ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

รถควันดำสาเหตุและวิธีแก้ไข



หลังจากที่กรุงเทพมหานครร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ทำการตรวจเชครถที่มีปริมาณเขม่าควันดำมาตลอดนั้น ทำให้จำนวนรถที่มีควันดำลดลงในปริมาณที่น่าพอใจ ซึ่งสาเหตุที่รถมีควันดำนั้นมีดังนี้

1.เครื่องยนต์สึกหรอมาก เช่น ลูกสูบและกระบอกสูบ แหวนลูกสูบชำรุด
2.ปั๊มฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงชำรุดและทำงานไม่ถูกต้อง หรือฉีดน้ำมันในจังหวะที่ไม่ถูกต้อง
3.หัวฉีดน้ำมันแรงดันสูงที่จ่ายเข้าไปในห้องเผาไหม้ชำรุด
4.กรองอากาศอุดตัน
5.น้ำมันเครื่องมีอายุการใช้งานมาก
6.เขม่าควันดำและฝุ่นละอองค้างอยู่ภายในท่อไอเสีย

วิธีแก้ไข
1.ซ่อมแซมเครื่องยนต์ในส่วนที่สึกหรอ เช่น เปลี่ยนลูกสูบ แหวนลูกสูบ หรือ ทำการคว้านกระบอกสูบ แล้วเปลี่ยนลูกสูบให้ใหญ่ขึ้น
2.ทำการเชคปั๊ม โดยนำเข้าศูนย์บริการ ทำการปรับแต่งปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุดสึกหรอ รวมทั้งปรับแต่งหัวฉีดน้ำมันและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอ รวมทั้งการปรับแต่งอัตราและจังหวะการฉีดน้ำมันให้ถูกต้องเป็นไปตามบริษัทผู้ผลิตกำหนด
3.เปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ เพื่อให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบรูณ์
4.เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด
5.ปรับแต่งเครื่องยนต์ให้ทำงานถูกต้องตามระยะเวลาที่เหมาะสม
6.ทำการล้างท่อไอเสียโดยใช้น้ำหรือลมฉีดชะล้างเขม่าและฝุ่นละอองภายในท่อไอเสีย


ที่มาข้อมูลและภาพ toyotabuzz.com

ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook คลิ๊ก...






 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2556 10:26:11 น.
Counter : 3536 Pageviews.  

ทำไมเครื่องหมายดอลลาร์จึงต้องเป็น $



คนจำนวนมากเชื่อว่าเครื่องหมาย ดอลลาร์ "$" เริ่มขึ้น  เมื่อใครบางคนเขียนอักษรตัว U กับอักษรตัว S ทับซ้อนกัน ซึ่งไม่จริงเลย เพราะเครื่องหมายดอลลาร์ดั้งเดิมเป็นอักษร ตัว S ที่มีขีดเดียวลากผ่านในแนวดิ่ง ไม่ใช่สองขีด

อีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อ ว่า เครื่องหมายดอลลาร์แรกเริ่มเดิมทีนั้นเป็นอักษรตัว P รวมกับเลข 8 เนื่องจากก่อนที่สหรัฐอเมริกาจะผลิตเงินตราของตัวเองขึ้นใช้สหรัฐฯ ใช้เงินสเปน เงินเหรียญของสเปนเรียกว่า "แปดส่วน" -pieces of eight หรือ P8 นั่นเอง เงิน เหรียญนี้สามารถตัดแบ่งออกเป็นแปดชิ้นหรือเสี้ยว (bits) เพื่อใช้ทอนได้ นี่เป็นคำอธิบายว่าทำไมคนอเมริกันจึงเรียกเหรียญควอเตอร์หรือเหรียญ 25 เซ็นต์ ว่าtwo bits ( 2 เสี้ยว) มาจนถึงทุกวันนี้ แต่ทฤษฎี P8 นี้ไม่มีหลักฐานสนับสนุนเพียงพอส่วนคำ อธิบายที่แท้จริงบอกว่า เครื่องหมายดอลลาร์แต่ เดิมนั้นเป็นตัวย่อของคำว่า pesos เปโซส์ คือ หน่วยเงินตราของสเปน และที่จริงแล้วชื่อภาษาสเปนของเงินเหรียญแปดส่วน ก็คือ peso de 8 reals สองร้อยกว่าปีก่อนเมื่อสหรัฐอเมริกายังใช้เงินสเปน (ไม่น่าเชื่อเลยว่า ประเทศอเมริกาไม่ได้ผลิตเหรียญกษาปณ์ของตนเองขึ้นใช้จนกระทั่งปี ค.ศ. 1794 หรือเกือบ 20 ปีภายหลังจากการประกาศเอกราชแล้ว) เป็นเรื่องธรรมดา มากที่จะย่อคำว่า "200 pesos" เป็น "PS 200" และเมื่อเวลาผ่านไป อักษร P และ S ก็ค่อย ๆ รวมเข้าด้วยกันจนในที่สุดผู้คนเริ่มเขียนเส้น ตั้งของอักษร P และทับลงบนอักษร S และเครื่องหมายดอลลาร์ $ ก็ถือกำเนิดขึ้นด้วยประการฉะนี้




ที่มาข้อมูลและภาพ banprak-nfe.com

ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook คลิ๊ก...




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2556 7:52:48 น.
Counter : 1907 Pageviews.  

เทียนไขมีความเป็นมาอย่างไร



ในบรรดาสิ่งที่นำมาใช้เพื่อความสว่างในบ้านเรือน (ก่อนยุคอิเล็กทรอนิกส์) แล้ว เทียนไขเกิดขึ้นทีหลังสุด เรื่องราวของมัน เริ่มปรากฏในเอกสารของชาวโรมันในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ ๑ ซึ่งชาวโรมันบันทึกไว้ว่า เป็นประดิษฐกรรมชิ้นใหม่ที่ใช้แทนตะเกียงน้ำมันได้

เทียนไขในยุคนั้นทำจากไขสัตว์และพืชซึ่งไม่มีสีและรสชาติ แต่รับประทานได้ ทหารในกองทัพที่อดอยากจะได้รับปันเทียนไขเป็นอาหาร และหลายร้อยปีต่อมาการรับประทานเทียนไขก็เป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้ดูแลประภาคาร ซึ่งมักจะอยู่โดดเดี่ยวครั้งละนาน ๆ อีกด้วย

           ปัญหาของเทียนไขในยุคก่อนคือ การตัดไส้เทียนแม้จะเป็นเทียนไขที่มีราคาแพงมากก็ยังจำเป็นต้องตัดไส้เทียนทิ้งทุกครึ่งชั่วโมง การตัดไส้เทียนคือการค่อย ๆ ขริบเอาส่วนที่ไหม้ออกโดยไม่ทำให้เทียนดับถ้าไม่ตัดจะทำให้เทียนไขไม่สว่าง เท่าทีควรและยังเปลืองเนื้อเทียนอีกด้วย  คือเนื้อเทียนจะถูกใช้ไปในการเผาไหม้เพียงร้อยละ ๕ ที่เหลือจะละลายหมด  และแม้จะมีการตัดไส้เทียน  แต่ถ้าทำไม่ถูกวิธีเทียนไขจำนวน  ๘  แท่งหนักประมาณ  ๑  ปอนด์จะหมดไปภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น  ปราสาทหลังหนึ่ง ๆ ใช้เทียนไขสัปดาห์ละหลายร้อยเล่มและมี  'เจ้าพนักงานตัดไส้เทียน' โดยเฉพาะอีกด้วย

           การตัดไส้เทียนต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษ นักกฎหมายชาวสก็อตซึ่งเป็นผู้เขียนอัตชีวประวัติของซามูเอล  จอห์นสัน ที่ชื่อเจมส์  บอสเวล เคยต้องตัดไส้เทียนเองหลายครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จสักครั้งในปี  ๒๓๓๖  เขาเขียนถึงเรื่องนี้ว่า “ผมยอมจะนั่งอยู่ทั้งคืนเพื่อตัดไส้เทียนให้ได้  จนประมาณตีสองผมพลาดไปดับเทียนเข้า...แล้วก็ไม่สามารถจุดมันขึ้นใหม่ได้"

การจุดเทียนไขโดยที่สิ่งให้ แสงสว่างๆ อื่นๆ ดับหมดทั่วบ้านแล้วเป็นงานที่ต้องใช้เวลาอย่างมาก เนื่องจากยังไม่มีใครคิดค้นไม้ขีดไฟขึ้นได้ ใครที่เคยอ่านหรือดูเรื่องดอนกีโฮเต  คงจำความหงุดหงิดของพระเอกเซอว์วานเตสขณะจุดเทียนไขจากไฟในเศษถ่านได้ดี นอกจากนี้การตัดไส้เทียนมักทำให้เทียนดับ จนคำว่า 'snuff’  ซึ่งแปลว่า 'ตัดไส้เทียน'  ได้เพี้ยนความหมายกลายเป็น 'extinguish' หรือ 'ดับไฟ'  ไป

           กระทั่งในศตวรรษที่ ๑๗ คณะละครจะต้องมีเด็กคอยทำหน้าที่ตัดไส้เทียน (snuff boy) โดยถือว่าการตัดไส้เทียนเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเด็กที่ทำหน้าที่นี้ต้องเดิน ขึ้นไปบนเวทีขณะที่ละครกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น เพื่อตัดไส้เทียนอย่างประณีตและชำนาญ  ไม่ทำให้เปลวไฟแกว่งดับ หรือสะดุด อันจะรบกวนความรู้สึกของผู้ชมซึ่งกำลังสนใจและเคลิ้มไปกับเรื่องราวการแสดง บนเวทีอยู่  ถ้างานสำเร็จลุล่วงด้วยดี  เขาจะได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมหนึ่งรอบเฉกเช่นนักแสดงคนหนึ่งศิลปะการตัด ไส้เทียนหมดลงในปลายศตวรรษที่ ๑๗ เมื่อมีการใช้เทียน ขี้ผึ้งกันอย่างแพร่หลาย  เทียนขี้ผึ้งมีราคาแพงกว่าเทียนไขถึงสามเท่า แต่ให้ความสว่างมากกว่า และเนื้อขี้ผึ้งระเหยได้บ้าง ซามูเอล  เป๊ปปีส์ ชาวอังกฤษ  ได้บันทึกไว้ในปี พ.ศ. ๒๒๑๐ ถึงการใช้เทียนขี้ผึ้งในโรงละครดรูรีเลนเธียเตอร์ ในลอนดอนว่า “เดี๋ยวนี้โรงละครสว่างขึ้นเป็นพันเท่าและดูสวยกว่าด้วย”

           นอกจากนั้นผู้ที่มีฐานะร่ำรวยจะใช้เทียนขี้ผึ้งประดับบ้านในโอกาสพิเศษที่ ต้องการความหรูหรา มีบันทึกระบุว่าบ้านหลังใหญ่แห่งหนึ่งในอังกฤษใช้เทียนขี้ผึ้งมากกว่าหนึ่ง ร้อยปอนด์ในหนึ่งเดือนในช่วงฤดูหนาวของปี พ.ศ. ๒๓๐๘

           บันทึกถึงเทียนไขขอผ่านช่วงสมัยปัจจุบันไปแสดงความยินดีกับวิวัฒนาการของ มันในศตวรรษหน้าเมื่ออังกฤษคิดประดิษฐ์เทียนขี้ผึ้งสีขาวเป็นมันอเมริกากำลังทำเทียนไขสีเขียวกลิ่นเบเบอรี่

           ใครจะรู้ สักวันหนึ่งโลกอาจต้องหันไปพึ่งแหล่งพลังงานนี้อีกครั้งก็เป็นได้




ที่มาข้อมูลและภาพ banprak-nfe.com

ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook คลิ๊ก...




 

Create Date : 30 มกราคม 2556    
Last Update : 30 มกราคม 2556 21:57:00 น.
Counter : 2781 Pageviews.  

เกร็ดความรู้สำหรับการบริหารสะโพก



ถ้าคุณอยากใส่เสื้อผ้าสวยๆ แต่ขาดความมั่นใจใน "สะโพก" ของคุณเพราะคุณรู้สึกว่าสะโพกของคุณนั้นใหญ่เกินสวย วันนี้เรามีเกร็ดความรู้ของการบริหารสะโพกให้ดูดีมาฝากทุกคนกัน

1.ควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ อาจจะเป็นการเต้นแอโรบิก การวิ่ง ปั่นจักรยาน การบริหารเฉพาะส่วน ฯลฯ  เป็นวิธีที่ช่วยให้สะโพกสวยแน่น และกระชับมากขึ้นไม่ว่าคนอ้วน หรือผอมก็สามารถใช้วิธีนี้ได้

2."ควบคุม" อาหาร แต่ไม่ใช่ "อด" อาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์มากกว่ารับประทานตามใจปาก  ควรทานให้ครบทั้ง 3 มื้อ และหยุดทันทีถ้ารู้สึกอิ่ม ลดอาหารจำพวกที่ให้พลังงานสูง และอาหารรสจัด หวานจัด มันจัด ควรดื่มนมที่พร่องมันเนย ของขบเคี้ยว ให้เลือกทานประเภทพืชเปลือกแข็งแทน เช่น ถั่ว เม็ดแตงโม ฯลฯ 

3.การนวดมีประโยชน์มากกับขาช่วงต้นขาด้านบน ด้านหน้าและหลัง โดยเฉพาะช่วงต่อจากก้นลงมา เพราะถ้าบริเวณนี้มีไขมันมากจะทำให้สะโพกห้อยและย้อยได้ นอกจากนี้การนวดยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต รวมทั้งกำจัดของเสียและไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังด้วย สำหรับการนวดที่ดีคือ ให้ใช้ครีมที่ใช้ขจัดไขมันใต้ผิวหนัง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการนวด ควรเป็นตอนก่อนนอน หลังอาบน้ำในตอนเช้า หรือ ก่อนทานอาหารหนึ่งชั่วโมง ควรใช้ครีมนวดติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ถ้าใช้ๆ หยุดๆ จะไม่เห็นผล และหยุดใช้ครีมนวดทันทีถ้าเกิดอาการแพ้ 

4.การขัดผิว จะช่วยในเรื่องของการแตกลาย จุดด่างดำ ผดผื่นแดง และรอยหยาบกร้านให้หมดไป สามารถขัดผิวได้ด้วยตัวเองโดยใช้น้ำมันขัดผิวที่ทำขึ้นเองแบบง่ายๆ และประหยัด ส่วนการขัดผิวให้ขัดเป็นวงกลมในบริเวณที่เกิดรอยหยาบกร้าน

5.การเสริมแต่งด้วยชุดชั้นใน เป็นวิธีที่กำลังมาแรงและง่ายที่สุด ผู้หญิงยุคใหม่ที่อยากมีสะโพกสวยมักหันไปพึ่งชุดชั้นใน (INNERWEAR) แทน เพื่อช่วยเสริมบุคลิกภาพที่ดีแก่ผู้สวมใส่จะช่วยจัดทรงให้แก่ผู้สวมใส่เน้นรูปร่างสัดส่วนมากขึ้น ไม่ว่าหน้าอก เอว หน้าท้อง สะโพก

วิธีการทำน้ำมันขัดผิวอย่างง่ายๆ
1.นำเกลือเม็ดใส่ลงในขวด  กะปริมาณตามที่ต้องการ
2.เติมน้ำมันมะกอกลงไป
3.สังเกตุให้ "เกลือดูดซึมน้ำมันจนหมด" อย่าให้แห้ง หรือเปียกเกินไป อาจเติมน้ำหอมกลิ่นที่ชอบลงไปสัก 2 - 3 หยด จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นในขณะที่ขัดผิว

ที่มาข้อมูลและภาพ mekoclinic.com

cartoonthai




 

Create Date : 27 มกราคม 2556    
Last Update : 27 มกราคม 2556 10:24:52 น.
Counter : 1785 Pageviews.  

วิธีทำน้ำอาร์ซี



ส่วนผสมน้ำอาร์ซี
- ข้าวแดงจากข้าวซ้อมมือ 2 กำมือ
- ข้าวเหนียวซ้อมมือ 2 กำมือ
- ข้าวสาลีเม็ด 1 กำมือ
- ข้าวบาร์เล่ย์ 1 กำมือ
- ข้าวฟ่าง 1 กำมือ
- ลูกเดือย 1 กำมือ
- ลูกบัว 1 กำมือ
- ข้าวโอ๊ต 1 กำมือ
- น้ำเปล่า 2 ลิตร

วิธีทำน้ำอาร์ซี
1. นำลูกบัว ลูกเดือย ข้าวสาลี ข้าวบาเลย์ ข้าวฟ่าง มาต้มจนเดือด พอเดือดแล้วใส่ข้าวซ้อมมือ ข้าวเหนียวซ้อมมือ ข้าวแดงตามลงไป
2. ต้มต่อไปจนเดือดอีกครั้ง จากนั้นใส่ข้าวโอ๊ตเป็นส่วนสุดท้าย เดือดแล้วปิดไฟ ปล่อยให้ข้าวต่างๆนอนก้น แล้วตักแต่น้ำใสๆดื่มร้อนๆ หรืออุ่นๆก็ใด้
3. กากข้าวเอาไปทำข้าวต้มต่อ อาจเติมฟักทอง มันเทศหรือเผือกลงไปก็ใด้ ต้มจนข้าวเป็นยางจึงยกลง

ประโยชน์น้ำอาร์ซีที่ร่างกายได้รับ
คุณค่าทางอาหาร
: ช่วยบำรุงร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยให้ กินอาหารใด้นอนหลับ
คุณค่าทางยา : ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา

ข้อเสนอแนะ
1.ควรซื้อธัญพืชแต่ละอย่างมาต้มเอง ไม่แนะนำให้ซื้ออาร์ซีแบบผงมาต้ม เนื่องจากอาจไม่ได้สัดส่วนตามต้องการ และไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร
2.น้ำอาร์ซี มีสารอาหารที่มีประโยชน์มาก จึงบูดเน่าเสียง่าย และคุณค่าจะลดลงเมื่อทิ้งไว้จนเย็น หากต้อองการเก็บรักษาไว้สัก 4-5 ชั่วโมง ควรเก็บไว้ในกระติกเก็บความร้อน และควรดื่มหมดในวันเดียว

ที่มาข้อมูลและภาพ //202.129.59.73/nana/frwater/rc.htm

cartoonthai




 

Create Date : 26 มกราคม 2556    
Last Update : 26 มกราคม 2556 9:42:40 น.
Counter : 4016 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.