space
space
space
space

เผยดูดบุหรี่1มวนสร้างสารพิษกว่า4พันชนิด คนสูบเสี่ยงมะเร็งปอดสูงกว่า 12 เท่า

เผยดูดบุหรี่ 1 มวนสร้างสารพิษกว่า 4 พันชนิด คนสูบเสี่ยงมะเร็งปอดสูงกว่า 12 เท่า


เผยดูดบุหรี่1มวนสร้างสารพิษกว่า4พันชนิด คนสูบเสี่ยงมะเร็งปอดสูงกว่า 12 เท่า


เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดแข่งขันเดินวิ่ง โครงการทีมสุขภาพร่วมใจ เดิน-วิ่ง ขจัดภัยบุหรี่” ครั้งที่ 8 ปล่อยตัวทีมนักกีฬาเดิน-วิ่ง และนักวิ่งมินิมาราธอน เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก


นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า ตามที่องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่ 31พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลกในปีนี้องค์การอนามัยโลกได้กำหนดคำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลกว่า “จับตาเฝ้าระวัง ยับยั้งอุตสาหกรรมยาสูบ” (Tobacco Industry Interference)และเน้นที่การตอบโต้เปิดโปงกลลวงของอุตสาหกรรมยาสูบเพื่อให้ผู้กำหนดนโยบายและสาธารณชนได้รับรู้ข้อมูลเกิดความตื่นตัวรู้ทันกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมยาสูบทุกรูปแบบและมีมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ของอุตสาหกรรมยาสูบกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย รณรงค์ให้ประชาชน ลด ละเลิกสูบบุหรี่ มาอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่และผู้ป่วยโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ เช่น โรคมะเร็งปอด โรคหัวใจขาดเลือดโรคถุงลมโป่งพอง เป็นต้นโดยผู้ที่สูบบุหรี่จะมีอัตราความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอดสูงกว่าคนที่ไม่สูบถึง 12 เท่า


ส่วนการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดผู้ที่สูบบุหรี่ก็มีอัตราความเสี่ยงสูงกว่าคนที่ไม่สูบถึงร้อยละ 60ซึ่งหากรณรงค์ให้ประชาชนเลิกสูบได้ 1 คนก็จะสามารถเพิ่มพื้นที่ปลอดควันบุหรี่ซึ่งในบุหรี่ที่เผาไหม้เพียง 1 มวนจะมีสารพิษอันตรายต่อสุขภาพกว่า 4,000 ชนิดและมีสารก่อมะเร็งมากถึง 42 ชนิด




ที่มา  : หนังสือพิมพ์มติชน





 

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2555 7:49:08 น.   
Counter : 1564 Pageviews.  
space
space
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

อาการ สาเหตุ การรักษา การดูแลตนเอง อื่นๆ
จะมีอาการขัดเบาคือ ถ่ายปัสสาวะกะปริดกะปรอย ออกทีละน้อย รู้สึกปวดขัดหรือแสบร้อนเวลาถ่ายปัสสาวะ มักจะต้องเข้าห้องน้ำทุกชั่วโมงหรือชั่วโมงละหลายครั้ง มีอาการคล้ายถ่ายไม่สุดอยู่ตลอดเวลา บางคนอาจมีอาการปวดตรงบริเวณท้องน้อย (หัวหน่าว) ร่วมด้วย ปัสสาวะมักจะออกใสๆ แต่บางคนอาจขุ่นหรือมีเลือดปน มักไม่มีไข้ ยกเว้นถ้ามีกรวยไตอักเสบร่วมด้วย จะมีไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่น ปวดเอวร่วมด้วย ในเด็กเล็กอาจมีอาการปัสสาวะรดที่นอน และอาจมีไข้ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย อาการมักเกิดหลังอั้นปัสสาวะนานๆ หรือมีการสวนปัสสาวะ

การดำเนินโรค

ถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง โรคมักจะหายขาด แต่ถ้าปล่อยปละละเลยหรือเป็นๆ หายๆ บ่อย ก็อาจเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้

ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนมากมักจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แต่บางรายอาจเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาเชื้อโรคอาจลุกลามขึ้นไปที่ไต ทำให้กลายเป็นโรคกรวยไตอักเสบ และถ้าปล่อยจนเป็นเรื้อรัง ก็อาจมีภาวะไตวายเรื้อรังแทรกซ้อนได้ ในผู้ชายเชื้อโรคอาจลุกลามทำให้เป็นต่อมลูกหมากอักเสบได้

การแยกโรค

อาการขัดเบาหรือปัสสาวะบ่อยอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น

โรคหนองใน (gonorrhea) จะมีอาการหนองไหลออกจากท่อปัสสาวะ หรือตกขาวออกเป็นหนองร่วมกับถ่ายปัสสาวะแสบขัด
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ จะมีอาการขัดเบาร่วมกับถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด
กรวยไตอักเสบ จะมีไข้สูงหนาวสั่น ปัสสาวะขุ่นข้น ปวดเจ็บตรงสีข้าง (เอว) ด้านใดด้านหนึ่ง อาจมีอาการขัดเบา (ถ้ามีกระเพาะอักเสบร่วมด้วย)
เบาหวาน จะมีอาการถ่ายปัสสาวะบ่อย ออกทีละมากๆ และใส ไม่มีอาการแสบขัด ที่สำคัญจะมีอาการกระหายน้ำบ่อย หิวข้าวบ่อย อาจมีอาการอ่อนเพลีย น้ำหนักลดร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้จะไม่พบในคนที่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
สาเหตุดังกล่าวหากสงสัยควรไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อการตรวจวินิจฉัยและการรักษาแต่เนิ่นๆ
ขอบคุณ หมอชาวบ้าน




 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2555 8:40:15 น.   
Counter : 1479 Pageviews.  
space
space
ว่าด้วยเรื่องของความคัน


หลายคนนึกว่าเรื่องคันตามเนื้อตัวร่างกายนั้นเป็นเรื่องเล็กๆ

เรารู้สึกคันตามผิวกายเกือบตลอดเวลา มากบ้างน้อยบ้างตามเรื่อง แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วอาการคันคืออาการเจ็บนั่นเอง เพราะความรู้สึกคันเกิดขึ้นจากปลายประสาทผิวหนังถูกกระตุ้นหรือเกิดความ ระคายเคือง ประสาทที่รับความรู้สึกคันก็คือประสาทที่รับความรู้สึกเจ็บ ถ้ามีสิ่งกระตุ้นให้เกิดความระคายเคื่องต่อปลายประสาท แต่รู้สึกเจ็บเพียงเล้กน้อยตามผิวหนัง ก็จะกลายเป็นความรู้สึกคัน เช่น มดหรือแมลงไต่ตามผิวหนัง เป็นต้น อาการคันจึงเท่ากับอาการเจ็บในปริมาณที่น้อยนั่นเอง

สาเหตุการเกิดอาการคัน มีดังนี้

1. การเปลี่ยนแปลงชั้นผิวหนัง คันจากการสัมผัส สารระคาย หรือสารภูมิแพ้ สารใยแก้ว หนามและขนของแมลง พืชบางชนิดก็ทำให้คันได้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม อากาศร้อน ลมแรง อากาศหนาว อากาศแห้งก็เป็นปัจจัยทำให้ผิวหนังแห้ง และเกิดอาการคันตามมา

 2. คัน จากโรคผิวหนัง โรคผิวหนังส่วนใหญ่จะมีอาการคันร่วมด้วย แต่ความรุนแรงจะขึ้นกับสภาพจิตและความไวของแต่ละบุคคล ผื่นคันเฉพาะที่พบบ่อย คือ ผื่นแพ้สัมผัส ผื่นแพ้ผิวหนัง กลาก ผื่นคันทั่วตัว เช่น ลมพิษ โรคหิด และ ผื่นคันไม่ทราบสาเหตุเฉพาะที่ เช่น ผื่นบริเวณอวัยวะเพศ และรอบทวารหนัก

3. โรคแฝงในอวัยวะอื่นอาจพบรอย ผื่นเกาทั่วตัวไม่พบลักษณะจำเพาะเจาะจงของโรคผิวหนัง อาการคันเป็นอาการที่นำมาพบแพทย์ เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคตับ โรคไต โรคโลหิตและมะเร็งต่าง ๆ ภาวะหมดประจำเดือน และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

 4. คันจากความผิดปกติของระบบปลายประสาท เช่น ปลายประสาทอักเสบจากโรคงูสวัด และเริมใน

 5. สาเหตุอื่น ๆ อาการคันอาจเกิดจากสารสื่อในสมองปรวนแปร และอาจเกิดจากปัญหาทางจิตใจ


เมื่อเกิดอาการคันหรือการเจ็บน้อยแล้ว คนเราจึงต้องเกาเพื่อให้ส่วนที่คันนั้นเจ็บ เมื่อเปลี่ยนความรู้สึกเป็นเจ็บแล้ว คนก็พอใจที่หายคัน แม้จะต้องทนเจ็บแทน



ที่มา... วิทยาศาสตร์รอบตัว(จาก สสวท.)





 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2555 9:08:12 น.   
Counter : 1816 Pageviews.  
space
space
เคล็ดลับที่ทำให้คุณตื่นมาพร้อมความสดชื่


สุขภาพ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

แค่ลืมตาตื่นก็ยากอยู่แล้ว แถมยังต้องมาทนกับเสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้าอีก เมื่อคิดถึงเรื่องเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะแล้ว ไม่อยากจะพลิกตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำเลยจริง ๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็ต้องมาแต่งหน้าแต่งตัวอีก จะส่งกระจกทีไรก็เห็นขอบตาคล้ำ ๆ ทุกที เห็นแล้วปวดใจจริง ๆ ซึ่งกว่าจะได้ออกจากบ้านก็เหลือเวลาไม่เท่าไหร่แล้ว ไปจะทำงานก็ต้องปวดหัวกับเรื่องรถติดอีก แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว ชีวิตของคนธรรมดานี่ ไม่ธรรมดาจริง ๆ เลยนะ

วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยนำเรื่องราวดี ๆ เพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณเตรียมตัวตั้งรับกับเช้าวันใหม่ที่แสนจะยุ่งยากมาบอกกัน ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ 

แต่งตัว

1. เตรียมชุดที่จะใส่ในวันพรุ่งนี้ไว้ทุกครั้ง

          สิ่งที่ทำให้คุณเสียเวลามากที่สุด และต้องมาตอกบัตรที่บริษัทแบบฉิวเฉียด กึ่ง ๆ สาย ทุกครั้ง นั่นก็เป็นเพราะคุณมัวแต่เสียเวลาไปกับการค้นตู้เสื้อผ้านะสิ และคิดว่าวันนี้จะใส่ชุดสีอะไรดีนะ (ยังไม่รวมเวลาแต่งหน้านะ) กว่าจะตัดสินใจได้ก็ปาเข้าไปเป็นชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่อยากเป็นแบบนี้อีก ก็ลองเปลี่ยนวิธีใหม่นะคะ โดยคิดไว้ซะตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยว่าพรุ่งนี้คุณจะใส่อะไรไปทำงาน ทั้งเสื้อผ้า ทั้งกระโปรง ลายไหนสีไหนก็คิดให้เสร็จ แล้วเอามาแขวนไว้หน้าตู้ ครั้งต่อไปก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลายืนปวดหัวเลือกเสื้อผ้าทุกเช้าอีก

2. เตรียมของใช้ให้พร้อม

          ทั้งกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ สมุดจดตารางนัดหมาย ฯลฯ สิ่งสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ที่คุณจะต้องใช้ หยิบใส่กระเป๋าให้พร้อม และถ้าในคืนนั้นคุณต้องชาร์จแบตมือถือทิ้งไว้ทั้งคืนละก็ คุณก็ควรแปะโน้ตเตือนความจำไว้ที่กระเป๋าด้วยนะคะ และก่อนจะสะพายกระเป๋าออกจากบ้านก็ลองเช็คของในกระเป๋าดูอีกครั้งว่า คุณมีของครบแล้วหรือยัง ถ้าเช็คดูจนมั่นใจแล้วก็ออกไปทำงานได้เลย อ้อ! อย่าลืมกุญแจบ้าน หรือกุญแจรถนะคะ จะหาว่าเราไม่เตือน

3. เตรียมอาหารให้ท้องอิ่ม

          เราไม่ได้ให้คุณทำอาหาร แล้วกินเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืนนะคะ แต่เราให้คุณเตรียมอาหารไว้สำหรับวันถัดไปต่างหาก คุณอาจจะแพ็คใส่กล่องข้าว หรือถุงแล้วนำไปแช่ตู้เย็น วันรุ่งขึ้นก็แค่นำอาหารไปเวฟ หรืออุ่นอาหารให้สุก แค่นี้ก็ประหยัดเวลาทำอาหารไปได้อีกเยอะเลย และที่สำคัญคุณก็ไม่ต้องตื่นเช้ามาทำอาหารในสภาพหลับ ๆ ตื่น ๆ อีกต่อไป

กระดาษโน้ต

4. แปะโน้ตสำคัญเอาไว้

          ถ้าวันนี้คุณติดประชุม หรือมีนัดทานข้าวกับลูกค้า หรือจะออกไปท่องราตรีกับเพื่อน ๆ  ก็ควรติดข้อความบอกที่บ้านของคุณไว้หน่อยก็ดีนะคะ เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องมานั่งรอคุณกลับบ้านดึก ๆ อย่างเช่น คืนนี้กลับดึกนะ มีนัดกับลูกค้า หรือวันนี้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ต้องทานข้าว หรือสารพัดข้อความที่คุณอยากจะบอกกับคนในบ้าน ก็ติดเอาไว้ในที่ที่พวกเขาเห็นได้ง่าย ๆ อย่างเช่น ตู้เย็น หรือบนกระดาน เพียงแค่นี้พวกเขาก็จะรู้แล้วว่า วันนี้คุณจะไปทำอะไรที่ไหน ถ้าหากคุณกลับผิดเวลา พวกเขาก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงยังไงล่ะคะ

5. ทำอาหารเช้าได้ง่าย ๆ นิดเดียว

          บางคนอาจจะละเลยมื้อสำคัญ อย่างเช่นอาหารมื้อเช้าไป เพราะต้องรีบออกไปทำงาน เลยไม่อยากเสียเวลากินข้าวที่บ้าน ถ้าอย่างนั้นลองเปลี่ยนวิธีกินอาหารดีไหมคะ แค่เปลี่ยนไปทานอาหารกินง่ายให้พลังงานสูงอย่างเช่น กล้วย ขนมปังโฮลวีต ซีเรียล กันดีกว่าไหม ทั้งประหยัดเวลา ทั้งได้คุณค่าทางโภชนาการ อีกทั้งคุณจะได้ไม่พลาดมื้อสำคัญของวันด้วย

6. บันทึกรายรับ - รายจ่ายประจำวัน

          ถ้าไม่อยากจะเจออาการสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจละก็ คุณควรวางแผนไว้เลยว่า ในหนึ่งเดือนคุณมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และในแต่ละวันคุณจะใช้จ่ายเงินวันละเท่าไหร่ เมื่อถึงตอนเช้า คุณก็แค่ก็เตรียมเงินให้เท่ากับจำนวนที่คุณตั้งไว้ และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ใช้เงินเกินงบ แค่นี้ก็คุณก็มีเงินเก็บได้ไม่ยาก และนี่ยังเป็นวิธีที่จะช่วยคุณควบคุมการใช้เงินได้ดีอีกด้วย ส่วนเงินที่เหลือในแต่ละวัน คุณจะเอาไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อน ๆ หรือจะเก็บเข้าธนาคารสะสมดอกเบี้ยเล่น ๆ ก็ได้ (แต่แนะนำว่าวิธีหลังดีกว่านะคะ) 

คราวนี้คุณก็ทราบเคล็ดลับดี ๆ กันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันด้วยนะคะ เพราะถึงแม้ชีวิตของคุณจะยุ่งยาก หรือวุ่นวายสักแค่ไหน แต่ถ้าคุณมีวิธีบริหารเวลา และรู้จักวิธีตั้งรับดี ๆ ละก็ ต่อให้เป็นเรื่องยากแค่ไหน คุณก็สามารถเปลี่ยนเรื่องยาก ๆ เหล่านั้น ให้กลายเป็นเรื่องง่ายได้ภายในพริบตาเลยล่ะค่ะ คราวนี้คุณก็สามารถตื่นมาพร้อมรับแสงวันใหม่ได้โดยไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องจุกจิกกวนใจอีกแล้วล่ะ




 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2555 8:13:28 น.   
Counter : 1770 Pageviews.  
space
space
ขจัด 6 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการเกิดไข้ตัวร้อน

เป็นไข้


Fever myths busted ขจัด 6 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการเกิดไข้ตัวร้อน (Lisa)

แมรี่ อี แฟรงค์ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในเมืองซานฟรานซิสโก บอกว่า สิ่งที่คุณคิดว่ารู้เกี่ยวกับไข้ตัวร้อนอาจทำร้ายคุณได้ ต่อไปนี้คือเรื่องเข้าใจผิด 6 ประการที่เธอให้ความกระจ่างไว้ในหนังสือ "Bottom Line Health"

1.อุณหภูมิร่างกายตามปกติคือ 37.0 องศาเซลเซียส

          ที่จริงแล้วทุกคนมีอุณหภูมิร่างกายตามปกติที่แตกต่างกันเล็กน้อย และอุณหภูมิปกตินี้ก็อาจเปลี่ยนไปได้ตามช่วงเวลาในแต่ละวัน หรือเมื่อคุณมีอายุมากขึ้น

2.ไข้ หมายถึงการติดเชื้อเสมอ

          ไม่เลย สิ่งอื่นนอกเหนือจากการติดเชื้อสามารถทำให้อุณหภูมิร่างกายของคุณเพิ่มขึ้นได้ เช่น อาการแพ้ การขาดน้ำ ความไม่สมดุลของฮอร์โมน และมะเร็ง

3.คุณควรกินยารักษาอาการไข้เสมอ

          ไม่เช่นกัน เพราะไข้เป็นการปกป้องตัวเองตามธรรมชาติ และแพทย์บางคนก็แนะนำให้ปล่อยมันเป็นไปตามนั้น แค่จำไว้ว่าให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ ถ้าไข้สูงกว่า 40 องศา (สำหรับผู้ใหญ่) จึงค่อยกินยาเพื่อรักษา



4.แอสไพรินเป็นยาที่ดีที่สุดสำหรับรักษาไข้

          ยาที่มีขายตามร้านขายยา อย่างเช่น แอสไพริน หรืออะซีตามิโนเฟนทำงานได้ดีพอ ๆ กัน แต่ไม่ควรใช้กับเด็ก

5.ถ้าคุณมีไข้แสดงว่าคุณเป็นโรคติดต่อ

          ถ้าคุณมีไข้ มันไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นโรคติดต่อ และเมื่อคุณเป็นโรคติดต่อ คุณก็อาจไม่มีไข้ก็ได้ ฉะนั้น อย่าใช้การมีไข้มาเป็นแนวทางว่าคุณควรอยู่ห่างจากคนอื่นหรือไม่

6.เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้เที่ยงตรงทุกอัน

          ที่จริงแล้วเทอร์โมมิเตอร์แบบปรอทดีที่สุด ตามมาด้วยแบบดิจิตอลเป็นอันดับสอง




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2555 5:36:15 น.   
Counter : 1710 Pageviews.  
space
space
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

tanas251235
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]






space
space
[Add tanas251235's blog to your web]
space
space
space
space
space