Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
13 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
เหตุผลในการสร้างพีระมิด



ถึงแม้โลกโบราณจะมีสิ่งมหัศจรรย์ 7 สิ่ง ซึ่งได้แก่ ประภาคารแห่ง Alexandria รูปปั้นแห่งเกาะ Rhodes
สวนลอยแห่ง Babylon วิหารแห่ง Artemis ที่ฝังศพแห่ง Helecarnassus รูปปั้นของเทพ Zeus
และพีระมิดแห่งอียิปต์ก็ตาม แต่ก็มีพีระมิดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ที่ยังคงสภาพอยู่จนทุกวันนี้
เพราะสิ่งมหัศจรรย์อีก 6 สิ่งนั้นได้ล่มสลายและสลักหักพังไปจนหมดสิ้นแล้ว

ณ วันนี้ โลกรู้ว่าพีระมิดที่ใหญ่ที่สุด และมีชื่อเสียงที่สุดคือ มหาพีระมิดแห่ง Giza
ซึ่งกษัตริย์ Khufu ได้ทรงสร้างขึ้นเมื่อ 4,550 ปีก่อนนี้ ตัวพีระมิดทำด้วยหิน โดยมีฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส
ที่มีด้านยาวด้านละ 230 เมตร และประกอบด้วยหินสองล้านสามแสนก้อน ทำให้หนักประมาณ 6 ล้าน 5 แสนตัน
ตัวพีระมิดสูง 146 เมตร มันจึงเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก
จนกระทั่งสถิติความสูงได้ถูกลบโดยหอ Eiffel ในปี พ.ศ. 2430

การศึกษาพีระมิดทำให้เรารู้ว่า ภายในพีระมิดมีห้องลึกลับและมีทางเดินที่คับแคบ
ซึ่งห้องเหล่านั้นเคยใช้เป็นที่เก็บมัมมี่ขององค์ฟาโรห์ มเหสีและมหาสมบัติมากมาย การมีขนาดใหญ่มโหฬารมาก
ทำให้ชาวอาหรับในสมัยโบราณเรียกพีระมิดว่า มหาบรรพตแห่งองค์ฟาโรห์
และเมื่อ 200 ปีก่อนนั้น ใครก็ตามที่ได้ไปเยือนอียิปต์ มักจะถือโอกาสไต่พีระมิดขึ้นไปจนถึงยอด
ปัจจุบันกิจกรรมนี้เป็นที่ต้องห้ามแล้ว เพราะนักท่องเที่ยวอาจเป็นอันตรายจากการตกพีระมิดตายได้

คำถามหนึ่งที่คนทุกคนที่รู้จักพีระมิดมักถามคือ คนอียิปต์โบราณสร้างพีระมิดได้อย่างไร
และสร้างมันขึ้นด้วยเหตุใด และทำไมจึงต้องมีรูปแบบนั้น

ในความเป็นจริง คนอียิปต์มิได้เป็นชนชาติเดียวเท่านั้นที่รู้จักสร้างพีระมิด ใน Sudan ก็มีพีระมิด
ใน Mexico ชน Aztec ก็สร้างพีระมิดเช่นกัน และแม้แต่ในอียิปต์เองก็มีพีระมิดอื่นๆ อีกราว 800 พีระมิด

ข้อสังเกตหนึ่งที่นักอียิปต์วิทยาสรุปได้จากการศึกษาพีระมิดคือ ผิวด้านข้างของพีระมิดที่สร้างในยุคแรกๆ นั้น
มิได้ราบเรียบ แต่มีลักษณะเป็นขั้นบันได เสมือนจะให้กษัตริย์ได้ใช้ดำเนินขึ้นไปเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์
ดังที่ฟาโรห์ Djoser ได้ทรงสร้างพีระมิดขั้นบันไดขึ้นที่ Saqqara เมื่อ 4,680 ปีก่อนนั้น

ตามปกติคนอียิปต์นั้นมีความเชื่อว่า ฟาโรห์คือเทพเจ้าผู้เป็นทั้งแม่ทัพ ผู้พิพากษา
และเป็นผู้พิทักษ์รักษาทรัพย์สมบัติของแผ่นดินทั้งมวล
พูดง่ายๆ คือ พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจคนทุกคนในประเทศ
ดังนั้น ในการสร้างพีระมิดแต่ละลูก คนงานที่ลากหินมาสร้างพีระมิดจึงไม่ใช่ทาส
แต่เป็นชาวนา ชาวไร่ผู้มีความเชื่อว่า สิ่งที่ตนกำลังทำนั้น มีส่วนช่วยให้องค์ฟาโรห์ได้ไปจุติบนสวรรค์
และเมื่อถึงเวลาที่ตนจะจากโลกนี้ไปบ้าง เทพฟาโรห์ก็จะได้พิทักษ์ปกป้องตนต่อไป

เพราะพีระมิดที่สร้างเมื่อ 4,000 ปีก่อน ยังตั้งตระหง่านอยู่ได้จนทุกวันนี้
ความยืนยงคงกระพันของพีระมิดได้ทำให้ชาวอียิปต์มีคำกล่าวว่า
ถึงแม้เวลาจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เวลาก็มิอาจทำลายพีระมิดได้

ตัวพีระมิดแห่ง Giza ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ Nile
เพราะชาวอียิปต์ถือว่าดินแดนในทิศตะวันตกคือ ดินแดนสำหรับคนที่ตายไปแล้ว
ดังนั้น เมื่อดวงอาทิตย์ตกทางทิศตะวันตก ดวงอาทิตย์จึงได้ติดตามเหล่าวิญญาณไป
ส่วนองค์ฟาโรห์นั้น พระองค์คือเจ้าชีวิตของประชาชนที่คนทุกคนอาจตายแทนได้

ความจริงคำว่า pharaoh แปลว่า บ้านหลังใหญ่ คำๆ นี้ในระยะแรกจึงหมายถึงปราสาทไม่ใช่กษัตริย์
และการสร้างพีระมิดสำหรับเก็บพระศพ หากสร้างใหญ่มาก ก็ต้องใช้เวลานานหลายปี
ซึ่งองค์ฟาโรห์อาจสิ้นพระชนม์ก่อน นอกจากนี้การสร้างใหญ่เป็นการลงทุนที่มหาศาล ที่ต้องใช้คนและทรัพย์มาก
ซึ่งจะทำให้ความเป็นอยู่ของผู้คนลำบากมาก แต่ครั้นจะสร้างเล็กก็ดูไม่สมศักดิ์ศรีเลย

การศึกษาประวัติศาสตร์ของอียิปต์ทำให้เราทุกวันนี้รู้ว่า เวลาฟาโรห์สิ้นพระชนม์
พระนักบวชจะนำพระศพล่องเรือไปยังสถานศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทำมัมมี่ก่อนแล้วจึงเอาผ้าลินินขาวพันพระศพ
จากนั้นอีก 70 วันต่อมา พระนักบวชก็จะทำพิธีฝังพระศพ โดยให้สตรีในราชสำนักนุ่งขาวแล้วส่งเสียงร้องไห้
พร้อมกับโยนทรายไปในอากาศ จนกระทั่งถึงพีระมิด พระก็จะนำพระศพเข้าไปข้างในห้องลึกลับ
เพราะพระคิดว่าวิญญาณฟาโรห์ยังต้องการอาหารและเครื่องดื่มต่อ พระจึงนำอาหารวางไว้ด้วย
แล้วก็ปิดห้องลึกลับนั้นทันที เพื่อป้องกันขโมยที่จะมาปล้นราชสมบัติในภายหลัง

ในสมัยนั้น คนอียิปต์นิยมใช้เรือเป็นพาหนะสำคัญ เพราะยังไม่รู้จักใช้รถที่มีล้อ
และแม้แต่สุริยเทพ Re เอง ก็ทรงใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางข้ามท้องฟ้า ดังนั้น เวลาฟาโรห์สิ้นพระชนม์
ศพพระองค์ก็ทรงเดินทางด้วยเรือเช่นกัน
ดังที่ปรากฏในปี พ.ศ. 2497 ได้มีการขุดพบเรือศพของฟาโรห์ Khufu ใกล้พีระมิดที่พระองค์ทรงสร้างนั่นเอง

ในการสร้างพีระมิดทุกครั้ง ฟาโรห์ต้องวางแผนก่อสร้าง รวมทั้งสถานที่ตั้งด้วย
โดยมีหลักการง่ายๆ ว่า พีระมิดที่จะสร้างใหม่ต้องอยู่ใกล้แม่น้ำ เพื่อความสะดวกในการขนหิน

ชนิดของหินก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน
เพราะพีระมิดมีหลายชั้น การใช้หินที่ไม่แข็งแรงอาจทำให้พีระมิดทรุดตัวลงได้

ณ วันนี้ ไม่มีใครรู้แน่ชัด 100% ว่า ชาวอียิปต์โบราณสร้างพีระมิดอย่างไร เมื่อ 2,500 ปีก่อนนี้
นักประวัติศาสตร์ชื่อ Herodotus ได้อ้างว่าฟาโรห์ใช้คนในการก่อสร้างพีระมิดมากถึง 100,000 คน
และนานถึง 20 ปี แต่นักเทคโนโลยีทุกวันนี้เชื่อว่า ตัวเลขกรรมกรขนหินน่าจะเป็นเพียง 4,000 คนมากกว่า
การที่ใช้คนจำนวนน้อยเช่นนี้ เพราะกรรมกรไม่ต้องทำงานทั้งปี คือเฉพาะเวลาน้ำในแม่น้ำไนล์ท่วมฝั่ง
ชาวนาและกสิกรจะว่างงาน จึงทิ้งนาเพื่อมาช่วยสร้างพีระมิดถวายแด่องค์ฟาโรห์ของตน

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อถึงยุคต่อมา
เหตุใดฟาโรห์ในระยะหลังๆ จึงไม่ได้สร้างพีระมิดให้ใหญ่ขนาดนั้นบ้าง
ในหนังสือชื่อ Theory and Pradice in Mediterranean Archaeology : Old World and New World Perspectives
ที่ Joyce Marcus เรียบเรียงและออกวางตลาดเมื่อเร็วๆ นี้ เธอได้อธิบายว่า
ในอดีตเราเคยเชื่อกันว่า พีระมิดแห่ง Giza คือหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ฟาโรห์ทรงสร้างขึ้น
เพื่อแสดงความเป็นมหาอำนาจ และความยิ่งใหญ่อลังการของอาณาจักรพระองค์
แต่ในความเป็นจริง พีระมิดขนาดใหญ่เป็นโฆษณาชวนเชื่อมากกว่า
เพราะการศึกษาประวัติศาสตร์อียิปต์ในยุคต่อจากฟาโรห์ Khufu แสดงให้เห็นว่า
ถึงฟาโรห์ในยุคหลังๆ จะมีพระราชสมบัติ และพระราชอำนาจยิ่งกว่า Khufu
แต่พระองค์ก็ทรงไม่ใช้ผู้คนและทรัพย์สิน ในการสร้างพีระมิดให้ใหญ่กว่า พีระมิดของ Khufu อีกเลย

ดังนั้น เราจึงได้คำตอบว่า Khufu สร้างพีระมิดขนาดมโหฬารขึ้นมาเพื่อให้ประเทศเพื่อนบ้านตื่นตาตื่นใจ
และศรัทธาในความเป็นอารยะของตน พีระมิดจึงเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อ ชวนศรัทธาในฟาโรห์เท่านั้นเอง

Marcus ยังได้บรรยายต่อว่า การสร้างพีระมิดให้ใหญ่กว่าพีระมิดแห่งพระอาทิตย์ที่ Teatihuacan ก็หยุดเช่นกัน
ถึงแม้กษัตริย์ Aztec มีอำนาจและอาณาจักรจะรุ่งเรืองกว่าเก่าก็ตาม

ดังนั้นในสายตาและมุมมองของ Marcus
พีระมิดจึงเป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับแสดงแสนยานุภาพของฟาโรห์ ให้คนอื่นยำเกรงเท่านั้นเอง

จึงสรุปได้ว่า ทุกวันนี้ก็เช่นกัน
การสร้างถาวรวัตถุที่มีขนาดใหญ่มักถือเป็นการแสดงบารมีของผู้สร้าง แต่มันก็หาใช่บารมีที่แท้จริงไม่


ที่มา : //www.ipst.ac.th/ThaiVersion/publications/in_sci/giza.html
ภาพจาก : //www.bbc.co.uk


Create Date : 13 มกราคม 2553
Last Update : 13 มกราคม 2553 17:37:55 น. 4 comments
Counter : 1544 Pageviews.

 
whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!


โดย: DA IP: 203.144.144.164 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:21:53 น.  

 
ขอบคุณครับ ที่เอามาให้อ่าน


โดย: bigjinbook วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:25:38 น.  

 
ใครเป็นคนสร้างพีระมิด


โดย: น้องpim IP: 203.144.144.164 วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:13:27:07 น.  

 
whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him


โดย: กฟ IP: 124.120.6.112 วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:0:19:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.