ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

เหงื่อออกมากบ่งบอกอาการของโรคได้



เหงื่อบ่งบอกอาการของโรคได้ อาการเจ็บป่วยหากเรารู้จักสังเกตุตนเองก็จะทำให้รู้ว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับสุขภาพของเราหรือไม่ ”เหงื่อออกมาก” หรือออกมากจนผิดปกติก็เป็นอาการที่บ่งบอกโรคได้เช่นกัน

เหงื่อที่ออกมาจากร่างกายของคนเรานั้น เกิดขึ้นเมื่อ่างกายสัมผัสสิ่งกระตุ้น 2 อย่าง คือ ความร้อนและอารมณ์ และโรคที่สัมพันธ์กับเหงือมี 2 ประเภทคือ
โรคที่ทำให้เหงือออกมาก ได้แก่
1. โรคเครียด ลักษณะของเหงื่อที่ออกจะออกมากบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และหน้าผาก อาจจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่นใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว มือสั่น
2. ต่อมไทรรอยด์เป็นพิษ หรือคอพอก จะมีเหงื่อซึมออกมาทั่วตัวและบริเวณฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง อาจมีอาการหงุดหงิด มือสั้น ขี้ตกใจ ตาโปน ผมร่วง และหิวน้ำบ่อย
3. วัณโรค เหงื่อออกมากทั่วลำตัวในเวลากลางคืนสลับกับมีอาการไอเรื้อรังร่วมด้วย
4. โรคเบาหวาน จะมีเหงื่อซึมทั่วตัวโดยเฉพาะฝ่ามือ ฝ่าเท้า ใจสั่น เหนื่อยหอบ หวิวๆ คล้ายจะเป็นลม
5. โรคหัวใจ  จะมีอาการเหงื่อแตก ร่วมกับใจสั่น เหนื่อยหอบขณะออกกำลังกาย หากมีอาการแน่นที่หน้าอก เหงือออกตามนิ้วมือนิ้วเท้าทุกครั้งที่ออกกำลังกาย เสี่ยงการเป็นโรคหัวใจสูง
6. ภาวะใกล้หมดประจำเดือน  คนที่ใกล้หมดประจำเดือน สมองจะหลั่งฮอร์โมนเทศหญิงน้อยลง ทำให้เหงื่อออกมากในเวลากลางคืน

ถึงแม้อาการเหงื่อออกมากจะบ่งบอกอาการของโรคได้ แต่ก็ต้องมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย หากมีอาการเหงื่อออกมากผิดปกติก็ควรดูแลสุขภาพ หาวิธีป้องกันและพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายนะค่ะ

ที่มาข้อมูลและภาพ tsgclub.com




 

Create Date : 26 มีนาคม 2556    
Last Update : 26 มีนาคม 2556 22:23:44 น.
Counter : 3137 Pageviews.  

สูดกลิ่นกุหลาบยามหลับช่วยความจำดีขึ้น



กลิ่นกุหลาบจะช่วยกระตุ้นหน่วยความจำ ทำให้สมองไว-จำได้ดีขึ้นในวันรุ่งขึ้น

ทีมนักวิจัยจากประเทศเยอรมันทำการศึกษาพบว่าดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุหลาบในระหว่างการนอนหลับช่วยให้คนมีความจำดีขึ้นกว่าเดิมในวันรุ่งขึ้น โดยทีมนักวิจัยได้ศึกษาถึงกลไกที่แสดงให้เห็นว่า คนเราสามารถใช้กลิ่นเป็นตัวกระตุ้นการสร้างหน่วยความจำใหม่ๆ ในขณะที่เรานอนหลับและส่งผลให้อาสาสมัคร ที่เข้าร่วมการวิจัยมีความสามารถในการจดจำได้ดีขึ้นกว่าเดิม

ผลการศึกษานี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ชื่อดังไซแอนซ์ ซึ่งระบุว่าในระหว่างที่คนเรานอนหลับ ความจำจะถูกประสานรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันทำให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และกลิ่นหรือแม้กระทั่งตัวกระตุ้นอื่นๆ ก็สามารถกระตุ้นให้กระบวนการดังกล่าวนี้นำไปสู่การเรียนรู้ที่ดีขึ้นสามารถพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น

แจน บอร์นและคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งลูเบ็ก ในประเทศเยอรมันนี้ได้ทำการศึกษาโดยให้อาสาสมัครจำนวน 74 คนเรียนรู้ในการเล่นเกมส์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายเกมส์เพิ่มความสนใจหรือ “คอนเซ็นเตรชั่น” ที่ให้ผู้เล่นต้องจับคู่วัตถุหรือไพ่ซึ่งจะเปิดให้ดูแค่ครั้งเดียวก่อน

ทั้งนี้พบว่าในขณะที่ให้อาสาสมัครกำลังทำการทดสอบนักวิจัยได้ให้อาสาสมัครบางส่วนสูดดมกลิ่นกุหลาบ และหลังจากนั้นอาสาสมัครก็เข้าไปนอนในอุโมงค์เครื่องสแกนสมองเอ็มอาร์ไอซึ่งใช้เพื่อศึกษาดูการทำหน้าที่ของสมองอาสาสมัครในระหว่างที่พวกเขากำลังนอนหลับ อาสาสมัครทีมของบอนก็ได้ปล่อยกลิ่นหอมกุหลาบชนิดเดิมเข้าไปให้พวกเขา ได้ดมอีกหลายระยะในวันถัดมาอาสาสมัครถูกให้ทำแบบทดสอบอีกครั้งจากที่ได้เรียนรู้ไปแล้วเมื่อวาน “หลังจากคืนที่นอนสูดกลิ่นกุหลาบแล้วผู้เข้าร่วมการวิจัยใจสามารจดจำได้ 97.2 % ของคู่ไพ่ที่พวกเขาได้เรียนรู้ก่อนไปนอน” ในขณะที่กลุ่มอาสาสมัครที่ไม่ได้ให้สูดดมกลิ่นหอมกุหลาบสามารถจดจำได้เพียง 86 % ของคู่ไพ่

นักวิจัยทีมนี้กล่าวด้วยว่าระยะของการนอนหลับก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากผลการวิจัยนี้ ก็มีส่วนเกี่ยวโยงไปถึงการถกเถียงกันเกี่ยวกับประเด็นที่ว่ามนุษย์จะเรียนรู้ในขณะที่นอนหลับในลักษณะเดียวกันกับสัตว์บางประเภทที่มีการศึกษาพบ

ทั้งนี้มีการวิจัยพบว่า หนูเป็นต้นที่เมื่อให้เรียนรู้เส้นทางเขาวงกตใหม่ๆ แล้วจะซ้อมทบทวนการเคลื่อนไหวในขณะที่นอนหลับ และเช่นเดียวกันกับนกพวกที่มีเสียงไพเราะเหมือนเพลงก็จะซ้อมร้องเพลงของพวกมันในขณะที่หลับเช่นกัน

ส่วนเรื่องของการดมกลิ่นหอมต่อการจำนั้น ทีมของบอนกล่าวว่ากลิ่นหอมของกุหลาบช่วยพัฒนาการเรียนรู้จริงๆ โดยจะต้องให้ในระยะการนอนหลับที่เรียกว่า คลื่นต่ำ หรือ สโลว์เวฟ แต่ผลของกลิ่นนั้นพบว่าไม่มีผลเลยเมื่อให้ดมในระยะการหลับที่เปลือกตากรอกไปมา


ที่มาข้อมูล teenee.com
ที่มารูปภาพ mcot.net




 

Create Date : 25 มีนาคม 2556    
Last Update : 25 มีนาคม 2556 8:17:53 น.
Counter : 1833 Pageviews.  

8 วิธีถนอมสายตาเมื่ออยู่หน้าคอม



1. เลือกจอภาพที่มีการกระจายรังสีต่ำเพื่อถนอมสายตา วิธีทดสอบแบบง่ายๆ ทำโดยการปิดสวิตช์ภาพแล้วเอาแขนไปจ่อไว้ไกล้ๆ จอภาพให้มากที่สุด ซึ่งจอภาพที่มีการกระจายรังสีต่ำจะแทบไม่รู้สึกถึงไฟฟ้าสถิตตามขนที่บริเวณผิวเลย

2. ปรับแสงและความคมชัดหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้รู้สึกสบายตาให้มากที่สุด รวมทั้งความสว่างภายในห้องเราด้วย เพราะหากทำงานกับคอมพิวเตอร์ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้า และจอภาพมีความสว่างมากก็ยิ่งสงผลเสียต่ดวงตาได้ง่ายขึ้น

3. ตำแหน่งของจอภาพควรห่างจากดวงตาพอประมาณ 18-24 นิ้วหรือประมาณช่วงแขนเอื้อม  และปรับระดับให้ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 15-20 องศา  ซึ่งหากระยะห่างระหว่างตากับจอภาพไม่สัมพันธ์กันอาจทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าและปวดตาได้ง่าย

4. ควรใส่แผ่นกรองรังสีติดไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อเป็นการช่วยกระจายรังสีจากคอมพิวเตอร์สู่สายตาที่สำคัญควรเลือกแบบที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้

5. ทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เสมอ เพราะฝุ่นละอองอาจจะทำให้เกิดการสะท้อนมากยิ่งขึ้น

6. การหยุดพักหรือการเปลี่ยนแปลงตารางการทำงานใหม่จะช่วยให้สายตาคลายความเมื่อยล้าจากการจ้องหรือเพ่งคอมพิวเตอร์ได้ เช่นหยุดพักสายตาครั้งละ 15 นาที ทุกๆ 2 ชั่วโมง แล้วค่อยเริ่มการทำงานต่อไปก็จะช่วยให้ถนอมสายตาได้

7. ใช้ผ้าซุปน้ำหมาดๆ วางไว้บนเปลือกตา และหลับตาสัก 2-3 นาที หรือจะให้ดีกว่านั้นปิดไฟ  นอนพักสักครู่เพื่อเป็นการซาร์ตพลังงานให้กลับสายตามาแข็งแรงอีกครั้ง

8.สำหรับคนที่ใส่คอนแทคเลนส์จะเกิดการตาแห้งเพราะห้องที่มีคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มักจะเป็นห้องแอร์ เมื่อบวกกับความร้อนจากเครื่องคอมพิวเตอร์จะทำให้อากาศแห้ง การหยดน้ำตาเทียมก็จะช่วยให้ตากลับมาสดชื่นอีกครั้งได้

ตะบองเพชรช่วยได้
ลองหากระถางกระบองเพชรต้นเล็กๆ มาวางใกล้ๆ กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ดูสิ เพราะตะบองเพชรมีความสามรถดูดซับสังสีได้เป็นอย่างดี

ที่มาข้อมูลและภาพ trueplookpanya.com





 

Create Date : 24 มีนาคม 2556    
Last Update : 24 มีนาคม 2556 11:27:22 น.
Counter : 2026 Pageviews.  

เชื้อโรคที่มาจากเครื่องใช้ IT



การใช้ชีวิตในปัจจุบันของเรานั้นมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ IT อาทิ โน้ตบุ๊ก แล๊ปท๊อป คอมพิวเตอร์ ซึ่งส่วนประกอบของอุปกรณ์ทั้งคีย์บอร์ดและเม้าส์ ล้วนสัมผัสโดยตรงกับตัวผู้ใช้ แล้วอุปกรณ์เหล่านี้เองที่เป็นประตูของเชื้อโรคสู่ร่างกาย

ตั้งแต่เริ่มใช้อุปกรณ์เหล่านี้คงนับคนได้เลยที่จะมีการทำความสะอาดหรือฆ่าเชื้อโรคหน้าสัมผัสของอุปกรณ์เหล่านี้ และจนถึงวาระสุดท้ายของเครื่องมือเหล่านี้ไม่ว่าจะล้าสมัยหรือเสียหายคามือ ก็ยังไม่เคยได้ลิ้มรสความสะอาดเลย

ประเด็นที่อยากจะกระตุ้นเตือนบรรดาผู้ใช้งานคือ ให้ระมัดระวังเรื่องความสะอาด รวมไปถึงการปนเปื้อนของเชื้อโรค ซึ่งการใช้มือ นิ้วมือแตะสัมผัสกับคีย์บอร์ด กุมเม้าส์เพื่อสั่งงานคอมพิวเตอร์นั้นย่อมได้รับเชื้อโรค สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งานส่วนบุคคลก็อาจจะพอควบคุมความสะอาดได้บ้าง แต่อุปกรณ์ที่มีการใช้งานอย่างสาธารณะโดยเฉพาะร้านอินเตอร์เน็ต จุดบริการอินเตอร์เน็ตที่สนามบิน โรงพยาบาล โรงแรม ฯลณ ที่ไม่มีการจำกัดผู้ใช้งานต้องระมัดระวัง

เชื้อโรคแฝงจาก IT
เชื้อโรคที่ควรให้ความระมัดระวังมี 2 กลุ่มใหญ่ คือ แบคทีเรียและไวรัส ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้ ก็ทำให้เจ็บป่วยได้อย่างรุนแรงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยก็ว่าได้

แบคทีเรียที่ปนเปื้อนมักจะทำให้เกิดอาการ ไข้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ บางกรณีอาจจะรุนแรงกระทั่งถ่ายเป็นมูกเลือดเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้วอาการโรคอาหารเป็นพิษจากแบคทีเรียบางชนิดอาจจะทำให้เกิดอาการไตวายในเด็กได้ด้วย

ไวรัสที่ก่อโรคอาจจะแบ่งได้เป็นกลุ่มที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหารเหมือนแบคทีเรีย ซึ่งพบว่าก่อโรคได้ทุกเพศ ทุกวัย และกลุ่มที่ก่อให้เกิดโรคตับอักเสบ อย่างกรณีของการปนเปื้อนน้ำทะเล

ข้อแนะนำ: เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคในสถานการณ์ต่างๆ คือการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่ผิวสัมผัสของคีย์บอร์ดและเม้าส์อย่างสม่ำเสมอ ก่อนการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ควรมีการล้างทำความสะอาดมือและนิ้วมือด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการใช้ห้องน้ำด้วย เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจจะมาจากทางเดินอาหารและปนเปื้อนไปสู่หน้าสัมผัสของอุปกรณ์ ซึ่งเท่ากับเป็นการวางยา(เชื้อโรคที่ปนเปื้อน) ไปสู่ผู้ใช้งานคนถัดๆ ไป (หมายความว่า อาจจะมีเหยื่อมากกว่า 1ราย) แม้ว่าเชื้อโรคส่วนมากจะไม่สามารถเจริญเติบโตบนผิวสัมผัสเหล่านี้ได้ แต่เชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่อาจจะยังไม่ตาย เพียงแต่รอเวลาให้ผู้โชคร้ายรายต่อไป รับเอาเชื้อโรคเข้าสู่ทางเดินอาหาร แล้วก่อให้เกิดโรคต่อไป

นอกจากนี้ให้อนุมานว่าอุปกรณ์ IT สาธารณะไม่สะอาด ดังนั้น ระหว่างการใช้งานไม่ควรใช้มือหรือนิ้วมือนำอาหารเข้าปากเป็นอย่างยิ่ง และที่ลืมไม่ได้ คือการล้างมือทำความสะอาดหลังการใช้งานอุปกรณ์ ITสาธารณะทุกชนิดในทุกสถานที่ด้วย


โดย: ผศ.นสพ.ดร.ศุภชัย เนื้อนวลสุวรรณ
ภาควิชาสัตว์แพทยสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ที่มาข้อมูลและภาพ trueplookpanya.com




 

Create Date : 22 มีนาคม 2556    
Last Update : 22 มีนาคม 2556 8:17:02 น.
Counter : 1540 Pageviews.  

วิธีเลือกบราและแผ่นดันทรง



เลือกบราเสริมทรง
คนอกเล็ก มีดีตรงดูเพรียวบางกว่าคนอกใหญ่ ใส่สายเดี่ยวยังไงก็ไม่ต้องกลัวโป๊เกินไป แต่อย่างไรเสียผู้หญิงทุกคนก็ยังอยากมีทรวงอกตึงเต็มอยู่ดี เราสามารถเลือกบราเพื่อช่วยให้อกดูสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติได้ง่ายๆ

สาวหน้าอกเล็กที่อยากดูอึ๋มทันตา ควรเลือกยกทรงแบบเสริมแผ่นฟองน้ำทั้งเต้า
ถ้าอกแบน ควรจะเลือกแบบพุช-อัพ (ดันขึ้น) ซึ่งครึ่งล่างจะบุเสริมให้หนา (ลองจับด้านในส่วนล่างชั้นในดู จะหนากว่าปกติ) มีทั้งแบบเสริมด้วยฟองน้ำ หรือของเหลว เช่น น้ำ ซิลิโคน แม้กระทั่งชนิดเสริมด้วยอากาศเดี๋ยวนี้ก็ยังมี สวมแล้วขนาดจะดูเพิ่มขึ้น คัพเต็มขึ้น

ประเภทของแผ่นดันทรง
แผ่นดันทรงฟองน้ำไฟเบอร์
ฟองน้ำที่เป็นใยไฟเบอร์ ห่อหุ้มด้วยผ้าเนื้อต่างๆ เช่น ผ้าไนลอน คอตตอน น้ำหนักเบา รองรับทรงได้ปานกลาง

แผ่นดันทรงแบบ PU Cup
ฟองน้ำทรงปั๊ม โค้งมนตามรูปเต้าทรง มีความหนาและรูปร่างทรงแตกต่างกันไป น้ำหนักเบา คงรูปทรงได้ดี และมีข้อดีคือ ช่วยให้ไม่เห็นรอยชั้นในเวลาสวมใส่เสื้อรัดรูป ให้ความนุ่ม สบาย มีหลายแบบ
 - แบบธรรมดา ฟองน้ำทรงปั๊ม ที่โค้งมนตามรูปเต้าทรง ช่วยเสริมให้เรียบ มน
 - แบบยืดได้ ฟองน้ำทรงปั๊ม ที่โค้งมนตามรูปเต้าทรง ตัวฟองน้ำยืดได้ตามสรีระและการเคลื่อนไหวใส่สบายไม่อึดอัด
 - แบบดันทรงในตัว ฟองน้ำทรงปั๊ม ที่โค้งมนตามรูปเต้าทรง เพิ่มฟองน้ำนูนด้านในเพื่อการดันทรงให้อวบอิ่มยิ่งขึ้น
 - แบบดันทรงในตัวฟองน้ำยืดได้ คัพยืดได้สวมใส่สบายแล้วยังดันทรงให้อวบอิ่มยิ่งขึ้น

แผ่นดันทรงแบบน้ำ
ช่วยดันทรงให้สวยเป็นธรรมชาติ เพราะน้ำจะยืดหยุ่นตามรูปทรงของอก ช่วยให้เนินอกสวยไม่หลอกตา แผ่นดันทรงชนิดน้ำคือ เบบี้ ออยล์ 100% ที่บรรจุในถุงพลาสติก TPU ที่มีความเหนียวนุ่ม ยืดหยุ่นได้ ทนแรงกด บีบมั่นใจได้ว่าออยล์ที่อยู่ภายในจะไม่รั่วซึมออกมาได้ง่ายๆ ปลอดภัยต่อร่างกาย

แผ่นดันทรงแบบเพิร์ล
ช่วยให้ผู้สวมใส่รู้สึกนุ่มเนียนเป็นธรรมชาติมากขึ้น ใส่สบายด้วยแผ่นดันทรงเนื้อนิ่ม ที่บรรจุเนื้อครีมสีไข่มุกซึ่งประกอบไปด้วยวาสลีนและเบบี้ออยล์ เวลาสวมใส่จะเบาสบายกว่าแผ่นดันทรงแบบน้ำ

แผ่นดันทรงแบบแอร์
แผ่นดันทรงบรรจุอากาศ 100% ได้ด้านใน ช่วยเพิ่มความเบาสบายอย่างเป็นธรรมชาติ
ได้ข้อมูลเยอะขนาดนี้แล้ว เวลาไปซื้อบราก็อย่าลืมที่จะสอบถามพนักงานและบอกความต้องการของเราให้แน่ชัดนะคะ

ที่มาข้อมูล mekoclinic.com
ที่มารูปภาพ teenee.com




 

Create Date : 21 มีนาคม 2556    
Last Update : 21 มีนาคม 2556 8:02:41 น.
Counter : 2326 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.