว์เลี้ยงที่อยู่อาศัยภายในบ้านเช่นกัน ในโลกนี้มีสารเคมีหลัก ๆ มากกว่า 865 ชนิด ที่จัดว่าเป็นสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช (Pesticides) ซึ่งนำมาใช้ในการปรุงหรือผสมเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดศัตรูพืช วางขายอยู่ในท้องตลาดมากกว่าพันชนิด มีประมาณ 350 ชนิด ที่เราใช้เกี่ยวกับอาหารที่เรารับประทาน ที่พักอาศัยและใช้กับสัตว์เลี้ยงของเรา
ท่านทราบหรือไม่ว่าสารเคมีที่ใช้กันอยู่ในบ้านพักอาศัย จนเป็นเรื่องปกติธรรมดาเหล่านี้ จัดว่าเป็นสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช (Pesticides) ที่มีอันตรายสูง เช่นกัน เช่น - ยาฆ่าแมลงต่าง ๆ เช่น ยุง ชนิดสเปรย์ ชนิดจัดเป็นควัน - ยาฆ่าแมลงสาบชนิดสเปรย์และเหยื่อพิษ - ยาฆ่าหนูชนิดต่าง ๆ - ยาฆ่าเห็บ, ไร สำหรับสัตว์เลี้ยง - น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ ในครัว พื้นบ้าน และห้องน้ำ - น้ำยาฆ่าเชื้อรา และขจัดคราบรา - สารเคมีกำจัดวัชพืชต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการในสนามหญ้าหรือสวนหลังบ้าน - น้ำยาทำความสะอาดสระว่ายน้ำ - ยาฆ่าปลวก เป็นต้น
โดยธรรมชาติของสารเคมีเหล่านี้ เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อม เพราะถูกออกแบบมาเพื่อใช้ฆ่าหรือขจัดสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่รบกวนสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ให้กับคนและสัตว์เลี้ยงในที่อยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกัน สารเคมีเหล่านี้ก็เป็นประโยชน์ต่อคนและสังคมด้วย เพราะสามารถจะป้องกันและกำจัดแมลงพาหนะนำโรคต่าง ๆ ของคนและสัตว์เลี้ยง ตลอดจนสิ่งต่าง ๆ ที่รบกวนความสุขของคนและสัตว์เลี้ยงด้วย เราอาจจำแนกสารเมีเหล่านี้ ออกตามลักษณะของวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ทำลายคือ
Algicides เป็นสารเคมีที่ใช้ในการควบคุมสาหร่ายหรือตะไคร่น้ำต่าง ๆ ในทะเลสาบ ลำคลอง ถังเก็บน้ำ สระว่ายน้ำ และอื่น ๆ
Antifouling agents เป็นสารเคมีที่ใช้ในการฆ่าหรือขจัดจุลินทรีย์ต่าง ๆ ที่อยู่ใต้ผิวน้ำ เช่น น้ำในท้องเรื่อขนาดใหญ่ ไม่ให้เกิดความสกปรก
Antimicrobials เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าจุลินทรีย์ต่าง ๆ เช่น แบคทีเรียและไวรัส
Attractants เป็นสารเคมีที่ใช้ในล่อ เช่น ล่อแมลง หรือหนูให้มาติดกับ (อาหารที่นำมาล่อหนูไม่จัดว่าเป็นสารเคมีกำจัดศัตรูพืช)
Disinfectants and Sanitizers เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าหรือป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเจริญ หรือแพร่ขยายบนวัตถุหรือสิ่งของที่ไม่มีชีวิต เช่น ใช้กับพื้นคอกสัตว์ หรือห้องน้ำ เป็นต้น
Fungicides เป็นสารเคมีที่ใช้กำจัดเชื้อรา
Fumigants เป็นสารเคมีที่เป็นแก๊ส หรือไอระเหย เพื่อใช้ในการกำจัดทำลายศัตรูพืชต่าง ๆ ในอาคารหรือในดิน
Herbicides เป็นสารเคมีที่ใช้ในการกำจัดวัชพืชหรือพืชที่เราไม่ต้องการ Insecticides เป็นสารเคมีที่ใช้กำจัดแมลงต่าง ๆ Miticides หรือ Acaricides เป็นสารเคมีที่ใช้กำจัดไรในพืชหรือ เห็บ ไร ในสัตว์เลี้ยง
Microbial Pesticides เป็นจุลินทรีย์ที่ใช้ฆ่าหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของแมลงศัตรูพืช รวมถึงแมลงและจุลินทรีย์อื่น ๆ ด้วย
Molluscicides เป็นสารเคมีที่ใช้ในการฆ่าหอยและหอยทาก Nematicides เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าไส้เดือนฝอยในพืชหรือพยาธิต่าง ๆ ในคนและสัตว์ Ovicides เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าไข่ของแมลงและไข่เห็บ เหา ไร Pheromones เป็นสารที่ใช้ล่อแมลงเพศตรงข้าม Repellents เป็นสารที่ใช้ในการไล่แมลงศัตรูต่าง ๆ เช่น ไล่ยุง หรือไล่นก Rodenticides เป็นสารเคมีที่ใช้ในการป้องกันและกำจัดหนู
แม้ว่าสารเคมีดังกล่าวมานี้จะเป็นประโยชน์ แต่ขณะเดียวกันก็มีอันตรายอย่างยิ่ง หากใช้และเก็บรักษาไม่ถูกวิธี
ดังนั้น เพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้ผู้อยู่อาศัย และสัตว์เลี้ยง ควรปฏิบัติดังนี้
1. วิธีการที่จะลดความเสี่ยงอันตรายจากสารเคมีเหล่านี้ที่ดีที่สุด ก็คือ หลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้เลย ด้วยการขจัด ปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดของแมลง สัตว์ และโรคที่เป็นศัตรูของผู้อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยง ด้วยการรักษาความสะอาด ที่อยู่อาศัย และบริเวณรอบ ๆ เช่น ทำลายแหล่งน้ำ อาหาร ที่อยู่อาศัย และแหล่งขยายพันธุ์ ของแมลงและสัตว์ศัตรูต่าง ๆ เป็นต้น
2. เมื่อท่านตัดสินใจที่จะใช้สารเคมี ต้องอ่านฉลากข้างภาชนะบรรจุให้ละเอียดทุกครั้งก่อนใช้
3. ใช้สารเคมีให้ถูกกับชนิดของศัตรู และวัตถุประสงค์หรือชนิดของงานในประมาณที่ถูกต้อง อย่าคิดว่าการใช้สารเคมีมากกว่าปริมาณที่ถูกต้อง หรืออย่าคิดว่าการใช้สารเคมีมากกว่าปริมาณที่ฉลากระบุ จะให้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. สวมเครื่องป้องกันตัวขณะให้สารเคมี เช่น สวมเสื้อผ้าที่มิดชิดใส่ถุงมือ หรือใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก เป็นต้น เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างมือให้สะอาดทันทีภายหลังจากการใช้สารเคมี
5. ก่อนที่จะใช้สารเคมี (ภายนอกและภายในอาคาร) ต้องให้เด็กหรือผู้อยู่อาศัยออกจากบริเวณนั้น รวมทั้งสัตว์เลี้ยงและของเล่นต่าง ๆ ของเด็กต้องนำออกให้พ้นด้วย จนกระทั่งสารเคมีนั้นแห้งหรือปฏิบัติตามคำแนะนำในฉลาก
6. อย่าฉีดพ่นสารเคมีภายนอกขณะที่ลมแรงหรือมีฝนตก ระวังอย่าให้สารเคมีหก หรือรั่วไหลลงในสนามหรือสระว่ายน้ำ หรือบริเวณบ้านของเพื่อบ้านข้างเคียง
7. ขณะที่ใช้สารเคมีภายในบ้าน ต้องปิดครอบอาหารให้มิดชิดหรือนำออกนอกบริเวณที่ใช้สารเคมี
8. ถ้าหากท่านจ้างผู้อื่นใช้สารเคมีกำจัดศัตรูในบ้านท่านเช่น กำจัดปลวก โปรดสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของสารเคมีที่ใช้และข้อกำหนดต่าง ๆ ที่จะต้องปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย และสัตว์เลี้ยงจากผู้รับจ้างโดยละเอียด
9. อย่าซื้อสารเคมีมาเก็บไว้ที่บ้านท่านเกินความจำเป็น และเมื่อใช้หมดแล้วต้องทำลายหรือทิ้งภาชนะบรรจุให้ถูกวิธี หรือ ปฏิบัติตามที่ฉลากระบุ
10. ควรมีเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินของสถานพยาบาลท่านสามารถติดต่อได้ทันที ในกรณีที่ท่านหรือบุคคลผู้อยู่อาศัยเจ็บป่วยจากสารเคมี และต้องทำภาชนะบรรจุสารเคมีนั้นไปให้แพทย์ด้วย
ท่านทราบหรือไม่ว่า การใช้สารเคมีในที่อยู่อาศัยมีผลกระทบต่อสุขภาพของทารก และเด็ก ซึ่งเป็นลูกหลานของท่านเพียงใด ทารกและเด็กมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ จากการใช้สารเคมีภายในบ้านมากที่สุด ด้วยเหตุผลปลายประการคือ
1. ต่อมและอวัยวะภายในกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและการเจริญเติบโต สารเคมีบางชนิดมีผลต่อการพัฒนาการเจริญเติบโตของทารากและเด็ก ซึ่งอาจเข้าไปปิดกั้น (Blocking) การดูดซึมธาตุอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตตามสภาพปกติ หรือทำให้ระบบการขับถ่ายผิดปกติ ทำให้ร่างกายไม่สามารถขับถ่ายสารเคมีออกจากร่างกายได้ตามปกติ เกิดการสะสมในร่างกายมากขึ้น อาจทำให้เกิดความพิการต่อระบบต่าง ๆ ของร่ายกาย หรือการเจริญเติบโตได้
2. โดยสัดส่วนความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของร่างกายกับน้ำหนัก ทารกและเด็กจะกินอาหารและดื่มน้ำมากกว่าผู้ใหญ่ จึงเป็นโอกาสที่ทำให้ได้รับสารเคมีจากอาหารและมากกว่าผู้ใหญ่
3. ด้วยลักษณะพฤติกรรมการเล่นของทารกและเด็ก บนพื้นหรือสนามหญ้า การใส่สิ่งของเข้าปาก หรืออมเล่น ทำให้มีโอกาสได้รับสารเคมีที่ใช้ในบ้านหรือสนามหญ้ามากกว่าผู้ใหญ่
ท่านมีวิธีการง่าย ๆ ที่จะป้องกันทารกและเด็กของท่าน ให้ปลอดภัยจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายในบ้านหรือรอบบ้านท่านได้โดย
1. เก็บสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหรือสารเคมีต่าง ๆ ที่ใช้ในบ้านให้ห่างไกลจากเด็กหรือเก็บไว้ในตู้ล๊อกที่ปลอดภัย
2. อ่านฉลากก่อนใช้สารเคมีอย่างละเอียดก่อนให้ เพราะสารเคมีกำจัดศัตรูพืชผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับสัตว์เลี้ยง อาจมีอันตราย หรือใช้ไม่ได้ผลหากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปหรือน้ำเกินไป
3. ก่อนใช้สารเคมีใด ๆ ในบ้าน ต้องนำทารกเด็ก และสัตว์เลี้ยงรวมกับของเล่นต่าง ๆ ของเด็กออกจากบริเวณที่ ใช้สารเคมีจนกว่าสารเคมีจะแห้งหรือปฏิบัติตามที่ฉลากระบุ
4. หากมีเหตุให้ต้องหยุดทำงานขณะใช้สารเคมี เช่น หยุดรับโทรศัพท์ ต้องปิดฝาภาชนะบรรจุเคมีภัณฑ์นั้น และนำออกให้พ้นเด็ก ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่บรรจุในภาชนะที่ป้องกันเด็กได้
5. อย่างเปลี่ยนถ่ายสารเคมีที่ใช้ในบ้าน ใส่ในภาชนะที่เด็กคุ้นเคยในการบรรจุอาหารเช่น ขวดน้ำหวาน หรือกล่องบรรจุขนมหวาน โดยเด็ดขาด ต้องเก็บเหยื่อพิษที่ใช้กำจัดแมลงและหนูให้พ้นมือเด็ก
6. เมื่อจะทายาไล่แมลงหรือแก้แมลงกัดต่อยที่ตัวเด็ก ต้องอ่านฉลากก่อนการใช้ให้ละเอียด ไม่ควรทาตรงบริเวณที่เป็นแผล ผิวหนังที่อ่อนบาง ตา ปาก และมือ หรือบริเวณหน้า ควรทาบริเวณเฉพาะที่เท่านั้น อย่าทาในบริเวณร่มผ้า (สารไล่แมลง)
7. หมั่นล้างมือของเด็ก ขวดน้ำขวดนม และของเล่นเด็กบ่อย ๆ ทำความสะอาดที่ขอบประตูหน้าต่าง และพื้นผิวต่าง ๆ เช่น ฝาผนังที่เด็กเกาะสัมผัสได้ เพื่อลดความสกปรกจากฝุ่นละอองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงฝุ่นละอองของสารเคมีด้วย
8. นำเด็กไปตรวจสอบสารตะกั่วในร่างกาย หากท่านสงสัยว่าเด็กของท่านอาจได้รับสารตะกั่วเข้าไป
9. ไม่ซื้อของเล่นเด็กที่มีสารตะกั่วหรือสารปรอทเจือปน
10. สอนให้เด็กรู้จักว่าสารเคมีต่าง ๆ ในบ้านหรือยาพิษบางสิ่งบางอย่างไม่ควรแตะต้องหรือสัมผัส และควรบอกผู้ดูแลเด็กหรือปู่ย่าตายายที่เลี้ยงเด็กให้ทราบด้วย
จึงอย่าลืมว่าสารเคมีที่ใช้ในบ้าน เพื่อกำจัดศัตรูพืชผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับสัตว์เลี้ยง มีประโยชน์ หากใช้อย่างถูกต้องและมีโทษอย่างมหันต์ หากใช้และเก็บไม่ถูกต้อง พึงระลึกไว้เสมอว่าสารเคมีเหล่านั้นคือยาพิษ อย่างประมาทจะได้ไม่ต้องมาเสียใจกันในภายหลัง
-------------------------------------------
ข้อมูล USEPA : United states Environmental Protection Agency
โดย ศักดา ศรีนิเวศน์ สถาบันบริหารศัตรูพืชโดยชีวภาพ biology01@doae.go.th ที่มา //www.doae.go.th/report/sukda/securities_inhome.html
Create Date : 05 พฤศจิกายน 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 12:55:22 น. |
Counter : 2765 Pageviews. |
|
|
|