space
space
space
space

ฟันปลอม( ตอนที่ 3)


















ขอบคุณ หมอชาวบ้าน




 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2552   
Last Update : 2 กรกฎาคม 2552 7:08:17 น.   
Counter : 1098 Pageviews.  
space
space
ฟันปลอม( ตอนที่ 2)















ผู้เขียน: ทพ.ไพศาล กังวลกิจ


ขอบคุณ หมอชาวบ้าน




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2552   
Last Update : 1 กรกฎาคม 2552 7:36:41 น.   
Counter : 1489 Pageviews.  
space
space
"กรดไหลย้อน" ปล่อยไว้อาจกลายเป็นมะเร็ง






โรคกรดไหลย้อนกำลังเป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิต ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดกันมากขณะนี้ เพราะเป็นโรคที่ใกล้ตัวทุกคนมาก ลักษณะอาการคล้ายคนเป็นโรคกระเพาะ ถ้าไม่ใส่ใจดูแลอาจลามกลายเป็นโรคมะเร็งที่หลอดอาหารได้

สำหรับลักษณะอาการของโรคกรดไหลย้อน นพ.พรเทพ ประทานวณิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมส่องกล้องและกล้องส่องผ่าตัด โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า โรคกรดไหลย้อนเกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อหูรูดนี้จะหย่อนตัวลง ทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลกลับเข้าไปในหลอดอาหารได้โดยง่าย โดยจะมีอาการแสบยอดอก ขย้อนหรือสำรอก รู้สึกเปรี้ยวหรือขมในปาก มักมีอาการเรอ จุก เสียด แน่น เป็นต้น
สาเหตุสำคัญที่ทำให้คนเราเป็นโรคนี้คือ พฤติกรรมการบริโภคที่หันไปใช้ชีวิตแบบชาวตะวันตก ตื่นเช้ามาก็เร่งรีบไปทำงาน ไม่ค่อยกินข้าว กินแต่กาแฟ แถมยังชอบกินอาหารเย็นหนักๆ แล้วก็นอน อาหารจึงยังตกค้างอยู่ในกระเพาะ ร่างกายก็ต้องหลั่งกรดออกมาย่อยอาหารที่ยังตกค้างอยู่ ประกอบกับท่านอนไม่ถูกต้อง หัวเสมอหรือต่ำกว่าลำตัว ทำให้กรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาที่ลำคอ เกิดอาการแสบระคายเคืองขึ้นมาบนคอและถ้าปล่อยให้หลอดอาหารส่วนปลายระคาย เคืองไปนานๆ อาจทำให้หลอดอาหารเป็นมะเร็งได้

ส่วนทางแก้ไขโรคนี้ ผศ.นพ.ชฎิล ธาระเวช อาจารย์แพทย์ศัลยกรรม ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เผยว่า ถ้าเป็นไม่มากก็ให้ลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อน เช่น ลดชา กาแฟ และของมัน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้กล้ามเนื้อหูรูดคลายตัว และเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร มาเป็นมื้อเช้า กลางวัน เย็น มื้อละไม่ต้องมาก แค่ให้พออิ่ม เพื่อให้มีอาหารในกระเพาะอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญคือก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง ควรงดอาหาร และนอนหนุนหมอนให้หัวสูงกว่าลำตัว "สำหรับคนที่เป็นมากหน่อยก็อาจใช้ยาลดกรดช่วย และถ้าเป็นหนักๆ ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจด้วยเครื่องตรวจกรดไหลย้อน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ให้ผลแม่นยำมาก แล้วค่อยทำการผ่าตัด ปัจจุบันการผ่าตัดโรคนี้พัฒนาไปมาก สามารถใช้วิธีการส่องกล้องเข้าไปกระชับหูรูดให้แข็งแรงและมีแผลเพียงเล็กๆ" ผู้เชี่ยวชาญย้ำเพื่อให้ความมั่นใจ


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2552   
Last Update : 29 มิถุนายน 2552 7:14:27 น.   
Counter : 1675 Pageviews.  
space
space
บุหรี่กับมะเร็งปอด น่ากลัวกว่าที่คุณคิด



บุหรี่กับมะเร็งดูเหมือนเป็นของคู่กันที่แยกไม่ออก เกือบทุกคนต่างก็รู้ดีว่า การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปอด แต่คนไทยกว่า 10 ล้านคนก็ยังสูบบุหรี่ต่อไป เมื่อถามนักสูบบุหรี่หลายๆ คนว่าไม่กลัวเป็นมะเร็งหรือ ก็มักจะได้คำตอบว่า สูบมาตั้งนานแล้วไม่เห็นเป็นสักที หรือไม่ก็ สูบแค่วันละมวนสองมวนไม่เป็นหรอก

ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระ ลิ่มศิลา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นผู้คลุกคลีกับผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด ได้ให้ทัศนะว่า

“มะเร็งปอดเป็นโรคที่น่ากลัวมาก ทั้งสำหรับแพทย์เองและผู้ป่วย เพราะในระยะแรกของโรคอาจไม่มีอาการ เมื่อมีอาการชัดเจนก็มักจะอยู่ในระยะอันตรายที่ไม่อาจรักษาให้หายได้”

อาการดังกล่าวนั้นมีได้มากมาย เช่น

. ไอมาก หรือหอบเหนื่อยเพราะการสูญเสียเนื้อปอด หรือเพราะน้ำท่วมปอด
. เสียงแหบ เพราะประสาทเลี้ยงกล่องเสียงถูกทำลาย
. น้ำหนักลดมาก อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เบื่ออาหาร เพราะพิษมะเร็ง
. เจ็บปวดที่ผนังอกหรือกระดูก เพราะมะเร็งแพร่กระจายไป
. เป็นอัมพาตเดินไม่ได้ ถ่ายปัสสาวะ อุจจาระเองไม่ได้ เพราะมะเร็งแพร่กระจายไปยังสมองหรือไขสันหลัง
ในระหว่างปี พ.ศ.2510-2532 ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระ ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเป็นมะเร็งปอดและการสูบบุหรี่ในผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด ซึ่งผลการศึกษายืนยันได้ชัดเจนว่า ผู้ชายที่เป็นมะเร็งปอดเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ถึงร้อยละ 92 และในกลุ่มนี้เป็นประเภทสูบจัดถึงร้อยละ 91 ขณะที่มะเร็งปอดในผู้ป่วยหญิงมีส่วนสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ร้อยละ 27

ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้สูบบุหรี่ที่เป็นมะเร็งปอดนั้น มักจะเป็นมะเร็งปอดชนิดร้าย คือ แพร่กระจายเร็วในระยะเวลาอันสั้น ที่สำคัญมักจะเป็นในช่วงอายุระหว่าง 50-60 ปี (ร้อยละ 44 ของผู้ป่วยทั้งหมด) ซึ่งเป็นระยะที่ชีวิตกำลังเจริญก้าวหน้า เป็นที่พึ่งหลักของครอบครัว และเป็นประโยชน์ต่อสังคม ถ้าเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับท่านผู้ใด ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง

ดูเหมือนคำถามที่หลายๆ คนอยากรู้ คือ ผู้เป็นมะเร็งปอดมีโอกาสหายมากน้อยเพียงใด
ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระ ได้กล่าวว่า มะเร็งปอดเป็นโรคที่รักษายาก และยังมีโอกาสหายจากโรคได้น้อย นายแพทย์แกรห์ม แห่งสหรัฐอเมริกา ทำการผ่าตัด ตัดปอดที่เป็นมะเร็งปอดออกได้สำเร็จเป็นรายแรกของโลก เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2476 (ค.ศ.1933)

การแพทย์ปัจจุบันถือว่าการผ่าตัดเป็นวิธีหลักที่จะช่วยรักษามะเร็งปอดให้หายได้ แต่ผู้ป่วยมักมาถึงแพทย์เมื่อเป็นมากเสียแล้ว ทำให้อัตราการตัดมะเร็งออกได้อยู่ในเกณฑ์ต่ำ ในบรรดาผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระได้ทำการศึกษาไว้ในระยะ 20 ปีเศษที่ผ่านมา จำนวน 3,050 ราย มีอัตราการตัดมะเร็งออกได้นั้น เฉลี่ยเพียงร้อยละ 8.2 ยิ่งกว่านั้น ผู้ป่วยกลุ่มที่ตัดมะเร็งออกได้ มีโอกาสหายหรือมีชีวิตอีกได้เกิน 5 ปีเพียงร้อยละ 26 (หรทอประมาณร้อยละ 23-50 ตามระยะมากน้อยของโรค) โดยต้องให้ยารักษามะเร็งเสริมตามความจำเป็นด้วย

ส่วนผู้ที่เป็นมากเลยระยะผ่าตัดได้ และมีความทุกข์ทรมาน ส่วนหนึ่งแพทย์อาจช่วยบรรเทาและอาจช่วยยืดชีวิตด้วยยาได้ แต่ต้องลงทุนค่ายารักษาที่สูงมาก สำหรับเศรษฐกิจเมืองไทย คือ กว่าจะให้การรักษาครบบริบูรณ์จะต้องใช้เงินรายละประมาณเกือบแสนบาท โอกาสที่จะได้ผลประมาณร้อยละ 54 เท่านั้น

ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีโอกาสยืดชีวิตเกิน 1 ปีได้ประมาณร้อยละ 85 อยู่ได้นานกว่า 2 ปี ร้อยละ 32 และเวลานี้มีผู้มีชีวิตได้นานกว่า 3 ปีเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น แต่โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ไม่ได้รักษาหรือรักษาไม่ได้จะไม่มีโอกาสอยู่ได้ถึง 1 ปีเลย

บุหรี่กับมะเร็งปอดจึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่าที่หลายๆ คนคาดคิด


ขอบคุณ หมอชาวบ้าน




 

Create Date : 28 มิถุนายน 2552   
Last Update : 28 มิถุนายน 2552 7:28:04 น.   
Counter : 973 Pageviews.  
space
space
การชำรุดของฟันปลอม


เดือนธันวาคมเวียนมาอีกแล้ว เป็นสัญญาณเตือนว่าอีกไม่ช้าก็จะเข้าสู่ปีใหม่ หลายคนเริ่มมองหาของขวัญของฝากให้แก่บุคคลอันเป็นที่รักใคร่ เคารพนับถือ และตัวเอง สิ่งของที่ผู้ใหญ่วัยปลายหรือเข้าสู่วัยชราบางคนได้ตระเตรียมไว้ให้กับตัวเองออกจะแปลกไปกว่าคนอื่นๆ อยู่บ้าง นั่นคือ การเตรียมฟันปลอมใหม่

ผู้อ่านบางท่านอาจนึกขำว่าเอ... มีจริงๆ หรือ เป็นที่สังเกตของตัวเองว่า ในช่วงใกล้ๆ เทศกาลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ ตรุษจีน หรือสงกรานต์ จะมีผู้มาขอคำปรึกษาหรือติดต่อขอทำฟันปลอมมากกว่าปกติ อาจเป็นเพราะว่าเป็นโอกาสที่จะได้พบปะญาติมิตรกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา รวมทั้งการกินเลี้ยงสังสรรค์ที่บ่อยครั้งด้วย ดังนั้นในผู้ที่มีการสูญเสียฟันไปก่อนเวลาที่ควรจะเป็น จึงเห็นประโยชน์ของการมีฟันในปากเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความสวยงาม เพราะช่วยให้ดูอายุอ่อนลงกว่าที่เป็นจริง และเกิดความเอร็ดอร่อยจากอาหารเมื่อมีการบดเคี้ยว

คนรุ่นเก่าหรือคนในชนบทมักเชื่อว่า ฟันของคนเรานั้นจะโยกและหลุดไปเมื่อเจ้าของสูงอายุขึ้น อันเป็นปกติของความเสื่อมของร่างกาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฟันของคนเราสามารถจะคงทนอยู่ในปากให้เราใช้งานได้ตลอดชีวิตถ้าเจ้าของฟันดูแลรักษาให้ฟันและเหงือกมีความแข็งแรง มีสุขภาพปากที่ดี แต่ในรายที่มีการสูญเสียฟันไปแล้ว ฟันปลอมจึงเข้ามาทดแทนฟันแท้ของคนเรา

“ฟันปลอมใหม่” มีได้ ๒ ลักษณะ คือ

ลักษณะแรก เป็นฟันปลอมอันแรกหรือชุดแรกของคนๆ นั้น

ลักษณะที่สอง คือ ฟันปลอมอันใหม่หรือชุดใหม่ที่มาทดแทนฟันปลอมเก่าทื่ชำรุดหรือเสื่อมสภาพไป
ผู้ที่มาขอทำฟันปลอมไม่ในลักษณะแรกจะมีมากกว่า ซึ่งเห็นจะ เป็นเพราะความรู้สึก “ทน” ไม่ได้อีกต่อไป ในสภาพฟันที่โยก ปวด หรือหักหลอ คนเหล่านี้มักจะมาพร้อมกับความไม่เข้าใจว่ากรณีที่มีฟันหักค้างอยู่หรือฟันโยกมากๆ นั้นต้องทำการถอนออกก่อน และต้องให้เวลาหลังการถอนสักระยะเพื่อให้กระดูกขากรรไกรมีการซ่อมแซมให้เป็นที่เรียบร้อย มิฉะนั้นจะทำให้ฟันปลอมที่ทำไปนั้นหลวมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

ทั้งนี้เพราะหลังจากการซ่อมแซมของกระดูกแล้ว กระดูกเบ้ารากฟันและเหงือกจะหดรัดตัวยุบลงไปจากเดิมที่เคยมีฟันอยู่ ในกรณีที่ถอนฟันปุ๊บ ใส่ฟันปลอม (ที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว) ปั๊บทันที หมอจะทำให้ในกรณีฉุกเฉินหรือมีความจำเป็นจริงๆ แต่ก็ต้องกลับมาให้หมอตรวจสภาพเหงือกและฟันปลอมใน 1-2 สัปดาห์ หลังจากใส่ฟันปลอม และต้องมาตรวจเช็กเป็นระยะๆ ซึ่งจะต้องตรวจบ่อยครั้งกว่าผู้ทีถอนฟันไปแล้วสักเดือนแล้วค่อยมาใส่ฟัน ในส่วนของฟันปลอมใหม่หรือชุดใหม่นั้น ทำขึ้นเพื่อทดแทนฟันปลอมเก่าที่ชำรุดหรือเสื่อมสภาพไป เอ๊ะ! แล้วฟันปลอมมีการเสื่อมสภาพหรือชำรุดได้ด้วยหรือ








การชำรุดของฟันปลอมมีได้แน่นอน ซึ่งเกิดขึ้นในหลายๆ แบบที่พอจะแจกแจงได้ก็มี

1. ฟันหลอมที่ทำขึ้นอย่างไม่ถูกต้อง หมอจัดฟันปลอมที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการมักจะเป็นฟันปลอมจำพวก “ชำรุด”ที่เห็นได้ชัดเจนได้แก่ ฟันปลอมที่ทำขึ้นโดย “ช่างทำฟัน”ที่ไม่ได้จบการศึกษาด้านนี้โดยตรง เช่น ฟันทอง ในอดีตการใส่ฟันทองเป็นที่นิยมกันมาก เพราะนอกจากจะเป็นแฟชั่นที่จัดว่าสวยงามทันสมัยแล้ว ยังแสดงถึงความมั่งมีของผู้ใส่อีกด้วย

ส่วนฟันปลอมชำรุดอีกลักษณะหนึ่ง คือ ฟันปลอมชนิดที่ทำโดย “หมอมอเตอร์ไซด์” ที่ขี่รถมอเตอร์ไซด์ไปตามบ้านในชนบท บริการใส่ฟันให้ราคาถูก แถมด้วยการถอนฟันฟรีอีกต่างหาก ซึ่งก็จะมีทั้งแบบติดแน่นไปตลอดชีวิต (ในกรณีที่พอจะมีฟันข้างเคียงเหลืออยู่ แต่ใช้เป็นฟันพลาสติกแทน) แต่ทั้งฟันทองและฟันพลาสติกแบบแกะไม่ออกนี้ได้ก่อปัญหาให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เพราะเกิดการกักของเศษอาหาร ทำให้อาหารหมักหมม เป็นสาเหตุของฟันผุในฟันแท้ที่ฟันปลอมนี้ไปเกาะอยู่ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดกลิ่นปากซึ่งแก้ไม่หาย จนกว่าจะรื้อฟันปลอมที่ว่าออกไป แล้วทำการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

สำหรับฟันปลอมชำรุดในแบบที่ 1 นี้ยังมีแบบชนิดถอดได้ซึ่งใช้ในผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันเหลืออยู่ในขากรรไกร มักพบที่ขากรรไกรบน คือ มียางดูดติดไว้ที่ฟันปลอม เพื่อให้เกิดการติดแน่นกับเพดานปาก โดยใช้หลักของสุญญากาศแบบเดียวกับยางติดกระจกนั่นแหละ ฟันปลอมแบบนี้อันตรายมากต่อผู้ใช้ เพราะอาจทำให้เกิดแผลที่เพดานปาก และในระยะยาวอาจทำให้เกิดมะเร็งหรือเพดานปากทะลุได้

2. ฟันปลอมเก่าหลวม เมื่อใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ไปสักระยะหนึ่ง ฟันปลอมอาจหลอมไม่พอดี ซึ่งก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ การที่เหงือกและเนื้อเยื่อได้ฟันปลอมนั้นยุบตัวลงไปเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ หรือถ้าเป็นฟันปลอมชนิดมีฐานโลหะใช้ตะขอช่วยยึด ตะขออาจจะอ้าออกทำให้หลวมก็เป็นได้ ในกรณีทีฟันปลอมชนิดติดแน่นในระยะแรกๆ หมอจะใช้สารช่วยยึดเป็นการชั่วคราว แต่เมื่อมีน้ำซึมเข้าทางฐานจะทำให้สารยึดนี้หมดสภาพ ฟันปลอมก็จะขยับออกจากที่ ผู้ใช้อาจรู้สึกว่าฟันปลอมขยับหรือโยกหลวมได้

3. ฟันหลักที่ช่วยยึดฟันปลอมเสียไป ถ้าใส่ฟันปลอมติดแน่นแบบหลายๆ ซี่ หรือใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ชนิดที่มีฟันข้างเคียงเหลืออยู่ที่ช่วยเป็นที่ยึดเกาะของฟันปลอมนี้เรียกว่า “ฟันหลัก” ซึ่งอาจเกิดการผุหรือแตกหักในรายที่ทำความสะอาดได้ไม่ดี เพราะจะมีเศษอาหารติดค้างบริเวณด้านข้างของฟันหลักตรงตำแหน่งที่ติดกับฟันปลอม ทำให้เกิดโรคฟันผุ หรือเป็นโรคปริทันต์ได้ อาจทำให้ฟันโยกหรือหัก จนอาจต้องถอนไปในที่สุด จึงไม่สามารถใช้ฟันปลอมอันเก่าได้อีกต่อไป

4. ฟันปลอมที่ไม่สามารถใช้งานได้ มีได้หลายกรณี เช่น ฟันปลอมที่บิดเบี้ยวเพราะดูแลอย่างไม่ถูกต้อง เช่น นำฟันปลอมฐานพลาสติกไปแช่ในน้ำร้อน ฟันปลอมจึงแตก ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ หรือฟันปลอมที่ใส่ไม่เข้าเพราะไม่ได้ใช้นานเกินไป ฟันมีการเคลื่อนมาทดแทนในช่องว่างที่เดิมฟันปลอมเคยอยู่ ทำให้ใส่ฟันปลอมไม่ลง หรือใส่แล้วดึงหรือปวดที่ฟันข้างเคียง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงฟันปลอมที่ทำไม่ดี คือ ใส่แล้วเคี้ยวไม่ได้ อาจเป็นเพราะไม่มีการสบของฟันให้เหมาะสมก่อนจะให้คนไข้เอาไปใช้

5. ฟันปลอมที่ขาดความสวยงาม อาจเป็นได้ทั้งฟันปลอมชนิดติดแน่นหรือถอดได้ สาเหตุอาจเกิดจากการเลือกสีฟันไม่เหมาะสมกับฟันในปาก หรือเหมาะสมกับวัย แนวการเรียงของฟันปลอมกับแนวฟันจริงไม่เหมาะสม ขนาดของฟันปลอม นอกจากนี้ยังรวมไปถึงกรณีที่เหงือกบวม ทำให้ขอบของฟันปลอมชนิดติดแน่นโผล่ออกมาให้คนอื่นเห็นว่าไม่ใช่ฟันจริง หรือกรณีที่เหงือกใต้ฟันปลอมร่นไป เห็นเป็นช่องว่างระหว่างฟันปลอมกับขากรรไกร

ในกรณีของฟันปลอมที่ชำรุดตามแบบต่างๆ ที่กล่าวมานั้น ควรได้รับการแก้ไข ซึ่งอาจจำเป็นต้องทำใหม่ ในบางกรณีก็เพียงแต่แก้ไขซ่อมแซมฟันปลอมก็จะสามารถใช้งานได้ดีต่อไป

ในปีใหม่นี้องค์อนามัยโลกจะประกาศให้เป็นปีทันตสาธารณสุขแห่งโลก เราควรร่วมมือกันดูแลรักษาฟันแท้ของเราให้คงทนถาวรในปากกัน จะดีกว่า หรือคุณที่มีฟันปลอมอยู่แล้วก็ควรจะดูแลรักษา ใช้งานให้ถูกต้อง จะได้ไม่ต้องมาเตรียมฟันปลอมใหม่กันบ่อยๆ ไงคะ สุขสันต์ดีปีใหม่ค่ะ

ขอบคุณ หมอชาวบ้าน




 

Create Date : 27 มิถุนายน 2552   
Last Update : 27 มิถุนายน 2552 7:36:49 น.   
Counter : 3428 Pageviews.  
space
space
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

tanas251235
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]






space
space
[Add tanas251235's blog to your web]
space
space
space
space
space