ยังไงถึงจะแปลก
ยังไงถึงจะแปลก
ดุจเดือน “คุณหมอคะ สามีหนูเขามีอารมณ์อย่างว่าตลอดเวลาเลยค่ะ ไม่ว่าหนูจะถูบ้าน ทำกับข้าว เข้าส้วม เขาเป็นต้องคอยตามมาขออึ๊บหนูอยู่ตลอด ขนาดเมื่อวานหนูกำลังเปิดตู้เย็นเพื่อจะหยิบของ เขาก็ยังไม่วายขอมีอะไรกับหนูอีก แบบนี้เข้าข่ายเป็นโรคจิตหรือเปล่าคะคุณหมอ”
หมอ “แบบนี้ไม่แปลกหรอกครับ สามีคุณเขาเป็นแค่คนเซ็กซ์จัด แล้วก็รักคุณมากเท่านั้นเอง”
ดุจเดือน “คุณหมอยังว่าไม่แปลกอีกเหรอคะ ที่อยู่ ๆ เขาก็ขออึ๊บหนูตอนเปิดตู้เย็นอยู่ในเซเว่นน่ะ”
เรื่องจริงของผู้ชายที่ต้องเปลี่ยนไป
เรื่องจริงของผู้ชายที่ต้องเปลี่ยนไป
ผู้ชายเปลี่ยนไปได้ยังไง ขึ้นอยู่กับเวลาครับท่าน ผู้ชายจะพูดอย่างนี้
เริ่มที่คำว่ารัก
หลังจากผ่านไป 6 สัปดาห์ “ผมรักคุณ ผมรักคุณ ผมรักคุณ”
หลังจากผ่านไป 6 เดือน “อ๋อ..แน่นอน ผมยังรักคุณอยู่เสมอ”
หลังจากผ่านไป 6 ปี “ถามได้ ถ้าผมไม่รักคุณ แล้วผมจะมาแต่งงานกันคุณหาพระแสงของ้าวทำไมฟะ”
กลับจากทำงาน
หลังจากผ่านไป 6 สัปดาห์ “ที่รัก ผมกลับมาบ้านแล้ว”
หลังจากผ่านไป 6 เดือน “กลับแล้ว”
หลังจากผ่านไป 6 ปี “นี่..ทำกับข้าวหรือยังเนี่ย”
รับโทรศัพท์ให้
หลังจากผ่านไป 6 สัปดาห์ “ที่รักจ๊ะ มีคนอยากคุยกับคุณนะ”
หลังจากผ่านไป 6 เดือน “นี่คุณ โทรศัพท์คุณนะ”
หลังจากผ่านไป 6 ปี “รับโทรศัพท์ซะทีซิฟะ”
ทำกับข้าว
หลังจากผ่านไป 6 สัปดาห์ “ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณทำกับข้าวได้อร่อยขนาดนี้”
หลังจากผ่านไป 6 เดือน “แล้วเย็นนี้เราจะกินอะไรกันเนี่ย”
หลังจากผ่านไป 6 ปี “กินของเก่าอีกแล้วหรือฟะ”
ชุดใหม่
หลังจากผ่านไป 6 สัปดาห์ “ว้าว..คุณดูสวยยังกะนางฟ้าตอนสวมชุดนี้เลยนะนี่”
หลังจากผ่านไป 6 เดือน “คุณซื้อชุดใหม่อีกแล้วหรือนี่”
หลังจากผ่านไป 6 ปี “ซื้อมาเท่าไหร่ละเนี่ย”
โทรทัศน์
หลังจากผ่านไป 6 สัปดาห์ “ที่รักจ๊ะ..คืนนี้เราจะดูรายการอะไรกันดี”
หลังจากผ่านไป 6 เดือน “ผมชอบหนังเรื่องนี้”
หลังจากผ่านไป 6 ปี “ผมจะดูแผ่นผี ถ้าคุณไม่ชอบก็ขึ้นไปนอนซะ ผมจัดการ เองได้”
การเมคเลิฟ
หลังจากผ่านไป 6 สัปดาห์ “ที่รักจ๊ะ..คืนนี้ผมอยากนอนกอดคุณจัง”
หลังจากผ่านไป 6 เดือน “ไว้วันหลังก็แล้วกันนะ ผมเหนื่อยมากแล้ว”
หลังจากผ่านไป 6 ปี “นี่ขยับไปฝั่งโน้นได้ไหม เหม็นเบื่อจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว”.
(จากฟอร์เวิร์ดเมล์ในอินเทอร์เน็ต)
ความหมาย
ความหมาย
“เพื่อน” ก็เหมือนน้ำ เฉย ๆ แต่ขาดไม่ได้
“แฟน” ก็เหมือนข้าว บางทีไม่หิว แต่ก็ต้องกิน
“ชู้” ก็เหมือนเหล้า รู้ว่าไม่ดี แต่ก็ชอบ
“กิ๊ก” ก็เหมือนน้ำหวาน นาน ๆ ทีก็โอ มากไปก็เลี่ยน
“แฟนเพื่อน” ก็เหมือนเหล้าเถื่อน ร้อนแรงแต่อันตราย..
11 คนบนเชือก
11 คนบนเชือก
มีคน 11 คน ห้อยอยู่บนเชือกใต้เฮลิคอปเตอร์ซึ่งกำลังบินอยู่ แยกเป็นผู้ชาย 10 คน และ ผู้หญิง 1 คน แต่เชือกสลิงเส้นนี้ไม่สามารถรับน้ำหนักพวกเขาได้ทั้งหมด แสดงว่าจะต้องมีคนใดคนหนึ่งปล่อยมือร่วงลงไป หาไม่แล้วก็คงต้องตายกันหมดทั้ง 11 คน แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใครเป็นผู้โชคร้ายดีที่ต้องยอมเสียสละปล่อยมือจากเชือกสลิง
จนกระทั่งผู้หญิงหนึ่งเดียวกับชีวิตที่แขวนอยู่บนเชือกสลิงที่ได้พูดประโยคที่น่าจะประทับใจผู้ชายอีก 10 คน โดยเธอบอกว่า เธอเต็มใจที่จะปล่อยมือเอง เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิง เธอยอมเสียสละได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัว สามี และลูกอยู่แล้ว ซึ่งเธอก็เข้าใจดีว่านี่เป็นการเสียสละที่ไม่เคยหวังได้สิ่งตอบแทนอยู่แล้ว
ทันทีที่เธอกล่าวจบ..พวกผู้ชายทั้ง 10 คนก็แสดงความเป็นสุภาพบุรุษปรบมือให้กับการเสียสละของเธอ..
ก็แค่เรือข้ามฟาก
ก็แค่เรือข้ามฟาก
ขณะที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ในอเมริกา หญิงสาวชาวอิตาเลียนคนหนึ่งก็เกิดใช้เงินเพลินจนหมดตัว และนอกจากนั้นวีซ่าของเธอก็กำลังจะหมดอายุลงด้วย
เธอไม่สบายใจมาก ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งบังเอิญพบกะลาสีเรือ เข้าคนหนึ่ง ซึ่งบอกว่าเขาสามารถแอบพาเธอขึ้นเรือได้ และจะเอาอาหารมาให้เธอกินทุกวัน สิ่งเดียวที่เขาขอเป็นค่าตอบแทนก็คือยอมหลับนอนกับเขา
เมื่อเข้าตาจนและไม่มีทางเลือกแล้วเธอก็ตัดสินใจยินยอมตามข้อเสนอของเขา
ตกดึกคืนนั้นกะลาสีหนุ่มก็แอบพาเธอขึ้นไปซ่อน ตัวอยู่บนเรือ และทุก ๆ วันหลังจากนั้นเขานำอาหารมาให้เธอวันละสองมื้อ เมื่อเธอกินเสร็จแล้วเขาก็หลับนอนกับเธอตามข้อตกลง
ในที่สุดหลังจากเวลาผ่านไปสองสัปดาห์ กัปตันเรือก็เกิดสงสัยในพฤติกรรมของลูกน้องเลยแอบสะกดรอยตามกะลาสีไป และก็รู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
กัปตันตัดสินใจไปเผชิญหน้ากับหญิงสาวผู้โชคร้าย และเธอก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง
กัปตันนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งหลังจากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมดจากปากของหญิงสาวผู้น่าสงสาร แต่ในที่สุดเขาก็พูดออกมา
“อืม...ลูกน้องของผมมันฉลาดมาก แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความยุติธรรมผมจะต้องบอกคุณว่า เรือลำนี้เป็นแค่เรือโดยสารข้ามฟากแม่น้ำเท่านั้น”.