มึนไปตามใจฝัน
<<
เมษายน 2561
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
8 เมษายน 2561

6 7 8 เมษา โทรศัพท์ ฟอร์จูน ห้วยขวาง รถเมล์ และคนเอ๋อ



  6 7 8 เมษา ปี 61 นี้ เป็นวันหยุดยาว 3 วัน

โดยปกติผมมักจะไปเที่ยว

บางครั้งก็ไปยาวๆ ควบสงกรานต์

บางครั้งก็สั้นๆ แล้วสงกรานต์ก็ไปอีก

แต่ปีนี้ ไม่ค่อยออกไปเที่ยวไหน

ความขี้เกียจคือคำตอบที่ไม่ต้องการเหตุผลใดสนับสนุน


วันหยุดสามวันนี้สิ่งที่ตั้งใจคือจะทำแผนเที่ยวรัสเซียให้เสร็จ

เพราะ "ขี้เกียจ" มานานมาก ซึ่งมันควรจะเสร็จตั้งแต่มีนา

จะได้จองที่พัก และรถไฟ

แต่แอบส่องอยู่ที่พัก และรถไฟ ยังมีด้วยแหละ ก็เลยติดนิสัยเดิม

คือเอ้อระเหย รอจนใกล้จริงๆ ค่อยรนรานกระตือรือร้น

ซึ่งในวัย 36 ปีนี้นั้น ความน่ากลัวคือนิสัยนี้มากกว่าแต่ก่อนมาก

เมื่อก่อนยังสนุกกับการวางแผนเที่ยว เตรียมการ

หรือบางครั้งก็สนุกในการค้นข้อมูลที่เที่ยวเตรียมไว้เล่นๆ

เคยจินตนาการว่าเราจะมีคลังข้อมูลเพียบ

แต่นั่นแหละ ทำได้สักพัก ก็เหมือนเดิม "ขี้เกียจ"


เล่ามายืดยาว อยากจะบอกว่า ความขี้เกียจ นั้นร้ายกาจมากเลยนะ

เพราะทำให้หยุดสามวันนี้ไม่ได้วางแผนสำเร็จตามที่ตั้งใจ

(แต่เดี๋ยวนะมันใช่เหรอวะ)

ก็ออกจะใจร้ายเกินไปที่จะโทษเพราะความขี้เกียจอย่างเดียว

จริงๆแล้วมันมีตัวแปรสำคัญมากๆ ที่ทำให้สามวันนี้เละเทะไปหมดเลย!

แล้วสิ่งนั้นก็คือ โทรศัพท์ motorola g5s เสียจ้าาาาาาาาาาาาา


"โทรศัพท์เจ้าปัญหา"

เมื่อนึกๆดู ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันแค่โทรศัพท์เสียมันจะสร้างหรรษา ให้ตัวเองได้ขนาดนี้

คือโทรศัพท์มันเริ่มมีอาการเสียมาพักนึงแล้ว

อาการคือ ปุ่มด้านข้าง ที่เป้นตัวเพิ่ม/ลด เสียง และ ปุ่ม เปิด/ปิด เครื่อง มันค้าง

กดไม่ได้ แล้วบางทีก็เหมือนจะกดเอง

แรกๆก็พอทนได้ สักพักมันสร้างความหงุดหงิดเหมือนกัน เพราะจอค้าง(เพราะกดปิดไม่ได้)

ถึงขั้นต้องตั้ง sleep ให้เครื่อง 15 วิ เพื่อให้มันพักหน้าจอ

แต่ถึงจะทำแบบนั้น ในบางครั้งก็ไม่ได้ผล เพราะบางทีมันก็ไม่ยอมพักจอ

เรียกว่า ปัญหาที่ดูเหมือนจะเล็กๆน้อยๆ แต่มันก็ดูน่ากลัวนะ

โทรศัพท์ที่จอทำงานตลอด เพราะมันก็เป็นไปได้สูงว่าอาการนี้จะสร้างความเสียหายอื่นๆกับเครื่อง

ก็คิดว่าหยุดสามวันนี้ หาเวลาไปซ่อมหน่อยละกัน

อันที่จริง เคยอาการเสียมาก่อน แต่หนักกว่า คือไปค้างที่ปุ่มปิด/เปิด

ทำให้เครื่อง restart ตัวเองตลอดเวลา วนไปเรื่อยๆ หลอนเหี้ยๆเลยละ

เลยนำไปซ่อมอยู่ที่ตึกฟอร์จูน

ตอนนั้นรอประมาณ 30 นาที ช่างเขาก็ซ่อมให้ได้ ปุ่มด้านข้างก็นุ่ม ใช้งานได้เป็นปกติ

ครั้งนี้ก็คิดเอาเองว่าเป็นแบบนั้น

เลยไม่ได้โทรไปถามอะไร (แต่ครั้งแรกโทรไปถามก่อน)

ก็เลยชิลมาก นัดเพื่อนกินข้าว เดินเล่น

ตอนบ่ายสี่เพื่อนมาส่งก่อนแยกดินแดง ซึ่งใกล้ฟอร์จูนมากๆ

และแล้วเรื่องที่เหนือความคาดหมายก็เกิดขึ้น...


"13"

ทราบมาว่าชาวต่างชาติมองว่าเลข 13 เป็นเลขอับโชค

แต่สำหรับผมนั้น มันก็แค่ตัวเลข

ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะอับโชคอะไร

แต่เหตุการณ์เมื่อวันก่อน ผมเชื่อแล้วว่าเลข 13 มันเป็นเลขอับโชค!

เพราะว่าผมแค่ขึ้นรถเมล์สาย 13 ความวุ่นวายในชีวิตก็รุมเร้าพากันเข้ามา

ราวกับจะสั่งสอนผมว่า นี่ไงละ ไม่ระมัดระวังเลข 13 คนอย่างมึงต้องโดนซะ

(เอ่อ.. ใครที่อ่านถึงตรงนี้อย่าทะลึ่งเชื่อว่า ผมคิดแบบนี้จริงๆนะครับ -_-')

กลับมาที่วันนั้นต่อ

ตอนที่รถเมล์สาย 13 วิ่งมาจอดที่ป้าย

จริงๆ ตอนจะขึ้นรถเมล์สายนี้

ผมก็ชะงักตรงป้ายข้างรถ พยายามดูว่ามันวิ่งไปที่ไหน

เห็นมันเขียนห้วยขวาง แต่ไม่เขียนที่อื่น

ผมซึ่งเข้าใจไปเองว่า รถมันคงวิ่งตรงไปผ่านฟอร์จูน พระราม 9 และ ห้วยขวาง (คิดแบบรถไฟใต้ดินอะ ซึ่งผิดเต็มๆจ้า)

แล้วคนขับก็ตะโกนมา ขึ้นไหมครับ

เราก็เชื่อคนง่าย ขึ้นเลย และนั่นแหละ มหกรรมหรรษาก็เริ่มขึ้น


"หลงกรุง"

รถเมล์วิ่งตรงไปแล้วก็เลี้ยวซ้าย

แต่ไม่ได้เลี้ยวซ้ายเข้าฟอร์จูน

ไปเลี้ยวเข้าถนนประชาสงเคราะห์ ซึ่งเกิดมาไม่เคยไปย่านนี้เลย

จะว่าชื่อถนนก็ไพเราะ "ประชาสงเคราะห์" แต่ทำไมใจร้ายกับเราวะ ;(

พอรู้ตัวว่ารถผิดทาง

ถ้าเป็นคนปกติ ก็คงลงรถและกลับไปที่เดิม

แต่นั่นใช้กับคนพิเศษ (เพี้ยน ปัญญาอ่อน นั่นแหละ) แบบผมไม่ได้

นั่งต่อจ้า กะว่า ไม่เป็นไร นั่งรถเล่นไปห้วยขวาง แล้วค่อยย้อนมาฟอร์จูนก็ได้

เพราะยังเชื่อว่ามันย่านๆเดียวกัน

จริงๆมันก็ย่านเดียวกันแหละแต่ถนนมันยุบยับ ซอยและชุมชนอยู่เพียบ

ไม่ใช่ถนนหลักแบบที่เราเข้าใจ

ผมนั่งชิลไปสักพัก กระเป๋ารถเมล์ก็บอกว่า "รถหมดระยะ" แล้ว

คุณจะไปลงที่ไหนครับ

ผมก็ตอบไปตามตรงว่า จริงๆขึ้นผิดครับจะไปฟอร์จูน

แต่กะว่าให้รถไปถนนหลัก แล้วค่อยนั่งรถเมล์ย้อน

เขาเลยบอกว่า มันไม่ผ่านนะ ให้ลงและไปขึ้นฝั่งตรงข้ามนั่งสาย 54 ไปรัชดา

ก็ทำตามเขา รอรถสักพัก เปิด Viabus

แอฟ ที่บอกเราว่ารถเมล์จะมาเมื่อไหร่ และไปไหนได้บ้าง

ถึงตอนนี้ผมก็รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต

ทำไมมึงไม่เช็คก่อนขึ้นตั้งแต่แรกวะ -_-'

นั่นสิ ผมก็งงตัวเองเหมือนกัน...

แต่ปัญหามาละเราก็แก้ไป

รถเมล์สาย 54 มี GPS แจ้งในแอฟ แจ้งว่ากำลังมา

พอได้ขึ้นสาย 54 ก็ชิลต่อ รถออกมาสู่ถนนหลัก รัชดา สักพักก็ได้ยินกระเป๋ารถเมล์บอกว่า

รถถึงรัชดาแค่ป้ายนี้นะ

ไอ้นี่ก็ยังชิลๆ

สักพักรถเลี้ยวซ้ายไปถนน เทียมร่วมมิตร

นี่ต้องวิ่งไปกดกริ่งขอลง T_T

สรุปหลงมาตรง ศูนย์วัฒนธรรม

ด้วยความกลัวว่าจะหลงอีก เลยเดินแม่งเลย

(ล้อเล่นนะ จริงๆ ตรงนี้เคยมาเลยรู้ว่าไม่ไกลแล้วละ)



"โทรศัพท์"

ไปถึงฟอร์จูน 5 โมงกว่าๆ หลงไปชั่วโมงกว่าๆ

พอไปถึง ศูนย์โมโตบอกว่า รอเครื่อง 4 ชั่วโมง

ช็อคยิ่งกว่าตอนลืมเปิดแอฟ viabus อีก!

เคยรอรับได้เลย ไม่คิดว่าจะต้องทิ้งเครื่องไว้

เขาบอกว่าเป็นนโยบายใหม่

ตอนนี้รับเครื่องต้อง reset เครื่องด้วยให้แบล็คอัพ

ตอนแรกก็ลังเลว่า มาใหม่พรุ่งนี้ละกัน ไม่ได้เตรียมใจ

คิดไปคิดมา จบด้วยที่คำว่า "ช่างแม่ง"

เลยทิ้งเครื่องไว้ ไม่แบล็คอัพด้วย

ในใจก็คิดว่า ซื้อเครื่องใหม่แม่งเลยละกัน!

(คนมีสติดีๆไม่ควรทำอะไรแบบนี้นะ)



"ไม่หลง แต่จำผิด"

เสร็จจากฟอร์จูน ก็คิดว่าจะไปซื้อโทรศัพท์ที่มาบุญครอง

นี่ก็เป็นนิสัยที่ไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่

คือมักจะติดกับความเคยชิน เคยซื้อที่มาบุญครองแล้วโอเค

ไม่เคยมีปัญหา (ส่วนเครื่องที่มีปัญหานี่ซื้อที่งานมือถือ ศูนย์สิริกิต)

ครั้งนี้ก็เลยเดินทางไปซื้อที่นั่น

ไปยังไง เดินไปจ้า กะว่าจะเดินไปตรงแยกแล้วไปต่อรถเมล์

แต่ยิ่งเดินก็ยิ่งมัน (จริงๆแม่งไม่ค่อยมีรถเมล์ด้วยแหละ)

ก็เดินไปถึงแยกประชาสงเคราะห์เจ้ากรรมเก่าของเราเมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้ว

คราวนี้มีสาย 54 อันนี้จำได้ว่าผ่านสยาม

เลยขึ้นไป ทุกอย่างก็ไปด้วยดี

แต่อีกแล้วจำผิดครับบบบบบบบบบบบบบ คือรถผ่านสยามจริง

ผมไปจำว่ามันวิ่งสยามแล้วตรงไปมาบุญครอง

จริงๆมันเลี้ยวไปราชเทวี

ก็เอ๋อแดกอีกครั้ง

ก็ต้องเดินย้อนจากราชเทวีมาบุญครอง



"โทรศัพท์ (ใหม่)"

ไม่มีอะไรเล่ามากเล็งอยู่ 30 นาที ไปลองๆจับๆ

ดูสเปค ราคา เอา หัวเหว่ย nova 2i

ราคา 6650 ราคาโอเค ดูน่าใช้

กลับมาบ้านก็วุ่นกับการลงแอฟ ใหม่นั่นนี่

จะว่าไปการมันวุ่นวายอยู่เหมือนกันแฮะ

เพราะต้องล็อคอินใหม่ ทั้ง fb, line และบรรดาแอฟธนาคาร

โดยเฉพาะแบงค์กรุงเทพ ดูวุ่นวายนิดหน่อย คือต้องไปขอโค๊ดกับตู้ ATM

ก็จบไปอีกหนึ่งวัน



"7 เมษา"

ไม่มีอะไรมาก ขี้เกียจ ตอนแรกจะไปรับโทรศัพท์แต่ก็ขี้เกียจ

กลางคืนมาเซิร์ทหาที่เที่ยวรัสเซีย ซึ่งดูเป็นประโยชน์หน่อย

อ้อ ช่วงเย็นมีออกกำลังกายและทดสอบโทรศัพท์ใหม่

ก็ประทับใจดี จบไปหนึ่งวัน


"ห้วยขวางฉันรักแกรรร"

8 เมษา สิ่งที่คิดว่าจะทำ

ออกไปดูหนัง 2 เรื่อง

และไปรับโทรศัพท์

ความเป็นจริงคือ

โอ้เอ้ จนคิดไปดูหนังรอบเช้าไม่ทันแน่ๆ

เลยเปลี่ยนแผนไปรับโทรศัพท์ก่อน แล้วค่อยดูหนังรอบเที่ยง

อันที่จริง จากบ้านมีรถเมล์ถึงฟอร์จูนเลยนะ

สาย 529 แต่มันเป็นสายที่ 1 เดือน คุณอาจจะได้เจอมันสักครั้ง

(แน่นอนสายนี้ไม่ติด gps ในระบบจ้า ไม่รู้เลยว่ามันวิ่งไม่วิ่งหรือจอดเล่นที่ใดในโลกนี้)

แล้วที่ตลกร้ายคือ วันที่ 6 ผมได้ขึ้นมันแล้วนะ ไอ้รถเมล์ในตำนาน 529 เนี่ย

แต่ตอนนั้นไปต่อรถตรงวงเวียนใหญ่ ไม่ได้ไปฟอร์จูนตั้งแต่แรก

ก็เลยนั่งรถ 140 ไปลงประตูน้ำ เพราะรู้ว่าตรงนี้มีหลายสายอยู่

แล้วก็นึกได้ว่า เออ โทรศัพท์ใหม่ยังไม่ได้ลงแอฟ viabus เลยนี่หว่า

รถมาถึง ประตูน้ำ

ก็เปิดกูเกิ้ล จิ้มไปที่ป้ายรถเมล์ตรงฟอร์จูน

กูเกิ้ลบอกว่ามี 73 74 …

เห็น 74 มาพอดี เลยขึ้น

พอขึ้นก็ถามกระเป๋าว่า ผ่านฟอร์จูนไหม

กระเป๋าบอกผ่าน

โอเคสบายใจไป

รถวิ่งมาแล้วเลี้ยวขวาไปอนุเสาวรีย์

ตอนนั้นผมก็ "เอาแล้วไง" กูโดนอีกแล้วใช่ไหม

แต่ก็ยังคิดในแง่ดีว่า คงไม่เป็นไร นั่งรถเมล์เล่นไปละกัน

เดี๋ยวอ้อมมาฟอร์จูนก็ได้ เวลายังเหลือ

รถก็วิ่งไปสะพานควาย ตัดเข้าห้วยขวาง

อันนี้คือแบบ ร้องในใจเลยนะ "เหี้ยยยย ห้วยขวางอีกแล้วเรอะ"

แต่ความเหี้ยไมได้จบที่ในใจ

เมื่อกระเป๋ารถเมล์มาบอกว่า "รถหมดระยะคะ"

เดี๋ยวนะ นี่มันห้วยขวางนะ มันยังไม่ถึงฟอร์จูนที่บอกกูเลยนะเว้ยยย

แต่ก็ยอมแต่โดยดี -_-' คือรู้สึกว่าตัวเองโง่เองแหละ

พอลงมาก็เจอคนใส่ชุดขาว ของ ขสมก

ถามเขาว่าไปฟอร์จูนจากที่นี่ยังไง เขาแนะนำว่าให้เดินไปอีกนิดแล้วขึ้นสาย 73

มันก็เจ็บช้ำเหมือนกันนะ

ที่ประตูน้ำก็มีสาย 73 ให้ขึ้น

ทำไมกูต้องเสร่อมาขึ้นที่ห้วยขวางเนี่ยยยย


"ดูหนัง"

หลังจากนั่ง 73 ก็มาถึงฟอร์จูน รับโทรศัพท์

ที่เขาแจ้งว่าเปลี่ยนฝาหลังให้ทั้งชุดเลย

ก็หวังว่าจะไม่ต้องซ่อมอีกนะ ว่าจะยกเครื่องนี้ให้แม่ใช้

จากนั้นก็นั่งรถเมล์ไปสยาม

โดยเดินออกมา ที่ถนนพระราม 9 และขึ้น 54

มาถึงสยาม ก็ซื้อตั๋วหนัง Snow white เป็นหนังการ์ตูนเก่าคลาสิค

ของโครงการมูลนิธิหอภาพยนตร์ไทย

ตอนแรกว่าจะไม่ดู แต่คิดอีกทีมันหาโอกาสดูยาก

ก็ดูๆไปเหอะ

แล้วก็ซื้อตั๋วโครงการหน้าอย่าง Apocalypse Now


สำหรับ Snow white มีจุดที่ประทับใจคือภาพ

บูรณะภาพได้สวยใหม่มาก

ส่วนเนื้อเรื่องก็นะ สำหรับผมนี่ไม่ได้ชอบเท่าไหร่

บุคคิลของ Snow white กับเจ้าชายนี่ ไม่น่าไปกันได้กับยุคสมัยนี้แล้ว

ยุคนี้คงนิยามง่ายว่า "พวกโลกสวย"

แต่เมื่อคิดๆแล้ว ผมพบว่า บางครั้งเราต้องทิ้งทัศนะคติเดิมของเรา

แล้วรับสาระประโยชน์ หรือคุณค่าด้านอื่นๆ ที่จะหาได้จากภาพยนตร์ที่เราดู

อันที่จริงก่อนฉายเรื่องนี้ มีภาพยนตร์ขนาดสั้น

เป็นโฆษณาของ หอภาพยนตร์

โดยมีภาพจากหนังที่ได้รับขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์รวบรวมไว้

ซึ่งน่าประทับใจมากๆ

….คุณค่าของการดู snow white ในครั้งนี้ก็คือการได้ดูโฆษณาตัวนี้นี่แหละ

(เขียนกระแดะๆไปงั้น จริงๆ Snow white ก็สนุกดีแหละ เด็กๆในโรงก็งอแงบ้างเล็กน้อยแต่ไม่มากนัก)


หนังเรื่องต่อมาที่ดู ตอนแรกลังเลระหว่าง Ready Player One

กับ Quiet Place

เลือก Quiet Place เพราะขี้เกียจรอ นั่นเอง

ถ้าดู Ready ต้องรอชั่วโมงกว่าๆ


ส่วน Quiet Place นี่ก็ชอบนะ

ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นหนังทีดูสนุก และโชว์ความสามารถในการเล่าเรื่องของคนทำหนัง

มันคล้ายๆ The Shallows นะ

ในแง่สูตรหนังที่ไม่ได้มีอะไรมาก

คือให้ข้อมูลความน่ากลัว หรือวางระเบิดให้กับคนดู แล้วเล่นกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

ให้คนดูลุ้นว่าระเบิดจะเกิดขึ้นตอนไหน

The Shallows คือฉลามใต้น้ำบ้าคลั่งและนางเอกในติดอยู่กลางทะเล

ส่วน Quiet Place คือเอเลี่ยนที่เราห้ามส่งเสียง และมีครอบครัวตัวเอกดำเนินเรื่อง

ตอนก่อนจะดู มีเพื่อนแซวว่าหนังการเมือง

คือจะคิดในแง่มุมนั้นมันก็ได้นะ ฮ่าๆ


"ตอนจบของวันนี้"

ดูหนังจบสองเรื่อง

ก็กลับบ้าน ตอนแรกกะว่าจะเดินไป ตรงประตูน้ำขึ้น 140 จะได้กลับบ้านไวๆ

เพราะจำได้ว่าช่วงเย็น 141 กับ 21 ตรงสยามคนจะเยอะ

เหมือนช่วงเย็นเขาจะมีแข่งม้าอะ จะมีคนแก่ๆ ขึ้นรถมาเพียบ

แต่ตอนเดินผ่านป้ายรถเมล์ สาย 21 โล่งๆโผล่มา

เลยขึ้นทันที

และแล้วความบ้าบอก็ตามมาหลอกหลอน

รถเมล์โดนชนซะอย่างงั้น

ยังดีที่รอไม่ได้นานมาก ก็มีรถใหม่มา เป็นรถแอร์ด้วย เขาก็เลยให้ขึ้นฟรี

และก็ต่อรถกลับบ้าน

อย่างที่เขียนมายืดยาวววว เรื่องราวมันบ้าบอดีเหมือนกัน

เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ

แต่ถ้าอ่านดีๆ ก็จะรู้ว่าต้นเหตุที่แท้จริงคืออะไร

เลข 13 เหรอ - ไม่!

โทรศัพท์พัง - ไม่!

……จะใครละ ก็กูนี่แหละ ตัดสินใจเองทุกอย่าง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สวัสดี หยุดยาว 3 วันปี 2561!




 

Create Date : 08 เมษายน 2561
1 comments
Last Update : 8 เมษายน 2561 21:54:35 น.
Counter : 4223 Pageviews.

 

แวะมาทักทายจ้าา ^__^ อิอิ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4507140 29 เมษายน 2561 13:24:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


วัชเจียเหว่ย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add วัชเจียเหว่ย's blog to your web]