space
space
space
space

ยาลดความอ้วน


“คุณรู้ไหมว่า ยาลดความอ้วนยี่ห้อไหนที่ใช้แล้วเห็นผลทันทีและไม่มีอันตราย”
จะบอกให้ว่า ไม่มีหรอก ไม่มียาลดความอ้วนยี่ห้อไหนที่พอกินปุ๊บลดปั๊บ กว่าจะเห็นผลก็ต้องใช้ยาไปประมาณหนึ่ง และถ้าหากเราหยุดใช้ยา น้ำหนักตัวอาจจะกลับเพิ่มขึ้นอีกก็ได้ ถ้าไม่ควบคุมเรื่องการกินอาหาร ส่วนเรื่องอันตรายนั้น รับประกันว่า ในโลกนี้ยังไม่มียาลดความอ้วนยี่ห้อไหนที่ใช้แล้วปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกยี่ห้อมีอันตรายทั้งนั้น ถ้าเราไม่ระมัดระวังในการใช้

ยาลดความอ้วนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเวลานี้ มีมากมายหลายยี่ห้อ เช่นมิราปร้อนท์ (Mirapront),
ไอออนนามิน (Ionamin),
อะพิเสท (Apisate),
พรีฟาโมน (Prefamone),
อเพทินิล เดโปท์ (Apetinil Depot),
ฟริงกานอร์ (Fringanor),
เทโรแนค (Teronac) ฯลฯ เป็นต้นยาลดความอ้วนเหล่านี้ ไม่ใช่ยาละลายไขมันหรือลดไขมันอย่างที่เรียกกัน แต่ส่วนใหญ่จะไปออกฤทธิ์ที่ศูนย์ควบคุมความหิวในสมอง ทำให้เกิดการเบื่ออาหาร



อาการข้างเคียงมีอะไรบ้าง ?ยาลดความอ้วนส่วนใหญ่จะมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทอยู่ด้วย ดังนั้นเมื่อกินแล้ว จึงมักจะมีอาการกระวนกระวายนอนไม่หลับ มือสั่น ใจสั่น ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ในบางคนอาจเกิดการติดยาด้วยก็ได้ อาการเหล่านี้คล้ายกับกินยาแอมเฟตามีน (ยาม้า) ที่เคยใช้กันแพร่หลายในหมู่คนขับรถบรรทุก คนขับแท็กซี่เวลากลางคืน เป็นต้น


ข้อระวัง
สำหรับคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและเป็นโรคต่อมธัยรอยด์เป็นพิษอยู่แล้ว ขอแนะนำว่า ไม่ควรใช้ยาลดความอ้วน เพราะจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น หญิงมีครรภ์และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีก็เช่นกัน ไม่ควรใช้เด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายกับเด็กได้


ใช้อย่างไรจึงจะถูกต้อง ?
ยาลดความอ้วนควรกินตอนเช้า เพราะถ้ากินตอนกลางวัน หรือตอนเย็นแล้ว จะทำให้ตอนกลางคืนนอนไม่หลับ ขนาดที่ใช้แล้วแต่ชนิดของยา แต่โดยส่วนใหญ่กินครั้งละ 1 เม็ดหรือ 1 แคปซูล ก่อนอาหารเช้า ระยะเวลาของการใช้ยาประมาณ 4-6 อาทิตย์ ไม่ควรจะนานเกินกว่านี้ ถ้าใช้ยาลดความอ้วนเป็นระยะเวลานานติดกันเกินกว่าที่กำหนดไว้นี้ หรือใช้ระยะสั้นแต่ขนาดที่กินสูงเกินไปแล้วละก็ จะเกิดอาการเหนื่อยล้า หมดแรง จิตใจหดหู่ ซึมเศร้า ขึ้นมาทันทีเมื่อหยุดใช้ยาอันตรายจากการใช้ยาเกินขนาด

บางคนเมื่อใช้ยานานๆ ร่างกายจะมีความทนทานต่อยาเพิ่มขึ้น ใช้ยาขนาดเท่าเดิมจะรู้สึกไม่ได้ผล ในกรณีเช่นนี้ ไม่ควรเพิ่มขนาดของยาโดยพลการ เพราะจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงมากขึ้น มีอาการหยุกหยิก ไม่อยู่สุข หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย ถ้าเพิ่มขนาดจนสูงมาก จะทำให้มีอาการตื่นเต้น ตกใจง่าย มือสั่นใจสั่น ความดันสูง ตาพร่า หายใจถี่ ปวดหัว ประสาทหลอน ปวดหน้าอก ชัก โคม่า จนทำให้ตายได้

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมียาลดความอ้วนตัวหนึ่งที่มีอาการข้างเคียงต่างจากตัวอื่น ยานี้คือ เฟนฟลูรามีน (Fenfluramine) มีชื่อการค้าว่า พอนเดอราล (Ponderal) เมื่อใช้แล้วจะทำให้ง่วงนอน และซึม คนที่มีอาการซึมเศร้าจึงไม่ควรใช้ยาตัวนี้ และถ้าต้องการหยุดใช้ยาตัวนี้ ควรจะค่อยๆ ลดขนาดของยาลง ไม่ควรหยุดยาอย่างทันทีทันใดเพราะจะทำให้มีอาการซึมเศร้ามาก

ใช้ยาระวังพิษ รักชีวิตระวังการใช้ยา

ผู้เขียน: ภก.รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล


ขอบคุณ หมอชาวบ้าน




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2552   
Last Update : 20 มิถุนายน 2552 7:28:36 น.   
Counter : 4196 Pageviews.  
space
space
นิ่วในถุงน้ำดีที่ไม่มีอาการ



บ่อยครั้งที่แพทย์ตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดีโดยบังเอิญในผู้ที่ไม่มีอาการ ปัญหาคือจะทำอย่างไรดี

นายแพทย์ เกรซี และ แรนโซฮอฟฟ์ จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนและมหาวิทยาลัยเคส เวสเทอร์น รีเสอร์ฟ ในคลีฟแลนด์ สหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่าปล่อยทั้งไว้เฉยๆ จะดีกว่า

คนที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดีไม่ได้มีอาการทุกคนไป และไม่จำเป็นต้องทำการรักษาเสียทุกราย แต่ถ้าทิ้งไว้จะมีอันตรายบ่อยเพียงใด ?
จากการตรวจคณะอาจารย์และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ที่ไม่มีอาการทั้งหมด 3,326 คน ในการตรวจร่างกายประจำปีระหว่าง ค.ศ. 1956-1969 พบผู้ที่มีนิ่วในถุงน้ำดี 123 คน(อายุเฉลี่ย 54 ปี) แพทย์ทั้ง 2 ได้ติดตามดูทั้ง 123 คนนี้ และได้รายงานผลต่อสมาคมแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารของสหรัฐอเมริกาในนิวยอร์ค

ผลการศึกษาปรากฏว่าคนที่ต่อมาจะมีอาการของนิ่วในถุงน้ำดีและถึงกับต้องผ่าตัดจะเกิดอาการภายใน 10 ปี จนถึงปีกลายนี้ 42 คน ไม่มีอาการของนิ่วในถุงน้ำดีเลย, 35 คนได้รับการผ่าตัดเพื่อป้องกันผลแทรกซ้อน, 30 รายตายจากสาเหตุอื่น, และ 16 ราย (13%) มีอาการปวดท้องเนื่องจากนิ่ว แต่ไม่มีใครเสียชีวิตเนื่องจากโรคถุงน้ำดี ในจำนวน 16 รายนี้ มี 2 รายที่เกิดถุงน้ำดีอักเสบ และ 1 ราย ตับอ่อนอักเสบ ร้อยละ 28 ของคนที่มีนิ่วในถุงน้ำดีทั้งหมด ยังคงสบายดีและยังไม่มีอาการหลังจากการตรวจพบนิ่วแล้วนานถึง 15 ปี หรือนานกว่านี้

ผู้รายงานสรุปว่า คนที่มีนิ่วในถุงน้ำดีโดยไม่มีอาการจำนวนมากรายยังคงสบายดีอยู่นานถึง 15 ปี และการเสี่ยงต่อผลร้ายจากนิ่วจะลดลงเมื่อเวลาผ่านพ้นไปนานขึ้น มีเพียงน้อยรายที่มีผลแทรกซ้อนแต่ก็มักมีอาการเตือนให้ทราบล่วงหน้าก่อน

ขอบคุณ หมอชาวบ้าน




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2552   
Last Update : 19 มิถุนายน 2552 7:21:22 น.   
Counter : 1344 Pageviews.  
space
space
ตับ ถุงน้ำดี และตับอ่อน





⇒ ตับ (Liver)


ตับเป็นอวัยวะภายในที่ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญมาก อยู่ในช่องท้องใต้ชายโครงข้างขวา ติดกับด้านใต้ของกะบังลมและผนังทางด้านหน้าของหน้าท้องมีน้ำหนักกิโลกรัมกว่า

หน้าที่ของตับนั้น
- เก็บน้ำตาลไว้ใช้เป็นพลังงานตามที่ร่างกายต้องการ
- สร้างน้ำดีมีฤทธิ์เป็นด่าง เพื่อช่วยลดกรดในลำไส้และช่วยย่อยอาหารจำพวกไขมัน
- สร้างโปรตีนวิตามิน วิตามินเอ และเก็บแร่เหล็กที่เกิดจากการที่เม็ดเลือดถูกทำลาย
- สร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันและทำลายสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย
- สร้างสารป้องกันการแข็งตัวของเม็ดเลือดในร่างกาย แต่เมื่อมีบาดแผลจะช่วยให้เลือดแข็งตัวที่บาดแผล
- กำจัดของเสียหรือสารพิษที่ร่างกายไม่ต้องการ
โรคเกี่ยวกับตับที่สำคัญ ก็มีโรคตับแข็ง โรคดีตับอักเสบ เป็นต้น




⇒ ถุงน้ำดี (Gallbladder)
เป็นถุงเก็บน้ำดีจากตับ ติดอยู่ใต้ตับ มีท่อร่วมกับตับ
น้ำดีจากตับมีหน้าที่ในการทำลายสภาพความเป็นกรดในลำไส้ และช่วยย่อยอาหารจำพวกไขมัน
ถุงน้ำดีอาจจะอักสบหรืออุดตันเนื่องจากเป็นนิ่วในถุงน้ำดีหรือที่ท่อน้ำดี ทำให้เจ็บบริเวณใต้ชายโครงข้างขวา





⇒ ตับอ่อน (Pancreas)
เป็นอวัยวะภายในร่างกายที่สำคัญไม่แพ้ตับอยู่ระหว่างลำไส้เล็กหลังกระเพาะอาหาร มีท่อไปเปิดสู่ลำไส้เล็กร่วมกับท่อจากถุงน้ำดีและตับ

ตับอ่อนมีหน้าที่สำคัญ 2 อย่าง

1. สร้างน้ำย่อย ช่วยในการย่อยแป้ง โปรตีน และไขมัน ภายในลำไส้เล็ก

2. สร้างสารอินซูลิน ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาล
เมื่อเกิดความผิดปกติที่ตับอ่อน จะทำให้การสร้างสารจำพวกอินซูลินลดลง การควบคุมน้ำตาลในร่างกายจะผิดปกติ อาจทำให้เป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น


ผู้เขียน: ดร.นที คัคนานตดิลก


ขอบคุณ หมอชาวบ้าน





 

Create Date : 18 มิถุนายน 2552   
Last Update : 18 มิถุนายน 2552 7:42:01 น.   
Counter : 4085 Pageviews.  
space
space
นอนหลับตอนกลางวัน สมองโปร่ง-แก้ปัญหาดี




การนอนหลับกลางวันช่วยทำให้เราหาทางแก้ปัญหาได้ดี
ดร.ซารา เมดนิก จากมหาวิทยา ลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก สหรัฐ อเมริกา พบว่า การนอนที่ลูกตากรอกไปมา (Rapid Eye Movement) สามารถช่วยให้เราหาทางแก้ไขปัญหาได้เพิ่มขึ้น 40% โดยในช่วงนั้นร่างกายจะไม่ขยับเขยื้อนชั่วคราวและไม่ไหวติงต่อสิ่งกระตุ้นใดๆ จากภายนอก

ดร.เมดนิกกล่าวว่า การนอนเช่นนี้เกิดขึ้นประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากนอนหลับและเกิดขึ้นประมาณ 5 ครั้งต่อคืน

ในการทดลองกับอาสาสมัครที่ได้นอนกลางวัน พบว่า อาสาสมัครที่ร่วมเล่นเกมหาคำตอบในการเล่นคำได้ดีขึ้น เช่น ให้โจทย์มาเป็นคำ 3 คำ คือ คุกกี้ หัวใจ 16 และให้หาคำที่ 4 ที่มีความเกี่ยวโยงกับ 3 คำแรก ซึ่งคำตอบของคำถามนี้คือคำว่า "หวาน" ซึ่งผู้ที่นอนกลางวันสามารถทำคะแนนได้ดี เนื่องจากการนอนแบบ REM ช่วยทำให้สมองเชื่อมต่อกับความคิดในแบบใหม่ๆ ก่อให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2552   
Last Update : 17 มิถุนายน 2552 7:12:06 น.   
Counter : 1521 Pageviews.  
space
space
รู้เรื่องอ้วน รู้เรื่องกิน





เชิญเลยครับ…ถ้าใครอ้วนก็เชิญทางนี้ได้เลย แล้วก็รีบอ่านเสียบัดนี้ แต่ถ้าท่านไม่อ้วน ก็อย่าเพิ่งผ่านเลยไปนะครับ ให้หลับตานึกให้ดีว่า ท่านมีญาติพี่น้องที่ไหนบ้างที่อ้วน หลับตานึกว่า ต่อไปนี้เราจะได้ศึกษาเรื่องของคนอ้วน เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตของญาติพี่น้องของเราที่อ้วนบ้าง


ความอ้วน เป็นสิ่งดีหรือไม่ เรื่องนี้เห็นจะพูดยาก แต่เอาเถอะ ถ้าจะออกแขกก่อนก็ต้องบอกกว่า ความอ้วนนั้น ไม่ใช่โรค ที่ เรียกๆ กันก็เพราะเรียกกันอย่างนั้นมานาน
แล้วความอ้วนมันคืออย่างไรกันเล่าหนอ?
ความอ้วนเป็นอาการของโรคบางชนิด
“ไม่เข้าใจ……นี่ฉันก็อ้วน แล้วอยู่ๆ ฉันจะเป็นโรคได้อย่างไรเล่าเฟ้ย…”


ยังครับ ท่านยังฟังไม่จบ คือว่า สำหรับคนที่เป็นโรคบางชนิด เช่น ผู้ป่วยที่มีเนื้องอกที่ตับอ่อน ที่ต่อมหมากไต และต่อมใต้ สมองนั้น จู่ๆ ก็อาจจะมีอาการอ้วนผิดปกติขึ้นมาได้ ทางแพทย์ท่านก็เลยความอ้วนนั้นคือ อาการของโรคคือเป็นโรคอย่างอื่น แล้วจึงอ้วนตามมาที่หลังยังไม่จบ
ความอ้วนยังเป็นสาเหตุของโรคได้อีกหลายโรค


“อย่ามาขู่กันนะ”
ไม่ได้ขู่ครับ คนที่อ้วนถ้าหากไม่ได้ระมัดระวังสุขภาพ (ที่จริงก็ไม่ระมัดระวังอยู่แล้ว) ทางหมดจะบอกได้ทันทีเลยว่า ท่านนะ ได้เดินทางเข้าสู่ โรคความดันเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองหรือหัวใจตีบตัน โรคไขข้อ ต่างๆ โรคนิ่วถุงน้ำดี และโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศก่อนวัย ด้วย สำหรับที่ว่า ทำไมอ้วนแล้วถึงได้โยงใยให้เป็นโรคอย่างที่ว่าไว้ได้ ก็เห็นจะต้องขึ้นอีกหลายธรรมมาสน์ ว่ากันที่หลังนะครับ


ถึงตอนนี้อย่าเพิ่งตกอกตกใจกลัวอ้วนแล้วรีบปิดหนังสือ วิ่งไปเสียเงินเสียทอง ซื้อยาลดความอ้วนล่ะเพราะยาลดความอ้วน อันตรายมากนัก ขอให้อ่านต่อไปเรื่อยๆ แล้วท่านจะสบายใจ


การที่จะบอกว่า คนนี้อ้วนคนนั้นผอมนั้น ไม่ใช่คนยากเย็น คนทั่วๆ ไป ก็พอบอกได้ แต่โดยหลักการทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ เขาได้ตั้งมาตรฐานกำหนดน้ำหนักไว้เรียกว่า น้ำหนักพอดี (ideal weight) การคำนวณน้ำหนักพอดีการใช้ส่วนสูง (เซนติเมตร) คำนวณ อาจจะค่อนข้างยุ่งยาก
เรามาดูสูตรคำนวณน้ำหนักมาตรฐานกัน

เห็นสูตรข้างต้น บางท่านคงบอกว่านี่มันอะไรกัน ยุ่งจัง
ครับ…..ก็ขอยกตัวอย่างให้เป็นขั้นตอนดังนี้
สมมุติว่าชายหรือหญิง คนหนึ่งมีส่วนสูง 155 เซนติเมตร
ขั้นที่ 1 ก็ให้เอา 150 มาหักออกเสียจากส่วนสูงที่วัดได้ (155-150) จะได้คำตอบ 5
ขั้นที่ 2 เอาคำตอบขั้นที่ 1 ไปคูณ 0.7 ( 5*0.7) จะได้คำตอบ 3.5
ขั้นที่ 3 ตอนนี้ก็ถึงตอนสุดท้ายละ

1.ถ้าเป็นผู้ชาย
ให้เอา 50 รวมกับคำตอบขั้นที่ 2 ( 50+3.5 ) ก็จะได้คำตอบว่า ผู้ชายคนนี้ ควรมีน้ำหนัก 53.5 กิโลกรัม

2.ถ้าเป็นผู้หญิง
ให้เอา 45 รวมกับคำตอบขั้นที่ 2 (45 + 3.5 ) ก็จะได้คำตอบว่า ผู้หญิงคนนี้ ควรมีน้ำหนัก 48.5 กิโลกรัม
คงจะพอเข้าใจแล้วนะครับ


สำหรับท่านผู้อ่าน หากใครมีส่วนสูงตามที่กำหนดในตารางข้างล่างก็อ่านดูเลยครับว่า เราควรมีน้ำหนักเท่าไร

ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องวิธีไหนที่ลดความอ้วนได้ดี ก็ขอแก้ค่านิยมของคนบ้านเราก่อนที่มักจะคิดว่า คนอ้วนเป็นคนมั่งมีศรีสุข เลยทำให้คนอ้วนเป็นจำนวนมากไม่ยอมทำความเข้าใจในเรื่องอ้วน
ขอให้เลิกความคิดที่ว่านั้นเสียเถิดครับ
ต่อไปนี้เราควรจะเปลี่ยนเสียใหม่ว่า ความอ้วนเป็นอาการหรือสาเหตุของโรค

ก็มาว่าถึงเรื่องการลดความอ้วน
การลดความอ้วนนั้นมีวิธีการต่างๆ กันหลายอย่างเช่น กรควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การใช้ยาและการผ่าตัดเอาไข มัน ออกแต่วิธีการลดความอ้วนที่สำคัญและได้ผลแน่นอนที่ไม่กลับอ้วนขึ้นมาอีก ก็คือ การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย
เพราะต้นตอที่สำคัญของความอ้วนทั่ว ๆ ไปคือ ชนิดและจำนวนอาหารที่กิน เช่น ถ้าเราเอาแต่กินไขมัน แป้งของหวานและ กินมากด้วย ซ้ำไม่ออกกำลังกายอีก….ก็อ้วนแน่ๆ

สำหรับคนที่กินยาคุมกำเนิดหรือยาประเภทสเตียรอยด์นานๆ ก็มีสิทธิ์ อ้วนเหมือนกัน แต่อ้วนแบบบวม
มีคนบางคนเข้าใจว่าคนที่อ้วนนั้นต้องเป็นคนที่กินไขมันมากๆ เท่านั้นกินผลไม้หรืออาหารจำพวกแป้งเช่น ข้าวหรือขนมปังไม่ ทำให้อ้วน
อันนี้ไม่จริงหรอกครับ
ที่จริงแล้ว อาหารคาร์โบไฮเดรท (พวกแป้งและน้ำตาล) เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อ้วนมากกว่าอาหารจำพวกไขมันและโปรตีนด้วยซ้ำ
ทำไมหรือครับ
ก็อาหารพวกคาร์โบไอเดรท มันไปทำให้มีการสังเคราะห์ไขมันเพิ่มขึ้น ในเซลล์ของไขมันและก็ไปกระตุ้นให้มีการหลังฮอร์โมนที่เพิ่มการสังเคราะห์ไขมัน


เห็นไหมครับว่า….เจ้าคาร์โบไฮเดรทมันมีฤทธิ์เดชอย่างไร
ต่อไปนี้ก็จะมาว่าถึงการควบคุมอาหารที่ท่านรอคอยละ สำหรับเรื่องการออกกำลังกายคงไม่ต้องกล่าวถึงนะครับ

วิธีที่จะกินอาหารให้ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับคนอ้วนที่จะลดน้ำหนัก (ลดความอ้วน) นั้นถ้าจะชั่งหรือแบ่งสัดส่วนอาหารให้ถูกต้องกันจริงๆ เห็นจะไม่ไหวแน่ จะขอแบ่งอาหารเพื่อง่ายต่อความเข้าใจออกเป็นประเภทๆ ดังนี้

1.อาหารที่ควรงดเว้น ได้แก่ น้ำตาลและอาหารอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นขนม ผลไม้ ที่มีน้ำตาลผสมอยู่
อ้อ….สำหรับ นมสด และน้ำ นมถั่วเหลืองนั้น ที่เข้าใจผิดกันว่าไม่ทำให้อ้วน แท้จริงนมสดนั่นแหละมีน้ำตาลถึงร้อยละ 35 เชียวแหละ น้ำนมถั่วเหลืองนั้นพ่อค้าหัวใสก็มักปนแป้งและเติมน้ำตาลลงไปอีกด้วย

2.อาหารที่ควรลดลง ได้แก่ พวกไขมันและอาหารพวกที่เป็นแป้ง เช่น ข้าวทั้งหลาย ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว ถั่ว เผือก มัน หรือแม้แต่วุ้นเส้น (วุ้นเส้นนี่ก็เหมือนกันเข้าใจผิดกันว่าไม่มีผลทำให้อ้วน จริงๆ แล้ว อ้วนได้เหมือนกัน) ส่วนถ้าจำเป็นต้องใช้น้ำมัน ควรใช้น้ำมันจากพืช

3.อาหารที่กินพอดี ได้แก่ พวกที่เป็นเนื้อทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เป็ด ไก่ วัว ปู ปลา กุ้ง หรือแม้แต่ผักเช่น มะระ มะเขือ ถั่วงอกหัวโต ผักกาดขาว ดอกกะหล่ำ สายบัว หอมหัวเล็ก หอมหัวใหญ่ ต้นหอม หัวปลี เป็นต้น พวกหัวไชเท้าและฟักทอง ควรจัดอยู่ในประเภทที่สอง

4.อาหารที่กินตามสบาย อย่างนี้ว่ากันตามสบายเลย เช่น ชาจีน กาแฟดำ น้ำมะนาว และผักประเภทที่มีความหวานน้อย เช่นมะละกอดิบ กะหล่ำปลี คะน้า ผักกาดขาว ถั่วงอก ผักตำลึง มะเขือเทศ แตงกวาและฟักเขียว เป็นต้น นอกจากนี้ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ


ก่อนจบขอสรุปว่า คนที่อ้วนมักจะต้องลงเอยกันที่ ความดันเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดตีบและอื่นๆอีกหลายโรคลองคิดดู โรคเหล่านี้ใครป่วยแล้วเป็นโรคที่หายขาดได้โดยยาก เมื่อหายขาดได้ยาก ก็สิ้นเปลืองยาสิ้นเปลืองเงินทอง สิ้นเปลืองเวลากับการเจ็บป่วยมาก ถ้าจะตัดวงจรไม่ให้เกิดเสียเลยโดยป้องกันหรือลดความอ้วนเสียเท่านั้น คนที่จะเป็นโรคเหล่านี้ก็จะน้อยลงไปหรือไม่เป็นเลย เห็นไหมว่าทำได้ไม่ยาก ช่วยกันเถอะครับแนะนำต่อๆ กันไปว่า ความอ้วนนั้นมันคร่าชีวิตได้ง่าย และ
ลดความอ้วนก็ไม่ยากเย็นอะไรนัก กินให้ถูกต้องออกกำลังกายให้ถูกต้อง เท่านี้ก็เป็นยาวิเศษที่ความอ้วนนั้นกลัวนักกลัวหนาอยู่แล้ว

ผู้เขียน: นพ.กนก ภาวสุทธิไพศิฐ


ขอบคุณ หมอชาวบ้าน




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2552   
Last Update : 16 มิถุนายน 2552 7:32:30 น.   
Counter : 1133 Pageviews.  
space
space
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

tanas251235
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]






space
space
[Add tanas251235's blog to your web]
space
space
space
space
space