เตรียมตะกร้า หาถุงผ้า พกพาไปใช้ในวันที่ 4 ธันวาคม กันเถอะ
วันนี้เราแวะไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อมา เห็นว่าจำนวนมันมีไม่เยอะเท่าไหร่ มีสามชิ้นที่พอจะถือเองได้ เลยบอกน้องพนักงานตอนคิดเงินไปว่าไม่ต้องใส่ถุงให้
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ในตอนที่กระแสการรณรงค์ยังไม่แรงพอ เราก็แทบจะต้องหาจังหวะชิงพูดให้ทันก่อนที่พนักงาน จะดึงถุงหิ้วออกมาแบบว่องไว ซึ่งบางทีก็ไม่ทันจริง ๆ นะ เหมือนกับว่ามันเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่น่าเคยชินของเขาไปแล้ว
บางครั้ง เราก็เคยแอบขำกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ชอบไปยืนกรานอย่างจริงจัง กับพนักงานคิดเงินในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ว่าไม่ต้องใส่ถุงหิ้วให้ก็ได้ เพราะมันเป็นแค่โยเกิร์ตกระปุกเล็กที่เราตั้งใจจะกินหลังจากที่ซื้อทันที แต่ด้วยความที่พนักงานหยิบถุงออกมาเตรียมใส่อย่างไว และอาจดูเก้อ ถ้าจะต้องดึงมันกลับไปวางยังที่เดิม เธอก็ดูจะพยายามดำเนินการต่อให้ได้ แต่เราเองก็ยังยืนยันคำเดิม ...
สุดท้ายแล้ว ก่อนที่เราจะเดินออกจากจุดคิดเงิน และถือกระปุกใส่โยเกิร์ตในมือ โดยไม่มีถุงหิ้วสมใจ พนักงานได้หยิบสินค้าของลูกค้ารายถัดไปมาคิดเงิน เห็นว่า เธอถือขวดน้ำดื่มขนาดเล็กมาหนึ่งขวดเท่านั้น รอบนี้พนักงานได้รีบถามลูกค้าว่า จะใส่ถุงมั้ย ... และแล้วก็มีคำตอบดังมาแว่ว ๆ ให้ได้ยิน "เอิ่ม...ใส่ ก็ได้ค่ะ" 
อย่างไรก็ตาม เราก็อาจเห็นในบางที่บางรายใช้วิธีติดสติ๊กเกอร์ หรือแถบกระดาษกาวที่ประทับตราบอกเป็นสัญลักษณ์ว่า 'จ่ายแล้ว' ลงบนสินค้าหากลูกค้าไม่ต้องการให้พนักงานใส่ถุงพลาสติกให้ หรืออาจมีแต้มพิเศษสะสมลงยังบัตรสมาชิก เพื่อเป็นแรงจูงใจอีกทาง แม้ว่าสิ่งที่เคลือบ หุ้ม ห่อ สินค้า นั้น ๆ จะมีพลาสติกแฝงมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่มันก็ยังดีกว่าไม่เริ่มต้นทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันล่ะเนอะ ในส่วนของทางเลือกใหม่ เราชอบแนวคิดอย่าง Bulk Market ที่ให้ลูกค้า นำเอาบรรจุภัณฑ์มาใส่เอง คงจะดีถ้าสักวันหนึ่งมันจะเป็นที่นิยมในเมืองไทย
ที่เราถึงหยิบยกเรื่องนี้มาเขียนนั้น ก็ไม่ใช่เพราะใครไปเข้าฝัน แต่ว่าก็เป็นเพราะเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตามที่ได้เล่าไปในตอนต้น หลังจากวางของคิดเงินกับพนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง...ว่าไม่รับถุงฯ เชื่อมั้ย ปฏิกิริยาของพนักงานได้เปลี่ยนไปแล้ว (*หมายถึง จากที่ต่าง ๆ ในบ้านเราโดยรวม ซึ่งไม่ใช่ร้านใดร้านหนึ่ง)
"ไม่รับถุงนะคะ" เธอย้ำอีกรอบ
"ค่ะ ถือออกไปแบบนี้เลย" กระเป๋าผ้าที่พกมามันเต็มแล้ว และใส่ของได้แค่ บางอย่าง แต่ว่าอีกสองชิ้นที่เหลือมันถือได้ไม่หนักอะไรมาก จากนั้นพนักงานก็กดบันทึกอะไรบางอย่างลงไปหลังจ่ายเงิน ก่อนที่จะส่งใบเสร็จพร้อมเงินทอนให้ เราเพิ่งสังเกตว่ามีการลงบันทึก ในใบเสร็จด้วยว่าไม่รับถุงใส่ของ
"งั้นฝากเรื่องการงดให้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ในวันที่ 4 ธันวาคม นี้ด้วยนะคะ"
จากนั้นเธอส่งกระดาษใบเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งมาให้ พร้อมบอกให้ช่วยไปบอกกับ เพื่อน ๆ ญาติ พี่น้อง หรือคนใกล้ตัว สำหรับการเตรียมนำถุงผ้า ตะกร้า ไปใส่ของหากวันนั้นต้องออกมาจับจ่ายสินค้า ข้อความบนนั้นเขียนถึง การงดให้ถุงพลาสติกหูหิ้ว เนื่องในโอกาส วันสิ่งแวดล้อมไทย (และวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่ง- แวดล้อมหมู่บ้าน) มีตราสัญลักษณ์ของห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ หลายราย ที่เข้าร่วมโครงการที่ว่านั้นด้วย
อาจจะเป็นหนึ่งวัน ที่ดูแปลก ๆ
แต่หากใครคิดว่ามันสั้นจนเกินไป ทำไมไม่ออกกฏบังคับ หรือว่า จขบ. ลงรูปเล็กเกินเหตุ จนมองไม่เห็นโลโก้ ว่ามีร้านไหนบ้างนะ ที่เข้าร่วมโครงการ ฯลฯ
ของแบบนี้ไม่ต้องมีข้ออ้างเยอะ ขอแค่ลงมือทำก็พอ
เอ๊า....พร้อมมั้ยยยย???
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2561 |
|
18 comments |
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2561 22:12:52 น. |
Counter : 962 Pageviews. |
|
 |
|
ที่ไทยทำได้ยากครับ เราเป็นประเทศบริการ บางครั้งมันก็บริการมากเกิน เอาใจลูกค้าเกินจนเป็นภาระกับสิ่งแวดล้อม