แต่นอกเหนือไปนั้น มันก็มีเรื่องที่นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะได้บังเอิญมาเจอ
กับนกบางชนิดที่บินเข้ามาหาอาหารกินในที่นี้ด้วย เนื่องจากช่วงที่เราเข้าไป
ยังถือว่าเป็นเวลาเช้า หลังจากที่กำลังดูต้นไม้เพลิน ๆ ก็ได้ยินเสียงร้องแหลม
ลากยาว วี๊ด~ วี๊ด~
เราจำได้ทันทีเลยว่ามันต้องเป็นนกตัวเหลืองที่เรียกว่า นกกินปลีฯ (sunbird)
แน่นอน เพราะโดยปกติแล้วนกชนิดนี้มักชอบมากินน้ำหวานจากดอกไม้ที่บ้าน
เป็นประจำก็เลยพอคุ้นกับเจ้าของเสียงที่ว่านี้อยู่บ้าง
พวกมันมีตัวขนาดเล็กประมาณนิ้วโป้ง และมีสีเหลืองตามชื่อ Yellow-bellied
sunbird ตรงช่วงปากยาวเป็นงอยโง้งช่วงปลายและกลวงเหมือนท่อ เพื่อใช้ดูด
น้ำหวานจากดอกไม้ หากเป็นตัวผู้จะมีแผงสีน้ำเงินตรงคอ ส่วนตัวเมียจะเป็นสี
เหลืองเฉย ๆ คือสวยน้อยกว่าตัวผู้นั่นเอง เฮ้อ...ธรรมชาติช่างโหดร้าย!
นกกินปลี (ตัวผู้)
นกกินปลี (ตัวเมีย)
หากสื่อสารในภาษานกได้
เราคงจะรีบบอกให้มันออกไปจากโดมโดยไว เพราะว่านอกจากจะมีอุณหภูมิที่สูง
กว่าพื้นที่ด้านนอกแลัว พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่อยู่ในนี้ก็ดูไม่น่าจะมีต้นไหนพร้อมเสิร์ฟ
บินแวะมาก็เสียเวลา แถวนี้ไม่มีของอร่อยให้พวกแกหรอก!
ในความเป็นจริง พวกมันมีสัญชาตญาณที่ดีกว่าเราซะอีก ในการหาแหล่งน้ำหวาน
หรืออาจเรียกตามตำราว่า น้ำต้อย Nectar : น้ำหวานที่หล่ออยู่ในดอกไม้ เกิดจากต่อมน้ำ
หวานซึ่งมักปรากฏอยู่ที่โคนของกลีบดอก มาดื่มกินกันได้อย่างสบายใจ แม้ว่าเจ้าต้นไม้ที่
เห็นอยู่ตรงหน้า จะมีเพียงแค่มีหนามสีเขียวตามก้าน ไม่มีใบ ไม่มีดอก ให้มนุษย์
อย่างเราได้พอนึกออกสักนิด ถึงที่มาของอาหารตามอย่างที่นกพวกนี้มันมองเห็นกัน :)
หากฉันเป็นนก
ฉันคงอดตาย ♫~