bloggang.com mainmenu search


"ความมืดมนกับดอกไม้แดง"
ภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพฯ ที่ทรงวาดจากบทกวีนี้
ภาพจากหนังสือ "เทพรัตนบรรณศิลป์"







"หยกใสร่ายคำ" หนังสือชื่อแสนจะไพเราะ เป็นพระราชนิพนธ์แปลบทกวีจีนใน สมเด็จพระเทพฯ เราชอบหนังสือเล่มนี้มาก เพราะไม่เพียงจะได้รู้จักบทกวีของจีนที่มีชื่อเสียง ยังได้รู้ความหมายจากคำแปลที่สละสลวย มีคำอ่านให้เรียบร้อย นอกจากนี้ ท้ายเล่มยังมีภาคผนวกที่พระองค์ทรงเล่าถึงประวัติของบทกวีในเล่มด้วย


ทีแรกกะว่าจะรวมบล็อคนี้ไว้ในบล็อคพู่กันจีน แต่คิดไปคิดมาขึ้นหัวข้อบล็อคใหม่ดีกว่า เพราะกะว่าจะลงบทกวีให้หมดทั้งเล่มเลย ทั้งหมดมี ๓๔ บท แต่คงจะมีไม่ครบ ๓๔ บล็อค บทที่สั้น ๆ ก็จะรวมไว้ในบล็อคเดียวกัน ไว้จะหาเวลาว่างค่อย ๆ คัดพู่กันจีนแล้วทะยอยอัพให้อ่านกันค่ะ









รุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ โดย เม่งเฮ่าหราน


ในฤดูใบไม้ผลิ นอนจนไม่รู้ว่าเช้า

ทุกหนทุกแห่ง ได้ยินเสียงนกร้อง

กลางคืนมาถึง มีเสียงลมและฝน

ดอกไม้ร่วงไม่รู้ว่าเท่าใด

















จีนเด็ดดอกไม้
พระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ



ชุนเทียนนอนได้ไปถึงเช้า
ทุกแห่งเราได้ยินปักษา
ค่ำคืนเสียงลมฝนพัดเบาเบา
ดอกไม้ร่วงไม่รู้ว่าเท่าใด


จะปล่อยร่วงไปไยเสียดายนัก
เพื่อนรักผู้มีจิตใจแจ่มใส
จะเด็ดดมรมย์รื่นชื่นหทัย
บุปผาคือน้ำใจไมตรี


สุขล้ำสัมพันธ์ฉันมิตร
พาชีวิตเรืองรุ่งมุ่งเกียรติศรี
ดอกไม้หลากหลายหลากมากมี
แต่ล้วนงามดีไม่แพ้กัน


จะเป็นจีนเป็นไทยใช่ใครอื่น
จะชมชื่นผูกจิตสนิทมั่น
เด็ดผกาผูกแทนใจผูกพัน
แบ่งปันประดับเรือนเตือนตาเอย




หมายเหตุ



สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงมีลายพระหัตถ์ถึงพระสหายคนหนึ่ง และทรงกล่าวถึงซึอ "ชุนเสี่ยว" ของเมิ่งเฮ่าหรานว่า "เราชอบบทกวีบทนี้ อ่านแล้วรู้สึกว่าอากาศสดชื่นสบายดี บรรยากาศยามเช้าตรู่ ตอนที่เราไปออสเตรเลีย ไปพิพิธภัณฑ์ จำไม่ได้แล้วว่าที่ไหน ในห้องที่เก็บศิลปวัตถุจีน เขาเขียนบทกวีบทนี้ติดไว้ที่ฝาห้อง แสดงว่า เป็นบทกวีที่มีชื่อเสียง" (ลายพระราชหัตถ์ลงวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓o ซือเป็นบทกวีประเภทหนึ่งของจีน)

ด้วยเหตุนี้ เมื่อกำนันสำราญ เกิดผล วงดนตรีพาทยรัตน์ ขอพระราชทานบทร้องประกอบ เพลงจีนเด็ดดอกไม้ เถา ซึ่งเป็นเพลงเก่าเพลงหนึ่งของวังบางขุนพรหมและเป็นเพลงสำเนียงจีน จึงทรงนำบทแปลซือ "ชุนเสี่ยว" ซึงทรงแปลไว้หลายปีแล้วมาแต่งเป็นเป็นกลอนบทแรกของเพลงนี้ คำว่า "ชุนเสี่ยว" แปลว่า "รุ่งอรุณแห่งฤดูใบไม้ผลิ" (ชุน = ฤดูใบไม้ผลิ เสี่ยว = ย่ำรุ่ง รุ่งอรุณ)

บทกวีนี้กล่าวถึงคืนหนึ่งในฤดูชุนเทียน (ฤดูใบไม้ผลิ) ซึ่งอากาศดี ทำให้นอนสบายกว่าฤดูอื่นจึงหลับไปถึงเช้า โดยไม่ทราบว่าตอนกลางคืนระหว่างที่หลับไปนั้นมีลมฝนพัดมา ทำให้ดอกไม้ที่บานในฤดูใบไม้ผลินั้นร่วงหล่นไปเป็นจำนวนมาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเคยอธิบายให้พระสหายฟังว่า "บทกวีนี้บางคนบอกว่าเป็นการเปรียบเทียบเหมือนคนเรานอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว ชีวิตคนอื่นจะยากลำบากอย่างไรเราก็ไม่รู้"

ส่วนบทร้องอีก ๓ บทต่อมานั้นทรงพระราชนิพนธ์ต่อเดิมซือ "ชุนเสี่ยว" เพื่อขมวดให้เข้ากับชื่อเพลง "จีนเด็ดดอกไม้" รับสั่งว่าเขียนไปเขียนมาก็วกมาเป็นว่า ดอกไม้ทั้งหลายล้วนเป็นของดี ใช้เป็นเครื่องแสดงน้ำใจไมตรีได้อย่างดีเลิศ เลยกลายเป็นเด็ดดอกไม้แบ่งปันกัน สานสัมพันธ์ไมตรีจีนกับไทย

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชนิพนธ์เนื้อร้อง "จีนเด็ดดอกไม้ เถา" ในต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๓

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้มีการแปลบทร้องที่ทรงต่อเติมจากบทกวีจีนทั้ง ๓ บทดังกล่าวเป็นภาษาจีน โดยรองศาสตรจารย์ Pei Xiao rui แห่งภาควิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อยู่ในขณะนั้น


บีจีจากคุณญามี่ ไลน์จากคุณเนยสีฟ้า



Create Date :13 ธันวาคม 2550 Last Update :26 มิถุนายน 2558 20:55:38 น. Counter : Pageviews. Comments :62