วิธีจัดการอารมณ์ในชีวิตคู่
คนสองคนเมื่อใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันไปนานๆ ความสดชื่นหอมหวานอาจจะค่อยๆ อันตรธานหายไป มีความรู้สึกใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ เป็นความรู้สึกที่จะเรียกว่าเย็นชาก็ไม่ใช่ น่าจะเรียกว่าเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้างก็แล้วกัน เมื่อความรู้สึกสดชื่นหอมหวานเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ก็ไม่จำเป็นต้องอารมณ์ค้างคา เพื่อหาเหตุผลแต่อย่างใด เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ที่ไม่น่าวิตกกังวลอะไร
นอกจากเรื่องความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว อีกเรื่องหนึ่งซึ่งพร้อมจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ทำความเข้าใจกับมันให้ดี เพราะมันจะมีความแปรปรวนได้ง่ายไม่ต่างจากคลื่นลมของทะเลคือเรื่อง อารมณ์
อารมณ์มนุษย์โดยทั่วไปมักจะไม่คงที่ ทั้งๆ ที่ทุกคนอยากจะเป็นคนที่มีอารมณ์ดี ด้วยกันทั้งนั้น
เมื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันใหม่ๆ เรามักจะมีอารมณ์ที่ดีกับคนที่อยู่ด้วย ถึงแม้บางครั้งอาจจะเกือบพลั้งเผลอ ทำให้อีกฝ่ายเจออารมณ์ที่ไม่ดีของเราเข้าได้ง่ายๆ เราก็มักจะทำให้มันมลายหายสิ้นไปได้ง่ายๆ โดยที่เราก็ไม่รู้ว่ามันหายไปได้ยังไง แต่พออยู่ด้วยกันไปนานๆ ส่วนจะนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและเหตุปัจจัยของแต่ละคู่ ที่เคยอยู่กันแบบอารมณ์ดีก็เริ่มชักจะมีอารมณ์เสียเข้ามาแทนที่ ชนิดที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง กว่าจะรู้ตัวบางทีก็อาจจะสายไปเสียแล้ว เปรียบเสมือนแก้วที่ร้าว ไม่ว่าจะใช้กาวอย่างดีแค่ไหนก็ยากที่สมานรอยร้าวให้เป็นเนื้อเดียวกัน
การจัดการอารมณ์ให้ได้จึงควรเป็นเป้าหมายของทุกชีวิตคู่
ถึงแม้จะจัดการไม่ได้เรียบร้อยร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ถ้าไม่ได้จัดการอะไรเลย มันก็จะหมักหมมจากอารมณ์เสียนิดๆ หน่อยๆ จนกลายเป็นอารมณ์เสียอยู่เป็นประจำ ย่อมทำให้เกิดปัญหาต่อชีวิตคู่แน่นอน
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้แล้วลองนึกถึงเวลาที่เราอารมณ์ไม่ดี จะเห็นได้ว่าไม่มีใครมีความสุข เราซึ่งเป็นผู้อารมณ์เสียก็มีความทุกข์ คู่ชีวิตของเราที่อารมณ์เสียก็มีความทุกข์ ตอนที่เราอารมณ์ไม่ดี เรามักไม่มีใครนึกถึง แต่เราจะปล่อยให้มันเกิดขึ้นแล้วก็ผ่านเลยไป อีกไม่นานก็จะเกิดขึ้นมาใหม่ จนกลายเป็นอารมณ์ไม่ดีซ้ำซากบางครั้งก็อาจจะยากแก่การเยียวยา
จึงน่ามาเรียนรู้หาวิธีจัดการกับอารมณ์กันดีกว่า เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาบานปลายในชีวิตคู่ เมื่อมีเหตุอะไรก็ตามที่จะทำให้อารมณ์ไม่ดีให้เริ่มต้นที่
1. เดินหนีจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การเดินหนี จะช่วยทำให้อารมณ์ที่เริ่มจะพลุ่งพล่านของทั้งสองฝ่ายเบาบางลง พออารมณ์อยู่ในภาวะปกติ การหาข้อยุติกันด้วยเหตุผลก็จะง่ายขึ้น การเดินหนีในกรณีนี้ไม่ใช่การหนีปัญหา แต่เป็นการเดินหนีเพื่อจะมีสติสัมปชัญญะกันมากขึ้น
2. นับหนึ่งถึงสิบ การนับหนึ่งถึงสิบในกรณีนี้หมายถึงการนับในใจ เมื่อคู่ไหนก็ตามอยู่ภาวะการณ์เผชิญหน้า ยากที่จะหาจังหวะเวลาและโอกาสเดินหนีจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เมื่อต้องเผชิญหน้าไม่ควรเอ่ยวาจาใดๆ ให้เป็นที่ระคายเคืองกันมากยิ่งขึ้น การนับหนึ่งถึงสิบในใจ จะช่วยให้อีกฝ่ายที่อยู่ในอาการเริ่มจะดุเดือด ค่อยๆ เหือดหายกระจายเป็นไอน้ำออกไปได้ไม่มากก็น้อย ฝ่ายที่อารมณ์กำลังจะเดือด ก็ต้องนับหนึ่งถึงสิบด้วยเช่นกัน เพื่อให้อารมณ์เข้าที่จะได้มีสติกลับคืนมา พอที่จะเอ่ยวาจาสนทนากันต่อไป
3. ฝึกสมาธิ บางครั้งอารมณ์ที่ไม่ดีของเราคอยเข้ามาหลอกหลอนเราอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่เรื่องที่เคยทำให้อารมณ์ไม่ดีมันยุติไปแล้ว เป็นเพราะว่าภายในจิตใจเรายังไม่ยอมยุติ ยังมีอะไรตกตะกอนนอนก้นอยู่ จึงทำให้จิตใจและอารมณ์ไม่ยอมนิ่ง สิ่งที่ดีที่สุดคือ การฝึกสมาธิ การฝึกสมาธิจะทำให้ตัวเองสงบ ถ้าตัวเองสงบ ก็จะไม่มีอารมณ์ไปรบทัพจับศึกกับคู่ของเราให้อารมณ์ขุ่นมัว
กลัวแต่ว่าฝึกสมาธิยังไงใจก็ไม่สงบ จะพบกับคำว่าตบะแตกซะก่อน จึงไม่ควรใจร้อน เวลาฝึกสมาธิค่อยๆ ฝึก ค่อยๆ ฝนจนเป็นนิสัย เหตุที่จะพาไปสู่อารมณ์ไม่ดีก็จะมีเกิดขึ้นได้น้อยเต็มที
สามวิธีการจัดการอารมณ์นี้คงมีส่วนช่วยให้หลายๆ ชีวิตคู่อยู่กันอย่างอารมณ์ดีบ้างตามสมควร อยากเชิญชวนให้ลองนำไปปฏิบัติดู จะได้รู้ว่าสวรรค์มีจริง เพราะคนอารมณ์ดีเหมือนมีสวรรค์อยู่ในใจยังไงยังงั้น
ข้อมูลโดย : //www.bangkokbiznews.com ที่มา : //www.elib-online.com
Create Date : 15 กรกฎาคม 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 15 กรกฎาคม 2553 14:46:34 น. |
Counter : 1152 Pageviews. |
|
|
|