ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

แสบร้อนที่มือเพราะพริกขี้หนู ทำไงดี???



เคยใช่ม๊า หั่น ซอย หรือว่าเด็ดพริกขี้หนู แล้วสิ่งที่ได้มากกว่าความเผ็ด
ของอาหาร ก็คือความร้อนแสบไปทั่วบริเวณนิ้ว หรือมือที่สัมผัสกับพริกขี้หนู
ที่ฤทธิ์ไม่พริกขี้หนูเอาเสียเลย

แก้ได้ไม่ยากค่ะ วิธีแรกท่านว่าให้นำเกลือแกงก็เกลือเค็มๆที่เราใช้ปรุงอาหารนี่ล่ะค่ะ สักหนึ่งช้อนแกง ลูบลงบนมือถูไปถูมาความแสบร้อนก็จะคลายลงค่ะ

อีกวิธีนึงท่านว่าแทนที่จะใช้เกลือแกง ให้ใช้แป้งค่ะ จะแป้งเด็กทาตัว หรือแป้งหมี่ที่เราใช้ทำอาหารก็ได้ ลูบถู ไปตรงบริเวณที่รู้สึกแสบร้อน สักครู่ก็จะรู้สึกดีขึ้นค่ะ

ส่วนวิธีไหนจะได้ผลดีกว่ากันใครลองแล้วได้ผลว่าอย่างไรก็ช่วยกันเมล์มาบอกเว็บคุ๊กกี้เธอด้วยนะคะ


ขอบคุณ : thaifooddb.com




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2555 8:21:51 น.
Counter : 2339 Pageviews.  

วิธีทำ ความสะอาดและกำจัดกลิ่นคาวที่ติดอยู่บนเขียง



  • ใช้น้ำร้อนฆ่าเชื้อโรค ให้ราดน้ำร้อนลงบนเขียงให้ทั่ว แล้วใช้แปรงถูให้ทั่วจนแน่ใจว่าเขียงสะอาด จากนั้นล้างน้ำซ้ำอีกครั้งผึ่งให้แห้ง
  • ใช้น้ำยาล้างจานขจัดคราบไขมัน สำหรับเขียงที่ใช้หั่นเนื้อสัตว์ดิบๆ ควรใช้น้ำยาล้างจานล้างทำความสะอาด เพื่อขจัดคราบไขมันที่เกาะตามเขียง
  • ใช้เกลือป่น โรยให้ทั่วเขียง จากนั้นใช้ผ้าสะอาดถูแรงๆให้ทั่ว ล้างออกด้วยน้ำร้อนหรือน้ำยาล้างจานตามปกติ
  • ใช้มะนาว หลังจากบีบน้ำมะนาวไปใช้แล้วอย่าเพิ่งทิ้งเปลือก ให้นำเปลือกมะนาวมาถูให้ทั่วบริเวณหน้าเขียง เนื่องจากความเปรี้ยวของมะนาวสามารถดับกลิ่นคาวได้
  • ใช้เบกกิ้งโซดา นำเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำประมาณ 800 ซีซี คนให้เข้ากัน จากนั้นเทลงบนเขียงใช้แปรงขัด ล้างออกด้วยน้ำสะอาดเพียงเท่านี้เขียงของคุณก็หมดกลิ่นคาว

เลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง ตามถนัด ได้เลย



ขอบคุณ : sakid.com




 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 24 พฤษภาคม 2555 8:27:58 น.
Counter : 2080 Pageviews.  

ดูเพื่อปลง พิธีศพของอินเดีย

มาดูพิธีของทางประเทศอินเดีย ซึ่งจะแปลกไปจากเมื่อก่อนก็คือ เมื่อก่อนถ้ามีคนตายก็จะโยนศพลงไปยังแม่น้ำคงคา เพื่ออุทิศชีวิตให้สรรพสัตว์อื่นๆ แต่เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป มีการบริโภคที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้การโยนศพลงแม่น้ำเหมือนก่อนไม่มีแล้ว และเปลี่ยนวิธีมาเป็นการเผาแทน












































 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 21 พฤษภาคม 2555 7:59:10 น.
Counter : 2699 Pageviews.  

วิธีเป่าผมที่เปียกน้ำ ให้แห้งเร็วกว่าปกติ



วิธีทำ

  1. ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำให้หมาดนิดหน่อยหลังสระเสร็จ
  2. เปลี่ยนผ้าขนหนูที่แห้งอันใหม่ วางไปบนผมที่เปียกอีกครั้งแล้วจึงใช้ไดร์เป่าผมเป่า
  3. ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีผมก็แห้ง ในเวลาอันรวดเร็ว

วิธีนี้ช่วยให้ผมไม่แห้งและแตกปลาย ด้วยความร้อนของไดร์เป่าผมอีกด้วย ลองทำตามดูนะคะ ^-^



ขอบคุณ : sakid.com




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2555 11:21:16 น.
Counter : 1842 Pageviews.  

ก๊าซจากกระเพาะไดโนเสาร์ทำให้โลกร้อน

เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงของอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานอ้างผลวิจัยของนักวิทยาศาสตร์อังกฤษระบุว่า ไดโนเสาร์ขนาดใหญ่อาจเป็นสาเหตุทำให้โลกร้อนในยุคดึกดำบรรพ์ เนื่องจากก๊าซในกระเพาะอาหาร

นักวิทยาศาสตร์คำนวณก๊าซมีเทนที่ไดโนเสาร์ขนาดใหญ่คอยาว เช่น บรอนโตซอรัสปล่อยออกสู่อากาศพบว่า ประชากรไดโนเสาร์ทั้งหมดจะปล่อยก๊าซดังกล่าวออกสู่บรรยากาศปีละ 520 ล้านตัน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนเมื่อ 150 ล้านปีที่แล้ว การคำนวณดังกล่าวได้เปรียบเทียบกับวัวในปัจจุบันที่ผลิตก๊าซชนิดนี้ขึ้นสู่บรรยากาศปีละ 50-100 ล้านตัน

ไดโนเสาร์ตระกูลโซโรพอด เช่น บรอนโตซอรัสเป็นสัตว์ขนาดใหญ่มากที่กินพืชเป็นอาหารและอาศัยอยู่บนพื้นดินในยุคเมโซโซอิค นักวิทยาศาสตร์สนใจสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในตัวไดโนเสาร์เหล่านี้ ซึ่งมีบทบาทการเกิดก๊าซเรือนกระจก ที่บดบังไม่ให้รังสีอินฟราเรดจากแสงอาทิตย์สามารถสะท้อนกลับขึ้นสู่อวกาศ ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น

ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ระบุว่า โลกเคยมีอุณหภูมิสูงขึ้น 10 องศาเซลเซียสในยุคเมโซโซอิค อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า ไดโนเสาร์ไม่ใช่จำเลยเพียงฝ่ายเดียวที่ผลิตก๊าซมีเทนในยุคนั้น แต่ก๊าซดังกล่าวมาจากหลายแหล่งซึ่งเป็นไปได้ที่มีปริมาณมากกว่าปัจจุบันนี้.-สำนักข่าวไทย




 

Create Date : 17 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 17 พฤษภาคม 2555 8:58:52 น.
Counter : 1958 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.