เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน
เราเคยได้แวะมายังพื้นที่รอบนอกพระบรมมหาราชวัง พร้อมกับได้เห็นภาพ
บรรยากาศที่เต็มไปด้วยผู้คนจากที่ต่าง ๆ พากันแต่งชุดสีดำหรือไม่ก็โทนเข้ม
เต็มไปหมด และนับจากวันนั้นเราก็ยังไม่มีโอกาสได้กลับไปอีกเลย
กระทั่งหนึ่งปีผ่านไป จวบจนถึงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช บรมนาถบพิตร (ในหลวง ร.9)
ที่ได้มีโอกาสเห็นภาพของพระเมรุมาศผ่านจอโทรทัศน์ กับริ้วขบวนพระบรมราช-
อิสรยยศ ประกอบกับคำบรรยายถึงระเบียบแบบแผน จารีตในราชประเพณีโบราณ
แม้จะเป็นการมองเห็นอย่างห่าง ๆ ก็ตาม แต่เราก็อดทึ่งไม่ได้กับมรดกทางวัฒนธรรม
ที่ยังถูกส่งต่อและตกทอดมาถึงคนรุ่นปัจจุบันในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
และทันทีที่ได้ยินคำประกาศเรื่องการจัดนิทรรศงานพระราชพิธีฯ ช่วงระหว่าง
วันที่ 2 - 30 พฤศจิกายน นี้ ก็ทำให้เราไม่ลังเลเลยที่จะหาเวลามาเยือนอีกครั้ง
ทั้งนี้เราเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวด้วยรถเมล์ฟรีนะคะ แม้ว่าจะไม่มีปัญหากับ
เรื่องระบบขนส่งสาธารณะนัก แต่ก็ยังแอบหงุดหงิดกับปัญหาการจราจรและ
อากาศร้อน ๆ ซึ่งบวกกับเป็นช่วงเที่ยงวันที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนด้วยแล้ว ก็เลยทำให้
วันนั้นดูอบอ้าวเป็นพิเศษ
ถึงตอนนั้นจะถือว่าเป็นช่วงออกทุกข์แล้ว แต่ก็ยังเห็นผู้คนที่ร่วมสัญจรมาด้วยกัน
ยังมีหลายคนที่ยังคงแต่งชุดดำกันอยู่เลย ส่วนการแต่งตัวของเราก็ใส่ชุดที่ไม่ได้
มีสีสันฉูดฉาดมากเท่าไหร่ และท่อนล่างก็เป็นกางเกงขายาวสีดำไม่ได้นุ่งยีนส์
(ระเบียบไม่ได้ห้ามกางเกงยีนส์สีเข้มนะ แต่ห้ามฟอกสี รัดรูป และเป็นรอยขาด)
เมื่อลงจากรถบริเวณจุดจอดแถวกองสลากเก่า หนแรกก็ตั้งใจว่าจะเก็บรูปไป
เรื่อยก่อนถึงหน้างาน แต่เอาเข้าจริงก็กลัวจะต้องรอคิวนาน เลยรีบเดินจ้ำไปจน
ถึงจุดแรก ที่มีการกั้นช่องเดินแยกสำหรับคนไทยโดยเฉพาะตรงบริเวณด้านหน้า
"โรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์" ก็เป็นที่แน่นอนว่า จะมีเหล่านักท่องเที่ยวมาเดิน
เที่ยวชมแถวนั้นสวนผ่านกันให้เต็มไปหมด และขอบอกเลยว่ามีนักท่องเที่ยวชาว-
เอเชีย ที่มาเดินเที่ยวกันเองแถวนั้นหลงเดินตามคนไทยมาแบบไม่รู้ความก็มี
(ด้วยความที่พวกเขาดูคล้ายคนบ้านเรา อาจทำให้เจ้าหน้าที่สังเกตไม่ทัน)
กว่าจะมารู้อีกทีก็หลังจากข้ามถนนมาตรงจุดฯ ที่ต้องหยิบบัตรประชาชนออกมา
แสดงนั่นแหละ
ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้หลงมาแบบนั้น ก็มักจะเดินตรงไปสอบถามเจ้าหน้าที่
ซึ่งมีการจัดจุดประชาสัมพันธ์ให้กับชาวต่างชาติด้วย หากพวกเขาแต่งตัวเรียบร้อย
หรือเตรียมพร้อมมาดีแล้ว ก็สามารถที่จะเข้าร่วมชมด้านในได้เช่นกัน
คำบรรยายใต้พระบรมฉายาลักษณ์
"ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ก็คือ การที่ได้อยู่ท่ามกลาง
ประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง"
หลังผ่านตรวจจากจุดคัดกรองทั้งหลายไปแล้วทั้งบัตรประชาชนและข้าวของ
ในกระเป๋า ก็มาถึงจุดรับของแจกที่เป็นไส้กรอกที่บรรจุซองสูญญากาศกับน้ำดื่ม
เอาไว้กินรองท้องในช่วงระหว่างที่นั่งรอตรงซุ้มด้านใน ทั้งนี้ยังมีบัตรสีชมพูสำหรับ
ผู้ร่วมงานกับแผ่นพับอีกหนึ่งฉบับ ที่ด้านในนั้นจะมีพระบรมฉายาลักษณ์และ
แผนผังของพื้นที่ต่าง ๆ ในมณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมภาพและคำอธิบาย
ถึงชื่อศาลา อาคาร ตลอดจนเหล่าประติมากรรมชิ้นอื่น ถึงความหมาย ที่มา
ได้เป็นแนวทางอย่างดีเลยค่ะ
ภาพตัวอย่างในโบรชัวร์ที่มีการอธิบายเรื่องต่าง ๆ เอาไว้
ช่วงระหว่างที่นั่งรอ ก็จะมีเจ้าหน้าเข้ามาอธิบายถึงระเบียบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรรู้
อาทิเช่น ขอความร่วมมือในการงดใช้ไม้เซลฟี่ (**เพิ่มเติม ทั้งนี้รวมไปถึงการ
ถ่ายเซลฟี่กันด้วยนะคะ หากต้องการถ่ายภาพตัวเองก็สามารถไหว้วานจิตอาสา
ที่ยืนอยู่ในบริเวณนั้นได้ค่ะ) รวมถึงการงดบันทึกภาพเคลื่อนไหว ไม่จับต้องงานที่
นำมาวางจัดแสดง ตลอดจนถึงท่าทีสำรวม
สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีจัดเตรียมไว้ก็คือ ร่ม สำหรับไว้ให้ยืมในงาน ก็มีทั้งแบบ
สีดำและสีขาวให้เลือก โดยมีเจ้าหน้าที่จะนำมาแขวนเรียงเอาไว้ตรงบริเวณที่กั้น
หน้าเต๊นท์ที่นั่งรอ ซึ่งเราก็สามารถหยิบยืมไปใช้ได้และหลังจากที่จบการเยี่ยมชม
ก็จะต้องนำไปคืนที่จุดออกพร้อมกับบัตรชมพูค่ะ และนอกเหนือจากนี้ยังมีอุปกรณ์
อำนวยความสะดวกอย่าง เก้าอี้รถเข็น สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการด้วย

ไม่นานเกินรอเท่าไหร่ สักพักใหญ่ก็ถึง คิวของเราแล้วค่ะที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมพื้นที่ด้านใน
หากอิงจากแผนที่แล้ว พระเมรุมาศฝั่งนี้จะหันหน้าออกไปทางทิศเหนือ
....ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยนะว่าความรู้เรื่องงานศิลปะของเราค่อนข้างแย่
ดังนั้นรายละเอียดสำคัญต่าง ๆ จึงขอยกคำอธิบายจากแผ่นพับที่ได้มาในการ
อ้างอิงประกอบ ซึ่งในส่วนที่คัดลอกมานี้เราจะใช้ตัวพิมพ์อักษรเป็นสีน้ำเงินนะคะ
พระเมรุมาศ 9 ยอด เป็นอาคารบุษบก 9 องค์
ตั้งอยู่บนฐานชาลาสี่เหลี่ยมจัตุรัส 4 ชั้น บันไดทางขึ้น 4 ทิศ
บุษบกประธานมีชั้นเชิงกลอน 7 ชั้น
ยอดบนสุดประดิษฐานพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร
ภายในมีพระจิตกาธานประดิษฐ์ฐานพระโกศพระบรมศพ

บริเวณพื้นที่ชั้นสาม กล้องเราซูมได้เท่านี้นะคะ แต่เดิมเคยอนุญาตให้ขึ้นไปยังชั้น 1,2 ได้
แต่หลังจากเจอคนฝืนกฏในวันแรกที่เปิดทดลองเข้า ก็เป็นอันต้องยกเลิกไปโดยปริยาย
น่าเสียดายจริง ๆ


(เดาว่าน่าจะเป็นงานแทงหยวก)
นิทรรศการ "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์" ณ พระที่นั่งทรงธรรม
จะมีลำดับรายการที่จัดแสดงตามชื่อดังนี้1. เมื่อเสด็จอวตาร
2. รัชกาลที่ร่มเย็น 3. เพ็ญพระราชธรรม
4. นำพระราชไมตรี
5. พระจักรีนิวัตฟ้า 



คุณสมบัติของหญ้าแฝกและความยาวราก (ที่จริงก็ไม่เคยคิดว่าจะยาวทะลุทะลวงขนาดนี้)

(อีกมุมหนึ่งของพระเมรุมาศ เมื่อมองจากพระที่นั่งทรงธรรม)


(ภาพเหตุการณ์จากเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ปีก่อน)
....
อนึ่ง ที่มาของชื่อเอนทรี่นี้ ก็มาจากความคิดแว้บแรกที่เรานึกถึงท้องสนามหลวง
ในนามของ"ทุ่งพระเมรุ" ที่อาจรู้ผ่านตำราเรียนหรือได้ยินคนเฒ่าคนแก่เล่ามาบ้าง
แต่ถึงอย่างนั้น เราเองก็ยังไม่เข้าใจอะไรนักเพราะไม่เคยได้เข้าถึงยังพื้นที่นี้ใน
ขณะที่มีพระราชพิธีฯ ที่ว่า ภาพของสนามหลวงตามที่เห็นผ่านมาจึงดูไม่ต่างไป
จากลานกว้างเท่านั้น จนกระทั่งครั้งนี้ คงเป็นวาระเหมาะสมแล้วที่เราจะสามารถ
ใช้ชื่อดังกล่าวมาอิงกับสถานที่ก็เพื่อให้สอดคล้องตามคำนิยามเดิมนั่นเอง
ในส่วนของเรื่องที่น่าประทับใจนอกเหนือจากรวบรวมภาพจัดแสดงพระราชประวัติ
และพระราชกรณียกิจ รวมถึงงานศิลปะที่จัดทำอย่างปราณีตและสมพระเกียรติ
ก็เห็นจะเป็นบรรดาเจ้าพนักงานทั้งหลาย ทั้งเจ้าหน้าที่ในภาคส่วนอื่น ๆ รวมถึง
คนดูแลอาคารสถานที่ และบรรดาจิตอาสา (โดยเหล่าจิตอาสาจะใส่เครื่องแบบ
ที่สังเกตได้ง่ายนั่นคือเสื้อยืดสีดำ สวมหมวกแก็ปสีฟ้า และผ้าพันคอสีเหลือง)
ซึ่งพวกเขาเหล่านี้จะคอยมายืนดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มา
เข้าเยี่ยมชมงานกันอย่างขันแข็งแบบที่ว่าไม่กลัวร้อนกันเลยค่ะ
และรวมถึงการออกแบบพื้นที่ภายในอาคารและศาลา ที่มีการทำทางลาดสำหรับ
ผู้ใช้เก้าอี้รถเข็น และทั้งนี้ยังมีนิทรรศการสัมผัสเพื่อผู้พิการทางสายตา ที่
ทับเกษตรด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ (บริเวณนี้เราไม่ได้แวะไปนะคะ) ซึ่งเป็นเรื่อง
ดีสำหรับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่จะได้มีโอกาสเข้าถึงเช่นเดียวกัน
เกือบหนึ่งชั่วโมงที่เราได้ใช้ไป ถึงจะไม่ได้สำรวจจนครบถ้วนทุกอย่างหรือเก็บ
รายละเอียดมาได้ดีนัก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ตัวเองแอบนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้น...
ว่าที่ผ่านมา เราเองนั้นไม่ได้เห็นสถาปัตยกรรมบนพื้นฐานของศิลปะลวดลายไทย
แบบเต็มสองตาและจ้องมองอย่างตั้งใจจริงอย่างนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย
พี่ก็อยากไป แต่ไม่รู้ว่าจะได้ไปไหม เดือนนี้ตัวเองงานแน่นเอี้ยดๆ มากเลยแหละ เหอๆ
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Hobby Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Review Travel Blog ดู Blog
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
กาบริเอล Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น