ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
ห้ามวาง "แปรงสีฟัน" ใกล้ชักโครก



คุณรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่สะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องน้ำคือแปรงสีฟัน
      โดยเฉพาะหากแปรงสีฟันนั้นวางไว้ใกล้กับชักโครกมากเกินไป เพราะ เวลาที่คุณกดชักโครกขณะที่เปิดฝาทิ้งไว้ ละอองสิ่งสกปรกจะกระเด็นออกจากชักโครกไปติดตามพื้นผิวทุกอย่างในห้องน้ำ และไม่ใช่แค่ละอองจากชักโครกเท่านั้นแต่ทุกครั้งที่แปรงฟันก็จะมีเศษอาหาร แบคทีเรีย คราบเลือดและน้ำลายติดมากับแปรงสีฟัน ซึ่งหากไม่ทำความสะอาดดีๆหลังแปรงฟัน สิ่งสกปรกและเชื้อโรคก็จะกลับเข้าร่างกายอีกครั้งเมื่อแปรงฟันครั้งต่อไป

      ทางด้าน ด็อกเตอร์ทอม กลาส แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคในช่องปากที่มหาวิทยาลัยโอกลาโฮม่า บอกว่า แปรงสีฟันแต่ละอันมีจุลินทรีย์อย่างน้อย 10 ล้านตัว ซึ่งรวมถึงไวรัสไข้หวัดใหญ่ สเตร็ปโตคอคคัส สตาฟีโลคอคคัส ยังไม่นับรวมแบคทีเรียอีกหลายชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือกและหินปูน นอกจากนี้แปรงสีฟันยังเป็นแหล่งผสมพันธุ์ที่ดีของจุลินทรีย์ต่างๆที่สามารถ รอดชีวิตได้หลายวันจากเศษอาหารและน้ำที่ติดตามแปรงสีฟัน

คำแนะนำวิธีทำให้แปรงสีฟันห่างไกลจากแบคทีเรียมากที่สุด
     1. อย่าวางแปรงไว้ใกล้กับชักโครกมากเกินไป
     2. อย่างใช้แปรงสีฟันร่วมกับคนอื่น พยายามเก็นแปรงของสมาชิกในครอบครัวให้ห่างกันอย่างน้อย 1 นิ้ว เพื่อไม่ให้เชื้อโรคติดต่อถึงกัน
     3. ล้างแปรงให้สะอาดหลังใช้ ปล่อยให้แห้งสักพักในตำแหน่งหัวแปรงชี้ขึ้นฟ้า ซึ่งจะป้องกันไม่ให้แบคทีเรียผสมพันธุ์กันได้ง่ายนัก และอย่างเก็บในภาชนะปิดที่อับชื้น
     4. เปลี่ยนแปรงสีฟันทุกครั้งหลังเป็นหวัด
     5. พยายามใช้น้ำยาบ้วนปากก่อนแปรงฟัน ซึ่งจะลดจำนวนแบคทีเรียที่ติดไปกับแปรงสีฟัน
     6. เปลี่ยนแปรงใหม่ทุก 3-4 เดือน หรือบ่อยกว่านั้นหากขนแปรงเริ่มบานออก

ส่วนข้อไม่แนะนำคือไม่ควรนำแปรงสีฟันล้างในเครื่องล้างจานหรือใส่ในเตาไมโครเวฟเพื่อฆ่าเชื้อโรคเพราะจะทำให้ด้ามพลาสติกละลายได้


ที่มาข้อมูลและภาพ healthupdatetoday.com



Create Date : 09 มีนาคม 2556
Last Update : 9 มีนาคม 2556 11:03:00 น. 0 comments
Counter : 1998 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.