น้ำจืดจากน้ำทะเล (ราคาถูก)
ข้อมูลจากโครงการสิ่งแวดล้อมสหประชาชาติ ทำให้เราทราบว่าเกือบ 1 ใน 3 ของพลเมืองโลกนั้น ขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคและบริโภค ส่วนบ้านเรานั้น แม้ว่าในทางภูมิศาสตร์แล้วจะอยู่ในบริเวณที่มีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งสลับกันทุกปีจนกลายเป็นประเพณีไปแล้ว
บางพื้นที่ในหลายประเทศที่ประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำ หรือน้ำเป็นสิ่งหายากนั้น วิธีการเดียวที่จะให้ได้มา ซึ่งน้ำสะอาดสำหรับบริโภคก็คือการใช้กรรมวิธี Reverse Osmosis (RO) เพื่อเปลี่ยนน้ำทะเลหรือน้ำที่มีสัดส่วนของเกลือในปริมาณสูง ให้เป็นน้ำจืดที่สามารถดื่มกินได้โดยไม่เป็นอันตราย
แต่ ต้นทุนของการใช้กรรมวิธี RO นับว่าแพงเอาการทีเดียว และเป็นภาระที่หนักพอดูสำหรับประเทศยากจนทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาประเทศในแถบแอฟริกา ต้นทุนขั้นต่ำก็อย่างน้อย (ขอย้ำว่าอย่างน้อย) ก็ตกลูกบาศก์เมตรละ 20 บาทเข้าไปแล้ว ก็คงมีแต่ประเทศเศรษฐีน้ำมันเท่านั้นที่มีปัญญาจ่ายได้อย่างสบายใจ
แต่ล่าสุดนักวิจัยจากภาควิชาวิศวกรรมเคมีและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเยล (Yale University) ได้คิดค้นและพัฒนากรรมวิธีในการเปลี่ยนน้ำทะเล ให้เป็นน้ำจืดได้ด้วยต้นทุน ที่ต่ำกว่าวิธี RO มาก ซึ่งวิธีดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า Forward Osmosis
โดย ปกติแล้วต้นทุนของกรรมวิธี Reverse Osmosis นั้นจะมาจากค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งต้องอาศัยความดันที่สูงเกือบ 1,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (ความดันเทียบเท่ากับการดำน้ำลึกประมาณ 700 เมตร) ผ่านเยื่อกรองพิเศษที่มีคุณสมบัติเป็น “เยื่อเลือกผ่าน” (Semipermeable Membrane) ซึ่งจะกรองเอา “เกลือ” หรือโมเลกุลของแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.0001 ไมครอนออกไป จนได้น้ำสะอาดในที่สุด
ต้นทุนอีกส่วนหนึ่ง ยังมาจากค่าใช้จ่ายในการกำจัดสิ่งที่เหลือจากกระบวนการ RO ซึ่งก็คือ น้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงมาก (ประมาณ 50-65% โดยปริมาตรของน้ำทะเลที่นำมาผ่านกระบวนการ) และเป็นปัญหาอย่างมากสำหรับพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลทะเล ซึ่งไม่สามารถทิ้งกลับลงไปในทะเลได้ และการทิ้งในแผ่นดิน ก็ทำให้น้ำใต้ดินได้รับการปนเปื้อนจากเกลือที่มีความ เข้มข้นสูงนี้ได้
สำหรับ วิธี Forward Osmosis นั้นนักวิจัยไม่จำเป็นต้องใช้ความดันสูงดันน้ำผ่านเยื่อกรอง แต่ใช้สารละลายแอมโมเนียที่มีการอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป ซึ่งมีความเข้มข้นสูงกว่าน้ำทะเลที่จะนำมาผ่านกระบวนการถึงกว่า 10 เท่า โดยบรรจุสารละลายดังกล่าวไว้อีกด้านหนึ่งของเยื่อกรอง
เมื่อ ความเข้มข้นของสารละลายแอมโมเนียมีความเข้มข้นมากกว่าโมเลกุลของน้ำ (H2O) ในน้ำทะเล ซึ่งอยู่ทางอีกฝั่งของเยื่อกรอง จะพยายามไหลผ่านมาทางด้านของสารละลายที่มีความเข้มข้นมากกว่า เพื่อเจือจางให้มีความเข้มข้นน้อยลง
จาก นั้นนักวิจัยจะนำเอาสารละลายดังกล่าว (ซึ่งดึงดูดเอาโมเลกุลของน้ำจากน้ำทะเลมา) มาให้ความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 58 องศาเซลเซียส เพื่อระเหยเอา แอมโมเนียและคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำจืดที่สามารถนำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคได้
อย่างไรก็ดีอัตราการผลิตน้ำจืดที่ได้ยังเป็นรอง กรรมวิธี RO อยู่เล็กน้อย และเยื่อกรองที่มีขายอยู่ในท้องตลาด ณ ขณะนี้นั้นเมื่อนำมาใช้กับกระบวนการ Forward Osmosis แล้ว สามารถกำจัดเกลือได้ประมาณ 95-99 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้าจะให้ปลอดภัยไร้กังวลสำหรับการนำมาดื่มนั้น ต้องทำให้ได้ถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนักวิจัยเองก็กำลังหาทางเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการ Forward Osmosis นี้อยู่
ข้อมูลจาก เดลินิวส์ ที่มา : //artsmen.net
Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2553 16:56:38 น. |
|
0 comments
|
Counter : 5191 Pageviews. |
|
|
|
|
|