Dozakh - In search of heaven
ใคร ๆ ก็พอเข้าใจได้ว่าแม่น้ำคงคา ในเมืองพาราณสี คือสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่ซึ่งชาวฮินดูเชื่อว่า หากได้เผาศพ และโปรยเถ้าอัฐิลงแม่น้ำฯ ในบริเวณพื้นที่นี้แล้ว จิตวิญญาณของผู้นั้นก็จะได้เดินทางไปสู่สรวงสวรรค์
.....
มีอยู่วันหนึ่งเราเกิดนึกครึ้มพิมพ์เคาะหาเพลง Ud jayega hans akela
มาฟังจากทาง youtube แต่เนื่องจากไม่ได้ระบุชื่อศิลปินแนบไว้
ก็เลยบังเอิญไปพบเจอหนังเรื่องหนึ่งเข้า นั่นก็คือ Dozakh - In search of heaven
คงเพราะผู้สร้างได้นำชื่อเพลงเดียวกันนี้มาดัดแปลงใหม่ เพื่อใช้ประกอบภาพยนตร์ และแน่นอนว่านี่คือหนังอินเดีย
หลังจากดูตัวอย่างภาพยนตร์ไปแล้ว ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ก็เลยค้นหาเรื่องที่ว่ามาดูทางออนไลน์ซะเลย ...
เราดูตั้งแต่เดือนตุลาคม (2016) ปีก่อนนะคะ แต่ปีที่ฉายเรื่องนี้คือ ปี 2015 อ้อ ...ส่วนปัญหาระหว่างรับชมก็คงหนีไม่พ้นเรื่องภาษาค่ะ เพราะไม่มีคำบรรยายขึ้นประกอบให้ได้อ่าน ได้แต่จับสีหน้าตัวละครล้วน ๆ และลำดับการเดินเรื่องนั้นถูกสลับเปลี่ยนไป-มา ระหว่างปัจจุบันและอดีต ไม่ได้เรียบเรียงไปเรื่อยจนจบ ดังนั้นมุมมองที่เขียนลงบันทึกไว้นี้ จึงขออิงตามความเข้าใจผ่านทางสายตาและความรู้สึกแทนนะคะ หมายเหตุ : บอกก่อนนะว่า นี่คือหนังอินเดีย ที่ไม่มีฉากเต้นโผล่มาให้เห็นแม้แต่ฉากเดียว ! ภาพจาก https://timesofindia.indiatimes.com
จากชื่อเรื่อง คำว่า Dozakh เท่าที่ดูความหมาย มาจากการค้นหาผ่าน google เนี่ย มันถูกระบุบอกไว้ว่าเป็นภาษาอูรดู ซึ่งแปลว่า "นรก"
ขึ้นชื่อเรื่องมาก็ดูแรงซะแล้วสินะ แต่เราคิดว่าองค์รวมของมันก็คือ ความเชื่อ มิตรภาพ และ จุดมุ่งหมายสุดท้ายแห่งศรัทธา
มีสามตัวละครหลักที่ได้บอกเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่าง "จานู" เด็กชายชาวมุสลิม กับ พ่อ ผู้มีบทบาทสำคัญในการรับหน้าที่ นำเสียงอะซาน ในเวลาละหมาดให้กับชุมชน และมิตรภาพต่างศาสนากับ ปัณฑิต (Pandit) เพื่อน ผู้เป็นนักบวชในศาสนาฮินดู
จานู เกิดในครอบครัวมุสลิม อาศัยอยู่ที่เมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ไม่ไกลไปจากเมืองพาราณสีนัก แต่ในภาพยนตร์ จะเรียกเมืองนี้ในอีกชื่อหนึ่งคือ "บานารัส " ซึ่งเมืองที่ว่านั้น ก็เป็นสถานที่แห่งความฝันของจานูเขาล่ะ
ท่ามกลางสังคมชุมชนและเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เป็นฮินดู ซึ่งเป็นความเชื่อ ในอีกศรัทธาอันมีหนทางสู่สวรรค์
ที่ดูต่างไปจากแนวทางของศาสนาอิสลามที่พ่อของจานูนับถือ ทำให้เกิดความคับข้องใจบ้างในการดำเนินชีวิต อย่างในฉากที่จานู ขึ้นแสดงละครเวทีในบทหนุมาน ที่บังเอิญต้องมาเล่นแทนเพื่อนกระทันหัน ในหลักความเชื่อเรื่องพระเจ้าองค์เดียวของอิสลาม กับบทบาทที่ต้องพูดตามท้องเรื่อง ที่เขาต้องเอ่ยคำสรรเสริญพระราม ผู้ซึ่งถือว่ามีสถานะเป็นพระเจ้า ในศาสนาฮินดู ย่อมเกิดความสับสนให้กับเด็กชายไม่น้อย .... ภายหลังจากที่แม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ก็ยิ่งทำให้จานู เกิดความเศร้าอย่างหนัก ภาพพิธีฝังศพในสุสานของชาวมุสลิม ก็เป็นตอนหนึ่งที่เด็กชายเริ่มเกิดคำถามบางอย่างขึ้นมาในใจ และเอ่ยปากแสดงความปรารถนาที่มีอยู่อย่างลึก ๆ ต่อพ่อของตน ในการค้นพบหนทางสู่สวรรค์จากสิ่งที่จานูเชื่อมั่น อาจเป็นเรื่องที่น่าปวดร้าวที่สุด ต่อศรัทธาของพ่อ กับการตัดสินใจทำบางอย่างให้เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อความฝัน ของลูก จะได้กลายเป็นจริง แม้อาจเป็นทางเลือกที่ดูเหมือนว่าไม่อาจจจะนำพาให้ จานูไปสู่สวรรค์ได้ ตามบริบทความคิดที่มองต่างกันทางศาสนา
ความรู้สึกหลังจากที่ได้ดูแล้ว
แอบสับสนการเดินเรื่องนิดหน่อย กับการสลับฉากไปมานี่แหละ เลย มึน ๆ งง ๆ บ้าง แต่โดยรวมแล้วจับใจความได้ไม่ยากเท่าไหร่
ยิ่งในฉากที่พ่อของจานูแสดงความเจ็บร้าวออกมา พร้อม ๆ กับการร่ำไห้ของพราหมณ์ เนี่ย ... แอบน้ำตาซึมตามเลย ทั้งบรรยากาศของเรื่องและนักแสดงทั้งสองต่างก็ส่งอารมณ์กันได้ดีทีเดียว เรื่องนี้คงสื่อให้เห็นถึง หลักข้อเชื่อ ที่แตกต่างกันระหว่างสองฝ่าย ซึ่งผู้ชมก็ต้องเปิดหัวใจ สำหรับการทำความเข้าใจด้วยนะคะ ถึงจะอิน กับปมขัดแย้งในตัวของเจ้าหนูจานู ผู้อยู่ท่ามกลางปัญหาที่ว่า แม้หนทางการเดินทางไปแผ่นดินสวรรค์ ของแต่ละศาสนา อาจมีข้อต่างกัน จากเงื่อนไขแห่งกฏบัญญัติ ศาสนพิธี หรือ แนวทางปฏิบัติ ก็ตามแต่ อย่างไรก็ตาม คงไม่มีผู้ใดอาจล่วงรู้หรือตัดสินได้หรอกว่า ใครจะได้ไป อยู่ที่ไหนกัน ณ ปรายภพ นอกเสียจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
VIDEO
### NO VOTE ###
Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 22 ธันวาคม 2560 14:59:06 น.
30 comments
Counter : 985 Pageviews.
จากคลิบ บีบคั้นใจมากเอาการอยู่ค่ะ