ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

10 สิ่งที่บอกว่า ประเทศไทย โชคดีที่สุดในโลก !!!



ประเทศไทยเป็นประเทศที่โชคดีที่สุดในโลก !!!
เหตุผลที่ประเทศไทย เป็นสยามเมืองยิ้ม มีดังต่อไปนี้


1. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางครัวโลก ไม่ต้องกลัวอดตาย มีอาหารกินตลอดเวลา และส่งออกไปทั่วโลก

2. ประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก มีป่าไม้ ภูเขา ทะเล ทองคำ จนได้ชื่อว่าดินแดนสุวรรณภูมิ

3. ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเขตแผ่นดินไหวโดยตรง แนวแผ่นดินไหว อ้อมประเทศไทยทั้งประเทศ ในขณะที่เกือบทั้งโลกอยู่ในเขตแผ่นดินไหวรุนแรง

4. ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเขตพายุรุนแรง นานๆจะเจอสักครั้ง เพราะพายุไต้ฝุ่นส่วนใหญ่เกิดในทะเลจีนใต้ บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ มาถล่มหนักเวียดนาม ลาว เขมรและอ่อนตัวลง กลายเป็นพายุธรรมดาเมื่อเข้าประเทศไทย

5. ประเทศไทยไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก ในขณะที่ทุกประเทศในอาเซียนตกเป็นอาณานิคม

6. ประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้พ่ายแพ้ในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2

7. ประเทศไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์
ในขณะที่ลาว กลายเป็นคอมมิวนิสต์ ล้มสถาบันกษัตริย์ ศาสนาไม่มีผู้อุปถัมภ์
ประเทศเขมร กลายเป็นเขมรแดง ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนชาติเดียวกัน และศาสนาถูกทำลาย

8. คนทุกชนชาติ และทุกศาสนาในประเทศไทยมีสิทธิ เสรีภาพ มากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก

9. ประเทศไทย มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนัก เพื่อพสกนิกรชาวไทย ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ ทรงมีโครงการในพระราชดำริกว่า 3,000 โครงการ โครงการส่วนพระองค์ส่วนจิตรลดาทรงก่อตั้งมูลนิธิต่างๆมากมาย เช่น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ มูลนิธิพระดาบส มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นต้น

  ทรงอุปถัมถ์พระศาสนา ภาษาไทย วัฒนธรรม ประเพณี พระราชพิธี งานช่างหลวง การศึกษา การแพทย์ การคมนาคม การอนุรักษ์ดินและนํา ทรัพยากรป่าไม้ ป่าชายเลน เกษตรทฤษฎีใหม่ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ


10. พระพุทธศาสนา เจริญที่สุดในโลกในประเทศไทยเพราะประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกและทรงเป็นพุทธมามกะ

Credit : Dek-D.com




 

Create Date : 25 เมษายน 2555    
Last Update : 25 เมษายน 2555 8:37:41 น.
Counter : 1626 Pageviews.  

ลูกเดือย เม็ดเล็กๆ แต่คุณประโยชน์ไม่เล็ก

หลายคนคงรู้จักลูกเดือยที่มีหน้าตาเป็นเม็ดเล็กๆ กลมๆ แต่ถึงแม้ว่า
จะมีขนาดเล็ก แต่ลูกเดือยกลับให้คุณประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะมีฤทธิ์เป็นยาเย็นช่วยบำรุงกำลัง บำรุงปอด ม้าม ตับ ขับปัสสาวะ หล่อลื่นกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้ปัญหาทางเดินหายใจ ไขข้อกระดูก เหน็บชา แก้ร้อนในกระหายน้ำ และยังช่วยลด
การเกิดมะเร็ง เพราะมีสารคอกซีโนไลด์ (Coxenolide) ซึ่งมีสรรพคุณในการยับยั้งการเกิด
เนื้องอก ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าลูกเดือยนั้นมีคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะฟอสฟอรัสซึ่งมีสรรพคุณช่วยบำรุงกระดูกมีอยู่ในปริมาณสูง และวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาอีกด้วย

ด้วยสรรพคุณที่หลากหลาย และคุณประโยชน์ที่มากมายเกินขนาดเล็กๆ นั้นทำให้ชาวจีนต่างยกย่องลูกเดือยว่าเป็นยาอายุวัฒนะอีกชนิดหนึ่งเลยทีเดียว!




 

Create Date : 22 เมษายน 2555    
Last Update : 22 เมษายน 2555 12:51:53 น.
Counter : 1920 Pageviews.  

ร่วมเฉลิมฉลอง 230 ปี สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์

วัดพระแก้ว

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระนคร

หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า วันที่ 21 เมษายน เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เพราะตรงกับวันฉลองครบรอบกรุงรัตนโกสินทร์ ราชธานีแห่งที่ 4 ของสยามประเทศ ซึ่งในปี พ.ศ.2555 นี้ กรุงรัตนโกสินทร์ บรรจบครบรอบเป็นปีที่ 230 แล้ว

          ย้อนไปเมื่อ 230 ปีก่อน ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเป็นราชธานีทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งคือฝั่งพระนครในปัจจุบัน จากนั้น ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีฝังเสาพระหลักเมืองที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งโปรดเกล้าฯ ให้มีการก่อสร้างพระบรมมหาราชวัง ตลอดจนวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ขึ้นในคราเดียวกัน


กรุงเทพมหานคร 100 ปี


ในปี พ.ศ.2425 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นปีที่กรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบหนึ่งศตวรรษ หรือ 100 ปี หรือหากนับอย่างปีรัตนโกสินทร์ ก็คือ ร.ศ.100 ในปีนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้จัดงานสมโภชพระนครครบรอบศตวรรษอย่างยิ่งใหญ่ โดยทรงมีพระราชประสงค์ให้จัดงานแสดงสินค้าแห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ณ ท้องสนามหลวง หรือที่เรียกว่า "แนชันนาลเอกษฮีบิชัน" พร้อมกันนี้ ยังทรงให้จัดทำเหรียญที่ระลึก สำหรับพระราชทานให้แก่ผู้ที่นำสินค้าแปลก ๆ มาจัดแสดงในงานสมโภชพระนครด้วย

          นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงมีพระราชประสงค์ให้บูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดารามที่เริ่มทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา ให้กลับมาสวยงามดังเดิมพร้อมกับงานฉลองพระนคร โดยพระองค์ได้พระราชทานเหรียญที่ระลึกให้แก่ผู้ที่ร่วมบูรณะปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดารามจนแล้วเสร็จในครั้งนี้ด้วย

          การจัดทำเหรียญที่ระลึกถือเป็นอีกสัญลักษณ์สำคัญของการฉลองเฉลิมหนึ่งศตวรรษของกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเหรียญที่ระลึกสำคัญเหรียญหนึ่งที่จัดทำในโอกาสดังกล่าว ก็คือ "เหรียญสตพรรษมาลา" ซึ่งด้านหน้าเหรียญเป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 5 และโดดเด่นด้วยการออกแบบรอบเหรียญให้เป็นแฉกรัศมี 100 แฉก ที่หมายถึงกรุงรัตนโกสินทร์ 100 ปี


กรุงเทพมหานคร 150 ปี


งานเฉลิมฉลองสมโภชพระนครครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ.2475 เนื่องในสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ครบ 150 ปี ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ให้บูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดารามตามพระราชประเพณี และได้มีการจัดทำเหรียญที่ระลึกฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เนื่องในโอกาสครบรอบ 150 ปี และนำเหรียญดังกล่าวแจกจ่ายให้กับผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคบูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

          อย่างไรก็ตาม สัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของการเฉลิมฉลองงานสมโภชพระนครอมรรัตนโกสินทร์ 150 ปีนั้น ก็คือ การที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานพระปฐมบรมราชานุสรณ์ หรือ สะพานพระพุทธยอดฟ้า ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมจังหวัดพระนครและธนบุรีเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการขยายพระนคร และช่วยให้การคมนาคมติดต่อกันเป็นไปได้สะดวกขึ้น โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2472 และมีพิธีเปิดในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2475 ซึ่งครั้งนั้นมีการจัดงานมหรสพรื่นเริง เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดสะพานต่อเนื่องกันถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน


กรุงเทพมหานคร 200 ปี

อีก 50 ปีต่อมา ในปี พ.ศ.2525 ได้เกิดงานเฉลิมฉลองสมโภชพระนครอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งเป็นปีที่กรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 200 ปี หรือสองศตวรรษ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งในปีนั้น ทางราชการได้จัดประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์งานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์เป็นครั้งแรก และตั้งชื่อว่า "ตราสัญลักษณ์งานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี"

          นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ยังได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมทั้งประกอบพระราชพิธีบวงสรวงบูรพกษัตริย์ พระสยามเทวาธิราช พระเทพารักษ์ และพระราชพิธีสมโภชหลักเมือง เพื่อเป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลแก่พระมหานครรัตนโกสินทร์

สำหรับในปี พ.ศ.2555 ซึ่งเป็นวันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ครบ 230 ปีนั้น ทางกรุงเทพมหานครได้จัดกิจกรรมให้ประชาชนร่วมกันโหวตชื่อคำขวัญของกรุงเทพมหานคร เนื่องในโอกาสครบรอบ 230 ปี เมืองหลวงของประเทศไทย ซึ่งจะประกาศผลการโหวต ในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2555 นี้




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




 

Create Date : 21 เมษายน 2555    
Last Update : 21 เมษายน 2555 12:09:59 น.
Counter : 2574 Pageviews.  

‘กระเทียม‘ กลิ่นฉุน...แต่อุดมคุณประโยชน์

หากพูดถึง ‘กระเทียม' คงทำให้ใครหลายๆ คนนึกถึงกลิ่นที่แสนฉุนและรสชาติอันเผ็ดร้อนเป็นอันดับต้นๆ แต่หากคุณมองข้ามกลิ่นและรสชาติที่ไม่ถูกปากนี้ไป คุณก็จะพบสรรพคุณที่หลากหลายจากกระเทียมกลีบเล็กๆ ที่ห่อหุ้มด้วย เยื่อบางสีขาวอมชมพูนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวช่วยลดความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน เนื่องจากกระเทียมมีสารที่ช่วยละลายไขมันในหลอดเลือด ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของผนังกระเพาะและลำไส้ หากนำกระเทียม 5-7 กลีบ มาบดให้ละเอียด ผสมกับน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ ปรุงรสนิดหน่อยด้วยน้ำตาลและเกลือเล็กน้อย แล้วกรองเพื่อสกัดเอาแต่น้ำ ดื่มวันละ 3 ครั้ง หลังรับประทานอาหาร ก็จะช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร แก้ปัญหาท้องอืดท้องเฟ้อได้อีกด้วย




 

Create Date : 19 เมษายน 2555    
Last Update : 19 เมษายน 2555 7:58:51 น.
Counter : 2421 Pageviews.  

1 เมษายน วันโกหก



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

วันที่ 1 แล้ว... เย้ๆๆ แหม... วันที่ 1 ทีไรคนไทยเป็นสุขใจทุกที เพราะเป็นวันเงินเดือนออก 55 (หรือบางคนก็อาจไม่ออก อิอิ) แถมยังเป็นวันที่นักเสี่ยงโชคร่าเริงสุด ๆ เพราะเป็นวันหวยออกนั่นเอง

แต่สำหรับชาวฝรั่ง วันที่ 1 เมษายน กลับเป็นวันที่พวกเขาเรียกกันว่า "April Fool's Day" วันแห่งการโกหก ซึ่งถือเป็นวันที่จะแกล้งกันสนุกสนานด้วยการโกหก... แท้จริงมีตำนานเล่ากันมาว่า เมื่อสมัยก่อนนี้ พวกฝรั่งเขาก็มีวันขึ้นปีใหม่ใกล้ๆ บ้านเรานี่แหละคือเดือนเมษายน แต่แล้วทางการมีการเปลี่ยนวันปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม บังเอิญยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ ก็ยังคงส่ง ส.ค.ส. ให้กันในวันที่ 1 เมษายน พวกเขาก็เลยเรียกพวกนี้ว่าพวก "เมษาหน้าโง่" แล้วก็มีการแกล้งกันโดยไม่บอกความจริงเพื่อความสนุกสนาน จริงๆ มันก็แค่เนี่ยแหละ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าเทศกาลอะไรของใครชาติไหน คนไทยเราเล่นด้วยหมด


วิธีการเล่นคือ...

วันที่ 1 เมษายน ซึ่งเป็นวัน April's Fool Day เป็นวันที่คนแกล้งหลอกกันด้วยการแต่งเรื่องอะไรก็ได้มาหลอกให้คนอื่นหลงเชื่อ จากนั้นค่อยเฉลยในตอนท้าย ซึ่งเรื่องที่เอามาหลอกนั้นจะต้องไม่ทำให้อีกฝ่ายถึงกับเลือดตกยางออก และคนที่ถูกหลอกจะต้องไม่โกรธด้วย เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ ยกเว้นให้หนึ่งวัน





 

Create Date : 01 เมษายน 2555    
Last Update : 1 เมษายน 2555 11:00:59 น.
Counter : 1452 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.