iamZEON Blog : Comics , Anime และอีกสารพัดเรื่อง
|
||||
เรื่องของประสิทธิ์คนติดอ่าง
เพื่อน 4 คน ไปเที่ยวต่างประเทศ และพักอยู่บนชั้นที่ 62 ได้ลงมากินข้าวที่ล็อบบี้ เมื่อจะกลับขึ้นไปเผอิญลิฟท์เสีย จึงใช้บันได และเพื่อผ่อนคลายจึงตกลงผลัดกันเล่าตลกคนละเรื่อง พอถึงคิวประสิทธ์คนติดอ่างจะเอ่ยปากพูด เพื่อน ๆ ก็ห้ามไม่ให้เล่าจนทั้งหมดเดินมาถึงชั้น 29 จึงหมดเรื่องเล่า... ก็บอกว่า เอ้าประสิทธิ์ ถึงตาแกแล้วประสิทธิ์ ........ผม.....ผม.....จะ.....จะ.....บอก.....บอก.....ว่า.....ว่า.....ผม.....ผม ลืม....ลืม.....กุญ.....กุญ.....แจ.....แจ.....ไว้.....ไว้.....ที่.....ที่.....ล็อบ.....ล็อบ.....บี้.....บี้
พี่ชายกับน้องสาว
อุทาหรณ์จากเรื่องจริง.................ที่เกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว เหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว
เช้าวันหนึ่ง พี่ชายอายุ 15 น้องสาวอายุ 13 อยู่ในบ้านตามลำพัง 2 คนในวันหยุด "พี่ชายค่ะ พี่ชาย" น้องสาวเข้ามาในห้องพี่ชายด้วยความกระวนกระวาย "เกิดอะไรขึ้น" พี่ชายร้องทักด้วยความเป็นห่วงน้องสาว น้องสาวเอ่ยปากบอกพี่ชายด้วยความกังวลไปว่า "พี่ชายค่ะ เออ...คือว่า น้องรู้สึกว่ามีบางอย่างอะไรในตัวน้องเปลี่ยนไป" "มันเป็นงัยเหรอ" พี่ชายถามด้วยความสงสัย "น้องรู้สึกว่ามันกำลังจะใหญ่ขึ้นทุกวันๆ" "ใหญ่ขึ้นเหรอ" พี่ชายพูดพร้อมทำตาเบิกโพลงด้วยความสนใจแล้วเอ่ยปากว่า "ขอพี่ดูหน่อยได้ไหมจ๊ะ" พี่ชายดึงตัวน้องสาวลงมานั่งที่ขอบเตียง แต่น้องสาวได้เลื่อนมือมาปิดไว้เสียแล้ว "น้องเอามือออกซิ พี่ชายจะดูว่ามันใหญ่ขึ้นจริงมั๊ย" น้องสาวเลื่อนมือออกด้วยความเขินอาย "ทำไมใหญ่จัง" พี่ชายร้องด้วยความตกใจ พร้อมเอื้อมมือจะไปสัมผัส "พี่ชายจะทำอะไรน้อง" "พี่ชายแค่อยากสัมผัส ขอพี่จับได้ไหม" พี่ชายเอ่ยปากด้วยสายตาที่วิงวอน ด้วยความสงสารพี่ชาย น้องสาวจึงตอบไปด้วยความเต็มใจ "ได้ซิพี่ชาย" "สีชมพู เต่งตึง" พี่ชายพูดพร้อมคลึงไปพร้อมกัน เกินที่น้องสาวจะเก็บความรู้สึกไว้ได้จึงพูดโพลงออกมาว่า "อือออ......อาว.......พี่ชายจ๋า น้องทรมานเหลือเกิน" เมื่อพี่ชายได้ยินเช่นนั้นพี่ชายดึงร่างน้องสาวมานอนบนเตียง "นอนลงซิจ๊ะพี่ชายจะช่วยให้น้องหายทรมาน" "โอ๊ย...พี่ชายพอก่อน น้องเจ็บ" น้ำตาของน้องสาวไหลออกมาด้วยความเจ็บ ด้วยความสงสารพี่ชายจึงเอานิ้วคลึง เพื่อบรรเทาความเจ็บให้น้องสาว "หายเจ็บหรือยังจ๊ะ พี่ก็เพิ่งจะทำครั้งแรกนิ " พี่ชายถาม "ดีขึ้นแล้วจ๊ะ" น้องสาวตอบไปพร้อมเช็ดน้ำตาที่อาบแก้ม "งั้นพี่ทำเบา ๆ ก่อนน่ะ" น้องสาวพยักหน้าพร้อมรับสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น พี่ชายออกแรงกดช้า ๆ "อืออ....โอวววว...." น้องสาวร้องฟังไม่เป็นศัพท์ "อืออ....อูยย..ดีจังค่ะ พี่จ๋าของน้องจะแตกแล้ว แรงๆเลยจ๊ะ โอวว..." พี่ชายออกแรงกดตามเสียงร้องน้องสาว "โอวว...อูยยย... พี่จ๋าน้องไม่ไหวแล้ว จะแตก แตก....แตก..แตกแล้ว" พี่ชายพลิกตัวมานอนด้วยความเหนื่อยหอบ "พี่ชายดูซิ เลอะหน้าน้องหมดเลย แสบด้วย" น้องสาวตัดพ้อพี่ชาย พี่ชายหันมายิ้มพร้อมพูดว่า "ครั้งแรกไม่ใช่เหรอ มันก็ต้องเจ็บ ต้องแสบเป็นธรรมดา" "มีเลือดออกด้วย" น้องสาวร้องลั่นด้วยความตกใจ พี่ชายจึงพูดออกไปด้วยความรำคาญ "มันก็ต้องมีเลือดออกซิ สิวหัวช้างเม็ดใหญ่ขนาดนี้ ไม่ดูแลหน้าตาตัวเองเลยปล่อยให้เป็นสิวหัวช้างได้" เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ล้างหน้าทุกเช้าและก่อนนอน จะไม่เป็นสิวน่ะจ๊ะ" คำสารภาพ
ชายคนหนึ่งขับรถมาตามถนนพบแม่ชีนางหนึ่งกำลังเดินมาตามทาง เขาหยุดรถและทักทาย "ให้ผมไปส่งไหมครับซิสเตอร์"
"ไม่เป็นไรหรอก" แม่ชีตอบ แต่ชายคนนั้นก็ยังยืนกรานจะไปส่งให้ได้ ในที่สุดแม่ชีจึงตอบตกลง ในระหว่างที่ขับรถไปนั้นเขาจึงถามแม่ชีว่า "ซิสเตอร์,คุณเคยมีSex กับใครมาก่อนหรือเปล่า?" "ไม่" เธอตอบ" แต่ชั้นก็เคยคิดถึงมันบ้างในบางครั้ง ถ้าคุณต้องการทำกับฉันละก็ฉันอาจจะทำนะ ถ้าคุณมีคุณสมบัติตามกฏที่ชั้นตั้งไว้" ชายหนุ่มรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเขารีบตอบทันที "แน่นอนครับ,คุณสมบัติที่ว่าน่ะมีอะไรบ้าง" "อย่างที่1. คุณจะต้องยังไม่ได้แต่งงานชั้นไม่ต้องการทำลายคชีวิตแต่งงานของใคร" "ไม่ครับ, ผมยังไม่ได้แต่งงาน"ชายหนุ่มตอบ "อย่างที่2. เธอจะต้องยังไม่มีลูกชั้นยังไม่อยากทำลายครอบครัวของใคร" "ไม่ครับ, ผมยังไม่มีเด็กเลยซักคน"ชายหนุ่มตอบ "อย่างที่3. ชั้นจะมี Sexเฉพาะทาง ก้นเท่านั้นเพราะว่าชั้นต้องการรักษาความบริสุทธิ์อยู่" "แน่นอนครับ,ไม่มีปัญหาสำหรับผมเลย"ชายหนุ่มตอบ ดังนั้นทั้งสองจึงจอดรถเข้าข้างทางและ มี sex ด้วยกัน หลังจากเสร็จแล้วชายหนุ่มก็พูดขึ้นมา "ซิสเตอร์ครับ,ผมมีเรื่องจะสารภาพ" "มีอะไรล่ะ"แม่ชีถาม "เอ่อ......" ชายหนุ่มตอบ"ผมแต่งงานมาแล้ว20 กว่าปี" "อะไรน๊ะ" แม่ชีหวีดเสียงแต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็สงบลงได้ "ไม่เป็นไรฉันว่าเธอต้องไปวัดทุกวันอาทิตย์แล้วสวดมนต์ก็แล้วกัน" หลังจากขับรถไปได้สักพักหนึ่งชายหนุ่มก็พูดขึ้นมาอีกว่า "ซิสเตอร์ครับ,ผมมีเรื่องจะสารภาพอีกแล้ว" "อะไรอีกล่ะที่นี้"แม่ชีถาม "เอ่อ......"ชายหนุ่มพูด"ผมมีลูกสองคนแล้วครับ" แม่ชี เริ่มแสดงสีหน้าวิตกแต่ก็เหมือนครั้งแรก เธอบอกเขาว่าไม่เป็นไรให้เขาไปสวดมนต์ก็แล้วกัน ณ เวลาหนึ่งทั้งสองก็เงียบแม่ชีจึงพูดขึ้นมาว่า "เอ่อ......เธอนี่ไม่มีความซื่อสัตย์กับชั้นเลยอย่างไรก็ดีชั้นมีอะไรจะต้องสารภาพเหมือนกัน" ชายหนุ่มรู้สึกผิดกับการโกหกทั้งสองครั้งของเขา แต่ก็กระหายที่จะรู้ว่าแม่ชีจะสารภาพอะไร "ได้ครับ ได้ครับจะบอกอะไรผมหรือ?" "เอ่อ......"แม่ชีตอบ "ชั้นจะบอกว่าชั้นไม่ใช่แม่ชี ชั้นเป็นเกย์แล้วชั้นก็กำลังจะเดินทางไปงานเลี้ยงแฟนซีนะยะ" ยี่ห้อรถ บอกอะไร
BMW : = Bring More Women but Broke My Wallet .
CHEVROLET : = Can Hear Every Value Rap On Long Extended Trips. FIAT : = Failure in Italian Automotive Technology. FORD : = Fast Only Rolling Downhill. GM : = Garbage Motors. HONDA : = Hallmark Of Non-Destructable Automobiles (Yes!) HYUNDAI : = Hope You Understanding Nothing's Driveable And Inexpensive. SAAB : = Shape Appears Ass-Backwards. SUBARU : = Screwed Up Beyond All Repair Usually. TOYOTA : = Too Often Yankees Overprice This Auto. VOLVO : = Very Old Looking Vehicular Object. PORSCH : = Proof Of Rich Spoiled Children Having Everything โรคทรัพย์จาง (Moneyphilia)
โรคทรัพย์จาง มีศัพท์ทางวิชาการว่า MONEYHPILIA เป็นคำสมาสระหว่างคำว่า MONEY และ PHILIA มีลักษณะคล้ายกับโรค HEMOPHILIA ซึ่งโรค HEMOPHILIA
ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดไหลไม่หยุด และโรคชนิดนี้มิได้ติดต่อทางพันธุกรรม แต่ MONEYPHILIA เป็นโรคที่เงินไหลออกจากกระเป๋าไม่หยุด จนเกิดทรัพย์จางได้ โรคนี้มิได้ติดต่อทางพันธุกรรมเช่นกัน แต่ติดต่อกันเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีรายได้น้อย ถึงปานกลาง ซึ่งไม่สามารถจัดสรรรายได้ให้ได้สัดส่วนกับรายจ่าย ว่ากันง่าย ๆ ก็คือรายจ่ายมากกว่ารายได้นั่นเอง ในทุกวันนี้โรคดังกล่าวได้เริ่มระบาดในหมู่คนไทยที่มีรายได้น้อย ถึงรายได้ปานกลางมาสองสามปีแล้ว ทำให้ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต ตลอดจนบั่นทอนความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน บั่นทอนสุขภาพ บั่นทอนชีวิตครอบครัวและสังคมโดยร่วม ดังนั้น เราจึงควรศึกษารายละเอียดของโรคนี้ เพื่อหาวิธีหลีกเลี่ยงหรือป้องกันแต่เนิ่น ๆ ระยะฟักตัวของโรค (INCUBATION PERIOD) เชื้อจะเริ่มฟักตัวประมาณวันที่ 15 ของเดือน แต่ก็ไม่แน่ทุกคนไป เพราะบางคนเชื้ออาจจะเริ่มฟักตัวได้ตั้งแต่วันที่ 5 ของเดือนก็มี และบางรายอาการรุนแรงจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ของเดือนทีเดียว อาการจะปรากฏเร็วหรือช้า รุนแรงหรือไม่รุนแรง ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อ และชนิดรายได้ของแต่ละบุคคล ซึ่งแบ่งตามพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยของผู้ป่วย อีกทั้งขึ้นอยู่กับลักษณะของโรคแทรกซ้อนที่มือด้วย ว่าเป็นโรคมือเติบหรือไม่ หากเป็นโรคมือเติบด้วย จะยิ่งทำให้การรักษา หรือป้องกันเป็นไปได้ยาก และระยะฟักตัวของโรคก็จะรวดเร็ว อีกทั้งอาการก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น อาการ (SYMTOM) ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการเหม่อลอย ไม่สบตาผู้อื่นโดยเฉพาะเจ้าหนี้ เหงื่อซึมออกตลอดเวลา หงุดหงิด สูญเสียความเชื่อมั่น ไร้สมาธิในการทำงาน เบื่ออาหาร หิวแต่ทานไม่ลง เพราะอาหารน้อย คุณภาพต่ำเนื่องจากด้อยกำลังซื้อ รสชาดไม่ถูกปาก ผู้ป่วยบางรายมีอาการรุนแรงถึงกับทำอัตวินิบาตกรรม บางรายมีอาการผวาเมื่อถูกเรียกชื่อ พวกที่มีอาการรุนแรงบางจำพวกจะทำการประชดชีวิตโดยการเดินมาทำงาน แทนการโดยสารรถประจำทาง หรือแท๊กซี่ หรือพยายามขึ้นรถโดยสารที่มีคนแน่นมาก ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกระเป๋ารถเมล์ หรือเพื่อที่จะได้หลบหลีกระหว่างบันไดหน้ากับบันไดหลังสลับไปมาได้รวดเร็วและทันท่วงที อีกทั้งเพื่อพยายามให้ได้รับอากาศที่ปลอดโปร่ง จะได้กินลมเพื่อลดอาการหน้ามืด การป้องกัน (PHOTECTION) ไม่ควรนำเด็กหรือสัตว์เลี้ยงเข้าใกล้ เมื่อผู้ป่วยมีอาการหงุดหงิด มิฉะนั้นจะได้รับอันตรายจากผู้ป่วยได้ ไม่ควรนำของมีค่าเข้าใกล้ในระยะสายตาและมือเอื้อมถึง การรักษา (TREATMENT) ยังไม่มียาชนิดใดที่จะบำบัดโรคนี้ได้โดยตรงในปัจจุบัน แต่สามารถรักษาได้ตามอาการที่ปรากฏ เช่น ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะ (เป็นกันโดยมาก) ก็ควรใช้ยาลดไข้ 1-2 เม็ด ทุก 4 ชั่วโมง ได้แก่ยา PARACETAMAL ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะ ถ้าผู้ป่วยมีอาการหงุดหงิด กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ ควรใช้ยาคลายประสาท ตามที่แพทย์แนะนำ ห้ามใช้เกินขนาด เพราะจะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้ (ห้ามใช้ STRICNINโดยเด็ดขาด) ควรให้ผู้ป่วยได้ออกกำลังกาย พักผ่อน ในที่ลับตาคน อย่าพาผู้ป่วยออกนอกบ้าน เพราะอาจเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้ได้ การกระทำเช่นนี้นอกจากจะไม่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นแล้ว กลับจะมีอาการทรุดหนักลงเรื่อย ๆ อาการดูน่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย แต่อาการของผู้ป่วยจะกระเตื้อง ตื่นเต้นได้อีกครั้งก็ถึงตอนปลายเดือนนั้น ๆ แต่บางรายก็ไม่ดีขึ้น กลับทรุดหนักลงไปอีก เนื่องจากการอักเสบของดอกเบี้ย ไม่ควรนำผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลเอกชน เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการช๊อคได้ เมื่อเห็นใบแจ้หนี้ ทางที่ดีควรนำไปรักษายังสถานธนานุเคราะห์, สถานธนานุบาล โดยให้ผู้ป่วยนำของที่มีค่าติดตัวไปด้วย ซึ่งเป็นการรักษาอย่างปัจจุบันทันด่วน และตรงตามอาการของโรคมากที่สุด โดยหมอหลงจู้ จะให้ผู้ป่วยบอกประวัติ โดยซักอาการอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่ของที่หยิบฉวยของผู้อื่นมาโดยเจ้าของไม่ยินยอม ต่อจากนั้นก็จะทำการตรวจรักษา ตีค่า ต่อรอง และเขียนใบสั่งยา โดยต้องมีการยืนยันด้วยบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วย แล้วหมอหลงจู้จะให้วัคซีน โดยนำนิ้วหัวแม่มือของผู้ป่วยแปะลงบนวัคซีนสีดำ และกดลงบนใบสั่งยา ให้ปรากฏลอยเป็นที่แน่ชัด และสามารถยืนยันเป็นหลักฐานได้ จากนั้นผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นทันตาเห็น แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นอาการจะดีขึ้นได้กี่วัน ขึ้นอยู่กันของมีค่าที่นำติดตัวไป โรคนี้จะสามารถรักษาให้หายขาดและไม่เกิดกับผู้ป่วยได้อีก ถ้าสามารถจัดสรรรายได้ในแต่ละเดือนให้เพียงพอ ควบคุมรายจ่าย ควรให้มีรายจ่ายต่อรายได้อย่างน้อยในอัตรา 1:1 แต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่เป็นทางเดียวที่จะรักษาให้หายขาดได้ ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน จึงต้องรักษาตามอาการข้างต้น และอาจจะใช้ยาแผนโบราณจำพวกวงแชร์ เถ้าแชร์ รักษาร่วมก็ได้ แต่ต้องระวังผลข้างเคียงที่อาจะเกิดขึ้นได้ เช่น ลูกแชร์เบี้ยว เถ้าแชร์หาย โรคมือเติบ จนทำให้ไม่สามารถรักษาสัดส่วน รายได้ต่อรายจ่ายที่ 1:1 ได้ จะส่งผลในทางลบมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากใช้ได้ถูกต้อง เช่น เป็นเถ้าแชร์เอง ก็ต้องตามลูกแชร์ให้ได้ครบ ถ้าเป็นลูกแชร์ก็ต้องตามเถ้าแชร์ให้ได้ทุกงวด และพยายามอย่าให้ถูกหมดนวดจับ จนติดโรคมือเติบ เป็นต้น |
iamZEON
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?] ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/ ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
Group Blog
All Blog
Friends Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |