Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
20 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
มีอะไรในยาสีฟัน



มนุษย์ เรารู้จักการทำความสะอาดช่องปากมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ
หรือเมื่อ ประมาณ 5,000-3,000 ปีก่อนคริสตกาลแล้ว

โดยในยุคสมัยนั้น
ชาวอียิปต์ทำผงขัดฟันขึ้นมาจากขี้เถ้าจากกีบเท้าของวัว ผงเมอร์ ( myrrh ซึ่งเป็นยางไม้ชนิด หนึ่ง)
ผงเปลือกไข่เผาไฟและผงหินพัมมิช (pumice)
ขณะเดียวกันนั้นก็ไม่ได้มี เพียงแค่ชาวอียิปต์เท่านั้นที่สนใจเกี่ยวกับอนามัยในช่องปาก
ยังมีชาว จีน ชาวอินเดียโบราณและชาวเปอร์เซียน ที่รู้จักการทำผงขัดฟันขึ้นใช้ด้วย เหมือนกัน

ในศตวรรษที่ 18 การพัฒนาและปรับปรุงผงขัดฟันยุคใหม่ได้เริ่มขึ้น ในประเทศอังกฤษ
จากนั้นก็มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงปี 2491
บริษัทไลอ้อนประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ผลิตยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ได้สำเร็จเป็น รายแรกของโลก

โดยทั่วไป ยาสีฟัน ประกอบไปด้วยสารต่างๆดังต่อไปนี้

1.สารรักษาความชื้น (humectant) มีอยู่ประมาณ 15-70 เปอร์เซ็นต์
โดยสารนี้มี คุณสมบัติในการช่วยรักษาปริมาณน้ำในเนื้อยาสีฟัน ทำให้เนื้อยาสีฟันไม่แข็ง
เมื่อต้องอยู่ภายในหลอดที่เก็บไว้เป็นเวลานาน
สารที่นิยมนำมาใช้ คือ สารกลีเซอริน สารซอร์บิทอล สารไซลิทอล

2.น้ำ มีประมาณ 0-50 เปอร์เซ็นต์
เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้เนื้อยาสีฟันไม่แห้งแข็ง ยกเว้นผงขัดฟัน (tooth powders)

3.ผงขัดฟัน (Abrasive) มีประมาณ 10-50 เปอร์เซ็นต์
โดยผงขัดฟันนี้มีหน้าที่ในการขจัดเศษอาหารที่ตกค้าง รวมถึงคราบจุลินทรีย์ที่ติดอยู่บนฟัน
สารที่นิยมนำมาทำใช้ ได้แก่ อะลูมินา แคลเซียมฟอสเฟต แคลเซียมคาร์บอนเนต เกลือ หินพัมมิช
โซเดียมไพโรฟอสเฟต โซเดียมคาร์บอเนต เป็นต้น

4. สารลด แรงตึงผิวและสารแต่งกลิ่นรส (detergent and flavoragent)
สารสองชนิดนี้มี รวมกันแล้วประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์
โดยมีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบสกปรก ต่างๆ เช่น ไขมัน และทำให้เกิดเป็นฟองขณะแปรงฟัน
เหตุผลต้องใช้สารสองชนิด ร่วมกันก็เพื่อให้สารแต่งกลิ่น ช่วยกลบกลิ่นและรสของสารลดแรงตึงผิวนั่นเอง
ส่วนสารที่นิยมนำมาใช้ได้แก่ โซเดียมสเตียริลฟูมาเรต โซเดียมลอริ ลซัลเฟต โซเดียมสเตียริลแลกเทต

5.สารให้ความ หวาน (sweeteners) มีประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์
มีคุณสมบัติเพื่อช่วยทำให้ยาสีฟันมีรสชาติดีขึ้น สารที่นิยมนำมาใช้ได้แก่ สารแอสพาร์เทม

6.สาร ทำให้ข้น (thickeners) มีอยู่ประมาณ 0.4-2 เปอร์เซ็นต์
มีคุณสมบัติเพื่อ ช่วยให้เนื้อยาสีฟันเกาะติดกันได้ดี ไม่เหลวเละ
สารที่นิยม นำมาใช้ คือ คาร์ราจีแนน ยางเซลลูโลส โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส

7.ฟลูออไรด์ (fluoride) มี ประมาณ 0.15-0.24 เปอร์เซ็นต์
คุณสมบัติของสารชนิดนี้คือ เป็นสารที่ออกฤทธิ์ป้องกันฟันผุ ทำหน้าที่เคลือบชั้นเปลือกฟัน
เพื่อทำให้ฟันทนต่อกรดที่ เกิดจากแบคทีเรียในช่องปาก
สารที่นิยมนำมาใช้นั้นได้แค่ สแทนนัส ฟลูออไรด์ โซเดียมฟลูออไรด์ โซเดียมโมโนฟลูออไรด์


ที่มา ://www.vcharkarn.com/vblog/69473
ภาพจาก ://kostjatoldin.com/2009/06/


Create Date : 20 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 13:41:41 น. 0 comments
Counter : 1130 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.