Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
28 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
6 วิธีสร้างความเป็นอมตะ

ในวรรณกรรมคลาสสิกดังเช่นเรื่อง “SHE” ของ Sir Rider Haggard สาวสองพันปี
ในเรื่องรักษาความเป็นอมตะโดยการอาบ “ไฟศักดิ์สิทธิ์” ในโลกของวรรณกรรมแฟนตาซี
และภาพยนตร์หลายเรื่อง ดังเช่น นิยายและภาพยนตร์ ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์
รวมถึงโลกของวิทยาศาสตร์จริงๆ สมัยเก่าก่อน จนกระทั่งถึงยุคสมัยของ ไอแซก นิวตัน
มีเรื่องราวมากมายของการแสวงหาสิ่งที่เรียกกันว่า “PHILOSOPHER’ S STONE”
หรือ “หินนักปรัชญา” ซึ่งสามารถจะให้ความเป็นอมตะแก่ผู้ครอบครองได้

มาถึงปัจจุบัน เรื่องของไฟศักดิ์สิทธิ์และหินนักปรัชญา เป็นเพียงเรื่องของจินตนาการเท่านั้น
แต่ผู้ที่ต้องการความเป็นอมตะ ก็ยังไม่ยอมแพ้ และดูจะมีวิธีแปลกใหม่เกิดขึ้นมา
ซึ่งสร้างความหวังแก่คนปรารถนาความเป็นอมตะ ทว่า ความหวังนั้นจะมีโอกาสเป็นจริงแค่ไหน?

“มิติคู่ขนาน” วันนี้ จะนำท่านผู้อ่านไปสำรวจ 6 วิธีการสร้างความเป็นอมตะ ที่ไม่เกี่ยวกับ
ไฟศักดิ์สิทธิ์หรือหินนักปรัชญา และจะสำรวจด้วยว่าโอกาสจะเกิดขึ้นได้จริงมีมากน้อยเพียงใด



วิธีที่ 1 : เปลี่ยนอวัยวะ
การเปลี่ยนอวัยวะ เป็นวิธีการที่เป็นวิทยาศาสตร์อย่างยิ่ง ในการยืดอายุของมนุษย์
เพราะโดยหลักการแล้ว ร่างกายของมนุษย์ก็เปลี่ยนได้ทุกส่วน รวมไปถึงสมองด้วย

อย่างไรก็ดี ความเป็นอมตะ ถ้าหมายถึงการมีความรู้สึก ความทรงจำของเฉพาะตัวบุคคล
การเปลี่ยนอวัยวะไปเรื่อยๆ วันหนึ่งก็จะถึงขีดพรมแดนสุดท้ายว่า
จะเปลี่ยนอวัยวะต่อไปได้หรือไม่ ถ้ายังต้องการรักษาความรู้สึก ความทรงจำเฉพาะของตนอยู่

การเปลี่ยนอวัยวะจึงเป็นวิธีที่เป็นไปได้และกำลังเกิดขึ้นอยู่แล้ว ในการยืดอายุของคนคนหนึ่ง
แต่ก็จะไปไม่ถึงความเป็นอมตะที่แท้จริง




วิธีที่ 2 : การทำโคลนนิง
ถึงแม้ว่า จนกระทั่งถึงวันนี้ (เดือนก.พ. 2552) ก็ยังไม่มีการโชว์ตัวมนุษย์โคลนเป็นๆ
ให้เห็นกัน แต่สำหรับวงการวิทยาศาสตร์โดยทั่วไป ไม่มีข้อสงสัยว่า ไม่วันใดวันหนึ่งในอนาคต
ที่ไม่ไกลนัก จะมีการโชว์ตัวมนุษย์โคลนของจริงให้เห็นกันอย่างปฏิเสธไม่ได้

หลายคนคงมองมนุษย์โคลนว่า เป็นตัวตายตัวแทนของคนที่เป็นเจ้าของเซลล์ต้นแบบ และตาม
หลักพันธุกรรม มนุษย์โคลนก็จะมีลักษณะทางกายภาพเหมือนกับคนเจ้าของเซลล์ต้นแบบทุก
ประการ ดังนั้น จึงมีคนจำนวนหนึ่งมองว่า หรือการทำโคลนนิง
จะเป็นวิธีที่สามารถสร้างความเป็นอมตะให้กับมนุษย์อย่างเป็นรูปธรรม?

ทว่า ความจริงก็คือ มนุษย์โคลนก็เป็นเพียงแฝดแท้ของเจ้าของเซลล์ต้นแบบเท่านั้น
รูปร่างหน้าตาจึงเหมือนกับคนที่เป็นเจ้าของเซลล์ต้นแบบ ดังนั้นถ้าความเป็นอมตะหมายถึง
การรักษารูปร่างลักษณะทางกายภาพของคนคนหนึ่งให้คงอยู่ตลอดไป วิธีการทำโคลนนิงก็
สามารถสร้างความเป็นอมตะให้แก่มนุษย์ได้ แต่ก็เป็นความอมตะทางกายภาพเท่านั้น
ความรู้สึก ความทรงจำของมนุษย์โคลนก็เป็นของมนุษย์โคลนเอง มิใช่ของมนุษย์เจ้าของเซลล์ต้นแบบ และจึงยังไม่ใช่ความเป็นอมตะอย่างแท้จริง




วิธีที่ 3 : การถ่ายทอดความทรงจำ
ในนิยายวิทยาศาสตร์และภาพยนตร์วิทยาศาสตร์บางเรื่อง มีการใช้เทคโนโลยีที่ถ่ายทอดหรือ
ดึงดูดความทรงจำของคนคนหนึ่งให้กับอีกคนหนึ่งได้ ถ้าเทคโนโลยีการถ่ายทอดหรือดึงดูด
ความทรงจำระหว่างมนุษย์เกิดขึ้นได้จริง วิธีการหนึ่งของการมีชีวิตอมตะ คือ การรักษาความ
ทรงจำของคนคนหนึ่ง ให้คงอยู่ตลอดไป โดยที่คนซึ่งได้รับการถ่ายทอดความทรงจำ
อาจเป็นคนอื่นหรือแม้แต่เจ้าตัวเองที่ในระหว่างการถ่ายทอดความทรงจำ อาจทำกันเป็นสองทอด
ผลจึงอาจเป็นมนุษย์คนใหม่แต่มีความทรงจำของคนที่ต้องการความเป็นอมตะ
หรือถ้าถ่ายทอดความทรงจำเป็นสองทอดก็จะได้คนเก่าที่ร่างกายได้รับการซ่อมแซมใหม่
โดยวิธีการต่างๆ เป็นผู้ต้องการความเป็นอมตะคนเดิมกับร่างกายเดิมที่ยังเหลืออยู่

ประเด็นใหญ่ของวิธีการนี้มีอยู่ 2 อย่าง คือ เรื่องการถ่ายทอดความทรงจำ และเรื่องร่างกาย
ของเจ้าของความทรงจำ ในร่างกายใหม่ หรือร่างเก่า สำหรับเรื่องการถ่ายทอดความทรงจำ
ถึงแม้จะมีหลักฐานอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ว่า มนุษย์แต่ละคนล้วนมีความทรงจำในรูปของ
สัญชาตญาณแห่งความเป็นมนุษย์ ที่ทารกมนุษย์ทุกคนจะมีพฤติกรรมการแสดงออกเหมือนกัน
เสมือนหนึ่งการถ่ายทอดสัญชาตญาณผ่านยีนหรือพันธุกรรมของมนุษย์ แต่ก็ยังห่างไกลจากเรื่อง
การถ่ายทอดความทรงจำที่มนุษย์แต่ละคนสั่งสมขึ้นมา ที่มิใช่สัญชาตญาณแห่งความเป็นมนุษย์

ส่วนเรื่องของการรักษาหรือเปลี่ยนร่างกายของผู้ต้องการความเป็นอมตะ
เพื่อให้มีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ทางกายภาพ ก็จะทำได้เพียงระดับหนึ่ง มิใช่ตลอดไป...

ความเป็นอมตะจากการถ่ายทอดความทรงจำถึงขณะนี้ จึงยังเป็นเรื่องอยู่ห่างไกลออกไปในอนาคต




วิธีที่ 4 : การจำศีลด้วยวิธีการแช่เย็น
วันหนึ่งในอนาคต ถ้าเทคโนโลยีการแช่เย็นมนุษย์ ให้คงอยู่ในสภาพเดิมดังเช่น กบจำศีลอยู่นาน
หลายสิบหรือเป็นร้อยปี และสามารถจะปลุกให้ตื่นขึ้นมาได้จริง ก็จะเป็นวิธีที่ใกล้เคียงกับความเป็น
อมตะของมนุษย์อย่างหนึ่ง และเรื่องการแช่เย็นมนุษย์ให้คงอยู่ในสภาพจำศีลเป็นเวลายาวนาน ก็มีการศึกษากันอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ สำหรับการเดินทางของมนุษย์ไปในอวกาศที่ยาวไกล
ดังเช่น การเดินทางของมนุษย์สู่ดาวเสาร์หรือออกนอกระบบสุริยะของเรา
แต่ก็ยังเป็นเพียงการศึกษาในเชิงทฤษฎี เพราะถึงแม้ในปัจจุบันจะมีบางบริษัทในสหรัฐอเมริกา
เปิดบริการรับแช่เย็นร่างกายมนุษย์ให้คงอยู่ได้นานหลายปี และมีร่างของมนุษย์จริงๆ หลายคน
กำลังอยู่ในสภาพแช่เย็น... หรือแช่แข็ง แต่ทุกคนล้วนเป็นคนที่เสียชีวิตแล้ว
มิใช่คนยังมีชีวิตอยู่ ที่ถูกแช่เย็นให้อยู่ในสภาพจำศีลเพื่อให้ถูกปลุกขึ้นมาใหม่ในอนาคต

อย่างไรก็ดี เรื่องการแช่เย็นมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้เป้าหมายวันนี้จะมิใช่เพื่อความเป็นอมตะ
แต่ก็เป็นวิธีที่เป็นวิทยาศาสตร์และมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้จริง และเร็วกว่า 3 วิธีที่กล่าวไปแล้ว





วิธีที่ 5 : เป็นศิลปิน จิตรกร นักประพันธ์
โมสาร์ต บีโทเฟน โชแปง ลีโอนาร์โด ดาร์วินชี ไมเคิล แอนเจโล โฮเมอร์ เออร์เนสต์
เฮมิงเวย์ ฯลฯ ทุกคนล้วนเป็นศิลปินหรือจิตรกรในศิลปะการแต่งเพลงคลาสสิก การเขียนภาพ
การแกะสลัก และนักประพันธ์ ซึ่งจากโลกไปนานประมาณ 3,000 ปีมาแล้ว (เช่น โฮเมอร์)
หรือเมื่อกลางศตวรรษที่ 20 (เช่น เฮมิงเวย์) แต่ทุกคนล้วนเป็นอมตะด้วยผลงาน
ถึงแม้จะมิใช่ตัวตนคือร่างกาย

วิธีการที่จะเป็นอมตะอย่างแน่นอนวิธีหนึ่ง จึงเป็นวิธีการสร้างผลงานศิลปะ ที่มีคุณค่ายืนยงยาวนานตลอดกาล




วิธีที่ 6 : ชื่อเสียงหรือชื่อเสีย
ไอน์สไตน์ กาลิเลโอ ชาร์ลส์ ดาร์วิน นักวิทยาศาสตร์ที่คนทั่วโลกรู้จัก โสเครตีส
นักปรัชญาผู้ไม่กลัวความตาย แอนน์ แฟรงก์ เด็กหญิงชาวยิวผู้เขียนบันทึกบันลือโลก
ทุกคนล้วนตายจากไปแล้ว แต่ชื่อเสียงทุกคนยังคงอยู่ และจะคงอยู่อย่างเป็นอมตะไปอีกนาน
เพราะชื่อเสียงในด้านสร้างสรรค์ที่มีความสำคัญต่อมนุษยชาติ

จักรพรรดิเนโร ผู้เผากรุงโรม ฮิตเลอร์ จอมเผด็จการนาซี มุสโสลินี จอมเผด็จการฟาสซิสต์
ทุกคนล้วนตายจากไปแล้วเช่นกัน และชื่อของทุกคนก็ยังอยู่ ยังเป็นอมตะ
แต่เป็นความอมตะในด้านเลวร้าย...เป็นชื่อเสีย...มิใช่ชื่อเสียง ที่ถูกยกเป็นตัวอย่างเตือนสติคนทั้งโลกอยู่เป็นประจำ

โดยบทสรุปรวบยอด อย่างน้อยจึงมี 6 วิธีสร้างความเป็นอมตะให้เลือก
ทั้งวิธีที่ยังต้องรอพัฒนาการของวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าในอนาคต และวิธีที่... ทำได้ทันที!

โดย :ชัยวัฒน์ คุประตกุล
ที่มา โพสต์ทูเดย์



Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2552 19:20:57 น. 1 comments
Counter : 1265 Pageviews.

 
อืมมมมมม
สถิตชอบ แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
จะอมตะกันไปทำไมเนี้ย


โดย: brothervoohoo วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:15:52:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.