bloggang.com mainmenu search
✿ อาหารบ้าน ๆ ที่บ้านเนินน้ำ : หมูสร่ง ✿



วันนี้มีเมนูอาหารว่างมาฝากกันค่ะ 
เป็นเมนูที่ทำไม่ยากแต่ต้องใช้ความใจเย็น เพราะมีกระบวนการที่พิถีพิถันพอสมควร
ไม่ว่าจะเป็นการสาวเส้นหมี่ซั่วหลังจากการลวกแล้ว ถ้าใจร้อนเส้นอาจจะขาดได้
เพราะการพันเราจะใช้หมี่ซั่วเส้นยาวเท่านั้น  ขาดไม่ได้เพราะขาดแล้วจะต่อไม่ได้
วิธีการพันเส้นไม่ยากแต่พันให้สวยไม่ง่ายโดยเฉพาะชิ้นแรก  
การพันจะใช้หมี่ซั่วกี่เส้นก็ได้  ส่วนตัวคิดว่าพัน 3 เส้นกำลังสวยค่ะ


วิธีการทำเริ่มจากใช้เนื้อหมูสับ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศเพิ่มความหอมและรสชาติตามที่ชอบ
นำมาปั้นเป็นก้อนกลม จากนั้นจึงค่อย ๆ พันด้วยเส้นหมี่ซั่วให้เหมือนลูกตระกร้อ
แล้วจึงนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ทานกับน้ำจิ้มไก่หรือน้ำจิ้มบ๊วย
ปล.วันนี้ผักสีเขียวรองจานไม่มี ซอยกระหล่ำปลีแทนไปก่อนค่าาาา








ส่วนผสมและวิธีทำ
หมูสับ 300 กรัม
รากผักชี 2 ช้อนชา
กระเทียม 1 ช้อนชา
พริกไทย (เราใช้พริกไทยดำ) 1 ช้อนชา
เกลือ 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนชา
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
หมี่ซั่ว 1 ก้อน
ไข่ไก่ 1/2 ฟอง (เราใช้ไข่ขาวอย่างเดียว)
น้ำมันสำหรับทอด



1.  โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยรวมกันให้ละเอียดเตรียมไว้






2. ใส่หมูสับในชามผสม ใส่เครื่องที่โขลกไว้ ใส่เครื่องปรุงต่าง ๆ ใส่ไข่นวดให้เหนียว
นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาทีแล้วนำออกมาปั้นเป็นก้อนกลม





















3.  ตั้งน้ำให้เดือด ใส่หมี่ซั่วลงต้มแต่พอให้เส้นคลายตัว ไม่ต้องถึงกับนิ่ม ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
ไม่ต้องผ่านน้ำเย็นเพราะจะทำให้เส้นอมน้ำ เวลาพันอาจจะทำให้เส้นขาดง่าย
พักไว้พออุ่น นำมาสาวเส้นเตรียมไว้สำหรับพัน












4.  นำหมูที่ปั้นไว้มาพันด้วยหมี่ซั่วที่ลวกไว้  เราใช้จำนวน 3 เส้นในการพัน
วิธีการพันไขว้ไปรอบ ๆ หมูที่ปั้นไว้  และเก็บปลายหมี่ซั่วด้วยเพื่อไม่ให้หลุดขณะลงทอด
การเก็บปลายใช้การสอดลงใต้เส้นที่พันไว้ก่อนหน้าค่ะ (ใช้ไม้จิ้มฟันช่วย)












5.  ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อนไฟปานกลาง  ใส่หมูที่พันหมี่ซั่วลงทอดให้เหลือง
ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน

















6.  จัดใส่ภาชนะเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่หรือน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย
























ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะคะ  แล้วพบกันใหม่เมนูต่อไปค่ะ
Create Date :22 ธันวาคม 2560 Last Update :5 เมษายน 2561 15:02:20 น. Counter : 10500 Pageviews. Comments :53