|
|
ผลพิสูจน์ชี้"นมเปรี้ยว" ไม่ลด"แอลกอฮอล์"ในเลือด |
|
นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวลือการดื่ม "นมเปรี้ยว" ช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด
ทำให้เครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ไม่สามารถตรวจจับได้ ว่า ได้สั่งการให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทดลองว่านมเปรี้ยวสามารถลดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดได้จริงหรือไม่ โดยผลการทดลองพบว่า การดื่มนมเปรี้ยวลดระดับแอลกอ ฮอล์ในเลือดได้เพียงเล็กน้อยประมาณร้อยละ 5 เท่านั้น แต่ไม่ช่วยให้ลดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดได้ในปริมาณมากหรือผ่านเครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ที่กฎหมายกำหนดได้ คือ ต้องมีแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
นายมานิต กล่าวว่า วิธีการทดลองใช้อาสาสมัคร 5 คน
แบ่งเป็นอาสาสมัคร 2 คน ทดลองดื่มเบียร์ ขนาด 630 มิลลิกรัม หรือประมาณ 3 ขวด และอาสาสมัครอีก 3 คน ทดลองดื่มสุรา ขนาด 500 มิลลิกรัม หลังจากเลิกดื่มสุรา เบียร์ ประมาณ 20 นาที วัดระดับแอลกอฮอล์ครั้งแรก ในกลุ่มดื่มสุรา วัดได้ 202 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นให้อาสาสมัครดื่มนมเปรี้ยวตามอีก 2-3 ขวด และวัดระดับแอลกอฮอล์ทันที ถือเป็นการวัดครั้งที่ 2 กลุ่มดื่มสุรา วัดได้ 182 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นรออีก 10 นาที จึงวัดระดับแอลกอฮอล์ครั้งที่ 3 และรออีก 20 นาที จึงวัดระดับแอลกอฮอล์ครั้งที่ 4 พบว่า กลุ่มดื่มสุรา มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเหลือ 179 และ 166 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
นายมานิต กล่าวว่า ผลการทดลองสอดคล้องกับกลุ่มดื่มเบียร์ ที่วัดระดับแอลกอฮอล์ครั้งแรก วัดได้ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
แต่หลังจากดื่มนมเปรี้ยว พบว่าระดับแอลกอฮอล์ในเลือดลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คือ 101 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นรออีก 10 นาที และอีก 20 นาที จึงวัดระดับแอลกอฮอล์ เหลือ 93 และ 92 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งผลการวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดแต่ละครั้งที่ไม่เท่ากันนั้นเกิดขึ้นหลายปัจจัย ทั้งช่วงเวลาหลังดื่ม และมีอาหารในกระเพาะอาหารมากหรือน้อย ขนาดของร่างกาย และการเผาผลาญอาหารในร่างกาย
"การดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิดจะไหลจากปากไปยังกระเพาะอาหารทันที เนื่องจากโมเลกุลแอลกอฮอล์มีขนาดเล็ก ไม่ต้องผ่านมาย่อยก่อน ทำให้แอลกอฮอล์ดูดซึมเข้าสู่เลือดอย่างรวดเร็ว เมื่อเลือดผ่านปอดแอลกอฮอล์บางส่วนจะแพร่ออกนอกร่างกายทางลมหายใจ การวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดจากลมหายใจโดยการเป่าลมหายใจเข้าเครื่องวัดจึงถือเป็นวิธีมาตรฐานสากลที่มีการพิสูจน์มาแล้วทั่วโลก ดังนั้นการดื่มนมเปรี้ยวหรือเครื่องดื่มชนิดอื่นก็หลอกเครื่องวัดแอลกอฮอล์ไม่ได้" นายมานิต กล่าว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
Create Date : 27 สิงหาคม 2552 | | |
|
Last Update : 27 สิงหาคม 2552 7:19:05 น. |
| |
Counter : 2752 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
แม้ว่าการแปรงฟันเป็นประจำจะเป็นสุขนิสัยที่ดีแต่มีบางเวลาที่ไม่ควรแปรงฟันในทันที
สมาคมทันตกรรมชิคาโก ระบุว่า ไม่ควรแปรงฟันทันทีหลังจากดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของโซดาหรือกรด เช่น น้ำอัดลม น้ำส้ม เพราะการแปรงฟันขณะที่มีกรดหลงเหลืออยู่ในปากจะยิ่งกระตุ้นให้ฟันผุง่ายยิ่งขึ้น
วิธีที่ควรทำหลังจากดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ คือ ดื่มน้ำเปล่าหรือเคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลภายในปาก หลังจากนั้นค่อยแปรงฟัน วิธีนี้ใช้กับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน ซึ่งมักจะมีน้ำย่อยที่มีสถานะเป็นกรดไหลย้อนมาอยู่ในปากได้ด้วย นิตยสารแพรว ฉบับที่ 719
Create Date : 26 สิงหาคม 2552 | | |
|
Last Update : 26 สิงหาคม 2552 7:13:58 น. |
| |
Counter : 1502 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
6 วิธีสร้างนิสัย กิน กากใย บรรเทาท้องผูก |
|
นอกจากอาหารที่มีกากใยสูงจะช่วยการทำงานของระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายให้เป็นปกติแล้ว หากเรากินกากใยน้อยเกินไปก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาท้องผูก ริดสีดวงทวาร และความผิดปกติอื่นๆ ในลำไส้ได้เช่นกัน
เรามี 6 วิธีง่ายๆ เพื่อช่วยสร้างนิสัยในการกินกากใยอาหารให้ได้มาก มาแนะนำกันค่ะ
1.สร้างนิสัยการกินประจำบ้าน โดยเน้นกินข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ หรือผลิตภัณฑ์จากข้าวที่ไม่ได้ขัดสี เช่น ขนมปังโฮลวีท ซึ่งจะมีกากใยอาหารมากกว่าขนมปังขาวถึง 3 เท่า รวมถึงมองหาร้านอาหารสุขภาพที่มีข้าวกล้องสำหรับมื้ออื่นๆ นอกบ้านด้วย
2.กินผักและผลไม้ให้มากๆ ควรล้างผลไม้ให้สะอาดและถ้าเป็นไปได้ ควรเลี่ยงผลไม้ชนิดที่รับประทานได้ทั้งเปลือก เช่น แอ๊ปเปิ้ล ฝรั่งและองุ่น
3.พยายามกินผักที่กินทั้งต้นและก้านให้มากขึ้น เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง ถ้ารู้ว่าก้านนั้นแข็ง ให้ปอกเปลือกออกบ้าง แล้วฝานหรือหั่นให้เล็กลง นอกจากนั้น อย่าลืมหัดกินผักดิบ โดยกินร่วมกับน้ำพริกใส่สลัด หรือกินเป็นของขบเคี้ยวเล่นก็อร่อยและได้ประโยชน์
4.กินผลไม้สดแทนการดื่มน้ำผลไม้นั้น คั้นสดหนึ่งผลนั้นมีกากใยอาหารมากกว่าน้ำส้มคั้นถึง 6 เท่า
5.เติมถั่วชนิดต่างๆ ลงในอาหาร เช่น ใส่ถั่วลันเตา ถั่วแขกในอาหารผัก แกงต่างๆ หรือสลัด
6.เลือกกินขนมที่ทำจากผลไม้ เช่น ถั่วเขียวหรือถั่วแดงต้ม ฟักทองหรือเผือกต้ม
ที่มา horapa.com
Create Date : 25 สิงหาคม 2552 | | |
|
Last Update : 25 สิงหาคม 2552 7:58:53 น. |
| |
Counter : 1325 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|