ว่าเป็นใครมาจากไหน
สิ่งที่นึกถึงมาเป็นอันดับต้น ๆ คือ ภาพความโหดร้ายของการจับตัวประกัน
มาทำการประหารออกสื่อ กระทั่งรูปแบบการตัดต่อลำดับภาพ โชว์ความ-
เหนือขั้นทางเทคโนโลยี ที่ดูเหนือขั้นกว่าสมัยของกลุ่มอัลกออิดะห์ตอนโน้นมาก
ที่ซึ่งพวกเขามักจะอัดวีดิโอเทปธรรมดา ๆ ไว้ และที่ทิ้งร่อยไว้ให้ทหารอเมริกัน
มาพบเจอโดยบังเอิญ (?)
คือเรื่องนี้จริงหรือเท็จ หรือถูกปรุงแต่งยังไง
เราก็ไม่ใช่คนที่จะไปสรุปหรือชี้ขาดในความผิดถูกใครได้
แน่นอนว่า การละเมิดสิทธิ ชีวิต ทารุณกรรม และการกักขัง
ไม่ใช่สิ่งที่บังควรกระทำต่อชีวิตผู้อื่น
มาตรการการตอบโต้ ด้วยการล้อเลียนหรือการต่อต้านที่ไม่นำมาซึ่งความรุนแรง
ดูเหมือนจะลดและบั่นทอน ความกร้าว ของโลกใบสีเทาดวงนี้ให้สงบลงบ้าง
เพราะหลักข้อเชื่อที่ใช้แนวทาง ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
จากกฎหมายฮัมมูระบีที่ใช้กันมาตั้งแต่อาณาจักรบาบิโลเนีย
มันก็น่าจะหมดไปได้แล้ว ในสังคมโลกที่เข้าก้าวสู่ศตวรรษที่ 21
...
ขอตัดเรื่องมาแบบดื้อ ๆ
ขณะข้าพเจ้ามานั่งรอกินหมี่เกี๊ยว อยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน
ก็เห็นลูกค้ารายหนึ่งนั่งที่อยู่โต๊ะหน้าร้าน เอาแต่ดูคลิปดัง
ผ่านมือถือของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเป็นคลิปบันทึกการสังหาร
เหยื่อรายหนึ่งของกลุ่ม ISIS ที่เผยแพร่ออกมาแบบไม่เซ็นเซอร์
แต่นั่นก็ยังไม่พอ เขายังพยายามเที่ยวอวดคนโน้นคนนี้ไปทั่ว
ซึ่งหลายคนต่างสนใจเข้าไปดู แต่ไม่นานนักก็ต้องถอยออกมา
เพราะภาพของความรุนแรงนั้น ไม่ได้ถูกตัดต่อและปิดบังอะไรไว้
มันคงยากต่อการทำใจ คงไม่มีคนปกติที่ไหนจะไปทนดูภาพ
ความทรมานของคน ๆ หนึ่ง ที่กำลังทุรนทุรายก่อนขาดใจตายได้ !?
เขาคนนั้นยังคงโอ้อวดความกล้าของตัวเอง
และมองดูภาพของคนกำลังจะตายผ่านหน้าจอไปได้
อย่างไม่สะทกสะท้าน และดูภูมิใจกับสิ่งนั้นอย่างบอกไม่ถูก
พร้อมพูดพร่ำบรรยายภาพเหล่านั้นให้ผู้คนรู้สึกกลัว
จู่ ๆ ฉันก็คิดว่าพวก ISIS ไม่ได้โหดร้ายเกินไปมากกว่าคนประเภทนี้เลย
คนที่มาแสดงความรู้สนุกกับภาพการเข่นฆ่า และเห็นมันเป็นสิ่งบันเทิงไปได้
หรือที่จริงแล้ว นี่อาจเป็นอีกด้านมุมมืดในส่วนลึก ๆ
ที่แอบฝังอยู่ในใจของเรามาโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่านะ
ภาพล้อเลียน ISIS ของกลุ่มเกย์ในอิสราเอล 2
มาแปะหัวใจส่งท้ายค่ะ
คิดแล้วอนาจใจจริงๆ แม่ซองฯไม่กล้าดูเลย
เพื่อนส่งมาพอเปิด รีบลบทิ้งเลย
คนเราเดี๋ยวนี้โหดร้ายขึ้นทุกวัน
ทำไมต้องเป็นแบบนี้
ศาสนาไม่ได้ช่วยให้คน มีเมตตาปราณีเลยล่ะหรือ
สงสารคนรุ่นตอไปนะคะ