ชีวิตคู่ อยู่ให้ยืด!

เหวยๆๆๆ ประกาศจ้า ประกาศ...หลังรอมาแสนนานในที่สุด
ไซง่อนก็กำลังจะได้แต่งงานกับเขาแล้ว (ฮิฮิ) แต่ก็มีเรื่องให้กลัวๆ กล้าๆ เหมือนกันนะ
เพราะการแต่งงานแม้จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือการใช้ชีวิตคู่ที่มีเรื่องต้องให้คิดอีกยาว..วว
โดยเฉพาะเป้าหมายที่จะได้อยู่ร่วมกันไปตลอดชีวิต
โชคดีค่ะที่ได้รับคำแนะนำดีๆ จากคนรอบข้างที่มีประสบการณ์ จึงอยากจะนำมาแบ่งปันผู้อ่านบ้าง

อ๊ะๆ ที่จะเล่าไม่ใช่แค่เรื่องรับฟัง เข้าใจ ใส่ใจ และเห็นใจ นั่นนะส่วนหนึ่ง
แต่นี่เป็นวิธีปฏิบัติจริงที่ผู้ชำนาญการด้านการครองเรือนกว่า 10-20 ปี ได้ชี้แนะ
ขอบอกว่า...บางเรื่องอย่างฮา (แต่เวิร์ค)

ชีวิตคู่มันต้องทำอย่างนี้
“ดีใจด้วยนะ”
“อ้าว...คิดดีแล้วเหรอ”
“แล้วจะรู้ว่านรกมีจริง 55+”
เป็นประโยคแรกๆ ที่มักได้ยินเมื่อเขารู้ว่ากำลังจะแต่งงาน ช่วงนี้จึงมีคนทักเยอะเลยค่ะ
แต่ละรายอารมณ์ก็ต่างกัน ส่วนใหญ่จะเน้นเพื่อความมันในอารมณ์เสียมากกว่า
และแน่นอนที่สุดหลังจากแซวกันจนสะใจ ก็ยังไม่ลืมทิ้งกลเม็ดในการครองเรือน
ให้อยู่ยืดอยู่ทนแถมท้ายกันเอาไว้ด้วย สรุปใจความตามนี้เลยค่ะ...


ใครใคร่ทำอะไรทำ
นี่เป็นประโยคที่แม่พูด ถ้าเรื่องที่พ่อทำไม่เดือดร้อนไม่ผิดศีลธรรมก็ทำไป
ส่วนแม่อยากทำอะไรก็ทำ บังคับใจกันแม่บอก “ไม่เวิร์ค” อีกทั้งอย่าไปคิดจำคิดเจ็บ ซึ่งไม่ดีมีแต่เครียด
ฉันเห็นเพื่อนบางคนยึดคติ “เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย” ท่องขึ้นใจหลายๆ รอบ...
ยิ่งท่องยิ่งเครียดและยิ่งเจ็บแค้น ในที่สุดก็เลิกร้างห่างกันโดยไม่คิดจะพูดคุยให้เข้าใจ


รอมชอม ผ่อนได้ผ่อน ผ่อนไม่ได้คุยให้เคลียร์ !
ด้านของป้าของที่ตั้งแต่แต่งงานมาดูจะเป็นคู่ที่มีความสุข ชีวิตคู่สุดเพอร์เฟ็คเล่าว่า
“เรื่องไม่ลงรอยกันก็มีแต่จะคุยกัน บางเรื่องป้าเกลียด เช่น เล่นหวย แต่ลุงชอบ
ป้าถือว่าเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่เล่นไพ่ ไม่เจ้าชู้ ดูแลครอบครัวดี
แค่นี้ก็ไม่จำเป็นต้องให้เขาเปลี่ยนอะไร ที่เหลือมันเรื่องเล็กน้อย มองสิ่งดีๆ ที่เขาทำให้ครอบครัวดีกว่า


เนื้อตัวสะอาดหอม All the time
เคล็ดลับอีกอย่างของป้าตั้งแต่แต่งงานจนป่านนี้ลูกอายุยี่สิบก็คือ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรอยู่ก็ตาม
ถ้าคุณสามีบอกว่าจะเข้านอน คุณป้าก็จะไปอาบน้ำแล้วเข้านอนทันที
ป้าบอกว่า “ใครๆ ก็ชอบคนเนื้อตัวหอมๆ นอนอยู่ข้างคนตัวเหม็นเรายังไม่ชอบเลย”


พูดจาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ด้านคุณพี่สุดสวยที่รู้จักกันมานาน ก็แนะว่าพูดจาให้ดี อย่ามีเสียงขุ่นเคืองไม่พอใจ
และอย่าตวาดเพราะอารมณ์ ที่สำคัญเมื่อไรที่คุณสามีตวาดใส่ คาถาที่ต้องท่องจำให้ขึ้นใจก็คือ
พูดออกไปว่า “นี่เมียนะ เมียมีไว้ให้รัก ไม่ได้มีไว้ให้ด่า ไม่ได้มีไว้ให้เกลียด”
ด้วยน้ำเสียงออดอ้อน เท่านั้นล่ะ พี่เขาบอกว่าอยู่หมัด สามีนิ่งสนิท ชีวิตดีขึ้นเป็นกอง


สามีถึงบ้าน น้ำท่ามา พี่ค่ะ พี่ขา บีบนวดเอาใจ
เป็นสูตรของพี่น้ำ พี่ชายใจดี ณ ที่ทำงาน บอกว่าทำตามนี้รับรอง สามีไม่หนีไปไหน
เพราะกลับมาบ้านก็ได้ยิ้มพิมพ์ใจ
ไม่ใช่เหนื่อยแทบตายต้องไปเจอสาวร่างยักษ์ หน้าหงิกยืนรอถามว่า “ทำไมเพิ่งกลับฮะ!”

ไซง่อน : แล้วสมมติว่าภรรยาเอาใจแล้ว แต่สามีก็ไม่ดีขึ้นล่ะคะ
พี่ชายใจดี : อันนี้แสดงว่าอยู่ที่สันดานส่วนบุคคล 55+

ออ...นอกจากนี้ยังมีข้อแนะนำ จากผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาเกี่ยวกับด้านการครองคู่ที่ขอนำมาเล่าด้วยค่ะ

หวานไม่จำกัดเวลา&ระยะทาง
ศ.ปีเตอร์ แฟรนเคล ผู้อำนวยการสถาบันครอบครัวศึกษาแอคเคอร์แมน ในกรุงนิวยอร์ก
แนะนำว่าเราควรทำอะไรให้กันแม้เวลาจะรัดตัว หรือแม้ไม่มีเวลาจะเจอกันก็ตาม

วิธีก็คือส่งแมจเสจสั้นๆ แต่เปี่ยมด้วยความห่วงใย
หรือส่งลิงค์เว็บไซต์ที่มีเรื่องราวตลกชวนหัวผ่านอีเมล์ให้แก่กัน
และจะแปลกอะไรหากจะเปลี่ยนจากการชวนกันไปกินข้าวแบบปกติเบสิคสไตล์
เป็นการส่งรูปร้านบรรยากาศดี ดนตรีไพเราะพร้อมข้อความตัวเล็กๆ แต่มีความหมายว่า
“เย็นนี้กินข้าวที่นี่กันนะจ๊ะ” ฮูยยย....ยย แค่คิดก็ขนลุกแล้ว


ต้องการอะไร...บอก (ให้นิ่มนวล)
ศ.จอห์น ก็อทท์แมน ผู้สถาบันก็อทท์แมน หรือเรียกว่า Love Lab
ได้นำการศึกษาจากประสบการณ์ของตนมาเป็นตัวอย่างค่ะ
ย้อนไปเมื่อครั้งที่ยังกระทบกระทั่ง อันเนื่องมาจากเขามักเอ่ยถ้อยคำที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์คุณภรรยา
ซึ่งมีภาระและงานบ้าน ทั้งยังต้องเลี้ยงดูลูกจนไม่มีเวลาให้ว่า
“คุณมันเป็นคนที่เข้าใจยาก ใครๆ ก็ต้องมาก่อนผมเสมอ นี่คุณเป็นอะไรของคุณฮะ?”
และคำพูดนี้เองที่ทำให้ภรรยาค่อยๆ ห่างเขาออกไปทุกที

ต่อมาเขาปรับคำพูดเสียใหม่ว่า “คุณรู้มั้ย ตอนนี้ผมรู้สึกว้าเหว่และโดดเดี่ยวเหลือเกิน
ผมเพียงแค่ต้องการให้คุณสละเวล าอยู่เคียงข้างผมในแต่ละวันบ้างเท่านั้น”
โป๊ะเชะ เชะ เชะ !! ได้ผลเกินคาดค่ะ ภรรยาของเขาหันมาใส่ใจ ปรนนิบัติพัดวีสามีประหนึ่งยามแรกรัก
คราวนี้คนที่หัวเราะลั่นยิ้มกริ่มมีสุขก็คงหนีไม่พ้น ศ.ก็อทท์แมนเองค่ะ
เขาบอกว่าคนเราส่วนใหญ่กลัวที่จะบอกความต้องการ และความรู้สึกของตนให้ผู้อื่นรู้
หากปรับตรงนี้ได้อะไรๆ ก็จะดีขึ้นค่ะ


ทีมเวิร์คสร้างสุขหลังลูกเกิด
ก็อทท์แมนและทีมงานพบว่า 67% ของคู่แต่งงานมีความสุขในชีวิตคู่ลดลงในช่วง 3 ปีแรกที่ลูกเกิด
และ ศ.ที เบอรรี่ ราเชลตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก
ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับช่วงเวลาแห่งความเครียด และสับสนในวัยเด็ก
“พ่อไม่มองว่าการที่ผมคลานลงบันไดเป็นเรื่องน่าตกใจ แต่แม่เสียงดังและทำท่าทีตกใจสุดขีด
แค่เหตุการณ์เล็กๆ ของพ่อแม่ที่ขัดแย้งกันยังทำให้ผมสับสนขนาดนี้
คงไม่ต้องนึกถึงเหตุการณ์ขัดแย้งที่รุนแรงเลยว่า จะส่งผลร้ายต่อลูกขนาดไหน”

ในเมื่อการทะเลาะเบาะแว้งมีผลต่อลูก ศ.ก็อทท์แมนเขาเลยชี้วิธีสร้างสุขให้ชีวิตคู่ หลังมีลูกว่
ควรอยู่ด้วยกันอย่างทีมเวิร์ค ถ้อยทีถ้อยอาศัย สามีต้องไม่มองว่าการมีลูกเป็นเรื่องลำบากเข็ญใจ
ช่วยงานบ้านในยามที่ภรรยาอุ้ยอ้าย หรือแบ่งเบาภาระการเลี้ยงดูอีกทั้งคิด ไตร่ตรองอย่างมีเหตุผล
เท่านี้บ้านก็เป็นบ้านแล้ว


ขยัน-เอา-เข้า-ไว้
สิ่งดีๆ ที่พบเจอจากเว็บไซต์ต่างๆ ยามที่ search คำว่า “เคล็ดลับการครองเรือน”
ไม่ว่าจะอยู่กันมานานแค่ไหนก็ตามจะต้อง “ขยัน เอา เข้า ไว้”
(ส่วนจะมีความหมายอื่นแฝงอยู่ในนี้หรือไม่ คงต้องพิสูจน์กันอีกที...ฮิฮิ)

ขยัน...มาจากขันติคืออดทนอดกลั้น ขยันทำมาหากิน เลี้ยงครอบครัว
ไม่กลัวลำบาก ยอมเหนื่อยยาก สร้างฐานะแบ่งเบาภาระตามหน้าที่

เอา...มาจากจาคะคือเสียสละ รู้แบ่งปัน สร้างสัมพันธ์ด้วยการเอาใจ ผูกไมตรีจิต
เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือตามสมควร มีน้ำใจแก่กันไม้เว้นวันเว้นคืน

เข้า...มาจากทมะคือข่มใจตัวได้ สร้างความเข้าใจผู้อื่น หยิบยื่นความเข้าใจแก่กัน สานสัมพันธ์ครอบครัว
ไว้...มาจากสัจจะคือซื่อสัตย์ต่อกัน ที่สำคัญคือไว้ใจไม่โกหกทั้งต่อหน้า และไม่นินทาแม้อยู่ลับหลัง

หวังใจไว้ว่าสูตรชีวิตคู่ อยู่ยืด ไม่มีทนนี้จะช่วยให้คุณๆ (รวมถึงตัวไซง่อนเอง)
มีความสุขในชีวิตคู่ได้ไม่ยาก ด้วยความห่วงใยจากไซง่อนเอง (ฮิฮิ)


ข้อมูลโดย นิตยสารรักลูก ปีที่ 27 ฉบับที่ 322
ที่มา : //www.elib-online.com
ภาพจาก : //www.fotosearch.com

Create Date : 23 มีนาคม 2554		0 comments
Last Update : 23 มีนาคม 2554 14:05:15 น.
Counter : 1046 Pageviews.
Share Tweet