space
space
space
space

ฉีดวัคซีนอย่ากินยาพาราฯ






คณะนักวิจัยในประเทศสาธารณรัฐเช็กแนะว่า ไม่ควรให้เด็กเล็กรับประทานยาแก้ปวดประเภท "พาราเซตามอล" หลังฉีดวัคซีนหวังป้องกันไม่ให้เป็นไข้ เพราะอาจลดประสิทธิภาพของวัคซีนในการสร้างภูมิคุ้มกัน

ศาสตราจารย์โรมัน พรีมูลา และคณะจากมหาวิทยาลัยกลาโหมในเมืองฮราเดตซ์กราลอเว เผยผลการศึกษาในวารสารการแพทย์ "แลนเซ็ท" ว่า

ทดลองกับเด็กทารก 450 คนที่รับการฉีดวัคซีน ครึ่งหนึ่งรับประทานยาพาราเซตามอลหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว 24 ชั่วโมง อีกครึ่งไม่ได้รับประทานพบว่า เด็กกลุ่มแรกมีไข้เกิน 38 องศาเซลเซียสราวร้อยละ 42 เด็กกลุ่มหลังมีไข้ร้อยละ 66 แต่กลุ่มแรกมีแอนติบอดี้ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาจากการที่วัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันน้อยกว่ากลุ่มหลัง
นักวิจัยสันนิษฐานว่า เป็นเพราะพาราเซตามอลไปขัดขวางปฏิกิริยาของเซลล์ภูมิคุ้มกันที่มีต่อวัคซีน จึงไม่ควรให้เด็กรับประทานพาราเซตามอลเป็นประจำโดยไม่จำเป็น



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด




 

Create Date : 21 ตุลาคม 2552   
Last Update : 21 ตุลาคม 2552 7:46:43 น.   
Counter : 4827 Pageviews.  
space
space
แนะนำผู้เกษียณ อย่าหยุดทำงานหมดเลย สุขภาพจะทรุดโทรม





วารสารวิชาการ "จิตวิทยาการชีวอนามัย" ของสหรัฐฯเผย ผู้เกษียณที่หางานชั่วคราวหรือบางเวลาทำจะลดความเครียดได้มากกว่าผู้ว่างงาน เหตุเพราะปรับตัวให้เข้ากับงานได้...

นักวิจัยมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ กล่าวแนะนำผู้เกษียณทั้งหลายว่า การวางมือจากงานหมดเลย จะทำให้สุขภาพทรุดโทรมวารสารวิชาการ "จิตวิทยาการชีวอนามัย" ของสหรัฐฯเปิดเผยว่า นักวิจัยมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ ได้ศึกษาจากผู้เกษียณจำนวน 12,189 ราย เริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2535 ได้พบว่า ผู้เกษียณที่ยังคงหางานชั่วคราวหรือบางเวลาทำบ้าง ล้วนแต่ไม่ค่อยจะเจ็บป่วยเป็นอะไรหนักหนา และยังคงทำการทำงานแต่ละวันได้ดี

ผลการศึกษาแสดงว่า
ผู้ที่ยังคงหางานที่ใกล้เคียงกับงานเก่าทำหลังเกษียณได้ ยังคงมีขวัญดีกว่าเพื่อนฝูงคนที่หยุดทำงานหมดเลย แต่ขณะเดียวกันไม่พบหลักฐานส่อว่าคนที่ต้องไปทำงานที่ต่างจากงานเก่าทำ จะมีสภาพจิตใจดีเหมือนกันไปด้วย อาจจะเป็นเพราะว่า ต้องปรับตัวให้เข้ากับงาน และสิ่งแวดล้อมที่ต่างออกไป จึงทำให้เกิดความเครียดมากกว่า.



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ










 

Create Date : 20 ตุลาคม 2552   
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 7:28:19 น.   
Counter : 1426 Pageviews.  
space
space
พิษร้าย...ยานอนหลับ






พิษร้าย...ยานอนหลับ
ภญ.อัมพร อยู่บาง



หลายท่านคงเคยมีปัญหานอนไม่หลับ และมีประสบการณ์การใช้ยานอนหลับกันบ้างนะคะ และอีกหลายๆ ท่านในกลุ่มนี้เช่นกันที่มีปัญหากับการใช้ยานอนหลับด้วย สำหรับคำถามที่ดิฉันมักได้ยินบ่อยๆ เวลาจ่ายยา เช่น ติดยานอนหลับค่ะ
ถ้าไม่ได้กินคือจะนอนไม่ได้เลย เป็นแบบนี้มา 3 ปีแล้ว จะทำยังไงดีค่ะ หรือคุณหมอเปลี่ยนยานอนหลับให้หลายตัวแล้ว แต่ก็ยังนอนไม่หลับอีก มียานอนหลับที่แรงกว่านี้มั้ยค่ะ หรือไม่ได้นอนไม่หลับซะหน่อย แต่ทำไมคุณหมอจ่ายยานอนหลับให้ค่ะ
เป็นต้น ดังนั้นฉบับนี้เรามาทำความรู้จักกับยานอนหลับให้มากขึ้นกว่าเดิมกันดีกว่าค่ะ

ยานอนหลับ คือ ยาที่ออกฤทธิ์ทำให้ง่วงนอนและมักช่วยบรรเทาอาการตึงเครียดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม
บางท่านที่ไม่มีปัญหานอนไม่หลับ แต่กลับได้รับยานอนหลับมากิน ในขณะที่บางท่านอาจจะรู้สึกเครียด หรือวิตกกังวล ซึ่งยานอนหลับ
ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ

ทางการแพทย์ถือว่ายากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องระมัดระวังในการใช้เป็นพิเศษซึ่งจะต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น ไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยตนเองจากร้านขายยาทั่วไป ดังนั้นในกรณีที่มีการจำหน่ายยากลุ่มนี้โดยไม่มีใบสั่งแพทย์ จะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ปัจจุบันนี้การใช้ยานอนหลับในการรักษาอาการนอนไม่หลับได้รับความนิยมอย่างสูง และมียานอนหลับในท้องตลาดหลากหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งอาจทำให้หลายท่านเข้าใจว่า การใช้ยานอนหลับเป็นการรักษาอาการนอนไม่หลับ แต่ความจริงแล้วการใช้ยานอนหลับ
ไม่ได้รักษาอาการนอนไม่หลับ เพียงแค่ทำให้อาการนอนไม่หลับของท่านทุเลาลงเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีมิจฉาชีพบางประเภทที่นำคุณสมบัติของยานอนหลับมาใช้มอมยาเหยื่อ เพื่อล่วงละเมิดทางเพศหรือลักทรัพย์ดังที่เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์บ่อยๆ

ผลเสียของยานอนหลับ

การใช้ยานอนหลับอย่างไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการซื้อยามากินเอง ทำให้เกิดอันตรายมากกว่าที่คิด เช่น การใช้ยานอนหลับ
บางชนิดที่ออกฤทธิ์เป็นระยะเวลานาน หรือในผู้สูงอายุที่ร่างกายมีความสามารถในการกำจัดยาลดลง อาจทำให้ยังมียาสะสมอยู่ในร่างกายเมื่อตื่นนอนแล้ว บางคนจึงยังรู้สึกง่วงนอน อ่อนเพลีย หรือมึนงง ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ในคนที่ต้องขับรถ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร เนื่องจากอาการง่วงซึมแม้เพียงเล็กน้อยก็มีผลต่อการตัดสินใจและการเคลื่อนไหวที่ต้องการความรวดเร็ว
ทำให้เชื่องช้าลงได้ หรือในผู้สูงอายุอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้

นอกจากนี้ผู้ที่มีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น โรคปอด หรือผู้ที่นอนกรนอย่างมาก หรือผู้ที่ใช้ยาบางชนิดที่กดประสาทส่วนกลาง
ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานอนหลับ เนื่องจากยานอนหลับบางชนิดออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางได้เช่นกัน
ซึ่งจะทำให้ศูนย์ควบคุมการหายใจถูกกดไปด้วย อาจเป็นสาเหตุให้ร่างกายหยุดหายใจได้ หรือในกรณีที่การใช้ยานอนหลับอย่างต่อเนื่อง
เป็นระยะเวลานาน ก็อาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ เช่น

การดื้อยา คือการใช้ยานอนหลับขนาดเดิมติดต่อกันสักระยะหนึ่งแล้วพบว่าได้ผลการรักษา (การทำให้นอนหลับได้) น้อยลง จนต้องเพิ่มขนาดยามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขนาดยาดังกล่าวอาจมากเกินกว่าขนาดปกติที่ใช้ในการรักษาจนเกิดพิษจากยาได้

การติดยา คือเมื่อใช้ยาติดต่อกันสักระยะหนึ่งแล้วหยุด อาจทำให้อาการนอนไม่หลับเกิดขึ้นอีกครั้ง จนต้องกลับมาใช้ยาต่อเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยให้นอนหลับได้

เซ็กซ์เสื่อม มีรายงานว่าผู้ที่ได้รับยานอนหลับบางชนิดเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายได้

ความจำเสื่อม ยานอนหลับอาจส่งผลต่อระบบความจำในระยะยาวได้ ทำให้ไม่สามารถจำเหตุการณ์ หรือเรื่องราวต่างๆ ได้ยาวนานเหมือนคนปกติทั่วไป

ดังนั้นการรักษาอาการนอนไม่หลับที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ การใช้ยานอนหลับที่มีขนาดต่ำที่สุดที่มีประสิทธิภาพในระยะเวลาสั้นๆ (ไม่ควรเกิน 2 – 4 สัปดาห์) ร่วมกับการรักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ ร่วมกับการปฏิบัติสุขอนามัยการนอนที่ดีด้วยคะ

การนอนหลับ เป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย แต่ภาวะทางสังคมในปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง ปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือ
แม้แต่มลพิษจากสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เราสามารถเกิดความตึงเครียด วิตกกังวลได้ ซึ่งอาจส่งผลไม่น้อยต่อการนอนหลับ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเพราะอะไรอาการนอนไม่หลับจึงเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพของคนเราในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
สถาบันวิจัยสุขภาพแห่งสหรัฐอเมริกา แบ่งความรุนแรงของอาการนอนไม่หลับออกเป็น 3 ระดับ คือ

• นอนไม่หลับชั่วคราว หมายถึงการนอนไม่หลับที่เป็นอยู่ช่วงระยะสั้น ๆ มักไม่เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีสิ่งมากระตุ้น เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล การได้รับสารกระตุ้นการทำงานของร่างกาย เช่น กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง หรือในผู้ที่ต้องเดินทางบินข้ามทวีป (Jet Lag) อาจทำให้เกิดการนอนไม่หลับชั่วคราวได้ แต่เมื่อสิ่งที่มากระตุ้นเหล่านี้หมดไป ร่างกายก็จะกลับมานอนหลับเป็นปกติได้

• นอนไม่หลับระยะสั้น หมายถึงการนอนไม่หลับเป็นระยะเวลา 1-3 สัปดาห์ อาจเกิดจากความเจ็บป่วยเรื้อรัง ซึ่งความเจ็บป่วย
บางชนิดนั้นก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบการนอนได้ เช่น โรคหัวใจ การไอเรื้อรัง ไทรอยด์ ปัญหาต่อมลูกหมาก ติดยา เป็นต้น ทั้งนี้หากปล่อยไว้โดยไม่ได้แก้ไข อาจทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นจนกลายเป็นอาการนอนไม่หลับเรื้อรังในที่สุด

• นอนไม่หลับระยะยาว หมายถึงการนอนไม่หลับ เป็นระยะเวลามากกว่า 3 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งเป็นอาการนอนไม่หลับเรื้อรัง สาเหตุสำคัญอาจเกิดจากโรคประจำตัวต่างๆ โดยเฉพาะโรคทางระบบประสาท และจิตเวช เช่น โรคสมองเสื่อม ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น
หากเกิดปัญหาการนอนไม่หลับทั้ง 3 ชนิดนี้ขึ้น ย่อมส่งผลให้ช่วงระยะเวลาที่ร่างกายได้พักผ่อนหรือเวลาหลับสนิทลดน้อยลงกว่าปกติ ซึ่งจะมีผลต่อความพร้อมและความสดชื่นของสมองและส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทำให้รู้สึกไม่สดชื่น แจ่มใส ง่วงเหงาหาวนอน ขาดสมาธิในการทำงาน ส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตและคุณภาพการทำงานได้


สุขอนามัยในการนอนที่ดี ได้แก่

• ควรเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา ไม่ว่าคืนก่อนจะนอนหลับหรือไม่ก็ตาม

• จำกัดเวลานอนให้เหมาะสม และเพียงพอ โดยทั่วไปวัยรุ่นต้องการเวลานอน 11 ชั่วโมง วัยทำงาน 8 ชั่วโมง และผู้สูงอายุ 6 ชั่วโมง
ต่อวัน

• การจัดห้องนอนและบรรยากาศในห้องนอนให้เหมาะสมก็จะช่วยได้มาก เช่น อุณหภูมิห้องไม่ร้อน หรือหนาวเกินไป ที่นอนไม่นุ่มหรือไม่แข็งเกินไป หมอนหนุนไม่สูงมากไม่ต่ำมาก ไม่มีเสียงรบกวน แต่เสียงพัดลมหรือ เสียงเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นเสียงสม่ำเสมอ เป็นตัวกลบเสียงรบกวนอื่น ก็อาจช่วยให้หลับได้ดีขึ้น ห้องนอนต้องไม่สว่างเกินไป ท่านอนที่ดีคือ ท่านอนหงาย

• ฝึกฝนการผ่อนคลายความตึงเครียดทุกเย็นอย่างสม่ำเสมอ เช่น ฝึกการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือสมาธิ

• ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอ ประมาณ 3-4 ครั้ง ต่อสัปดาห์ แต่ไม่ควรออกกำลังกายในช่วงค่ำและก่อนนอน

• งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม โดยเฉพาะเวลาหลังเที่ยงวัน

• งดการดื่มสุรา สุราทำให้หลับเร็วขึ้น แต่จะทำให้หลับๆ ตื่นๆ

• แม้ว่าบางคืนจะนอนไม่หลับ ในเวลากลางวันสั้นๆ ไม่เกิน 30 นาที ก็ควรที่จะทำงานให้ยุ่งเสมอ แทนที่จะนอนพักผ่อน เว้นแต่
ในบางรายที่พบว่าการงีบหลับในระหว่างวัน ช่วยให้นอนหลับดีในเวลากลางคืน
สุขอนามัยในการนอนที่ดี ทั้งหมดนี้อาจฟังดูปฏิบัติตามได้ยากสักหน่อยในผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับมานานแล้ว แต่หากท่านลองค่อยๆ ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยานอนหลับ

ท้ายนี้ขอให้ทุกคนนอนหลับฝันดี และตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นนะคะ

ขอบคุณ healthtoday




 

Create Date : 18 ตุลาคม 2552   
Last Update : 18 ตุลาคม 2552 7:17:43 น.   
Counter : 1299 Pageviews.  
space
space
จามจุรี ไม่ได้มีแค่ความสวย






จามจุรี นอกจากมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ก้ามปู แล้ว บางคนเรียกว่า จามจุรีแดง, ฉำฉา หรือ ก้ามกราม ก็มี ส่วนชื่อเรียกในภาษาอังกฤษคือ Rain Tree จามจุรีเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีความสูงเฉลี่ยราว 15 ม. เป็นไม้ใหญ่มีกิ่งก้านสาขาแตกออกเป็นทรงพุ่มกว้างครึ่งวงกลมอย่างสวยงาม ซึ่งต้นที่มีอายุมากๆอาจมีความกว้างของพุ่มได้ถึง 25 ม.

ลักษณะของลำต้น เป็นเปลือกหนาสีน้ำตาลแก่แตกออกเป็นแผ่นๆ ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 5 ซม. ด้านนอกเป็นสีชมพูเข้ม ส่วนด้านในเป็นสีขาว จะออกดอกให้ชื่นชมกันตลอดทั้งปี แต่จะงามสะพรั่งสุดๆในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม

ถิ่นกำเนิด ของจามจุรีเป็นไม้เมืองร้อนพันธุ์แท้ของประเทศบราซิล ทางทวีปอเมริกาใต้ แต่ถูกนำมาปลูกและขยายพันธุ์เป็นครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อร้อยกว่าปีก่อนในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2443 โดยนายเสลด (Mr. H. Slades) เจ้ากรมป่าไม้คนแรกของสยาม เป็นผู้นำมาปลูกไว้ที่ริมถนนเจริญประเทศในจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) ก็นำไปปลูกที่จังหวัดกระบี่ด้วยในปีเดียวกัน

ประโยชน์ ของจามจุรีนี้ นอกจากจะถูกนำมาทำเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ที่มีลวดลายสวยงามน่าใช้ แถมมีราคาถูกแล้ว เนื้อในของฝักที่มีน้ำเชื่อมหวานเจี๊ยบห่อหุ้มเมล็ดไว้ก็ใช้สำหรับเลี้ยงสัตว์จำพวกเคี้ยวเอื้องได้ ชาวเหนือและอีสานนิยมปลูกไว้สำหรับเลี้ยงตัวครั่ง นอกจากนี้ต้นจามจุรียังให้ทั้งความสดชื่นและร่มเงากับมนุษย์เราอีกด้วย

ในส่วนของคุณค่าทางสมุนไพร นั้น ใบของจามจุรีมีรสเย็นใช้ดับพิษร้อนทั้งหลายทั้งปวง ส่วนเปลือก ลำต้นมีรสฝาด ใช้สมานแผลในปาก แก้เหงือกบวม แก้ปวดฟันก็ได้ แถมยังช่วยห้ามอาการเลือดตกใน แก้ท้องร่วง รักษาอาการริดสีดวงทวารได้อีกต่างหาก ที่เด็ดสุดก็คือ เมล็ด ซึ่งมีรสฝาดเมานั้นใช้รักษาโรคผิวหนังกลากเกลื้อนได้ชะงัดนัก

ขอบคุณ horapa.com




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2552   
Last Update : 12 ตุลาคม 2552 7:38:33 น.   
Counter : 1492 Pageviews.  
space
space
ประโยชน์ของกล้วย



มีอาหารว่างใดดีไปกว่ากล้วย อุดมด้วยน้ำตาลธรรมชาติ 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟรุคโทส และกลูโคสรวมกับเส้นใยและกากอาหาร กล้วยจะช่วยเสริมเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายทันทีทันใด จากงานวิจัยพบว่ากินกล้วยแค่ 2 ผล ก็สามารถเพิ่มพลังงานให้อย่างเพียงพอกับการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ได้นานถึง 90 นาที จึงไม่น่าแปลกใจที่กล้วยเป็นผลไม้อันดับหนึ่งของนักกีฬา

ชั้นนำระดับโลกไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มพลังงานเท่านั้น
ยังช่วยเอาชนะและป้องกันโรคต่าง ๆ ที่จะเกิดกับ ร่างกายได้อีก หลายโรค จึงควรรับประทานทุกวัน

1. โรคโลหิตจาง
ในกล้วยมีธาตุเหล็กสูงจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นการผลิตฮีโมโกลบินในเลือดและจะช่วยใน
กรณีที่มีสภาวะขาดกำลัง หรือภาวะ โลหิตจาง

2. โรคความดันโลหิตสูง
มีธาตุโปรแตสเซียมสูงสุดแต่มีปริมาณเกลือต่ำทำให้เป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ที่จะช่วยความดันโลหิตมาก อย.ของอเมริกายินยอมให้อุตสาหกรรมการปลูกกล้วย
สามารถโฆษณาได้ว่ากล้วยเป็นผลไม้พิเศษ ช่วยลดอันตรายอันเกิดจากเรื่องความดันโลหิต
หรือโรคเส้นเลือดฝอยแตก

3. กำลังสมอง
นักเรียน 200 คน ที่โรงเรียนTwickenham ได้รับผลดีจากการสอบตลอดปีนี้
ด้วยการรับประทานกล้วยในมื้ออาหารเช้าตอนพักและมื้ออาหารกลางวันทุกวัน
เพื่อช่วยส่งเสริมกำลังของสมองในพวกเขาจากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า
ปริมาณโปรแตสเซียมที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในกล้วยสามารถให้นักเรียน มีการตื่นตัวในการเรียนมากขึ้น

4. โรคท้องผูก
ปริมาณเส้นใยและกากอาหารที่มีอยู่ในกล้วยช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ
และยังช่วยแก้ปัญหาโรคท้องผูกโดยไม่ต้องกินยาถ่ายเลย

5. โรคความซึมเศร้า
จากการสำรวจเร็ว ๆ นี้ในจำนวนผู้ที่มีความทุกข์เกิดจากความซึมเศร้าหลายคน
จะมีความรู้สึกที่ดีขึ้นมากหลังการกินกล้วย
เพราะมีโปรตีนชนิดที่เรียกว่า trypotophan เมื่อสารนี้เข้าไป
ในร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็น serotonin
เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตัวผ่อนคลายปรับปรุงอารมณ์ให้ดีขึ้นได้
คือทำให้เรารู้สึกมีความสุขเพิ่มขึ้นนั่นเอง

6. อาการเมาค้าง
วิธีที่เร็วที่สุดที่จะแก้อาการเมาค้าง คือการดื่มกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้ง
กล้วยจะทำให้กระเพาะของเราสงบลงส่วนน้ำผึ้งจะเป็นตัวช่วยหนุนเสริม
ปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่หมดไปในขณะที่นมก็ช่วยปรับระดับของเหลวในร่างกายของเรา

7. อาการเสียดท้อง
กล้วยมีสารลดกรดตามธรรมชาติที่มีผลต่อร่างกายของเรา ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับอาการเสียดท้อง
ลองกินกล้วยสักผลคุณจะรู้สึกผ่อนคลายจากอาการเสียดท้องได้

8. ความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า
การกินกล้วยเป็นอาหารว่างระหว่างมื้ออาหารจะรักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือดให้คงที
่เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า

9. ยุงกัด
ก่อนใช้ครีมทาแก้ยุงกัดลองใช้ด้านในของเปลือกกล้วยทาบริเวณที่ถูกยุงกัด
มีหลายคนพบอย่างมหัศจรรย์ว่าเปลือกกล้วยสามารถแก้เม็ดผื่นคันที่เกิดจากยุงกัดได้

10. ระบบระสาท
ในกล้วยมีวิตามินบีสูงมาก ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบลงได้
โรคน้ำหนักเกินและโรคที่เกิดในที่ทำงานจากการ
ศึกษาของสถาบันจิตวิทยาในออสเตรียค้นพบว่าความกดดันในที่ทำงาน
เป็นเหตุนำไปสู่การกินอย่างจุบจิบ เช่นอาหารพวกช็อคโกแล็ตและอาหารประเภททอดกรอบต่าง ๆ
ในจำนวนคนไข้ 5,000 คน ในโรงพยาบายต่างๆนักวิจัยพบว่า
ส่วนใหญ่เป็นโรคอ้วนมากเกินไป และส่วนใหญ่ทำงานภายใต้ความกดดันสูงมาก
จากรายงานสรุปว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการตื่นตระหนกและนำไปสู่การกินอาหารอย่างบ้าคลั่ง
เราจึงต้องควบคุมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดด้วยการกินอาหารว่างที่มีปริมาณคาร์โบโฮเดรตสูง
เช่น กินกล้วยทุก 2 ชั่วโมงเพื่อรักษาปริมาณน้ำตาลให้คงที่ตลอดเวลา
ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่อยยาการกินกล้วยที่มีวิตามินบี 6
ซึ่งประกอบด้วยสารควบคุมระดับกลูโคสที่สามารถมีผลต่ออารมณ์ได้

11. โรคลำไส้เป็นแผล
กล้วยเป็นอาหารที่แพทย์ใช้ควบคุมเพื่อต้านทานการเกิดโรคลำไส้เป็นแผล
เพราะเนื้อของกล้วยมีความอ่อนนิ่มพอดีเป็นผลไม้ชนิดเดียวที่ทานได้ง่ายๆ
ไม่ยุ่งยากสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคลำไส้เรื้อรังและกล้วยยังมีสภาพเป็นกลางไม่เป็นกรด
ทำให้ลดการระคายเคืองและยังไปเคลือบผนังลำไส้และกระเพาะอาหารด้วย

12. การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
ในวัฒนธรรมของหลายแห่งเห็นว่ากล้วยคือผลไม้ที่สามารถทำให้อุณหภูมิเย็นลงได้
ทั้งทางร่างกายและจิตใจโดยเฉพาะอุณหภูมิของอารมณ์ของคนที่เป็นแม่ที่ชอบคาดหวัง
ตัวอย่างในประเทศไทย จะให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์รับประทานกล้วยทุกวัน
เพื่อให้แน่ใจว่าทกรกที่เกิดมาจะมีอุณหภูมิเย็น

13. ความสับสนของอารมณ์เป็นครั้งคราว
กล้วยสามารถช่วยในเรื่องของอารมณ์และความสับสนได้
เพราะในกล้วยมีสารตามธรรมชาติ trypotophan ทำให้อารมณ์ดี

14. การสูบบุรี่
กล้วยสามารถช่วยคนที่กำลังพยายามเลิกสูบบุหรี่
เนื่องจากในกล้วยมีปริมาณของวิตามินซี เอ บี 6 และบี 12 ที่สูงมาก
และยังมีโปรแตสเซียมกับแมกนีเซียมที่ช่วยทำให้ร่างกายฟื้นคืนตัวได้เร็ว
อันเป็นผลจากการลดเลิกนิโคตินนั่นเอง

15. ความเครียด
โปรแตสเซียมเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติ
การส่งออกซิเจนไปยังสมองและปรับระดับน้ำในร่างกาย
เวลาเกิดอารมณ์เครียด อัตรา metabolic ในร่างกายของเราจะขึ้นสูง
และทำให้ระดับโปรแตสเซียมในร่างกายของเราลดลง
แต่โปรแตสเซียมที่มีอยู่สูงมากในกล้วยจะช่วยให้เกิดความสมดุล

16. เส้นเลือดฝอยแตก
จากการวิจัยที่ลงในวารสาร "The New England Journal of Medicine"
การกินกล้วยเป็นประจำสามารถลดอันตรายที่เกิดกับเส้นโลหิตแตกได้ถึง 40%

17. โรคหูด
การรักษาหูดด้วยวิธีทางเลือกแบบธรรมชาติโดยการใช้เปลือกของกล้วยวางปิดลงไปบนหูด
แล้วใช้แผ่นปิดแผลหรือเทปติดไว้ ให้ด้านสีเหลืองของเปลือกกล้วยออกด้านนอก ก็จะสามารถรักษาโรคหูดให้หายได้

เห็นหรือไม่ว่า กล้วยรักษาโรคต่าง ๆ อย่างธรรมชาติได้มากมายท่านควรลองพิสูจน์ด้วยตัวเองบ้างว่าจะได้ผลตามที่กล่าวหรือไม่และเมื่อเปรียบเทียบแอปเปิ้ลแล้ว กล้วยมีโปรตีนมากกว่าแอปเปิ้ล 4 เท่า มีคาร์โบรไฮเดรตมากกว่า 2 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่า 3 เท่า มีวิตามินเอและธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่า และมีวิตามินรวมทั้งแร่ธาตุอื่น มากกว่าอีก 2 เท่า และกล้วยยังอุดมด้วยโปรแตสเซียม กล้วยจึงเป็นหนึ่งใน อาหารที่ดีที่สุด

ดังนั้นถึงเวลาแล้วหรือยังที่เคยกินแอปเปิ้ลวันละผลทุกวันไม่ต้องไปหาหมอ หันมาคุ้นเคยกับคำว่า "กินกล้วยวันละผล ก็ไม่ต้องไปหาหมอ" นอกจากนี้มีคนที่เคยเป็นตะคริวที่เท้า ข้อเท้า และน่อง
แนะนำให้กินกล้วยทุกวัน ตั้งแต่นั้นมาไม่เป็นตะคริวอีกเลยและหายไป


ขอบคุณ horapa.com




 

Create Date : 11 ตุลาคม 2552   
Last Update : 11 ตุลาคม 2552 8:05:58 น.   
Counter : 1070 Pageviews.  
space
space
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

tanas251235
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]






space
space
[Add tanas251235's blog to your web]
space
space
space
space
space