INDIA :เรื่องของ Metro ใน เดลี
คราวก่อนเราได้พูดถึงเรื่องของการเดินทางออกจากสนามบินทั้งสองแห่ง ซึ่งจะเกี่ยวโยงกับ เส้นสีส้ม (Airport line) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความเดิมจากที่นี่ : https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=wachii&month=12-2016&date=21&group=17&gblog=12
ส่วนเรื่องเจ้า Metro ที่มีเครือข่ายโยงใยยึบยับเป็นใยแมงมุมเช่นนี้ ดูเหมือนจะยังไม่เคยได้แยกประเด็นพูดถึงกันโดยเฉพาะซักที มากสุดก็คง ได้แต่เคยแทรกเอาไว้ในบันทึกการเดินทางเมื่อนานมาแล้วเนอะ

ภาพประกอบจาก https://www.webindia123.com/city/delhi/image/delhi-metro.jpg
ครั้งนี้เราเลยขอเล่าถึงสถานีรถไฟฟ้าที่ เดลี บ้างดีกว่า จากภาพ(เดิม) ก็จะเห็นว่ามันมีเส้นทาง 6 สายเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน และกินพื้นที่ยาวไกลทีเดียว บางเส้นก็มุดลงดินบางเส้นก็วิ่งบนทางลอยฟ้า
ปกติแล้วการเดินทางที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยได้ออกไปไกลโพ้นโลกสักเท่าไหร่ ค่าโดยสารที่เคยจ่ายไปมันก็เลยเฉลี่ย ๆ อยู่ที่ 10 - 20 -25 รูปี นั่นแหละ (อ่อ .... ยกเว้นแต่เส้นที่ไปสนามบินนะ เป็นคนละราคากัน)

ใครเล็งเป้าหมายว่าจะไปที่ไหนบ้าง ก็ลองมาซ้อมเช็คราคาจากหน้าเวบ ของ DMRC ดูค่ะ : https://www.delhimetrorail.com/metro-fares.aspx
จะเห็นว่าราคาแจ้งบอกจะมีตั้งระหว่าง 8 รูปี ไปจนถึง 50 รูปี
ส่วนรายละเอียดเรื่องบัตรเหมาจ่าย สำหรับนักท่องเที่ยว ก็มีแจ้งไว้ในเวบไซต์นะคะให้ลองเข้าไปตรวจสอบดูกันเองน้อ อาจสะดวกสำหรับเตร็ดเตร่หนึ่งวัน กับเส้นทางเที่ยวด้วย Metro และไม่อยากไปต่อแถวซื้อชิปบ่อย ๆ
บางสถานียอมรับเลยว่าคนเยอะจริง แถวยาวรอนานและอาจดูชุลมุนบ้าง โดยเฉพาะ สถานีที่เป็น Interchange เดินเปลี่ยนขบวนกันอย่างสนุกสนาน แต่ว่าที่ Interchange บางแห่งเนี่ย ก็อาจมีร้านค้าปลีกย่อย หรือร้านอาหาร- ด้านใน ให้คนใช้บริการรถไฟฟ้ามาแวะเดินเล่นด้วย (แอร์เย็นดี) ซึ่งตามกฏแล้ว เขาก็มีจำกัดเวลาการอยู่ภายในสถานีนะคะ ดังนั้น อย่ามัวแต่เดินเพลินจนลืม เพราะเดี๋ยวจะเสียค่าปรับโดยไม่รู้ตัว :)

ส่วนสถานีที่ดูวุ่นวายและคนค่อนข้างเยอะก็เห็นจะเป็นสถานี New Delhi เพราะมันเป็น ชุมทาง ระหว่าง การเชื่อมต่อไปยังสนามบิน รถไฟ และเมโทร
ไปใหม่ ๆ อาจ ตาลายและตกใจได้ ว่าเหล่ามหาชนนั้นเขามาจากไหนกัน ?
หลังซื้อชิป และการเข้าสู่สถานี กับเรื่องวุ่น ๆ ก็อาจมีบ้างเวลาที่เราถือของ สะพายกระเป๋า พะรุงพะรัง ก็อาจลำบากหน่อย เพราะทุกครั้งกว่าที่จะเข้าไปยัง ด้านในได้นั้น ก่อนอื่นจะต้องผ่านด่านตรวจซะก่อนและไม่ใช่แค่เดินผ่านเครื่อง สแกน แล้วเปิดกระเป๋าเผยอให้เจ้าหน้าที่เขาส่องไฟชะโงกดูแบบผ่าน ๆ อย่าง บ้านเรานะ ทุกคนต้องมาเข้าแถวเพื่อทำการตรวจทั้งคนและสิ่งของค่ะ และจงดูให้ดี ๆ เวลาเข้าแถว ชาย-หญิง จะต้องแยกกัน เพราะนอกจากจะต้องวางสัมภาระบนสายพานเพื่อสแกนแล้ว ตัวเราก็ต้องถูกตรวจด้วยผ่านทั้ง "เครื่อง" ทั้ง "มือ" เจ้าหน้าที่ ลูบ ๆ คลำ ๆ กันไป 555 หลังจากนั้นจึงค่อยมารับกระเป๋าที่ผ่านการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อย ถึงจะได้เข้าไปแตะเหรียญเข้าสู่พื้นที่ด้านในได้อีกที ส่วนใครที่เป็นประเภท บ้าหอบฟาง ก็คงลำบากหน่อย
ครั้งหนึ่งเราก็เคยโดนแจ็คพอตด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่ไปจ๊ะเอ๋ กับอะไรเข้า ถึงกับไม่ยอมให้ผ่านเข้าไป และโดนเรียกให้มาเปิดกระเป๋า ตรวจสอบ รื้อค้น และกลับไปสแกนใหม่อีกรอบ คาดว่าคงเห็นกระบอกน้ำโลหะ ที่ใส่ไว้ในเป้เป็นวัตถุต้องสงสัยมั้ง (คงนึกว่าระเบิดแหง)
รึหน้าตาเรามันมีพิรุธก็ไม่รู้สิ !?

ภาพประกอบจาก : www.hindustantimes.com
Rush Hour คือช่วงเวลาแห่งจิตวิญญาณของนักรักบี้ จะเข้าสิงทุกท่าน โดยอัตโนมัติไม่มีหรอกที่จะมาต๊ะต่อนยอนกัน ผู้หญิงอย่างเรา ๆ ก็อาจสบาย ขึ้นมาหน่อย
จงไปยืนตรงป้ายสีชมพูช็อคกิ้งพิงค์ ที่เขียนว่า women only นะฮ้า ไม่จำเป็นต้องไปแสดงสปิริตถึงความเท่าเทียม ที่จะไปยืนในตู้ขบวนอื่นเพราะ จะมีแต่บุรุษเพศเต็มไปหมด แต่ถ้าเกิดเผลอพลัดหลงไปแบบไม่รู้ตัวจริง ๆ เข้า ก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก ถามว่ารู้ได้ไง ... ?
เหตุก็มาจากตอนไปครั้งแรก ไม่รู้ ค่ะ เห็นประตูเปิดแล้วก็พุ่งใส่โลด หน้ามืดตาลายมาก มารู้อีกที พอมองไปรอบทิศแล้วรู้สึกว่าอยู่เมืองลับแลเลยอ่ะ แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่มาไล่หรอกนะ
ต่างกับในอีกกรณีถ้าหากเป็นตู้ขบวนผู้หญิง เราเคยเห็นมีผู้ชายวัยรุ่นที่ไปเนียนนั่งหรือไปยืนเต๊ะจุ๊ยกัน เพราะพื้นที่ มันโล่งดีมั้ง ทั้งที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ ชราภาพ หรือทุพพลภาพ เลย (อาจมียกเว้นในกรณีนี้นะ)
พอเจ้าหน้าที่เห็นเข้าก็วอ เรียกให้เจ้าหน้าที่อีกสถานีข้างหน้า เดินเข้ามาไล่ให้กลับไปยังที่ ๆ พวกนั้นควรจะไปควรยืน ซึ่งจากมุมมองของเรา ในบางเรื่องเขาก็ดูเด็ดขาดนะ
ส่วนการประกาศแจ้งบอกสถานี ฟังไม่ยากเท่าไหร่ จะประกาศสลับภาษาอังกฤษและฮินดี ก็คือ
Next station ..... กับ อักลา สเตชั่น.....แฮ นี่แหละ
บางเวลาอาจมีโกลาหลบ้าง บางเวลาก็อาจโชคดีที่ไม่เจอคนเยอะ ควรพกแบงค์ย่อยหรือจำนวนเงินให้พอดีกับค่าโดยสารจะได้ไม่เสียเวลานัก
เรื่อง Metro ในเดลีของข้าพเจ้าก็ต้องขอจบลงด้วยประการฉะนี้
#### พูดคุยกันท้ายเรื่อง ####
บางคนก็อาจถามเนอะ ว่าเขียนไปทำไมกัน ? ที่นี่มีอะไรแปลกประหลาดนักรึไง ? หรือไม่ได้คิดอยากจะไป ก็ไม่จำเป็นต้องอ่านต้องรู้ นี่นา ...
โดยส่วนมาก เวลาที่เห็นใครมาถามถึงการเดินทางในอินเดียแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคำถามใด เท่าที่เห็นก็มักจะเจอคำตอบเดิม ๆ เสมอ ค่ะ
อันตราย! -- ผู้หญิงไม่ควรไปคนเดียว! -- หรือ ไปกับทัวร์ดีกว่า! ฯลฯ
เราเองก็ไม่ได้คิดจะมาแย้งหรือพูดแก้ต่างอะไรนะ
แต่เรื่องที่น่าหงุดหงิดก็คือ ตอบไม่ตรงประเด็นกับคำถามค่ะ!
ทำให้คนที่เขาต้องการมาหาข้อมูลก็มีกลัวกันไปบ้าง ไม่ก็พาลเสียเวลาค้นหา กันไปหรือไม่ก็ถอดใจกันไปเลย ส่วนตัวแล้วเราเองก็ไม่ได้บอกนะว่า มันปลอดภัยที่สุด 100%
ทุก ๆ ที่ ก็ย่อมมีคนดีและคนไม่ดีปะปนกันอยู่แล้ว การระมัดระวังตัวก็ย่อมสำคัญที่สุดเสมอ
เราเชื่อว่าการมีเรื่องลงบอกเล่าให้คนได้รู้สถานการณ์ และบรรยากาศการเดินทางเนี่ย
มันอาจจะง่ายต่อการตัดสินใจของผู้ที่จะเดินทางกว่าการเขียนเป็นขั้นตอน ที่เป็นแค่ไกด์ไลน์ แบบห้วน ๆ เพราะบางคนเขาก็นึกสภาพแวดล้อมไม่ออกจริง ๆ แต่ทั้งนี้ จะเป็นไปตามคาดหวังหรือผิดหวัง เราก็คงจะไปกำหนดไม่ได้หรอก ก็หวังว่าเอนทรี่นี้คงจะมีประโยชน์สำหรับคนที่คิดจะเดินทางกันนะคะ :)
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2560 |
Last Update : 28 ธันวาคม 2560 7:45:21 น. |
|
8 comments
|
Counter : 5003 Pageviews. |
 |
|
ตอนพี่ทำรีวิวละเอียดๆ ก็มีคนมาพูดอะไรบั่นทอนๆ เหมือนกันนะ
แต่พอเค้าไปเที่ยวเองเค้าถึงได้เข้าใจน่ะ เหอๆ
โหวตจ้า
ว่าแต่...ทำไมไม่ตั้งหน้านี้เป็นหน้าหลักอ้ะ?
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
Close To Heaven Review Food Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ผีเสื้อยิปซี Literature Blog ดู Blog
ซองขาวเบอร์ 9 Travel Blog ดู Blog
สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น