ซูเปอร์มด
มดแดง (Oecophylla Smaragdina) มดที่เราทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในบ้านเรือนหรือสนามหญ้า และที่สำคัญที่สุดก็คือมดตัวน้อยตัวนี้ต่อยเจ็บ
เรื่องราวความน่าสนใจของแมลงตัวนี้ยังมีอีกมาก และที่สำคัญก็คือเป็นเรื่องราวที่ไม่คาดคิดว่ามันจะสามารถทำได้...
ลองมาทำความรู้จักกับสังคมมดกันสักเล็กน้อยก่อน แม้ว่าหลายคนจะรู้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า ในรังมด ประกอบไปด้วยมดอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ก็คือ มดงาน หรือมดแดง ที่ทำหน้าที่สร้างรัง หาอาหาร ซึ่งก็คือมดตัวเมียที่เป็นหมัน ชนิดต่อมาก็คือมดตัวผู้ที่เกิดมา ก็เพื่อผสมพันธุ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หลังจากทำหน้าที่ของมันเสร็จแล้วมันก็จะตาย
มดชนิดที่สำคัญที่สุดในรัง ก็คือ มดนางพญา หรือมดแม่รัง มดแดงตัวเมียที่สลัดปีกทิ้งหลังจากที่ได้รับการผสมพันธุ์ โดยมดนางพญามีความสามารถในการเก็บน้ำเชื้อมดตัวผู้ ซึ่งได้รับในขณะผสมพันธุ์เพียงแค่วันเดียวเท่านั้น แล้วนำมาใช้ได้ตลอดชีวิตของมด หน้าที่เดิมๆ ทุกวันก็คือ วางไข่โดยเฉลี่ยแล้ววันละกว่า 500 ฟอง อายุเฉลี่ยมดนางพญานั้นยาวนานกว่ามดงานทั่วไป อายุประมาณ 2-4 ปี ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่ในรังมดมีจำนวนประชากรมากมายเหลือเกิน และเรื่องที่เหลือเชื่อก็คือ มดนางพญา มีความสามารถในการกำหนดเพศของผึ้งที่จะฟักตัวออกมาได้อีกด้วย นั่นก็เป็นผลมาจากไข่ที่ได้รับการผสมจากเชื้อตัวผู้ จะเกิดเป็นมดตัวเมีย หรือมดงาน ส่วนไข่ที่ไม่ได้รับการผสม (ปล่อยน้ำเชื้อตัวผู้ออกมาน้อย) จะเกิดมาเป็นผึ้งตัวผู้ ดังนั้นโดยทั่วไป ที่ยังไม่ถึงฤดูกาลแห่งการผสมพันธุ์ เชื่อได้เลยว่าจำนวนประชากรมดตัวผู้คงมีไม่มากนัก เพราะยังไม่ถึงเวลาในการทำหน้าที่ และเป็นการสิ้นเปลืองอาหาร รวมไปถึงการดูแลความเรียบร้อยในรังอีกต่างหาก
มดแดง แบ่งเป็น มดแดงขนาดเล็ก มีขนาดตัวยาวประมาณ 5-6 มิลลิเมตร และมดแดงขนาดโต มีขนาดตัวยาวประมาณ 7-9 มิลลิเมตร ทั้งสองชนิดทำหน้าที่เป็นมดงานในรัง วงจรชีวิตมดแดงเหล่านี้กินเวลาประมาณ 30 วัน และมีอายุยืนยาว 3-4 เดือน นอกจากนั้นรังของมดแดงยังสามารถแบ่งเป็น 2 แบบ นั่นก็คือ รังถาวรและรังชั่วคราว
โดยรังถาวรนั้นถูกใช้เป็นที่เลี้ยงดูมดตัวอ่อน และที่เก็บสะสมอาหาร โดยการเลี้ยงเพลี้ยไว้กินน้ำหวานที่เพลี้ยขับถ่ายออกมา รังถาวรอาจมีจำนวน 20-45 รัง ส่วนรังชั่วคราวนั้นถูกใช้เป็นที่พักชั่วคราวในการออกหาอาหาร และเก็บสะสมอาหารสำรอง มีมากมายถึง 20-60 รัง โดยระหว่างรังจะมีทางเดินเชื่อมต่อกันอาณาบริเวณรัศมีประมาณ 30 เมตร หรือครอบคลุมพื้นที่มากมายถึง 2,400-3,800 ตารางเมตร
นอกจากพฤติกรรมการสร้างอาณาจักรที่สุดแสนกว้างใหญ่แล้ว เรื่องของอาหารก็สำคัญด้วยเหมือนกัน ยิ่งจำนวนประชากรมดที่มากมายนับหมื่นในรังด้วยแล้ว นั่นก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ
มดแดงกินอาหารเหลวจากพืชที่ขับออกมา ซึ่งเรียกว่าอาหารเหลว และอาหารแข็งที่ได้จากพืชและแมลงชนิดต่างๆ ตลอดจนสัตว์เล็ก โดยความจุในกระเพาะมดนั้นกินน้ำหวานได้ครั้งละ 1.2 มิลลิกรัม แต่ถ้าจะให้เสาะแสวงหาจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คงไม่เพียงพอสำหรับสมาชิกในรังจริงไหม?
พฤติกรรมอันสุดแสนฉลาดของมดแดงนั่นก็คือ การเลี้ยงแมลงเอาไว้กินน้ำหวาน ลองมาดูทำเนียบแมลงกันบ้างว่า เจ้ามดแดงเลือกเลี้ยงแมลงชนิดใดเป็นพิเศษ และมีสัดส่วนอย่างไรบ้าง
คุณสมบัติหลักของแมลงที่จะได้รับการเลี้ยงดูเป็นพิเศษ อันดับแรกก็คือ ต้องขับถ่ายน้ำหวานออกมาได้ ซึ่งก็คงไม่พ้นแมลงจำพวกเพลี้ยทั้งหลาย ยกตัวอย่างเช่น เพลี้ยหอยสีเขียว เพลี้ยอ่อนสีน้ำตาล เพลี้ยจักจั่นมะม่วง เพลี้ยแป้งส้ม จักจั่นเขา หรือแม้แต่หนอนผีเสื้อสีน้ำเงิน โดยมดจะใช้ปลายหนวดเคาะบนตัวเพลี้ย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เพลี้ยปล่อยน้ำหวานออกมาทางท่อ หรือต่อมบริเวณส่วนท้ายของร่างกาย
นอกจากจะกินน้ำหวานจากแมลงเหล่านี้แล้ว มันยังได้รับสิทธิพิเศษ นั่นก็คือมดแดงที่เป็นแมลงสุดแสนดุร้าย จะไม่ทำร้ายทำอันตรายเพลี้ยเหล่านี้ แถมยังคอยปกป้องดูแลเป็นอย่างดีจากศัตรูที่มารบกวน เท่านั้นยังไม่เพียงพอ ยังอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเพลี้ยเหล่านั้น ไปยังแหล่งอาหารใหม่ๆ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่อื่น และนั่นก็เป็นการได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่ายอย่างแท้จริง แถมยังปลอดภัยอย่างแน่นอนอีกด้วย
นอกจากอาหารเหลวเพียงอย่างเดียวแล้ว อาหารแข็งก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน และมีความยุ่งยากกว่าเสียด้วย เพราะต้องใช้แรงกำลังมหาศาลในการยกอาหารเหล่านั้นกลับเข้ามาในรัง ซึ่งก็เป็นภาพที่คุ้นตาสำหรับเราที่มักพบเห็นว่ามดตัวเล็กๆ กำลังแบกอาหารชิ้นใหญ่เบ้อเริ่ม เหยื่อซึ่งเป็นสัตว์หรือแมลงด้วยกันนั้นเองคืออาหารอันโอชะของมดแดง โดยเรียงลำดับความโปรดปราน จากความชอบมากที่สุดไปจนถึงน้อยที่สุดก็คือ แมลงปีกแข็งหรือด้วง หนอนผีเสื้อ ต่อ แตน ผึ้ง ตั๊กแตน จิ้งหรีด แมลงปอ ที่สำคัญคือต้องเป็นเหยื่อที่ใกล้เสียชีวิต หรือเสียชีวิตไปแล้วเท่านั้น ขนาดของแมลงที่มดแดงใช้เป็นอาหารอยู่ในช่วง 0.1-3.5 เซนติเมตร โดยเฉลี่ยแล้วมดแดงหนึ่งตัวจะสามารถขนของหนักประมาณ 2.8 มิลลิกรัม ถ้าหากจะเทียบกับน้ำหนักตัวอันเบาหวิวของมันแล้วก็ต้องบอกเลยว่า มันก็คือ ซูเปอร์มด นั่นเอง
เมื่อได้เห็นพฤติกรรมอันแปลกประหลาด และไม่น่าเชื่ออย่างนี้แล้ว ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ใช่ไหมว่า ทำไมประชากรที่มากมายนับไม่ถ้วนในรัง จึงมีอาหารการกินและความเป็นอยู่ที่สุขสบายเสียเหลือเกิน
ข้อมูลโดย : //www.posttoday.com ที่มา : //variety.thaiza.com
Create Date : 05 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 5 กรกฎาคม 2553 17:15:17 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2201 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ทามิคุอาลียะ IP: 49.230.248.199 วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:7:21:37 น. |
|
|
|
|
|