ทำได้ทุกอย่าง
เมื่อวันสอบไล่ปลายเทอมใกล้เข้ามา ขณะที่พวกนักศึกษากำลังเคร่งเครียดเพื่อเตรียมสอบ นักศึกษาสาวอนงค์หนึ่งกลับหาจังหวะปลอดคนย่องเข้าห้องทำงานส่วนตัวของอาจารย์ เธอปิดประตู ล็อคกุญแจลูกบิด แล้วเดินเข้าไปคุกเข่าเกือบชิดตัวอาจารย์หนุ่ม
อาจารย์ขา หนูยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้สอบได้ เธอขยับใกล้เข้าไปอีก มองด้วยสายตาที่มีความหมาย หนูพร้อม... เธอกระซิบ ...ที่จะทำทุกอย่างจริงๆ
อาจารย์หนุ่มประสานสายตากับลูกศิษย์สาว ทุกอย่างเลยเรอะ
ค่ะ ทุกอย่าง เธอยกมือขึ้นปัดผมที่ปรกหน้า
ได้ทุกอย่างจริงนะ เสียงของอาจารย์อ่อนนุ่มลง
ทุกอย่างที่อาจารย์ต้องการ เธอส่งเสียงอ้อน
อาจารย์อยาก... ชายหนุ่มกระซิบเสียงเบา ...ให้หนูดูหนังสือเยอะๆ"
ข้อสอบคัดเลือก
สวรรค์มีโอกาสต้อนรับชายสามคน คนหนึ่งเป็นหมอ คนหนึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่ อีกคนหนึ่งเป็นนักการเมืองอดีตรัฐมนตรี นักบุญที่ยืนกำกับประตูมุขทางเข้าสวรรค์แจ้งว่า จะต้องมีการตอบข้อสอบคัดเลือก คนที่ตอบถูกจึงผ่านประตูเข้าสู่สวรรค์ได้ หมอได้รับการเลือกให้ตอบคำถามเป็นคนแรก
"อืม...มีหมออยู่บนสวรรค์ก็ไม่เลว..." นักบุญคิดในใจก่อนตั้งคำถาม
"บอกชื่อเรือลำยักษ์ที่ชนภูเขาน้ำแข็ง แล้วจมลงก้อนทะเลมาซิ"
"สบายมากครับ ชื่อเรือไททานิก" หมอตอบอย่างมั่นใจ
นักบุญอนุญาตให้หมอเดินผ่านเข้าประตูสวรรค์ไปแล้วหันมาที่ชายคนที่สอง "คนขับแท็กซี่ก็น่าจะขึ้นสวรรค์ได้ แต่อันที่จริงก็ไม่ได้จำเป็นมาก" นักบุญบอกตัวเองก่อนตั้งคำถาม
"รู้ไหมว่ามีคนจมน้ำตายไปกี่คน"
"ง่ายมากครับ ทั้งหมด 2,212 คน" คนขับแท็กซี่ตอบ
"ถูกต้อง" ว่าแล้วนักบุญก็หันไปที่นักการเมืองอดีตรัฐมนตรี "บอกชื่อมาให้ครบทุกคน"
ชีวิตที่ดีขึ้น
ขณะที่ท่านสาธุคุณซึ่งสัญจรมาเทศนาอบรมชาวบ้านในโบสถ์ประจำเมืองกำลังพูดเรื่องโทษของภัยยาเสพย์ติด ก็สังเกตเห็นว่าในกลุ่มคนมีชายคนหนึ่งแต่งกายซอมซ่อ รวมทั้งสมาชิกในครอบครัวที่นั่งอยู่ด้วยก็แต่งกายซอมซ่อไม่แพ้กัน ท่านสาธุคุณเห็นว่าเป็นโอกาสอันดี จึงเน้นหนักในเรื่องการติดสึราจนเสียผู้เสียคน และในวาระที่พูดสรุป ท่านสาธุคุณก็จ้องไปที่ชายคนนั้น เพื่อแสดงเจตนาว่าต้องการพูดให้ฟังโดยเฉพาะ
"ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ซึ่งเราทุกคนก็รู้จักกันดี จะเห็นได้ว่าคนขี้เหล้าสวงมใส่เสื้อผ้าเก่าๆ แม้แต่พื้นรองเท้าก็ขาดเป็นรุทำลุ เสื้อผ้าที่ลูกเมียใช้ห่อหุ้มร่างกาย ดูไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้ว แต่เจ้าของร้านเหล้าและลูกเมียกลับมีเสื้อผ้าใหม่ รถยนต์คันใหม่ ขณะที่พวกขี้เหล้ามีแต่ซาเล้งเก่าๆ หรือไม่มีพาหนะใดๆ เลยสักอย่าง ถ้าท่านยังไม่หยุดดื่มเหล้าเพื่อตัวท่านเอง อย่างน้อยก็น่าจะคิดถึงความเป็นอยู่ของลูกเมียบ้าง"
หนึ่งปีผ่านไป ท่านสาธุคุณสัญจรกลับมาเทศนาที่โบสถ์เดิมอีกครั้ง ชายคนหนึ่งวิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจ ท่านสาธุคุณจำได้ทันทีว่าเป็นชายแต่งกายซอมซ่อคนที่ตั้งใจเทศน์ให้ฟัง โดยเฉพาะเมื่อปีกลาย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ คราวนี้เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอย่างดี สะอาดสะอ้าน ดูมีสง่าและมีอันจะกิน
"ผมขอบคุณท่านมากๆ ที่อบรมเรื่องโทษของสุราเมื่อปีที่แล้ว ชีวิตของผมและครอบครัวเปลี่ยนไปมากมายเพราะคำสั่งสอนของท่านจริงๆ " ชายคนนั้นพูดด้วยความชื่นชม
ท่านสาธุคุณยิ้มอย่างปลาบปลื้มใจ "แปลว่าลูกเลิกดื่มสุราได้อย่างเด็ดขาดเลยใช่ไหม"
"มิได้ครับ ผมลงทุนเปิดร้านขายเหล้า"
ตุ๊กตาหมี
ชายหนุ่มกับหญิงสาวพบปะกันโดยบังเอิญอยู่ในบาร์ และแล้วเรื่องราวก็ดำเนินต่อไปอย่างนิยายน้ำเน่าของฝรั่ง...ทั้งสองพูดคุยกันถูกคอ ดื่มเหล้ากันต่อจนบาร์ปิด เขาเดินไปส่งเธอกลับที่พัก แล้วลงเอยที่ห้องนอนในอพาร์ตเม้นท์ของเธอ
ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าในห้องนอนของหญิงสาวอัดแน่นด้วยตุ๊กตาหมีเต็มไปหมด มีตุ๊กตาขนาดเล็กหลายร้อยตัว เรียงเป็นแถวอยู่ที่ชั้นล่างสุดของพื้น ชั้นถัดขึ้นไปเรียงไว้ด้วยตุ๊กตาหมีขนาดกลาง ส่วนชั้นบนสุดที่ยื่นออกมาจากผนังห้อง เป็นที่วางตุ๊กตาหมีตัวขนาดใหญ่พิเศษ
ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจกับสไตล์การแต่งห้องที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีมากมายแบบนี้ แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์เฉพาะหน้ารออยู่ จึงได้แต่เก็บความสงสัยไว้ก่อน
จวบจนชั่วโมงแห่งความสุขสันต์ระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาวผ่านไป ขณะที่นอนพัก ชายหนุ่มก็หันไปกระซิบถามหญิงสาวว่า "เป็นไงบ้างจ๊ะ"
"เห็นหมีตัวเล็กที่อยู่แถวล่างสุดบนพื้นมั้ย" หญิงสาวว่า "เชิญหยิบไปเป็นรางวัลได้หนึ่งตัว"
เปิดดูก็รู้
ลูกสาวคนเล็กที่กำลังช่างพูดช่างสงสัยตั้งคำถามเอากับคุณแม่ที่กำลังอารมณ์บูด
"คุณแม่อายุเท่าไหร่คะ" เด็กหญิงถาม
"หนูอย่าไปถามคนอื่นแบบนี้นะ มันไม่ดี" คุณแม่พูดเสียงห้วน
"คุณแม่น้ำหนักเท่าไหร่คะ" เด็กหญิงถามต่อ
"ถามอะไรแบบนี้ก็ไม่ดีเหมือนกัน" คุณแม่ออกอาการหงุดหงิด
"เมื่อไหร่คุณแม่จะตายคะ" เด็กหญิงโมโหเอาบ้างที่ถามแล้วไม่ได้คำตอบ
"เอ๊ะ แม่ว่าหนูหยาบคายเกินไปแล้วนะ" คุณแม่เอ็ดเสียงลั่น
เด็กหญิงเก็บความหงุดหงิดไว้จนได้พบกับเพื่อนรักที่โรงเรียน "ไปเปิดดูในบัตรประกันสุขภาพของแม่เธอ ในนั้นมีหมดทุกอย่าง" เพื่อนรักแนะนำ
ดังนั้น ในวันรุ่งขึ้น ขณะที่คุณแม่กำลังสังสรรค์กับเพื่อน เด็กหญิงตัวน้อยก็เดินเข้าไปกลางวงสนทนาของผู้ใหญ่อย่างกล้าหาญและประกาศด้วยเสียงดังฟังชัดว่า
"หนูรู้เรื่องคุณแม่หมดทุกอย่าง คุณแม่อายุ 45 คุณแม่หนัก 50 กิโลกรัม แล้วคุณแม่จะหมดอายุวันที่ 20 ของเดือนนี้ อย่าลืมมางานศพของคุณแม่ด้วยนะคะ"