ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

วันตรุษจีน หรือ ปีใหม่จีน

ตำนานความเป็นมาของวันตรุษจีน


ตรุษจีน เป็นวันสำคัญของจีนที่มีมาแต่โบราณที่เรียกว่า "กว้อชุนเจี๋ย" หรือ "กว้อเหนียน" เล่ากันว่าในสมัยโบราณ ในป่าทึบแห่งหนึ่ง มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่ง เรียกว่า "เหนียน" มัน
ออกอาละวาดกินคนเป็นประจำ พระเจ้าจึงลงโทษมัน
อนุญาตให้มันลงมาจากเขาได้เพียงหนึ่งครั้งใน 365 วัน ดังนั้น
เมื่อฤดูหนาวใกล้จะผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิเวียนมาใกล้ เหนียน
ก็จะออกมาทำร้ายผู้คน เพื่อป้องกันการมาของ เหนียน ทุก ๆ
ครัวเรือนจึงต่างสะสมเสบียงอาหาร และกับข้าวจำนวนหนึ่งไว้ในบ้าน
เมื่อถึงตอนค่ำของวันที่ 30 เดือน 12 ก็จะปิดประตูและหน้าต่างเอาไว้
ไม่หลับไม่นอนตลอดคืน เพื่อต่อสู้กับ เหนียน
จนกระทั่งถึงรุ่งเช้าก็จะเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 1 เมื่อ เหนียน กลับไปแล้ว
ทุก ๆ ครัวเรือนก็จะเปิดประตูออกมาแสดงความยินดีต่อกัน ที่โชคดีไม่ได้ถูก
เหนียน ทำร้าย


ต่อมาพบว่า เหนียน มีจุดอ่อน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อเหนียน
มาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังหวดแส้เล่นกันเมื่อ เหนียน
ได้ยินเสียงแส้ดังเปรี้ยงปร้างก็เลยตกใจเผ่นหนีไป เมื่อ เหนียน
ไปถึงหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง
เห็นมีชุดเสื้อผ้าสีแดงตากอยู่หน้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง สีแดงฉูดฉาดนั้น
ทำให้ เหนียน ตกใจและเผ่นหนีไปอีก เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งที่สาม
ปรากฏว่าไปพบเห็นกองเพลิงกองหนึ่งบนถนน แสงเพลิงที่เจิดจ้าทำให้ เหนียน
ต้องเผ่นหนีไปอีก ตั้งแต่นั้นมา ผู้คนต่างรู้ว่า แม้ว่า เหนียน
จะดุร้ายแต่มันก็กลัวสีแดง เสียงดังและไฟ ทำให้ผู้คนสามารถคิดหาวิธีกำจัด
เหนียน ได้โดยไม่ยากนัก


เมื่อวันส่งท้ายตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุกๆ
ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน แขวนโคมไฟสีแดง
พร้อมกับจุดประทัดและตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง เมื่อ เหนียน
มาถึงในตอนเย็น เห็นทุก ๆ ครัวเรือนมีแสงไฟสว่างไสว
มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป
และไม่กล้าออกมาอาละวาดอีก ทุก ๆ คนจึงผ่านพ้นคืนแห่งอันตรายไปอย่างปลอดภัย
เมื่อฟ้าสางแล้ว ผู้คนจึงออกมาจากบ้าน
กล่าวคำอวยพรซึ่งกันและกันอย่างมีความสุข
พร้อมกับการนำอาหารออกมารับประทานร่วมกันอย่างสนุกสนาน










อาหารไหว้เจ้า ของไหว้ตรุษจีน


ในวันฉลองตรุษจีนอาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันไหนๆในปี
อาหารชนิดต่างๆที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณี
จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง
รวมไปถึงคนรู้จักที่ได้เสียไปแล้ว
ในวันตรุษครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่
ถึงแม้ผักชนิดต่างๆที่นำมาปรุง
จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่างๆมีความ
หมายที่เป็นมงคลในตัวของมัน








ของไหว้ตรุษจีน ขนมไหว้วันตรุษจีน


1.ขนมเข่ง คือ ความหวานชื่น ราบรื่นในชีวิต ขนมเข่งที่ใส่ในชะลอม หมายถึง ความหวานชื่นอันสมบูรณ์


2.ขนมเทียน คือ
เป็นขนมที่ปรับปรุงขึ้นจากชาวจีนโพ้นแผ่นดินดัดแปลงมาจากขนมท้องถิ่นของไทย
จากขนมใส่ไส้เปลี่ยนจากแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิมาเป็นแป้งข้าวเหนียวแทน มี


ความหมายหวานชื่น ราบรื่น รูปลักษณ์เป็นกรวยแหลมมีลักษณะเป็นมงคลเหมือนเจดีย์


3.ขนมไข่ คือ ความเจริญเติบโต


4.ขนมถ้วยฟู คือ ความเพิ่มพูนรุ่งเรือง เฟื่องฟู


5.ขนมสาลี่ คือ รุ่งเรือง เฟื่องฟู


6.ซาลาเปา หรือ หมั่นโถว คือ ไหว้เพื่อให้เปาไช้ แปลว่าห่อโชค


7.จันอับ (จั๋งอั๊บ) หมายถึง ปิ่นโต หมายถึงความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป

อาหาร
อื่นๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดม-
สมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว
หางและเท้าอยู่ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์
เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว ทางตอนใต้ของจีน
จานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน
ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ทางเหนือ หมั่นโถ และติ่มซำ เป็นอาหารที่นิยม
อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง
ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน













ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันปีใหม่


วันจ่าย หรือ ตื่อเส็ก คือวันก่อนวันสิ้นปี
เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ
ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้านหยุดพักผ่อนยาว
ในตอนค่ำจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ หรือ ตี่จู๋เอี๊ย
ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการะบูชาของเจ้าบ้าน
หลังจากที่ได้ไหว้อัญเชิญขึ้นสวรรค์เมื่อ 4 วันที่แล้ว


วันไหว้ คือ วันสิ้นปี จะมีการไหว้ 3 ครั้ง คือ
ตอนเช้ามืดจะไหว้ ไป๊เล่าเอี๊ย เป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ เครื่องไหว้คือ
เนื้อสัตว์ 3 อย่าง (ซาแซ ได้แก่ หมูสามชั้นต้ม ไก่ เป็ด
ปรับเปลี่ยนเป็นชนิดอื่นได้ หรือมากกว่านั้นได้จนเป็นเนื้อสัตว์ห้าชนิด)
เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง





- ตอนสาย จะไหว้ไป๊เป้บ๊อ คือการไหว้บรรพบุรุษ
พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตามคติจีน
การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเที่ยง เครื่องไหว้จะประกอบด้วย ซาแซ
อาหารคาวหวาน (ส่วนมากจะทำตามที่ผู้ที่ล่วงลับเคยชอบ)
รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ
หลังจากนั้น
ญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเป็นสิริมงคล
และถือเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะรวมตัวกันได้มากที่สุด
จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว


- ตอนบ่าย จะไหว้ ไป๊ฮ้อเฮียตี๋ เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว
เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล
กระดาษเงินกระดาษทอง
พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเป็นสิริมงคล


วันขึ้นปีใหม่ หรือ วันเที่ยว หรือ วันถือ
คือวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของปี (ชิวอิก) วันนี้
ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน คือ ไป๊เจีย
คือ การไปไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก
โดยนำส้มสีทองไปมอบให้ เหตุที่ให้ส้มก็เพราะออกเสียงภาษาจีนแต้จิ๋วว่า "กา"
ซึ่งไปพ้องกับคำว่าทอง เพราะฉะนั้นการให้ส้มจึงเหมือนนำโชคดีไปให้
จะมอบส้มจำนวน 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย
เหตุที่เรียกวันนี้ว่าวันถือคือ เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล
งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน
ไม่จับไม้กวาด
และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน เป็นต้น


ความเชื่อต่างๆใน วันตรุษจีน ที่ห้ามทำและที่นิยมทำกัน


วันตรุษจีน
ทุกคนจะไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล ความหมายเป็นนัยและคำว่า สี่
ซึ่งออกเสียงคล้ายความตายก็จะต้องไม่พูดออกมา วันตรุษจีน
ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย
และเรื่องผีสางเป็นเรื่องที่ต้องห้าม เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในปีเก่าๆ
ก็จะไม่เอามาพูดถึง ซึ่งการพูดควรมีแต่เรื่องอนาคต
และทุกอย่างที่ดีกับปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่


วันตรุษจีน ถ้าหากคุณร้องไห้ในวันปีใหม่หรือ
วันตรุษจีน คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปี
ดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ปฎิบัติตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน


การแต่งกายและความสะอาดใน วันตรุษจีน
เราไม่ควรสระผมเพราะนั้นจะหมายถึงเราชะล้างความโชคดีของเราออกไป
เสื้อผ้าสีแดงเป็นสีที่นิยมสวมใส่ในช่วง เทศกาลวันตรุษจีน
นี้สีแดงถือเป็นสีสว่าง สีแห่งความสุข
ซึ่งจะนำความสว่างและเจิดจ้ามาให้แก่ผู้สวมใส่
เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนในวันปีใหม่
จะส่งให้มีผลดีหรือผลร้ายได้ตลอดทั้งปี เด็ก ๆ และคนโสด
เพื่อรวมไปถึงญาติใกล้ชิดจะได้ อังเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ด้วย
ธนบัตรใหม่เพื่อโชคดี


วันตรุษจีน กับความเชื่ออื่น ๆ สำหรับ
คนที่เชื่อโชคลางมากๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติ
อาจมีการเชิญซินแส เพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อ
เป็นความเป็นสิริมงคล


บุคคลแรกที่พบใน วันตรุษจีน
และคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปีมีความหมายสำคัญมาก
ถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี
การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่น ถือเป็นโชคดี


การเข้าไปหาใครในห้องนอนใน วันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้ายดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนป่วยก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก


ไม่ควรใช้มีดหรือกรรไกรใน วันตรุษจีน
เพราะเชื่อว่าจะเป็นการตัดโชคดี
ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าชาวจีนทุกคนจะคงยังเชื่อตามความเชื่อที่มีมาแต่ทุกคนก็
ยังคง ยึดถือ และปฎิบัติตาม
เพราะสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนธรรมเนียมและวัฒนธรรม โดยที่ชาวจีน
ตระหนักดีว่าการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมมาแต่เก่าก่อนเป็นการแสดงถึงความเป็น
ครอบครัวและเอกลักษณ์ของตน วันตรุษจีน 2555




 

Create Date : 23 มกราคม 2555    
Last Update : 23 มกราคม 2555 8:21:08 น.
Counter : 1950 Pageviews.  

ของไหว้ตรุษจีน มีอะไรบ้าง


วันตรุษจีน เทศกาลตรุษจีน




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          "ซิ
นเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้" ประโยคคุ้นหูที่เรามักได้ยินในช่วง
"เทศกาลตรุษจีน" วันสำคัญของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน
ที่เป็นเสมือนวันขึ้นปีใหม่ของจีนนั่นเอง
โดยปีนี้ตรงกับวันที่ 23
มกราคม 2555 โดยจะมีพิธีกรรมเซ่นไหว้บรรพบุรุษผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
ด้วยอาหารคาวหวานนานับชนิด ว่าแต่ของไหว้ตรุษจีนมีอะไรบ้างล่ะ

          สำหรับ
ในวันตรุษจีนนั้น จะมีการเตรียมของไหว้อย่างพิถีพิถัน แบ่งเป็นเนื้อสัตว์
ผลไม้ ขนมหวาน กับข้าวคาว กับข้าวเจ อย่างละ 3 หรือ 5 ชนิด พร้อมสุรา น้ำชา
ข้าวสวย และกระดาษเงินกระดาษทองประเภทต่าง ๆ
โดยจะจัดเรียงตามลำดับ
ความสำคัญตามชนิดของอาหาร ซึ่งจะมีเสียงเรียกพ้องกับเสียงของคำมงคล
และผลไม้ที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะไหว้ก็คือ ส้มมหามงคลสีทอง
ที่ชาวจีนเรียกว่าส้มไต่กิก เพราะมีความหมายหมายถึงความสวัสดีมงคลอย่างยิ่ง


          ทั้งนี้ "วันไหว้" จะทำกันในวันสิ้นปี ซึ่งปกติมีการไหว้ 3-4 ชุด เริ่มจาก "ไหว้เจ้าที่"
ในช่วงเช้าด้วยชุดซาแซ คือ หมู เป็ด ไก่ ที่อาจเปลี่ยนเป็นไข่ย้อมสีแดงได้
ขนมเทียน และขนมถ้วยฟู หรือขนมอื่น ๆ ผลไม้ไหว้มีส้มสีทอง องุ่น แอปเปิ้ล
พร้อมกับกระดาษเงิน กระดาษทอง ต่อด้วยช่วงสาย ๆ ไม่เกินเที่ยง "ไหว้บรรพบุรุษ" เครื่อง
ไหว้จะประกอบด้วยชุดซาแซ อาหารคาวหวาน
ส่วนมากก็ทำตามที่ผู้ล่วงลับไปแล้วชอบ เต็มที่จะมี 10 อย่าง นิยมว่าต้องมี
น้ำแกง เพื่ออวยพรให้ชีวิตราบรื่น และกับข้าวเลือกที่มีความหมายมงคล
ส่วนขนมไหว้บรรพบุรษต่าง ๆ ก็มีความหมายมงคลเช่นกัน


         
อย่างไรก็ตาม หลังจากไหว้บรรพบุรษแล้ว
ช่วงเที่ยงหรือบ่ายก็จะไหว้ผีไม่มีญาติ
จากนั้นก็เป็นช่วงกลางดึกของคืนวันสิ้นปีย่างเข้าตรุษจีน
ที่จะมีการไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ
โดยให้หันโต๊ะไหว้ไปทางทิศตะวันตก ทั้งนี้
ชาวจีนจะเตรียมจัดของไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภอย่างพิถีพิถัน
เพราะในช่วงเวลาที่กำลังจะเข้าวันตรุษจีน โลกกำลังหมุนไปทางทิศนี้
แล้วเมื่อย่างเข้าวันปีใหม่จีนหรือวันตรุษจีน
ก็ยังนิยมไปไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่ โดยจะนำส้มสีทองจำนวน 4 ใบ
ไปมอบให้ด้วยเสมือนนำโชคดีไปให้
เพราะเสียงไปพ้องกับคำว่าทองในภาษาจีนแต้จิ๋ว

          ทั้งนี้ สำหรับความหมายของ "ของไหว้วันตรุษจีน" ได้แก่...


ของไหว้ตรุษจีน2554



  ความหมายของผลไม้ไหว้วันตรุษจีน           - กล้วย หมายถึง กวักโชคลาภเข้ามา และขอให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง


          - แอปเปิ้ล หมายถึง ความสันติสุข สันติภาพ



          - สาลี่ หมายถึง โชคลาภมาถึง (ควรระวังไม่นิยมไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณไร้ญาติ)




          - ส้มสีทอง หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล




          - องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน
  ความหมายของอาหารไหว้วันตรุษจีน           - ไก่ หมายถึง ความสง่างาม ยศ และความขยันขันแข็ง ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
ต้องเป็นไก่เต็มตัว หมายถึง มีหัว ตัว ขา ปีก มีความหมายถึง ความสมบูรณ์




          - เป็ด หมายถึง สิ่งบริสุทธิ์ ความสะอาด ความสามารถอันหลากหลาย



          - ปลา หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์



          - หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้




          - ปลาหมึก หมายถึง เหลือกิน เหลือใช้ (เหมือนปลา)




          - บะหมี่ยาวหรือหมี่ซั่ว หรือ ฉางโซ่วเมี่ยน ตามชื่อหมายถึง อายุยืนยาว




          - เม็ดบัว หมายถึง การมีบุตรชายจำนวนมาก




          - ถั่วตัด หมายถึง แท่งเงิน




          - สาหร่ายทะเลสีดำ หมายถึง ความมั่งคั่งร่ำรวย




          - หน่อไม้ หมายถึง การอวยพรให้ร่ำรวยผาสุก

         
สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง คือ เต้าหู้ขาว เนื่องจากสีขาว คือ สีสำหรับงานโศกเศร้า










  ความหมายของขนมไหว้วันตรุษจีน
          - ขนมเข่ง คือ ความหวานชื่น ราบรื่นในชีวิต ขนมเข่งที่ใส่ในชะลอม หมายถึง ความหวานชื่นอันสมบูรณ์ 


          - ขนมเทียน คือ
เป็นขนมที่ปรับปรุงขึ้นจากชาวจีนโพ้นแผ่นดินดัดแปลงมาจากขนมท้องถิ่นของไทย
จากขนมใส่ไส้เปลี่ยนจากแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิมาเป็นแป้งข้าวเหนียวแทน
มีความหมายหวานชื่น ราบรื่น
รูปลักษณ์เป็นกรวยแหลมมีลักษณะเป็นมงคลเหมือนเจดีย์


          - ขนมไข่ คือ ความเจริญเติบโต

          - ขนมถ้วยฟู คือ ความเพิ่มพูนรุ่งเรือง เฟื่องฟู




          - ขนมสาลี่ คือ รุ่งเรือง เฟื่องฟู

          - ซาลาเปา หรือ หมั่นโถว คือ ไหว้เพื่อให้เปาไช้ แปลว่าห่อโชค



          - จันอับ (จั๋งอั๊บ) หมายถึง ปิ่นโต หมายถึงความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป



          รู้
แล้วว่า "ของไหว้ตรุษจีน" มีอะไรบ้าง
ทีนี้เราก็ควรจะมารู้จักวิธีการคัดเลือกอาหารเหล่านี้กันด้วย
เพราะหลังจากไหว้ตรุษจีนเสร็จสิ้น
ของไหว้เหล่านี้ก็จะถูกนำมาปรุงเป็นอาหารให้คนในครอบครัวทานกัน


          โดย
นายสง่า ดามาพงศ์ ผู้จัดการโภชนาการสมวัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้กล่าวกับเราว่า ใน
ช่วงเทศกาลตรุษจีน หลายบ้านจะมีการไหว้บรรพบุรุษ ด้วยอาหารคาวหวาน
ผัก-ผลไม้มากมาย แต่พึงระวังไว้สักนิดว่าอาหารที่นำมาปรุงนั้น
ถูกหลักโภชนาการและปลอดภัยหรือไม่
เพราะอาหารเหล่านั้นอาจมีทั้งยาฆ่าแมลง และสารเคมีอื่น ๆ ที่ปนเปื้อน ถ้าเข้าสู่ร่างกายเราคงเป็นเรื่องที่ไม่ดีเป็นแน่

         
"ในการไหว้บรรพบุรุษนั้น ส่วนใหญ่ก็จะใช้ผักไม่กี่ชนิด
ซึ่งเราก็มีวิธีการในเลือกผักให้ปลอดภัย โดยดูที่ใบ
ต้องไม่มีคราบดินหรือคราบขาวของสารพิษกำจัดศัตรูพืช หรือเชื้อราตามใบ
และผักก็ควรมีรูพรุนเป็นรอยกัดแทะของหนอนแมลงอยู่บ้างเล็กน้อย
เพราะผักลักษณะเช่นนี้จะมีคุณค่าทางโภชนาการเหลืออยู่มาก
และถ้าเป็นไปได้ควรเลือกซื้อผักที่ปลอดสารพิษ
หรือพวกผักเกษตรอินทรีย์น่าจะดีที่สุด"
อ.สง่ากล่าว

         
ส่วนในขั้นตอนก่อนการปรุงนั้น เราควรล้างผักด้วยน้ำสะอาด 2- 3 ครั้ง
และควรแยกผักใบและผักหัวออกจากกันเวลาล้าง
โดยผักหัวควรล้างด้วยน้ำเกลือประมาณ 5-7 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
เพื่อล้างยาฆ่าแมลงที่สะสมอยู่ด้านในออกบางส่วน
เพราะความร้อนไม่สามารถล้างยาฆ่าแมลงออกได้ เมื่อเรารับประทานเข้าไป
จะเกิดการสะสมและอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง และอาหารเป็นพิษตามมาได้

          "ผัก
ประเภทหัวก็เช่นกัน อย่างกะหล่ำปลีก็ควรเอาเปลือกข้างนอกออก
และพยายามล้างให้ถึงแกนด้านใน เพราะยาฆ่าแมลงจะตกค้างอยู่ภายใน
รวมถึงแตงกวา ถั่ว ก็ควรแช่น้ำเกลือ หรือไม่ก็ใช้ด่างทับทิมล้างก่อน
แล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ
ที่สำคัญผักทุกชนิดเราควรล้างก่อนที่จะนำมาหั่น
เพื่อไม่ใช้น้ำชะล้างคุณค่าทางโภชนาการออกหมด"




วันตรุษจีน เทศกาลตรุษจีน




          ในส่วนของวิธีการ
ปรุงนั้น ผักทุกชนิดเราไม่ควรต้มจนเละ
เพราะนั่นจะทำให้ผักที่เรารับประทานเข้าไปมีคุณค่าทางโภชนาการน้อย
รับประทานสด ๆ น่าจะดีที่สุด


          ผลไม้ก็เช่นกัน
ควรเลือกร้านที่เราไว้ใจได้ ผลมันต้องสด ๆ และเลือกผลที่ไม่ช้ำ
บางรายคัดแต่ลูกใหญ่ ๆ เพราะคิดว่าจะได้คุณค่าทางโชนาการมากกว่าลูกเล็ก ๆ
ซึ่งความเป็นจริงแล้วก็ได้คุณค่าในปริมาณที่เท่ากันทั้งหมด

         
"ผลไม้ที่ประชาชนใช้ไหว้บรรพบุรุษนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นส้ม แก้วมังกร
แอปเปิ้ล หรือส้มโอ ซึ่งก็ควรเลือกแบบสด ๆ ผลไม่มีรอยช้ำ
และควรล้างก่อนรับประทาน เพราะยาฆ่าแมลงมักจะสะสมอยู่บริเวณผิวเปลือก
เมื่อเราใช้มือแกะส้ม ยาฆ่าแมลงนั่นก็จะมาติดที่มือเรา
และเราก็หยิบเข้าปากรับประทาน ซึ่งนั่นอันตรายมาก" อ.สง่า กล่าว

          ที
นี้มาถึงคราวของคาวอย่างการเลือกเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่
เราควรเลือกที่เนื้อไม่ซีด ไม่เหี่ยว เปลือกตาสด
เนื้อต้องไม่มีรอยเลือดที่แห้งกรัง กลิ่นต้องไม่เหม็นเน่า เนื้อหมู
ก็ต้องสีแดงสด แต่พึงระวัง
เพราะปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้ามักใช้ไฟสีแดงในการหลอกผู้บริโภคว่า
หมูนั้นเนื้อแดง
อีกทั้งเราควรเลือกร้านที่เราไว้ใจได้และซื้อประจำ
เพราะจากการออกสำรวจของกระทรวงสาธารณสุข ยังคงพบร้านที่ใช้สารเร่งเนื้อ
แดงอยู่จำนวนมาก และใช้นิ้วกดเนื้อหมูลงไป
ถ้าเนื้อหมูบุ๋มลงไปโดยไม่กลับคืนมา แสดงว่าเนื้อหมูนั้นเก่าไม่ควรซื้อ
ที่สำคัญอย่าเลือกหมูที่ติดมันมากนักเพราะการบริโภคมันหมูมาก ๆ
ไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน

          "ใน
ส่วนของการปรุงเนื้อสัตว์ทุกชนิดให้เน้นที่ปรุงให้สุกไว้ก่อน
ถ้าจำเป็นต้องมีหมู 3 ชั้นในการประกอบอาหารก็ควรเจียวมันให้ออกไปบ้าง
เพราะหากบริโภคมาก ๆ
จะส่งผลให้แคลอรี่ในร่างกายเพิ่มก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้"
อ.สง่า บอก


         
นอกจากนี้ ในระหว่างที่ประกอบพิธีไหว้บรรพบุรุษนั้น
บางบ้านก็ปล่อยของไหว้ทิ้งไว้โดยไม่มีอะไรปิดให้มิดชิด หรือวางกับพื้น
ทำให้มีแมลงวันตัวพาหะนำเชื้อโรคมาตอม และเราก็นำมารับประทานกันโดยไม่รู้
จึงอยากขอเตือนให้มีการอุ่นหรือปรุงใหม่ก่อนนำมารับประทาน
เพราะนั่นเสี่ยงต่อโรคทางเดินอาหาร และโรคอุจจาระร่วงได้เช่นกัน

         
อ.สง่า ทิ้งท้ายไว้ว่า อาหารที่ใช้ไหว้บรรพบุรุษส่วนใหญ่จะเป็นแบบผัด ๆ
ทอด ๆ ก่อนรับประทานจงพึงระวังสักนิด
เพราะอาจทำให้คุณเข้าสู่ภาวะโรคอ้วนได้
ทางที่ดีควรหันมารับประทาน
อาหารประเภทต้มน่าจะดีกว่า เช่น ต้มจับฉ่าย เป็นต้น
อีกทั้งอาหารที่ใช้ไหว้ส่วนใหญ่ จะเน้นไปในทางรสชาติเค็มเราก็ควรหลีกเลี่ยง
เพราะรสเค็มจะทำให้เลือดข้น ก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง
ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพเราได้ทั้งสิ้น...


         
ถึงแม้เทศกาลตรุษจีนจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ
แต่เราก็ควรจะใส่ใจสุขภาพของตนเองอยู่ทุกเวลา เพราะการมีสุขภาพดีไม่มีขาย
ถ้าอยากได้เราต้องทำเอง...




 

Create Date : 21 มกราคม 2555    
Last Update : 21 มกราคม 2555 11:13:07 น.
Counter : 2041 Pageviews.  

ความสุขหาได้จากที่ไหนบ้าง




ความสุข ความพึงพอใจของแต่ละคน มีไม่เท่ากัน


ความสุขหาได้จากที่ไหนบ้าง


บางคนมีเงินทองมากมาย


แต่หัวใจไม่มีความสุข..รุ่มร้อน..ทุรนทุราย


แท้ที่จริงแล้วความสุขหาได้จากทุกหนทุกแห่ง


จากดอกไม้เล็กๆข้างทาง


จากสายลมเย็นที่นำมาซึ่งความชุ่มฉ่ำใจ


จากรอยยิ้มจริงใจจากคนรอบข้าง


ความสุขหาได้ง่ายๆ


เพียงแต่เลิกกำหนดตัวเองว่า


อย่างนี้คือสุข อย่างนั้นคือสุข


ความสุขเริ่มต้นเมื่อใจเป็นสุข




 

Create Date : 20 มกราคม 2555    
Last Update : 20 มกราคม 2555 8:16:38 น.
Counter : 1492 Pageviews.  

อาหาร 8 ชนิดที่เราอาจไม่ได้กินอีกต่อไป







ใคร
คิดว่าสภาพอากาศของโลกเราเปลี่ยนไปแล้วบ้าง? หากใครต้องการข้อพิสูจน์
"อาหารและเครื่องดื่ม" จานโปรดของใครหลายคนอาจเป็นหลักฐานได้อย่างดี
เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป ฝนที่ตกแบบไม่มีฤดูกาล
และภาวะแห้งแล้งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กำลังส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำผึ้ง
กาแฟ ช็อกโกแลต และเบอร์เบิ้น ฯลฯ ...

แค่นี้ก็อาจทำให้หลายคนเริ่มตระหนักถึงปัญหาสภาพดินฟ้าอากาศกันแล้วก็เป็นได้
ขนมปังภาวะ
ขาดแคลนขนมปังเริ่มกลายเป็นความจริงที่น่าตกใจ ตั้งแต่ปีที่แล้ว
ราคาของธัญพืชทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว เนื่องจากความร้อน
ความแห้งแล้ง และไฟป่าในรัสเซีย รวมทั้งอุทกภัยที่ออสเตรเลียด้วย
ผลผลิตข้าวสาลีที่เสียหายเมื่อปีที่ผ่านมาเป็นปัจจัยสำคัญของการปฏิวัติ
"อาหรับสปริง" (ประชาชนประท้วงรัฐบาลที่ปล่อยให้ข้าวยากหมากแพง
และขนมปังก็เป็นอาหารหลักของชาวอาหรับ) ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า
ผลกระทบของสภาวะอากาศต่อผลผลิตทั่วโลกถือว่าเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น อีก 20
ปีข้างหน้า ราคาขนมปังจะเพิ่มขึ้นถึง 90%
และเพื่อเตรียมการต่อภาวะข้าวสาลีขาดตลาด บริษัทใหญ่อย่าง Glencore และ
Cargrill จึงได้ตั้งเป้าผูกขาดตลาด
เพื่อทำกำไรสูงสุดหากปริมาณข้าวสาลีทั่วโลกยังลดลงต่อเนื่อง

ช็อกโกแลตสภาพ
ภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไม่เพียงแต่ทำให้น้ำแข็งเท่านั้นที่ละลาย
ช็อกโกแลตที่รักของหลายๆ คนก็เช่นกัน อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 3
องศาก็ส่งผลให้เมล็ดโกโก้ในกานาและไอเวอรี่โคสต์ลดลงอย่างฮวบฮาบ
ปรากฏการณ์นี้ส่งผลอย่างมากต่อประเทศแถบแอฟริกาซึ่งทำรายได้จากการขายโกโก้
(ขายดีขนาดเปรียบเปรยกันว่า
ชาวบ้านสามารถเก็บเมล็ดโกโก้จากต้นแล้วไปแลกเป็นเงินสดได้ทันที)
แต่โชคยังดีที่แม้วัตถุดิบช็อกโกแลตจะลดลง แต่มันก็ยังไม่หายไปเสียทีเดียว
กลุ่มประเทศที่ปลูกต้นโกโก้อาจต้องย้ายพื้นที่เพาะปลูกไปยังที่เหมาะสมกว่า
สภาพอากาศเย็นกว่า ประมาณ 200 ไมล์จากชายฝั่ง และหากมองในแง่ดี
ผลผลิตโกโก้ที่ลดลงอาจทำให้คุณภาพช็อกโกแลตดีขึ้นก็ได้

กาแฟถือ
เป็นอาหารที่หายากไปเรียบร้อยแล้วสำหรับกาแฟ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศ
วงจรฝนที่เปลี่ยนไป ส่งผลกระทบกับทุกภูมิภาคที่ปลูกกาแฟ เช่น บราซิล
เวียดนาม แอฟริกา
สิ่งยืนยันว่าผลผลิตกาแฟลดลงเห็นได้จากราคากาแฟที่สูงขึ้นอย่างมาก
ระหว่างปี 2010 ถึง 2011 ผู้ผลิตกาแฟในสหรัฐอเมริกาอย่าง Maxwell House และ
Folgers ขึ้นราคากาแฟถึง 25%

เบอร์เบิ้นการ
ผลิตเบอร์เบิ้นในมลรัฐเคนตักกี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศตามฤดูกาล
สภาพอากาศและอุณหภูมิของโลกเปลี่ยนไป ส่งผลต่อรสชาติและสีสันของเบอร์เบิ้น
เป็นสิ่งที่สามารถคาดการณ์ได้จากรูปแบบฤดูกาล และตามที่คาดการณ์ไว้ว่าใน
100 ปีข้างหน้า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มขึ้น 3 องศา
ก็อาจทำให้มลรัฐเคนตักกี้ไม่สามารถผลิตเบอร์เบิ้นได้อีกเลย

น้ำผึ้งหนึ่ง
ในตัวบ่งชี้ผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็คือการตายของ
ผึ้งเป็นจำนวนมาก
และแน่นอนจำนวนผึ้งที่ลดลงย่อมทำให้สิ่งที่ผึ้งเท่านั้นผลิตได้อย่าง
"น้ำผึ้ง" ลดลงไปด้วย อย่างไรก็ตาม ของหวานชนิดนี้ไม่ได้หายไปเสียทีเดียว
เพราะผึ้งถือเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ที่ปรับตัวกับโรคภัยไข้เจ็บได้ดี 
เพราะฉะนั้น มันอาจจะปรับตัวกับอุณหภูมิโลกที่เปลี่ยนไปได้

ถั่วลิสงดู
เหมือนว่าการผลิตถั่วลิสงจะได้ประโยชน์จากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง
เพราะถั่วลิสงออกผลผลิตดีขึ้นเมื่อมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น
แต่ทว่าในฤดูร้อนที่แห้งแล้งก็ทำให้ผลผลิตถั่วลดลงไปมาก
การขาดแคลนถั่วลิสงยังหมายถึงเนยถั่วที่ลดลงด้วย
ราคาเนยถั่วได้พุ่งสูงขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว
แต่อย่างที่บอกว่าถั่วลิสงออกผลผลิตได้ดีในที่มีคาร์บอนไดออกไซด์สูง
จึงคาดการณ์กันว่าจะกลับมาเพาะปลูกได้อีกในปีหน้าที่อากาศเริ่มเย็นลง

อากาเว่อา
กาเว่เป็นอาหารให้คาร์โบไฮเดรตตัวหลักของชาวเม็กซิกัน
และเป็นวัตถุดิบผลิตเตกีล่าด้วย
แต่ด้วยความแห้งแล้งในภาคเหนือของเม็กซิโกทำให้การทำเกษตรทุกประเภทได้รับผล
กระทบ
และรัฐบาลก็ถูกกดดันจากอเมริกาและยุโรปให้ปลูกข้าวโพดเพื่อผลิตเอทานอลแทน
นั่นอาจหมายถึงเราจะมีเอทานอลเพิ่มขึ้นขณะที่เตกีล่าน้อยลง

ไวน์อากาศ
ที่ร้อนขึ้นในพื้นที่ปลูกองุ่นของแคลิฟอร์เนียอาจทำให้ปริมาณองุ่นลดลง ถึง
50% จากที่เคยผลิตได้ในปี 2004 และพื้นที่อื่นๆ
ของประเทศก็กำลังพบเจอกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นเช่นกัน
การผลิตไวน์อาจจะต้องย้ายที่
เมืองฟิงเกอร์เลคที่ชานเมืองนิวยอร์กและพูเก็ตซาวนด์ในรัฐวอชิงตันอาจจะกลาย
เป็นพื้นที่เพาะปลูกไวน์แห่งใหม่ก็เป็นได้


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"




 

Create Date : 18 มกราคม 2555    
Last Update : 18 มกราคม 2555 8:22:27 น.
Counter : 1369 Pageviews.  

ประโยชน์ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน



ยาสีฟันเป็นผู้ช่วยที่ดีให้คุณได้ในการทำความสะอาดหลายอย่าง มาดูกันว่ายาสีฟันช่วยทำอะไรได้บ้างนะ


รักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย โดยใช้ยาสีฟันทาลงไปบริเวณรอยแผล ก็จะช่วยลดอาการแสบคันและบวมช้ำของผิวบริเวณนั้น รวมทั้งอาการแสบร้อนเมื่อผิวถูกของร้อนๆ ได้ด้วย


ระงับกลิ่นที่มือ กลิ่นกระเทียม หัวหอม และกลิ่นคาวปลา ใช้ยาสีฟันถูให้ทั่วขณะล้างมือก็จะช่วยกำจัดกลิ่นคาวได้


ขจัดคราบ
ยาสีฟันช่วยทำความสะอาดคราบเปื้อนบนเสื้อผ้าและผืนพรมได้
โดยใช้ยาสีฟันป้ายบนรอยเปื้อน แล้วใช้แปรงขัดไปเรื่อยๆ จนคราบจาง
ก่อนนำไปซัก (มีข้อควรระวังว่า ถ้าคุณใช้ยาสีฟันชนิดขัดฟันขาว
หากนำไปใช้กับผ้าสีอาจทำให้สีของผ้าจางลงได้)
ส่วนคราบบนพรมให้ป้ายยาสีฟันลงไป แล้วใช้แปรงขัด
จากนั้นล้างออกด้วยน้ำทันที


ขัดรองเท้า ด้วยวิธีเดียวกันกับเสื้อผ้าและพรม
เพื่อขจัดคราบสกปรกสะสมบนทั้งรองเท้าผ้าใบและรองเท้าหนัง ป้ายยาสีฟันลงไป
ใช้แปรงขัดให้ทั่ว แล้วเช็ดออกให้สะอาด


ขจัดคราบสีเทียนบนผนัง ใช้ผ้าชื้นๆ กับยาสีฟันขัดบนคราบสีที่เปื้อนโดยตรง


ขัดเครื่องเงินให้เงาปิ๊ง
ใช้ยาสีฟันขัดลงไปบนเครื่องเครื่องเงินแล้วทิ้งไว้หนึ่งคืน จากนั้น
ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดให้สะอาดในตอนเช้า
ส่วนเพชรก็สามารถขัดให้ส่องประกายเจิดจรัสด้วยยาสีฟันเช่นกัน
แต่อย่านำไปใช้ขัดไข่มุกนะ


ลบรอยขีดข่วนบนแผ่นซีดี สำหรับคราบเปื้อนและรอยข่วนตื้นๆ ให้ป้ายยาสีฟันลงบนรอย ใช้ผ้าขัดถู แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด


ทำความสะอาดคีย์เปียโน
น้ำมันจากนิ้วมือของเราทำให้คีย์เปียโนจับคราบฝุ่นละสิ่งสกปรกได้
ทำความสะอาดด้วยผ้าที่ปลอดใยสำลีกับยาสีฟันขัดลงบนคีย์เปียโน
แล้วเช็ดออกอีกครั้งด้วยผ้าแบบเดียวกัน


ขจัดกลิ่นขวดนมเด็ก ใช้ยาสีฟันกับแปรงล้างขวดขัด แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด


กำจัดคราบไหม้บนเตารีด แผ่นเตารีดที่มีรอยไหม้เกาะอยู่ ให้ใช้ยาสีฟันช่วยขจัดออกโดยขัดลงไปที่แผ่นเตารีดเลย


เช็ดเลนส์แว่นดำน้ำ แว่นดำน้ำที่เลนส์มักเป็นฝ้า
แค่ใช้ยาสีฟันขัดลงไปแล้วล้างออกก็เรียบร้อย
แต่ระวังอย่าใช้ยาสีฟันที่เนื้อหยาบเพราะอาจทำให้เลนส์เป็นรอยได้
























 

Create Date : 17 มกราคม 2555    
Last Update : 17 มกราคม 2555 8:01:11 น.
Counter : 1988 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.