เมื่อมองย้อนมาที่มุมมองของตัวเอง
เราเขียนบล็อกเพื่ออะไร?
ง่าย ๆ ก็คือ ระหว่างการเดินทางที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสเขียนบันทึกเอาไว้
ครั้นจะเก็บอ่านคนเดียวก็ใช่เรื่อง รายละเอียดบางอย่างที่เราอยากจะพูดถึง
และแบ่งปัน
เขียน ให้ใครก็ได้ที่อยากอ่านเพราะเขาสนใจ เขาอยากรู้
แม้จะไม่ได้รู้จักกันโดยตรงก็ตาม :)
....
แล้วทีนี้จะรู้กันยังไงดีล่ะ ว่ามีใครบ้างที่เข้ามาอ่าน?
จะให้ไปยึดยอดคนอ่านจากตัวเลขที่โชว์อยู่มันก็เชื่อถือไม่ได้อีก
แต่ความมีชีวิตของงานเขียน มันก็อยู่ที่การโต้ตอบระหว่างผู้ส่งสาร
และผู้รับสารด้วยส่วนหนึ่ง
"เวลาที่มีคนอ่านแล้วเม้นต์เนื้อหาพูดคุยกับเรา
มันสนุกเน้อะ รู้สึกว่าไม่ได้พูดอยู่คนเดียว"
(ขอยกคำพูดนี้มาจากการแสดงความคิดเห็นของสมาชิกผู้หนึ่งนะคะ)
ใช่...เราเองก็ไม่ได้อยากพูดคนเดียวไปตลอดใช่ไหมล่ะ ?
แต่หากว่าบางรายกลับ เม้นต์เนื้อหาไปคนละทางจากที่เราเขียน
มันก็แปลก ๆ ... ประมาณว่า นี่เราสื่อสารอะไรผิดพลาดหรือปล่าวเนี่ย?
ช่วงแรกเราก็อาจฝ่อ แต่พอดูกันไปนาน ๆ ก็เริ่มเข้าใจเจตนามากขึ้น
อ้อ เว้นแต่ในกรณีที่ว่า เรื่องในบล็อกนั้นเข้าถึงยากแต่เนื้อหาดี
แล้วทำให้เราเขียนคอมเมนต์ไม่ออกก็มีค่ะ (อันนี้พอเข้าใจอยู่)
ส่วนมากแล้วเราก็ให้กำลังใจไป เพื่อให้เขายังคงเขียนลงบล็อกต่อ
"ถือเป็นปัญหาทางเทคนิค" เรื่องนี้ได้ถูกกล่าวไปกันเยอะแล้ว
มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน แต่กับคนที่เขียนได้ดี
นำเสนอเรื่องเจ๋ง ๆ เราก็อยากโหวตให้จริง ๆ ให้เอนทรี่นั้นไม่หาย
ไปเงียบไปได้ขึ้นบล็อกแนะนำให้คนเห็นก็ยังดี
และสำหรับตัวเองก็ไม่ได้ยึดติดอะไรมากนักในผลรวมเรื่องคะแนน
คือ อย่าถามว่าสายสะพายฯ นั้นให้อะไรกับท่าน แต่จงถามตนเองว่า
เขียนบล็อกแล้วให้ประโยชน์อะไรต่อคนที่เข้ามาอ่านดีกว่า
(JFK... ไม่ได้กล่าวไว้จ้ะ)

- ความสัมพันธ์
มันก็คล้ายกับการเข้าสังคม ตรงส่วนนี้ไม่ขอพูดเยอะละกัน
- Like กันไปมา นี่คือพฤติกรรมใหม่ใน facebook ในปัจจุบันที่นำมาเพื่อ
เชิงเปรียบเทียบ คือเดี๋ยวนี้ก็มักจะเจอ ฉันไลก์เธอ เธอไลก์ฉัน โต้กันไปมา
อย่างบางคนก็ระรัว like มันทุกสิ่งอย่างที่เห็นใน feed ข่าว โดยยังไม่ทัน
อ่านแล้วเจ้าฝ่ายตรงข้ามก็ไลก์กลับไปมาอย่างบ้าคลั่ง
และการกดโหวตเช่นลักษณะนี้ ก็มีอยู่จริง
สุดท้าย ท้ายสุด เมื่อได้มีโอกาสคุยกับคนในบล็อกซึ่งเพิ่งเข้าเล่นได้ไม่นานนัก
คำถามของน้องคนนั้นก็คือ "จะทำยังไงถึงจะมีคนเข้ามาอ่านงานของเรา?"
สิ่งที่ตัวเองตอบไปนั่นก็คือ หัดเข้าไปทักทายบล็อกเกอร์คนอื่น ๆ ดูบ้าง
จากการอ่านงานของเขา มันก็เหมือนกับการแนะนำตัวเองไปด้วยนั่นแหละ
แต่อย่างน้อยก็ควรจริงใจนะ
ไม่ใช่เอาแต่เรียกให้คนอื่นเข้ามาที่บล็อกตัวเอง โดยไปหยอดไปทักทาย
แบบไม่ได้ไม่อ่าน และทำความเร็วค่อนข้างมากในการอ่าน ( หรือทำ
เสมือนอ่าน) เพราะมันจะนำมาซึ่งความพลาดให้เห็นในตอนท้ายนั่นเอง
เราเองก็เจอมาหลายครั้ง กับการเห็นคอมเมนต์ที่บ่งบอกได้ชัดเจนเลยว่า
ไม่คิดจะอ่านกันเลยใช่ไหม? (เอนทรี่นั้นมีเพียงเจ็ดบรรทัด) และคงไม่ต้อง
ถามต่อหรอกนะว่ารู้สึกยังไง?
ผลสรุปของการประเมินและวิเคราะห์ ความเห็นในครั้งนี้ ต้องขอบคุณ
ทุก ๆ คน ที่ร่วมกันทำให้ได้เปิดมุมมองรวมถึงเปิดใจและพูดกันตรง ๆ
เพื่อเป็นเงาสะท้อนถึงการทำบล็อกของต้วเองด้วยว่า เราเขียนบล็อกเพื่ออะไร?
เอ๊าาา ...ที่พิมพ์มายาวขนาดนี้แล้ว
หวังว่าคงจะไม่มีใครเข้าอ่านผ่าน ๆ
แล้วเขียนบอกในคอมเมนต์นะว่า
"น้องเหมียวน่ารักจังเลย"
อีนี้คิดอะไรนายจ๋า เข้าใจอารมณ์นี้นะ วัฒนธรรมบลอกมันก็เปลี่ยนไปด้วย อันนี้พูดตรงๆ บอกเลย ต้นเหตุหลักที่กิจกรรมสายสะพายนั่นแหละ ทุกสิ่งมีคุณก็มีโทษ ทีมงานก็คงกติกาเดิมมาเข้าปีที่สามที่สี่เข้าไปแล้วไม่เคยวิเคราะห์ผลกระทบต่อพฤติกรรมการเล่นบล็อกด้วยมั้งนะ ว่าป่าว คงมุ่งมั่นไปที่เป้าหมายเดียวคือเพิ่ม traffic ให้ภาพรวม จนมองข้ามเนื้อแท้ เด๋วนี้หลายต่อหลายคนไปมาหาสู่กันด้วยวาระซ่อนเร้น กลายพันธุ์เป็นวัฒนธรรม แลกโหวต หมูไปไก่มา โหวตไม่มากาไม่เป็น บางทีคล้ายเอาสมัครสส. ไปปนกับเวทีสว. คนเขียนบล็อกแบบหาเสียงหาแฟนขับเข้าใจการตลาดก็สนุกสนานไป คนเขียนแบบสว. มีคุณภาพแต่เก็บตัวไม่เดินทางหาเสียงหลายคนก็ทิ้งบล็อกคว่ำขันเลิกรากันไป ใครขยันแวะไปโหวตก็จะได้คนขยันมากลับมา อ่านรึเปล่าอีกเรื่องนึง แต่แน่ๆ ที่ไม่อ่านก็ผ่านเข้ามาเยอะเชื่อสิ ไลค์ให้รู้ว่ามาอ่านก็เป็นอีกกลเม็ด ประเภทมาถึงก็เมนท์ว่าไลค์เลยๆ อ่านแล้วก็เหี่ยวไปบ้างใช่ป่ะ 55
บ้านพี่บางเมนต์มาถึงยังบอกว่าวันนี้เอาโหวตนี้ไปน้า โหวตที่อยากให้หมดโควต้าแล้วเพราะเอาไปใช้หนี้! ให้อีกบ้านนึงแล้ว! บร๊ะจ่าง มีการใช้หนี้โหวตกันด้วย เห็นปะ
เขียนต่อไปเถอะ essay ของเรา เหมือนเขียนบันทึกบนสมุดส่วนตัวที่พับพลิคนั่นแหละ เพื่อคนที่ยังแวะมาอ่าน คนที่อยากเดินทางแต่ไม่มีวาสนาหรือโชคชะตาได้เดินทางอย่างเราได้อาศัยอักษรของเราภาพของเราสร้างจินตนาการทดแทน จริงนะ เคยมีคนกล่าวไว้แบบนี้กับนายน้ำฟ้า ( ปิดบล็อกบ่อยยังกล้ามาแนะนำ ฮรี่ )