อินเดีย หน้า จีน
"พี่ฟ้า ไปอินเดียแล้วคนที่นั่นเขา มองพี่ยังไง?"
ครั้งหนึ่งก็มีน้องมาถามแบบนี้ หนแรกว่าจะตอบกวน ๆ ไปว่า "สวยว่ะ" มันคงจะกระอักกระอ่วนพิกล เอาเข้าจริงก็ได้แต่บอกว่า
"หน้าตาพี่ก็เหมือนคนแถวนั้นแหละ"
"ฮึ่ย! จริงอ่ะ"...
พอได้ยินฟังเสียงตอบรับแล้วก็ได้แต่คิด ว่าทำไมแกไม่เชื่อกันบ้างเนี่ย!
กลุ่มวัยรุ่นจาก สิกขิม เดินเข้ามาทักทายฉัน เพราะเข้าใจผิดคิดว่า ตัวเองเป็นคนมาจากบ้านเดียวกัน หรือไม่ก็คงเป็น เนปาลี (ชาวเนปาล)...ในรัศมีพื้นที่นี้ ท่ามกลางเหล่าชาวอินเดียที่มารอรถไฟ ก็มี พวกเรานี่แหละที่ดูคล้ายกันที่สุดแล้ว !
เวลาที่เรานึกถึงอินเดีย โดยมากแล้วไม่ว่าจะสีผิวไหน หน้าตาก็ต้องพะยี่ห้อ คม เข้ม นำเสมอ แต่พอมาสำรวจหน้าตาตัวเองแล้วก็สรุปคร่าว ๆ ได้ว่า ไม่ได้จัดว่าหมวยหรือสีผิวก็ไม่ได้ขาว และไม่ได้คมเข้มอะไร หากแบ่งประเภท ก็จะอยู่ในลักษณะมองโกลอยด์ ไม่ก็ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี่แหละ
ภาคส่วนที่ตัวเองไปก็อยู่แถบตอนเหนือเป็นส่วนใหญ่ ก็มักพบกับ ชาวเนปาล หรือแม้แต่กลุ่มชนที่อยู่ตามพื้นที่หิมาลัยที่เรียกว่า Bhotia ที่มีหน้าตาไม่ต่างไป จากเราอยู่บ่อยครั้ง
ยิ่งในกรณีของคนที่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (North East) ก็ยิ่งมอง ไม่ออกเข้าไปใหญ่ และโดยมากแล้ว พวกเขาอาจพูดฮินดีไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ถึง- อย่างนั้น ก็ยังถือว่าเป็นพลเมืองอินเดียเช่นกัน
ในเรื่องของเขตพื้นที่ พรมแดน และชาติพันธุ์ พบว่ามีคนเคยเขียนถึงค่อนข้าง เยอะกับการจำแนกผู้คนที่ดูมีหน้าตาต่างไปจากชาวอินเดียอย่างที่เข้าใจโดย เฉพาะในพื้นที่ที่เรียกว่า Seven Sister States
ดังนั้น เราจะมาพูดถึงประเด็น racist กันบ้างดีกว่า แม้ตามที่กล่าวไปนั้น จะมี ชาวอินเดียที่ "เข้าใจ" ถึงความหลากหลายในชาติพันธุ์อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้แปล ว่าจะเป็นเช่นนั้นกันหมดหรอกนะ
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีโพสต์ของสาวอินเดียจาก ' มณีปุร์ ' ที่ตั้งอยู่ทางฟาก ตะวันออกเฉียงเหนือนามว่า Monika Khangembam ได้กล่าวถึงประเด็นที่ เธอถูกเจ้าหน้าที่สนามบินโยนคำถาม
Pakka indian Ho? : เป็นชาวอินเดียแน่รึ? กับเธอ
แน่นอนว่า หน้าตาของเธอไม่เหมือนชาวอินเดีย ที่เป็น อินโด-อารยัน, หรือ ดราวิเดียน สักนิด แต่หากปฏิกิริยาของเจ้าหน้าที่คนนั้นจะไม่เยอะ และมีการ พูดจาออกแนวยั่วให้โมโหจนเกินไป ก็คงไม่ทำให้สถานการณ์ดูออกไปในเชิงลบ ขนาดนี้ ทันทีเมื่อเรื่องนี้ถูกโพสต์ลงยังหน้า Facebook เรื่องราวจึงได้ถูกแพร่ กระจายไปตามที่ต่างอย่างรวดเร็ว (ฉันได้ทันเห็นข่าวนี้จากหน้าเพจ Voice of Sikkim)
และทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฯ ได้ทำการพิมพ์ข้อความลงใน ทวิตเตอร์ ถึงกรณีดังกล่าวอีกด้วย...ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่ามันไม่ใช่แค่ปัญหาเล็กน้อย ที่จะมากระทบกระทั่งเฉพาะคำพูดอย่างที่บางคนคิดเสียแล้ว
--------------------------------
มีคำเรียกกลุ่มคนที่หน้าตาแบบมองโกลอยด์ เช่นกันในอินเดีย โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงผู้คนจากพื้นที่จากกลุ่ม Seven Sister States ดังที่ได้ยกประเด็นกล่าวมาในตอนต้น ฉันมักจะได้ยิน คำว่า ชิงกิ (Chinki) ลอยแว่วมาเสมอ แน่นอนว่าตัวเองก็เคยโดนเรียกเช่นนั้น
บางคนก็บอกว่าไม่หยาบคายหรอกนะ เพราะมันเป็นแค่คำเรียกแทน คนที่หน้าตา ออกไปทางจีนเฉย ๆ ... ซึ่งหากจริงตามนั้น ทำไมฉันถึงเห็นพวกเขามีการเรียก ร้องในเรื่องนี้ด้วยล่ะเนี่ย?
เมื่อเรามองย้อนกลับมาที่ เมืองไทย ก็ใช่ว่าจะไม่มีนะ เพราะเราเองก็มีคำใช้ เรียกแบ่งเชื้อชาติ แบ่งภาค สีผิว ฯลฯ เช่นกัน...หากถามว่ามัน "แรง" ไหม อันนี้ก็คงตอบแทนใครไม่ได้ คงขึ้นอยู่กับความรู้สึกของคนที่ถูกเรียกเสียมากกว่า ว่าเขาจะรู้สึกยังไง? ในส่วนพวกที่ชอบพูดจนติดปาก ส่วนตัวแล้วก็มองว่า ดูนิสัยไม่ดี เอาเสียเลย!
เอาเป็นว่า หากใครที่เดินทางไปเยือนอินเดีย แล้วไปได้ยินใครมาใช้คำเรียก แทนว่า "ชิงกิ" เมื่อไหร่ ไม่ว่าเขาจะพูดแก้ต่างอ้างเหตุผลที่ว่าเพราะเราดูเหมือน คนที่มาจากทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของอินเดียหรือจะว่าคล้ายคนจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี ฯลฯ ก็ตาม เพื่อถือวิสาสะใช้คำที่ว่านี้เข้า
จะเพิกเฉยหรือปะฉะดะ ก็ตามแต่จะพิจารณาแล้วกัน
------------------------------
มาเข้าเรื่องปิดท้าย แบบไม่เครียดกันบ้างเนอะ...เรื่องชาวอินเดียที่มีหน้า เหมือนคนจีนเนี่ย บางทีแม้แต่คนอินเดียด้วยกันเอง ก็มองพลาดเช่นกัน ช่วงที่ไปพักที่เมืองริชชิเกช (รัฐอุตตราขัณฑ์) ก็ได้มีโอกาสเจอกับวิเวก เพื่อนเก่า ที่เคยพบในปีก่อน ซึ่งบังเอิญว่าเขามาแวะพักที่นี่ก่อนเดินทางกลับบ้าน ดังนั้นเรา ก็เลยนัดไปดื่มชากันที่ร้านเล็ก ๆ (Dhaba) แห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลไปจาก Parmarth Niketan ตอนนั้นก็มีกุลดีพ เพื่อนชาวเมืองเดวปรายัคดอดตามมาด้วยอีกหนึ่ง... ระหว่างที่นั่นคุยในที่ร้านน้ำชา ก็พบว่าเจ้าของร้านที่เป็นผู้หญิงดูมีหน้าตา ไม่เหมือนกับคนอินเดียเลย และฉันเองก็สงสัยเธอมานานแล้ว เพราะเดินผ่านหน้า ร้านนี้แทบทุกวัน เธอมีผิวขาว หน้าหมวย ติดบินดีที่หน้าผากและมักจะแต่งชุด อินเดียสูทสีสดอยู่ตลอด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอดูเหมือนคนพื้นที่สักนิด
ยิ่งหนหลังนี้ตัดผมม้าด้วยแล้ว ยิ่งดูเหมือนคนญี่ปุ่นเข้าไปใหญ่...จนฉันแอบมโน ไกลว่า เธอคงมาพบรักกับหนุ่มอินเดียแล้วย้ายมาลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่แน่นอน!
พี่วิเวก เป็นลูกค้าประจำร้านนี้ ส่วน ฉัน มาครั้งแรก และ กุลดีพ ก็เป็นจัดเป็นพวกไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่
เมื่อชาร้อนถูกเสิร์ฟมาครบ ระหว่างที่นั่งรับลมหนาว สนทนาพูดคุย และจับหมาที่ร้านมาเล่นอยู่นั้น
กุลดีพ ก็โพล่งบางประโยคหนึ่งออกมา
" ดูสิ ขนาดเธอเป็น ชาวต่างชาติ ยังมาเปิดร้านที่นี่เลย"
" อ่ะ แฮ่ม! " ฉันแอบส่งเสียงดักคอไป หมอนี่มันพูดอะไรไม่ค่อยคิด
"เฮ้ เพื่อน เธอเป็นคนพื้นที่นี่แหละ" พี่วิเวก ยืนยันว่าเคยพูดคุย กับเจ้าของร้านมาก่อนหน้า แต่คงไม่โฉ่งฉ่างแบบอิตานี่
เออ... ข้าก็สงสัยเช่นกัน แต่ไม่ได้ออกตัวแรง ยังดีที่กุลดีพใช้คำว่า ชาวต่างชาติ แทน คำว่า ชิงกิ และถ้าตานี่ใช้คำว่า ชิงกิ ข้านี่แหละจะตบให้หงายเงิบ
"เป็นไปไม่ได้..."
ว่าแล้ว กุลดีพก็ลุกพรวดตรงเข้าไปหา แต่ไม่ได้ไปถามแม่สาวที่ว่าโดยตรงนะ ก็สามี เค้ายืนอยู่ทั้งคน
"พวกพี่มาจากที่ไหนกันเนี่ย!?"
....
"ฉันว่ามันดูเสียมารยาทนะ ที่หุนหันไปพูดแบบนั้น" พี่วิเวก พูดเบา ๆ
"ถ้าเขาเอาเรื่องกุลดีพ เราก็เผ่น" ฉันว่า
ก่อนที่จะซุ่มมองอย่างเงียบ ๆ ว่านายกุลดีพ จะได้กลับไปเยี่ยมบ้านพี่สาวแบบสะบักสะบอมหรือยังอยู่ในสภาพดี
"พวกเรามาจาก เดวปรายัค " ชายเจ้าของร้าน หันมาตอบด้วยรอยยิ้ม โชคดีไป... ส่วนผู้หญิงฉันฟังไม่ถนัดว่ามาจากที่เดียวกันด้วยหรือปล่าว พวกเขาเลยพูดคุยกันพักหนึ่ง จนกุลดีพได้คำตอบที่แน่นอนว่า สาวหมวยผู้นั้นเป็นชาวอินเดียจริง
ดี ที่เขาไม่เอาเรื่องแกนะเนี่ย!
ดังนั้นถ้าหากมีใครสักคนจะมาทักว่า เราหน้าตาเหมือนคนอินเดีย แล้วล่ะก็ ไม่ต้องคิดว่าพวกเขาขี้จุ๊หรอก
*** แก้ไข 06.12.2016 - ลงภาพและ ใส่คำอธิบายเพิ่มเติม
Create Date : 02 ธันวาคม 2559 |
Last Update : 28 ธันวาคม 2560 7:32:43 น. |
|
16 comments
|
Counter : 2830 Pageviews. |
 |
|