|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
สิว ฝ้า กระ / ผมร่วง / ริดสีดวงทวาร
สิว ฝ้า กระ / ผมร่วง / ริดสีดวงทวาร จากเมล์ที่ได้รับ
สิว ฝ้า กระ สิวแบ่งเป็น 2 ชนิด 1.สิวไม่อักเสบ เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน (COMEDONE) แบ่งเป็น 2 ชนิด 1.1 สิวหัวปิด เห็นเป็นตุ่มเล็ก ๆ หัวขาว ๆ 1.2 สิวหัวเปิด หรือสิวหัวดำ
2.สิวอักเสบ คือสิวที่หัวแดง ๆ หรือ เป็นหนอง พวกนี้ก็คือ (COMEDONE) ที่มีการติดเชื้อ(BACTERIA) แทรกซ้อน
ดังนั้น ถ้าเป็นสิวอักเสบ การทำความสะอาด ใบหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ และการป้องกันไม่ให้มีการอุดตันที่รูขุมขน (COMEDONE) โดยการใช้น้ำเปล่าล้างหน้าในตอนกลางวัน ก็พอจะช่วยให้สิวลดลงหรือป้องกันไม่ให้สิวใหม่เกิดขึ้น แต่ถ้าเป็นสิวอักเสบ คงต้องปรึกษาแพทย์ เพราะต้องใช้ปฏิชีวนะ (กินหรือทาแล้วแต่ความรุนแรงของสิว)
สิวอักเสบควรจะต้องรีบรักษา ถ้าไปแกะหรือบีบหนองออก จะเป็นรอยแผลเป็น บุ๋มตลอดไป รักษายากมาก
การนอนดึกทำให้สิวเพิ่มขึ้น ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นสิวอักเสบ อาจเป็นเพราะ 1.ร่างกายอ่อนแอ เชื้อ Becteria ในสิวทำให้มีการอักเสบมากขึ้น 2.Hormone เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะใน ผู้หญิง ตัวอย่างเช่น บางคนประจำเดือน หรือขณะตั้งครรภ์ จะมีสิวเพิ่มขึ้น
การรักษา
การรักษาสิวมีหลักง่ายๆ 2 วิธี คือ 1. ถ้าเป็นสิวเม็ดเล็กๆ จำนวนไม่มาก ก็ทำความสะอาดผิวหนังและใช้ยาทารักษาสิวบ้างเป็นบางครั้ง 2. ถ้าเป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ หลายๆเม็ด ก็ต้องรับประทานยาแก้อักเสบร่วมด้วย
การจะใช้ยาทา หรือ ยารับประทานแบบไหนคงต้องปรึกษาแพทย์อีกครั้งหนึ่ง
ฝ้าแบ่งง่ายๆเป็น 2 ชนิด 1. แบบตื้น (Superficial type) ลักษณะเป็นสีน้ำตาลขอบชัด ขึ้นเร็ว หายเร็ว รักษาโดยการใช้ยาทาฝ้าอ่อนๆและยากันแดด สามารถหายได้
2. แบบลึก (Deep type) ลักษณะเป็นสีม่วงๆอมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัด ไม่หายขาด
การทายาฝ้าอ่อนๆและยากันแดดพอทำให้ดีขึ้นได้
ข้อแนะนำ 1. คนเป็นฝ้าไม่ควรใช้ยาเอง เพราะอาจได้รับยาฝ้าที่แรงเกินไป ทำให้เกิดผลข้างเคียง และเกิดการติดยา หยุดยาไม่ได้
2. แสงแดดทำให้เป็นฝ้า และทำให้ฝ้าเห่อขึ้นได้ เพราะฉะนั้น คนเป็นฝ้าต้องใช้ยากันแดด SPF > 15 เป็นอย่างน้อย และหลีกเลี่ยง แสงแดดเสมอ
ส่วนพวกที่ว่าหายแล้วเป็นใหม่แสดงว่าหายเพราะทายา พอหมดฤทธิ์ยา ก็กลับเป็นใหม่ พวกนี้เป็นชนิดที่ต้องใช้ยาทาไปเรื่อย ๆ ส่วนเรื่องฤทธิ์แทรกซ้อน จากการใช้ยาขึ้นอยู่กับใช้ยาชนิดใด บางชนิดใช้แล้วหน้าแดงและเป็นสิว ปัจจุบันมียาที่มีฤทธิ์แทรกซ้อนน้อยลง
สาเหตุของการเกิดฝ้า คือ
จากพันธุกรรม ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติและสีผิว ชนชาติผิวขาว เช่น คนยุโรป ไม่ค่อยเป็นฝ้าส่วนคนผิวคล้ำ เช่น คนนิโกร คนอินเดีย ไม่พบปัญหาเรื่องฝ้า ถึงเป็นก็คงมองไม่เห็นเพราะผิวสีคล้ำอยู่แล้ว
เป็นผลจากฮอร์โมน ส่วนใหญ่เป็นในคนอายุกลางคน เลยวัยรุ่น ไปแล้ว ยิ่งอายุมากขึ้นมีโอกาสที่เป็นมากขึ้น ผลจากฮอร์โมนที่เห็นได้ชัด คือการเกิดฝ้าในคนท้องหรือขณะกินยาคุม ภายหลังคลอดหรือ หยุดยา ฝ้าจะค่อย ๆ จางลง แต่มีบางรายถึงแม้สาเหตุหมดไปแล้วแต่ฝ้ายังคงอยู่
เป็นผลจากแสงแดด เนื่องจากแดดมีฤทธิ์เป็นตัวกระตุ้นเซลล์ ผิวหนังให้สร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้น แสงแดดอาจไม่ใช่สาเหตุของฝ้าโดยตรง ผู้ที่ตากแดดจัดบางคนก็ไม่เกิดฝ้า แต่แสงแดดมีผล ทำให้ฝ้าเป็นมากขึ้น คือสีเข้มขึ้น
เป็นผลจากการใช้เครื่องสำอาง เครื่องสำอางบางชนิดมีสารที่ ทำให้ผิวดำเมื่อถูกแสง ได้แก่สารโซลาเรน สารดังกล่าวพบอยู่ใน น้ำหอมบางชนิด ในเครื่องสำอางสมุนไพร การรักษาฝ้าให้หายขาด จึงขึ้นอยู่กับชนิดและสาเหตุ ถ้าเป็นฝ้าชนิดพันธุกรรมและ ฮอร์โมน จะเป็นชนิดที่รักษายาก ถ้าเป็นชนิดเกิดจากฮอร์โมนในหญิงมีครรภ์ ยาคุม แสงแดด และเครื่องสำอาง อาจรักษาให้หายขาดได้
หลักการรักษาฝ้า
ในปัจจุบันนิยมใช้ตัวยาฟอกสีผิวร่วมกับสารป้องกันแสงแดด ยาฟอกสีผิว มีหลายชนิด เช่น ไฮโดรควิโนน กรดวิตามินเอ กรดอาเซลิก กรดโคจิก บีเอชเอ เอเอชเอ สารเหล่านี้ทำให้ฝ้าจางลงแต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจมีฤทธิ์แทรกซ้อน มีหน้าแดงจัด ถ้ายิ่งโดนแดดจะกลับหน้าดำและเกิดจุดด่างขาวและมีสิวขึ้นสารบีเอช เอหรือเอเอชเอมีฤทธิ์ทำให้เซลล์ชั้นนอกของผิวหลุดลอกออก ทำให้ สีผิวจางลง ได้ผลดีชั่วคราวเมื่อหยุดฤทธิ์ยาก็จะกลับสภาพ เดิม ทำให้ต้อง ลอกบ่อย ๆ ถ้าใช้ความเข้มข้นสูงทำให้ระคายเคืองมาก
สมัยหนึ่งมีผู้นิยมใช้สารคอร์ติโคสตีรอยด์ซึ่งทำให้ฝ้าจางลงได้ก็จริง แต่เมื่อใช้ไปสักพักจะมีฤทธิ์แทรกซ้อนทำให้เกิดเป็นสิว ผิวหน้าบางลงจนเห็น เส้นเลือดเป็นร่างแหอยู่ใต้ผิวและมีขนขึ้นบริเวณที่ทายา เนื่องจากฤทธิ์แทรก ซ้อนดังกล่าว ยาตัวนี้จึงไม่ควรนำมาใช้บนใบหน้า การใช้สารป้องกันแดด เป็นการช่วยป้องกันฝ้าได้มาก
ผู้ที่เป็นฝ้าเล็กน้อยอาจใช้ยากันแดดอย่างเดียว ฝ้าจะจางลงได้ ขณะเดียวกันจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดมีฝ้าขึ้นมาใหม่ การใช้ ยาลอกฝ้าที่มีฤทธิ์รุนแรงอาจทำให้ผิวเสียได้มาก ถ้ารักษาไม่หายอาจหันมา ใช้ วิธีปกปิดรอยฝ้าด้วยเครื่องสำอาง ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาคุณภาพ จนใช้ ประโยชน์ได้ดีและไม่ทำลายผิวพรรณ
ผมร่วง (Alopecia) สาเหตุของผมร่วงมีหลายอย่างมาก ที่พบบ่อย ๆ เช่น 1. ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia areate) ซึ่งจะร่วงเป็นวงกลม ๆ คล้ายเหรียญบาทหรือใหญ่กว่า 2. ผมร่วงหลังคลอด หรือไข้สูง (Telogen effluvin) พวกนี้ผมจะร่วงวันละเป็นร้อย ๆ เส้น เวลาจูงผมจะติดมือออกมาเลย
ทั้ง 1 + 2 อาจจะหายเองได้ ดังนั้น จะมีคนไข้บางคนเข้าใจผิดว่า ใช้ยาทาตัวนั้น ตัวนี้ แล้วทำให้ผมขึ้นได้ (ซึ่งจริง ๆ แล้วผมมันขึ้นเอง)
สาเหตุของผมร่วมที่พบบ่อยอีกอย่างคือผมร่วงจากกรรมพันธุ์ (Androgenetic alopecia) พวกนี้ จะถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แต่จะไม่เกิดกับลูกหลานทุกคน (จะเป็นแต่บางคน) ผมร่วงลักษณะนี้เป็นได้ทั้งหญิงและชาย ผู้หญิงจะร่วงบริเวณกลางกระหม่อม ส่วนผู้ชาย จะร่วงบริเวณกลางกระหม่อมด้านหน้า (หัวเถิก)
การรักษาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ แบบเดิม ๆ ก็คือการใช้ยา Minoxidil กินและทา
การทาจะได้ผลเพียง 30% ส่วนการกินจะได้ผล 90% แต่ข้อเสียของการทานยา คือ เวลาหยุดยาแล้วผมจะร่วงเหมือนเดิมและการทาน ยานาน ๆ (6 เดือนขึ้นไป) จะมีอาการดื้อยา ผมจะร่วงได้ ทั้งๆ ที่รับประทานยาอยู่ ขณะนี้มียาตัวใหม่ ชื่อ Finasteride ซึ่งจะไปยับยั้ง enzyme ทำให้การผลิต Hormone เพศชาย Dilaydrotestosterone (DHT) ลดลง ซึ่งคิดกันว่าตัว DHT นี้แหละ เป็นสาเหตุของการทำให้ผู้ชายผมร่วง ถ้ามีมากเกินไป (ซึ่งผู้ชายที่ผมร่วงจากกรรมพันธุ์มักจะพบ Hormone DHT สูงกว่าปกติ)
แต่ข้อเสียของยาตัวนี้ก็คือ 1. ห้ามใช้ในผู้หญิง 2. อาจทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลงได้ 3. เวลาหยุดยา อาจทำให้ผมร่วง เหมือนยา Minoxidil ได้
สุดท้ายถ้าการกินยา และทายาไม่ได้ผล ก็ต้องทำศัลยกรรม โดยแพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ซึ่งจะย้ายเส้นผม มาปลูกเป็นเส้น ๆ เลย ได้ผลดีทีเดียว แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงพอสมควร ส่วนการถักทอเส้นผมที่บางเต็มนั้น เทียบแล้ว เหมือนการใส่วิกนั่นแหละ
การฝังเข็ม และ ผลิตภัณฑ์จากรกแกะ ไม่น่าได้ผล
ริดสีดวงทวาร คือ การโป่งพองของหลอดเลือดดำบริเวณส่วนล่างสุดของ ไส้ตรง และช่องทวารหนัก และเมื่อมีกากอาหารหรืออุจจาระผ่าน ก็จะทำให้เกิดการระคายเคือง อาจมีเลือดออก คันบริเวณทวารหนัก หรือปวดขณะขับถ่าย ริดสีดวงทวารแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
ริดสีดวงภายใน
จะอยู่ภายในไส้ตรง ซึ่งจะไม่สามารถมองเห็นหรือรู้สึกได้ และมักจะไม่รู้สึกเจ็บปวด เนื่องจากมีเส้นประสาทมาเลี้ยงน้อย บางครั้งริดสีดวงภายในอาจยื่นออกมาด้านนอก ซึ่งจะทำให้มองเห็นได้ และจะมีอาการเจ็บปวด ริดสีดวงภายใน แบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ 1.ไม่มีก้อนยื่นออกมานอกทวารหนัก 2.มีก้อนยื่นออกมาขณะเบ่งอุจจาระ และหดกลับเข้าไปได้เอง 3.มีก้อนยื่นออกมาขณะเบ่งอุจจาระ แต่ไม่หดกลับเข้าไปต้องใช้มือช่วยดันเข้าไป 4.มีก้อนยื่นออกมาและไม่สามารถใช้มือดันเข้าไปได้
ริดสีดวงภายนอก
จะอยู่บริเวณทวารหนัก มักจะมีอาการเจ็บปวด สามารถมองเห็นและรู้สึกได้ อาการ 1.ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด ลักษณะจะเป็นดังนี้คือ จะถ่ายอุจจาระออกมาก่อน ( ระหว่างถ่ายอาจจะเจ็บหรือไม่ก็ได้) จากนั้นจะมีเลือดสดๆ หยดออกมา ตามหลังจากอุจจาระ เลือดจะเป็นเลือดสดจริงๆ มักไม่มีมูกเลือดปน 2.มีก้อนออกมาระหว่างถ่ายอุจจาระ ขณะที่เบ่งอุจจาระ จะมีก้อนยื่นออกมา หรือ มีก้อนออกมาตลอดเวลา ขึ้นกับ ระยะที่เป็น 3.เจ็บและคันบริเวณ ทวารหนัก ปกติ ริดสีดวงจะไม่เจ็บ จะเจ็บในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น เส้นเลือดอุดตัน(Thrombosis) หรือ มีเนื้อเยื่อตาย(Necrosis)
สาเหตุ 1. กรรมพันธุ์ 2. การตั้งครรภ์ 3. การที่ต้องนั่งหรือยืนนานๆ 4. ป่วยเป็นโรคที่ทำให้เกิดความดันในช่องท้องสูง ตัวอย่าง เช่น โรคตับเรื้อรัง, โรคก้อนเนื้อในช่องท้อง เป็นต้น 5. ท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง
คำแนะนำ 1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักและผลไม้ 2. ฝึกหัดการขับถ่ายให้เป็นเวลาหลีกเลี่ยงอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเดินบ่อยๆ 3. ดื่มน้ำให้มากพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
Create Date : 13 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2551 18:08:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1644 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [?]
|
ต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com หรือ 062 641 5992, 062 826 1544
วิทยากรเชิงกิจกรรม วิทยากรกระบวนการ ที่ปรึกษาธุรกิจด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ การวางแผนกลยุทธ์ วิจัยธุรกิจIT Dashboard
ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้... ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
ดวงถาวร
ดวงตามวันเกิด
ดวงตามปีเกิด
;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ c:j06'
|
|
ต้องการสอบถาม โทร 062-641-5992, 062-826-1544
ติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com
Line ID : wbjoong
ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการ
การตลาดและการประชาสัมพันธ์
การบริหารทรัพยากรมนุษย์
และ การวางแผนกลยุทธ์
วิทยากรเชิงกิจกรรม, วิทยากรกระบวนการ
นักวิจัยการดำเนินงานธุรกิจ
Executive & Management Coach
ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้...
ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย
และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
|
|
|
|
| |
|
|
|