ให้อ่านบทกวีจีนอีกรอบ เป็นบทกวีที่มีชื่อเสียงของหลี่ไป๋ เขียนบรรยายถึงพระจันทร์ เข้ากั๊นเข้ากันกับวันลอยกระทง
"แลจันทร์"
ภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพฯ ทรงวาดจากบทกวีนี้
ภาพจากหนังสือ "เทพรัตนบรรณศิลป์"
คิดคำนึงในคืนสงบ
หลี่ไป๋
หน้าเตียงแสงจันทร์กระจ่าง
ประดุจว่าน้ำค้างแข็งบนพื้นดิน
เงยหน้ามองดูจันทร์สว่าง
ก้มหน้านึกถึงบ้านเกิด
หมายเหตุนี่เป็นกลอนบทแรกที่ข้าพเจ้าเรียน และเป็นบทที่ท่องได้คล่องจนถึงทุกวันนี้ อารมณ์ของกวีเป็นเรื่องความอาลัยอาวรณ์และผูกพันกับบ้านเกิดเมืองนอน กวีพรรณนาถึงความงามของแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาในห้อง สำหรับผู้ที่จากถิ่นของตนไปอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้า ดวงจันทร์หรือแสงจันทร์ดูจะเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยเพียงผู้เดียว เนื่องจากไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดก็ตาม ดวงจันทร์ที่ติดตามเราอยู่ตลอดเวลาก็เป็นดวงเดียวกัน อีกประการหนึ่ง วันที่พระจันทร์แต็มดวงที่กวีพรรณนานี้ อาจจะเป็นวันเพ็ญในเทศกาลอะไรบางอย่างของจีน ซึ่งเป็นช่วงที่พี่น้องและญาติสนิทร่วมสังสรรค์พบปะกัน แต่ตัวกวีกลับต้องมาอ้างว้างอยู่ลำพังในต่างแดน
กวีผู้ประพันธ์กลอนที่ซาบซึ้งกินใจบทนี้คือ ท่านหลี่ไป๋ (ค.ศ.๗o๑-๗๖๒) กวีมีชื่อแห่งราชวงศ์ถัง เล่ากันว่าหลี่ไป๋เกิดในแถบดินแดนทางตะวันตกของจีน อาจจะมีเชื้อสายชนชาติกลุ่มน้อยตระกูลเตอร์กก็เป็นได้ แต่ไปเติบโตในบริเวณที่ปัจจุบันนี้เป็นมณฑลเสฉวน เขาได้เดินทางไปตามแม่น้ำฉังเจียง และได้เข้ารับราชการในราชสำนักพระจักรพรรดิ์ถังเสวียนจงในค.ศ.๗๔๗ อยู่ได้สองปีก็ถูกไล่ออกจากวัง ใช้ชีวิตเป็นกวีขี้เมาพเนจรไปทางแถบตะวันออกและตะวันอกเฉียงใต้
เมื่อเกิดกบฏอานลู่ซาน (ค.ศ.๗๕๕) หลี่ไป๋เข้าไปพัวพันกับการเมืองอีก ถูกจับอยู่พักหนึ่ง ช่วงสุดท้ายของชีวิต หลี่ไป๋ต้องร่อนเร่ไปตามลุ่มแม่น้ำฉังเจียงจนตาย ข้าพเจ้าไม่ทราบว่า เขาประพันธ์บทกวีที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้เมื่อไร เดาก็ไม่ถูก เพราะดูตามประวัติหลี่ไป๋ต้องพลัดที่นาคาที่อยู่ตลอดเวลา
ผลงานประพันธ์ที่กล่าวกันว่าเป็นของหลี่ไป๋มีอยู่พันกว่าบท สะท้อนให้เห็นบุคลิกและแนวคิดแปลก ๆ หลากหลายของเขา บางทีก็ดูเหมือนจะเป็นแนวคิดนักปราชญ์ลัทธิขงจื๊อ แต่บางทีก็จะแสดงปรัชญาแบบเต๋า เนื้อหามีทั้งเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว นิยายพื้นบ้าน เรื่องมหัศจรรย์ บางทีก็รู้สึกว่า จะแฝงเอาความคิดที่ค่อนข้างจะลึกลับชวนให้ตีความได้แปลก ๆ เช่น กลอนบทนี้มีผู้ตีความว่าแสดงให้เห็นถึง
ไตรภาคแบบจีน ได้แก่
สวรรค์ หรือท้องฟ้า
โลก หรือแผ่นดินและมนุษย์ ปรัชญาจีนอธิบายลักษณะของสรรพสิ่งทั้งหลายเป็นสองลักษณะคือ
หยัง หมายถึงความสว่างหรือความร้อน
อิน หมายถึง ความมืด (เงา) หรือความเย็น ท้องฟ้าถือว่าเป็นหยัง และแผ่นดินเป็นอิน มนุษย์จะดำเนินชีวิตให้ราบรื่นเป็นปกติสุขก็ต้องรู้จักความสมดุลของ อิน กับ หยัง ในบทกวีใช้ดวงจันทร์เป็นสัญญลักษณ์ของท้องฟ้า
คำที่ข้าพเจ้าคิดว่าน่าสนใจคือคำว่า
(
) และ
(
)
(
) แปลว่า มองดู อาจจะหมายถึงการมองดูอย่างมีความปรารถนาหรือความหวัง และอาจจะเป็นการเล่นคำด้วยก็ได้ เพราะคำว่า
(
) นี้มีความหมายอีกอย่างว่า พระจันทร์เต็มดวง คำว่า
(
)
(
) และ
(
) ในวรรคนี้จึงมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด เพราะมีรากมาจากคำว่าดวงจันทร์ทั้งหมด และมีความหมายใกล้กัน ส่วนคำว่า
(
) ที่แปลว่า คิดถึง นั้น บทกวีจีนหลายบทเล่นคำ ระหว่างคำว่า
(
) คิดถึง กับ
(
) (เขียนต่างกันแต่ออกเสียงเหมือนกัน) ที่แปลว่า เส้นไหม แสดงความคิดถึงที่เป็นสายใยยาวนานจนตายเหมือนไหมที่ชักใยจนตัวตาย คำว่า
(
) และ
(
) อยู่ในตำแหน่งเดียวกันในวรรค ฉะนั้น จึงตีความได้ว่าเป็น การคิดถึงบ้านและมีความหวังจะได้กลับไปอีก
ฟังการตีความต่าง ๆ แปลก ๆ แล้วชวนให้คิดว่า กวีผู้แต่งตั้งใจแสดงความหมายเช่นนี้ หรือคนอ่านคิดเอาเอง เรื่องนี้คงจะพิสูจน์กันยาก แต่ก็ช่างเถอะ ผู้อ่านย่อมมีสิทธิ์คิด เพราะวรรณคดีก็เหมือนกับศิลปะทั้งหลาย ที่ต้องอาศัยศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานและผู้ชื่นชมศิลปะนั้น จินตนาการของบุคคลทั้งสองฝ่ายจะช่วยส่งเสริม "รส" ของวรรณคดีนั้นให้ปรากฏอย่างสมบูรณ์
ข้อความในบล๊อคนี้นำมาจากหนังสือ "หยกใสร่ายคำ"
บทพระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
บีจีและไลน์จากคุณญามี่
โดย: haiku 12 พฤศจิกายน 2551 22:08:54 น.
ว้าวเรื่องนี้ต้องยกให้คุณไฮกุจริงๆ ไก่ชอบภาพนกบินค่ะ
อิสระดี แตกลอนทำให้เหงานิดๆ
คุณไฮกุค่ะ อิ อิ อย่าเบื่อซะก่อน้าเพราะยังจะมาคุยเรื่องAfrica ต่อน่ะคะ
เรื่องเวลาเที่ยวส่วนใหญ่ไปอาทิตย์หนึ่งค่ะ แต่ครั้งนี้ไก่ไปสิบสองวันค่ะ
ส่วนมากเขาจะไปกันอย่างน้อยห้าวันค่ะ ไม่งั้นเสียดายเวลาค่ะ
ยิ่งถ้าต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปแล้วด้วยแล้ว
แต่ถ้าคุณไฮกุจะเที่ยวให้ทั่วอย่างน้อยต้องหนึ่งเดือนค่ะ
นี่ไม่รวมว่าต้องบินไปที่Cape town นะคะ
ซึ่งที่นั่นสวยมากๆ เช่นกันค่ะ แต่คนละแบบกับเพราะที่นั่นบรรยากาศทะเลค่ะ
แล้วก็ไม่อยากให้เข้าใจผิดว่ามาที่นี่แล้วต้องลุย เพราะมีหลายคก็คิดแบบนั้น
แล้วเดี๋ยวจะไม่มาเที่ยวที่นี่ น่าเสียดายแย่
การท่องเที่ยวใน Kruger National Park หรือที่south Africa
ไม่ได้สมบุกสมบัน ลุย(เละ)อย่างที่เห็นค่ะ
คนมักจะคิดว่าเที่ยวแบบนี้ต้องลุยมากๆ เลย
(เพราะไก่เองก็ไม่ลุยมากค่ะ ต้องมีระดับหนึ่งที่เป็นมาตรฐานของความสะบายเหมือนกัน)
เลยมาขอบอกว่า ไม่จริงๆ ค่ะ ยังคิดอยู่เลยว่าวันๆ ที่ไปไม่นั่งบนรถติดแอร์เย็นฉ่ำ
ก็นั่งบนเก้าอี้กับเคื่องดื่มเย็นๆ และenjoy กับอาหารการกิน
เวลาจะเดินจริงๆ จังๆ แทบไม่มี เพราะไม่ค่อยจะมีที่ให้เดิน นอกจากบริเวณที่พัก
บางวัน ไก่ไปยังใส่กระโปรงเลยค่ะ ถ้าอินๆ หน่อยก็ใส่แบบ Safari
มีรูปมายืนยันข้างล่างเลย
ที่พักก็สะดวกสบาย และระดับการเที่ยวที่นี่มีหลายแบบค่ะ
ตั้งแต่camp ไปถึงโรงแรม และlodge หรูห้าดาวค่ะ
พร้อมด้วย สปา สระว่ายน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบค่ะ
เราเลือกบริการมีทุกระดับ ตามแต่เราต้องการว่าเราอยากได้แบบไหนค่ะ
ถ้าคุณไฮกุสนใจsouth africa อยากได้ข้อมูลก็บอกมาได้นะค่ะ
ทั้งเรื่องเวลา และที่พัก และอื่นๆ เท่าที่ไก่จะรู้น่ะคะ
โดย: Sweety-around-the-world 13 พฤศจิกายน 2551 1:00:43 น.
ภาพนกบิน......สวยงาม
ป่านนี้คุณไฮกุคงหลับแล้วมั้ง
วันนี้ จันทร์สวย แต่ไม่ได้ไปครับ สงสัยเลยวัยเลยไม่ค่อยกระตือรือร้นสนใจ
จันทร์กระจ่าง...................
โดย: หมูตัวน้อย IP: 58.9.79.184 13 พฤศจิกายน 2551 2:00:28 น.
บทกวีจีนแปลยากมาก
เพราะคำเดียวมีเป็นสิบๆความหมาย
อันนี้มาดามบอกมาเพราะผมอ่านภาษาจีนไม่ออกแต่ชอบถามครับ 55555
ถามจนมาดามบอกว่า "ฉันไม่เก่งภาษาจีน" 55555
สงสัยจะรำคาญสามีช่างสงสัยมากกว่า 55555
โครงการบริจาคเกิดขึ้นไม่ได้
ถ้าไม่ได้เพื่อนๆในบล้อกช่วยกัน
ต้องขอบคุณคุณไฮกุและเพื่อนบล็อกครับ
ขอให้พรที่ดีจงบังเกิดแก่ทุกคนเช่นกันครับ
โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 13 พฤศจิกายน 2551 7:05:08 น.
ชื่นชมครับกวีท่านนี้...
โดย: pu_chiangdao 13 พฤศจิกายน 2551 10:59:02 น.
แต่เพิ่งอ่านบทกวีก็วันนี้
เหอ เหอ อ่านแล้วอินค่ะ
ภาพสวย
โดย: pandin IP: 58.8.188.252 13 พฤศจิกายน 2551 11:27:00 น.
โดย: d_regen 13 พฤศจิกายน 2551 15:55:54 น.
อ่านแล้วได้อารมณ์บางอย่าง....โดยเฉพาะ 2 วรรคแรกแรกหน่ะ
เราอ่านแล้วนึกถึงแสงจันทร์ที่สาดเข้ามา โดยมีสวนเป็นลานกว้างอยู่ด้านนอก...อารมณ์ประมาณเนี้ย...
โดย: กวางตุ้งหวาน 13 พฤศจิกายน 2551 22:39:40 น.
ขอบคุณค่ะคุณไฮกุที่ลอยกระทงเผื่อกัน
ดึกไหมค่ะเมื่อวาน ไปทำงานสายหรือเปล่าเอ่ย
แล้วมาขอบอกหน่อยนึงว่าดีใจที่คุณชอบเรื่องที่เอามาลงค่ะ
ผู้หญิงหลายๆคน ไม่ค่อยโปรดสัตว์ แต่ไก่ชอบหมดค่ะ ใจง่ายจริงๆ
ดอกไม้ ใบไม้ นำ้ ฟ้า โปรดมากๆ
แต่ก็อยากจะได้รู้ เห็นสิ่งและ ที่ ที่ต่างออกไปด้วยค่ะ
โดย: Sweety-around-the-world 14 พฤศจิกายน 2551 0:04:06 น.
นอนหลับฝันดีนะคะ
คืนนี้ป้ามาดึกปายโหน่ยยย...
วันนี้พาน้องต้นหอมปายถ่ายพยาธิมาจ่ะ
เอาน้องวุ้นเส้นกะน้องผักชีปายโด้ย
คราวหน้าจะเอาภาพมาลงนะจ๊ะ อดจายนิ๊ดดด...
ป้าเนียะคงมีรอยหยักในสมองน้อยมากกก
เวลาอ่านบทกวี..แม้จะสั้น...แต่ป้าต้องค่อยๆอ่าน
และเน้นว่าต้องช้าๆด้วย
วันนี้ป้ายังเอาบล๊อกของคุณไฮกุไปเล่าให้ป้าแมวฟังเลย
เพื่ออะไรรู้มั้ยคะ...เพื่อทบทวนตัวเอง...
และเพื่อเตือนใจป้าแมวอ่ะจ่ะ
ยิ่งยากยิ่งต้องพยายามใช่มั้ยคะ
รู้น้า...แต่มะรู้ว่าจะพยายามได้แค่ไหน...ฮี่...
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 14 พฤศจิกายน 2551 0:34:38 น.
ประดุจว่าน้ำค้างแข็งบนพื้นดิน
เงยหน้ามองดูจันทร์สว่าง
ก้มหน้านึกถึงบ้านเกิด
เพราะจัง
เคยได้ยินแต่ชื่อไม่เคยอ่านเลย
เพราะมากเลยค่ะ
ขอบคุณ haiku ที่เอามาให้อ่านนะค่ะ
โดย: ความเจ็บปวด 14 พฤศจิกายน 2551 3:39:30 น.
เคารพ ธรรมชาติ เบื้องหน้า
ภาษามีคุณค่า.. คือความเงียบ
สงบนิ่ง ในจิตใจ
(อยากทำให้ได้แบบนี้ ^ ^ )
โดย: treehouse 14 พฤศจิกายน 2551 7:35:10 น.
เขาว่า เป็นภาษาภาพ
คำว่า ภูเขา จะเขียนเหมือนภูเขา
คิดคำนึงในคืนสงบ
หลี่ไป๋.....
(ถ้าภาพใหญ่ไป ขอโทษล่วงหน้านะคะ
ลบหรือย่อ ได้เลยค่ะ ^ ^ )
เอาภาพมาฝากค่ะ
(คุณtreehouseแปะภาพซ้ำเลยขออนุญาตลบภาพไปหนึ่งนะจ๊ะ)
โดย: haiku 15 พฤศจิกายน 2551 10:31:28 น.
555 คุณไก่กะเราคงใจง่ายพอกัน เพราะชอบธรรมชาติเหมียนกันเลย ทั้งดอกไม้ ใบหญ้า น้ำ ฟ้า ชอบโม้ดดดด
แอบกระซิบ ตะก่อนไม่รู้หรอกนะคะว่าประเทศอัฟริกาใต้จะเป็นประเทศที่เจริญมาก แบบว่านึกภาพตามหนังที่เกี่ยวกับอัฟริกา ตอนหลังมาดูสารคดีถึงได้รู้ว่าเป็นประเทศที่รำ่รวยที่สุดในแถบนี้ เท่าที่ฟังคุณไก่เล่า เมืองนี้เป็นเมืองที่น่าเที่ยวไม่แพ้ใครเลยนะคะ ทั้งที่กินที่อยู่ สะดวกสบายจริงๆค่ะ
ลป. วันลอยกระทงไม่ได้ไปไหน นั่งมองพระจันทร์เต็มดวงอยู่ที่บ้านค่า
คุณหมู...ชอบรูปวันลอยกระทงของป้าวีเหมือนเราเลย
คุณหมูแวะมาตอนอิฉันกะลังสนิทนิทราเลย สองวันนี้พระจันทร์กลมโต สวยจริงๆ ขนาดตีห้าแล้วพระจันทร์ยังลอยเด่นเป็นสง่า แสงนวลง๊ามงาม
คุณก๋า...แสดงว่ามาดามของคุณก๋าก็รู้ภาษาจีนด้วยซิคะ ไม่เหมือนเรา พอเลิกเรียนก็ส่งคืนเหล่าซือโม้ดดด
ที่มาดามบอกนั่นถูกแล้วค่ะ ภาษาจีนคำเดียวมีหลายความหมาย แค่แปลภาษาธรรมดาก็ว่ายากแล้ว แต่อย่างที่สมเด็จพระเทพฯท่านแปลบทกวีนี่ต้องเรียนว่าสุดยอดแล้วค่ะ
pu_chiangdao...ขอบคุณที่แวะมาค่า ในหนังสือยังมีบทกวีของท่านหลี่ไป๋อีก ถ้าชอบก็แวะมาอ่านอีกนะคะ
อ๊อฟ...หลี่ไป๋เป็นหนึ่งในสุดยอดกวีของจีน บทกวีที่ท่านแต่งเพราะสุดยอดทั้งนั้นเลยจ๊ะ
น้องแฟง...วันลอยกระทงอยู่กับบ้านจ๊ะ พอแก่แล้วก็ขี้เกียจไปเบียดคนนอกบ้านง่ะ
ตุ้ง...ใช่ ใช่ เราก็ได้ยินชื่อหลี่ไป๋จากหนังเหมือนกัน บทกวีนี้สั้นๆแค่สี่ประโยค แต่ให้ภาพที่ทั้งงดงามและเศร้าสร้อย...เงยหน้ามองดูจันทร์ พอก้มหน้าภาพบ้านเกิดก็ผุดขึ้นมาในหัวเลย คนอยู่ไกลบ้านอ่านแล้วคงอินน่าดู
ป้าหู้...ชื่นชมคุณป้ามากนะคะ มุ่งมั่นกะการช่วยเหลือน้องเหมียวตลอดเลย
คุณป้าถล่มตัวว่ารอยหยักในสมองน้อย นู๋ว่าไม่จริงหรอก ไม่งั้นคุณป้าคงไม่แต่งบล๊อคได้สวยขนาดนั้นหรอกค่า
ฝากสวัสดีป้าแมวด้วยนะคะ
ความเจ็บปวด...ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ
อ่านบทกวีเป็นภาษาจีนก็เพราะนะคะ ลองฟังเสียงในฟิลม์ดูม่ะ
"ฉวง เฉียน หมิง เยี่ย กวง
อี๋ ซื่อ ตี้ ซั่ง ซวง
จวี โถว วั่ง หมิง เยี่ย
ตี โถว ซือ กู้ เซียง"
treehouse...ขออนุญาตลบไปหนึ่งภาพนะคะ ชอบภาพที่เอามาฝากมากเลยค่ะ ลงสีสวยจัง ขนาดกะลังสวยแล้ว ขอแฮ่บไว้ใช้เลยละกัน
ภาษาจีนถือว่าเป็นอักษรภาพค่ะ เริ่มแรกก็เขียนด้วยการวาดเป็นรูป ต่อมาค่อยๆดัดแปลงมาเป็นตัวอักษร
ท่ามกลางคืนที่สงบ
เคารพ ธรรมชาติ เบื้องหน้า
ภาษามีคุณค่า.. คือความเงียบ
สงบนิ่ง ในจิตใจ
^
^
^
คุณtreehouseเขียนเพราะได้ใจ ชอบมากเลยค่ะ
โดย: haiku 15 พฤศจิกายน 2551 10:44:47 น.
โดย: กวางตุ้งหวาน 15 พฤศจิกายน 2551 11:31:48 น.
นึกว่าออกไปลอยนอกบ้าน ส่วนแฟงไปลอยไกลบ้านตัวเองมั๊กๆ
โดย: d_regen 15 พฤศจิกายน 2551 11:34:06 น.
ผมตัดสินใจซื้อเครื่องเล่นจากร้านนี้
และเลือกชิ้นที่มีราคาแพงกว่า
เพราะดูแล้วแข็งแรงมั่นคงกว่าเยอะครับ
เ
เห็นแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งครับ
555555
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 15 พฤศจิกายน 2551 12:24:06 น.
ร่วมส่งนางฟ้ากลับสวรรค์ด้วยกันนะคะ
ในเวอร์ชั่นของ"คุณชินกร ไกรลาศ"
"เพลงส่งเสด็จพระพี่นาง"
ประพันโดย"พระราชวิจิตรปฏิภาณ"
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 15 พฤศจิกายน 2551 13:56:32 น.
แต่คงจะไม่มีอารมณ์ไหนละมุนเท่ากับการเขียนและอ่านบทกวี
ที่ไพเราะในวันพระจันทร์เต็มดวงอย่างคืนวันลอยกระทงค่ะ
.................
สาวๆ ที่เต้นระบำชุดเขียวและแดงนัน เป็นคนจีนอ่ะค่ะ
หน้าขาวหมวย สวยจ๋าเลย เห็นแล้วอิจฉาผิวสาวจีนเลยค่ะ
โดย: JewNid 15 พฤศจิกายน 2551 18:42:21 น.
แฟง...ไม่ค่อยชอบเที่ยวหน้าเทศกาลก็เลยนอนตีพุงอยู่บ้านจ๊ะ
คุณก๋า...คุณก๋าซื้อของที่เหมาะและมีประโยชน์กับเด็กจริงๆ ไม่นึกเหมือนกันว่าจะซื้อของได้เยอะขนาดนั้น ไว้งวดหน้ามีงานบุญแบบนี้อย่าลืมชวนกันนะคะ
ป้าหู้...ขอบคุณมากนะคะที่หอบคลิปมาให้ดูด้วย ชอบเสียงคุณชินกรมากเลยค่ะ อายุเยอะแล้วแต่ เสียงยังดี ไม่มีตกเลย
วันนี้นั่งหน้าทีวีแล้วน้ำตาไหลตลอดเลยค่ะ ยิ่งเห็นภาพเมื่อเย็น ตอนที่ในหลวงวางช่อดอกไม้จันทน์แล้วยืนนิ่ง ทำเอาบ่อน้ำตาแตกเลย เศร้ามากกกกกก
คุณนิด...ยกมือเห็นด้วยยยย อารมณ์ไหนคงไม่ละมุน(ชอบคำนี้ที่คุณนิดใช้จัง )เท่าตอนอ่านบทกวีแกล้มพระจันทร์เต็มดวง ยิ่งถ้าฟ้าเปิด เมฆไม่มีล่ะก็เยี่ยมเลยค่ะ
มิน่าล่ะ เห็นหน้าก็คิดว่าคงไม่ใช่สาวไทย ดูชุดแล้ว รู้สึกว่าจะออกไปทางพวกสิบสองปันนามากกว่า แต่หน้าตาแฉล้มแช่มช้อยกันหมดเลย
โดย: haiku 15 พฤศจิกายน 2551 19:46:42 น.
โดย: อุ้มสี 16 พฤศจิกายน 2551 1:15:05 น.
ลมเย็นอ่อนๆต้นฤดูหนาว
เมื่อคิดถึงบ้านเกิด
ความสุขที่ไม่มีวันลืม
โดย: Insignia_Museum 16 พฤศจิกายน 2551 7:38:50 น.
อ่านไม่ออก แต่คำแปลชวนเหงาโดดเดี่ยว
ยิ่งอ่านประวัติที่คุณไฮกุโพสต์ไว้
ยิ่งสงสารและเศร้าลึกๆ
หากมีงานของท่านหลี่ไป๋อีก
คุณไฮกุมาโพสต์อีกนะคะ .......
โดย: หยุ่ยยุ้ย 16 พฤศจิกายน 2551 9:28:43 น.
ตอนนี้อ่านกำลังภายใน มักจะมีกลอนจีนที่แปลเป็นไทย สอดแทรกอยู่
ทำไมผมอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจเลย...
โดย: มิตรรัก IP: 125.27.39.87 16 พฤศจิกายน 2551 12:03:10 น.
ได้มาเห็นภาพวาดนกบินพร้อมคำอธิบายของตัวหนังสือจีนแล้ว
บอกได้เลยว่า ... ชอบมากเลยอะจ้า ..
โดย: จอมแก่นแสนซน 16 พฤศจิกายน 2551 15:27:39 น.
พรุ่งนี้มีโปรแกรมแอ่วเจียงฮาย ไปด้วยกันมั้ย
(งานไม่เข้า เที่ยวโลด)
โดย: หมูตัวน้อย (mr.pure.fon ) 16 พฤศจิกายน 2551 21:58:02 น.
เพราะมีเพื่อนส่งเงินมาอีก พันกว่าบาท
รวมถึงหนังสือนิทานอีกหนึ่งชุดครับ
ที่แน่ๆ หลังจากเพื่อนบล็อกแนะนำมา
ผมเลยไปล้างรูป
วันนี้ว่าจะเอาไปให้ครูหนึ่งชุด
และเด็กๆอีกหนึ่งชุดครับ
อิอิอิ
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 17 พฤศจิกายน 2551 8:05:35 น.
โดย: ตุ๊กตาไขลาน 17 พฤศจิกายน 2551 11:44:55 น.
สวัสดีวันจันทร์...มีความสุขมากๆนะจ๊ะ
@@@@@@@@@@@@@@@
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 17 พฤศจิกายน 2551 16:17:39 น.
เดี๋ยนว่าบล็อกแก๊งค์เค้าน่าจะโปรโมทบล็อกหม่อมป้ามั่งนะ เพราะมีหลายเรื่องที่มันมีประโยชน์ทั้งศาสตร์และศิลป์(ว่าแล้วก็จ่ายค่า PR.ให้อิพจน์มาเสียดีๆซัก 2 ตำลึง กิกิ)
โดย: โจเซฟิน 17 พฤศจิกายน 2551 21:59:58 น.
Insignia_museum...เขียนเม้นท์ได้ไพเราะพริ้งถูกใจจังค่ะ อ่านแล้วนึกถึงตอนเด็กๆที่ยังนอนกางมุ้ง นี่ถ้ามีบ้านริมน้ำจะไปกางมุ้งนอนตากลมหนาวมั่ง
คุณยุ้ย...ไม่เป็นไรจ๊ะ เราเองก็ยังแวะไปบ้านเพื่อนๆไม่ครบคนเหมือนกัน
ยังมีบทกวีของท่านหลี่ไป๋ให้อ่านอีกสามบทต่อกันเลย ไว้มีเวลาคัดอักษรจีนเสร็จจะอัพให้อ่านอีกค่ะ
มิตรรัก...เวลาอ่านบทกวีต้องตีความค่ะ บางคำไม่ได้มีความหมายตรงๆ แต่เป็นการเปรียบเทียบ กวีหลายบทในหนังสือเราอ่านแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ต้องอาศัยคำบรรยายท้ายเล่มที่สมเด็จพระเทพฯทรงอธิบายถึงจะเข้าใจ
นัท...เราชอบรูปสีโทนหวานๆเลยชอบรูปนี้ค่ะ งวดนี้ไม่ได้บอกที่มาเพราะค้นเยอะจนลืมว่าไปหามาจากเวบไหน ที่จริงอยากใช้รูปในหนังสือเหมือนกันเพราะตรงกับเนื้อหาของแต่ละบทดี แต่สแกนออกมาแล้วไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
คุณหมู...เข้าท่าดีแท้ มาชวนไปแอ่วเหนือตอนหน้าหนาว แต่...เอ่อ...อะฮั้นอยู่กอทอมอนะเจ้าคะ เล่นมาชวนไปเที่ยวตั้งเจียงฮายปู้น คงตามไปม่ายไหว ถ้าไงก็เที่ยวเผื่อด้วยละกันค่า
คุณก๋า...ดีจัง คุณก๋าเลยได้ทำบุญอีกรอบ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆสำหรับของขวัญชุดใหญ่ที่ส่งไปให้นะคะ ทั้งหนังสือ การ์ดและภาพพู่กันเดียว ประทับใจจริงๆ ซาบซึ้้งในนำ้ใจของคุณก๋ามากๆค่ะ
อิ๋ม...โห หายไปนานมากกกกก คิดถึงจะแย่ ดีใจที่หวนคืนยุทธจักรบล๊อคนะจ๊ะ
ป้าหู้...ขอบคุณมากที่แวะมาทักทายกันนะคะ
หลานพจ...555 สุนทรีย์ ละม่อม ทำปายยยยด้ายยย
โถ อย่าว่าตัวเองยังงั้นซิ สวยเลือกได้อย่างหลานพจน่ะมีดีเยอะอย่างเลยเชียว จาระไนให้ฟังสักสองสามข้อ หลานป้าเป็นกูรูด้านซีรีส์นานาชาติ ตะละบล๊อคที่เขียน แนะนำเรื่องที่สนุกๆทั้งนั้น ถามอะไรเกี่ยวกะซีรีส์ก็รู้โม้ด แถมอุทิศบล๊อคให้เพื่อนๆเข้าไปยืดเส้นยืดสาย ลับฝีปากกันมันส์พะยะค่ะ หลายคนคงเสียดายที่เปลี่ยนเป็นบล๊อคV.I.P.ไปแล้ว และที่ป้าชอบที่ซู้ดคือ เป็นเดี่ยวมือหนึ่งในด้านวาจา ทั้งฮาทั้งเชือดเฉือน แถมมีน้ำใจดีมากๆ
อ่านย่อหน้าที่สองแล้วตัวลอย แต่ป้าว่าบล๊อคแก๊งค์คงกำหนดหัวข้อโปรโมทไม่ออก เพราะเขียนบล๊อคตามใจฉัน คอนเซ็ปต์หลากหลายเกิน
โดย: haiku 17 พฤศจิกายน 2551 23:25:20 น.
ดอกไม้นั้นคือ ดอกเสี้ยวครับ
ปลูกไว้ที่บ้านผมตั้งแต่ต้นเล็กๆ
จนเดี๋ยวนี้สูงท่วมหัวไปแล้วครับ
เรื่องต้นไม้นี่มีต้นนึงที่ผมประทับใจมากครับ
มันคือต้นหลิว
ผมปลูกไว้ที่บ้านอีกเหมือนกันตอนนี้สูงท่วมหลังคาไปแล้ว
ต้นนี้ผมเอามาจากคุณหมิงตอนไปเที่ยวเมื่อ 9 ปีที่แล้วครับ
หักกิ่งมาคืบเดียว
แล้วใส่ขวดน้ำดื่ม
กลับมาเชียงใหม่เอามาปักชำ
จากก้านเดียว ตอนนี้กลายเป็นต้นหลิวอย่างยักษ์เลยครับ
นี่กำลังเอาเรื่องนี้มาเขียนเป็นหมื่นตาด้วยครับ หุหุหุห
โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 18 พฤศจิกายน 2551 6:18:19 น.
...เข้ามาเสพบทกวีค่ะ.....
โดย: ดราก้อนวี 18 พฤศจิกายน 2551 9:33:01 น.
โดย: d_regen 18 พฤศจิกายน 2551 11:54:29 น.
คุณไฮกุคะ
วันนั้นที่เม้นท์ในบล้อกแองจิ๊ ว่า
เราเข้าใจอารมณ์ชอบดาราถึงขั้นซึมลึกอย่างจี้หรือตุ้งนะ การได้เสาะหาเรื่องราวและได้พูดคุยถึงถือเป็นความสุขใจอย่างนึง เราก็มีดาราในดวงใจอยู่หนึ่งหนุ่ม อยากจะทำบล๊อคให้เหมือนกันแต่ยังไม่ได้ฤกษ์ซะที
คุณโจเซฟินมาถามว่า
-ดาราในดวงในของหม่อมป้าใช่ มิตร ชัยบัญชา รึเปล่าคระ
-อันนี้ถึงหม่อมป้าไฮคุนะคะ :แบบว่าเห็นแก่ความเป็นป้าเป็นหลานกัน พจน์ขอสารภาพละกันว่าหม่อมแม่ของพจน์ก็ชอบ เพชรา เชาวราช ค่ะ เด๋วจะหาว่าตระกูลเราไม่ขลัง
ปล.แต่อิพจน์โจก็เจือกอยากรู้(จริงๆ)ว่าหม่อมป้ากำลังหมายตาผู้ใดไว้ เป็นคนที่พจน์พอจะเป็นเอเยนต์ได้มั้ย เอ..อาจจะเป็นน้องกายลูกป้าช่าอ่ะป่าวน้อ(สังเกตุว่าอิพจน์ทาปากแดง 2 รอบ)
โดย: angy_11 18 พฤศจิกายน 2551 11:55:29 น.
คุณไฮกุ ชื่นใจค่ะที่คุณไฮกุอ่านเรื่องราวทีีไก่เอามาลง
ไม่ได้จะว่าคนที่ไม่อ่าน เพราะความสนใจ บางทีต่างกัน
แต่ถ้าอ่าน ก็จะดีใจค่ะ เพราะเราก็ตั้งใจลง
ต้นbaobab อ่านว่า เบ-โอ-แบบ ค่ะ อ่านเร็วๆ ก็จะฟังดูคลั้ายว่า เบา-แบบ
หนังสือบอกสามเดือนมีใบ
แต่อ้างอิงจากคนพื้นที่African ช่วงมีใบจะไม่เกินห้าเดือนค่ะ
ไก่เอารูปใบมาให้ดูด้วยค่ะ
โดย: Sweety-around-the-world 18 พฤศจิกายน 2551 18:20:14 น.
โห จากต้นหลิวจากจีนแค่คืบเดียว เอามาปลูกแล้วสูงใหญ่มากเลยนะนั่น เราเคยเห็นแต่ต้นขนาดย่อมหน่อย แสดงว่าทั้งดินกะอากาศของเชียงใหม่คงจะเหมาะเลยโตวันโตคืน แล้วถ้าโตขนาดนั้น รากมันไม่ชอนไชไปไกลเหรอคะ
แหม วันนี้หลานหล่อเป็นพิเศษ ใส่เสื้อสเวตเตอร์คอวีแบบที่อิฉันชอบเลยนะเนี่ย
ป้าวี...ขอบคุณที่แวะมาอ่านบทกวีค่า
แฟง...เดี๋ยวตามไปดูจ๊ะ
จี้...สงสัยจี้จะเม้นท์เวลาเดียวกะที่เราไปเม้นท์ที่บล๊อคจี้ ตอบไปเรียบร้อยแล้วว่างี้ค่ะ
หลานพจเล่นของขลังเลยนะ ดารารุ่นเก๋ากึ๋กขนาดนั้น ต้องถอยความจำไปปู้นเลย เดาใจเกือบถูก ที่จริงป้าชอบสมบัติมากกว่ามิตรนะ มิตรเล่นหนังเยอะจัดเลยเบื่อหน้าไปบ้าง แต่ชอบนิสัยของแกอ่ะ
ป้าชอบเคี้ยวหนุ่มกระดูกอ่อนอย่างหลานกายอยู่เหมือนกันแหละ หล่อดีแต่ไม่เป็คเท่าไหร่ หนุ่มที่หมาตาย-หมายตาไว้น่าจะเป็นหนุ่มในโกดังหลานพจด้วย ก็พี่ชายจากเรื่องออทั่มนี่แหละ ก็เพราะชอบละครเศร้าไง เรื่องนี้ใครดูแล้วไม่ร้องไห้ให้มาเบิ้ดกะโหลกหลานพจได้สองทีเลย อิ อิออกอาการหลงรักพี่แกตั้งแต่ปะหน้าหนแรกเลยเชียว ก็ฉากที่จุนโซยืนหน้าอุโมงค์นั่นแหละ ป้าเป็นคนรักแล้วรักเลย ถึงจะผ่านมาหลายปีก็ยังไม่เปลี่ยนใจ
เม้าท์ต่ออีกนิดว่า ที่จริงตั้งท่าจะทำบล๊อคให้หวานใจมาเป็นชาติแล้วล่ะ แต่ตั้งไข่ล้มต้มไข่กินอยู่เรื่อยเลยไม่ได้เริ่มเขียนสักกะที
คุณไก่...ชอบอ่านเรื่องพาเที่ยวอยู่แล้วเลยอ่านหมดค่ะ ปกติเวลาไปเยี่ยมเพื่อนๆ เราพยายามอ่านเนื้อหาที่อยู่ในบล๊อคทั้งหมด คิดถึงใจเขาใจเราน่ะ เวลาเราทำบล๊อคก็อยากให้เพื่อนๆอ่านหมดเหมือนกันค่ะ แต่ถึงเพื่อนจะไม่อ่าน แค่แวะมาพูดสองสามคำก็ดีใจแล้วค่ะ
ต้นเบาแบบเป็นต้นไม้ที่แปลกมากเลยนะ เหมือนรากชี้ขึ้นบนฟ้าอย่างที่คุณไก่่บอกเลย ใบโกร๋นหมดอยู่ตั้งหลายเดือน ดูจากใบ ตอนที่บานเต็มต้นคงจะสวยไม่แพ้กัน ไว้มีรูปต้นที่ใบเต็มๆก็หนีบมาฝากสักรูปนะคะ
โดย: haiku 18 พฤศจิกายน 2551 22:54:22 น.
ต้นหลิวรากเดินไม่ลึกและไกลเหมือนตระกูลไทรครับ
ปลูกริมน้ำสวยดีครับ
แม้ใบจะไม่เยอะเท่าที่เมืองจีนก็ตาม
ผมแอบคิดเล่นๆว่าอีกหน่อยจะเอาต้นกล้าไปปลูกที่บ้านมาดามครับ
บ้านเธอที่เชียงรายมีคลองเล็กๆอยู่ข้างบ้าน
ปลูกต้นหลิวเป็นทิวแถวน่าจะสวยดีครับ
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 19 พฤศจิกายน 2551 7:41:04 น.
ปีนี้ผมก็ไม่ได้ลอยกระทงเหมือนเดิม 55+
จำได้ตอนเด็กๆ ไปลอยกระทงที่วัดกับแม่ครั้งนึง นอกนั้นก็ลอยกับเพื่อนไม่ก็ญาติอีกไม่กี่ครั้ง
โดย: นางาเสะ ไลท์ 19 พฤศจิกายน 2551 13:12:30 น.
^
แอบฮาที่ไฮกุตอบจี้อ่ะ ตกลงเป็น ป้าที่ชอบเคี้ยวหนุ่มๆ ไปซะแล้ววว
โดย: กวางตุ้งหวาน 19 พฤศจิกายน 2551 23:32:05 น.
คุณไฮกุ ไก่มาเร็วไปไหมค่ะวันนี้
ดีเหมือนกันได้คุยกันบ่อยขึ้น นาน ทีบ้าง ถี่บ้าง
ไก่ว่างานเบาแล้วเชียว ตอนนี้มาวุ่นนิดๆ แต่แบบสบายๆ เรื่องxmas จัดเวลาค่ะ
มีทั้งนัดเพื่อน และเพื่อนนัด ตารางเต็ม แต่คาดว่าไม่ไปไกลจากบ้านเท่าไหร่
ไม่งั้น ชีวิตช่วงนี้สบายค่ะ งานไก่เบาเชียว
คุณไฮกุแพลนช่วงปีใหม่หรือยังค่ะ
โดย: Sweety-around-the-world 20 พฤศจิกายน 2551 2:11:28 น.
เวลาต้องไกลบ้านแล้วคิดถึงใครสักคน
การได้มองดวงจันทร์ที่ลอยเด่นกลางผืนฟ้า
จะทำให้คลายความทรมานจากความคิดถึงได้ดีเลยนะ
เพราะอย่างน้อยก็เป็นดวงจันทร์ดวงเดียวกัน
ที่คนที่เราคิดถึงมองอยู่
ปล.นะกลับมาประจำการที่บลอคแล้วนะจ๊ะไฮกุ
คิดถึงจังเลย
โดย: ณ มน 20 พฤศจิกายน 2551 13:37:25 น.
คุณไลท์...ลอยกระทงอยู่ที่บ้านค่า ที่จริงเราก็เคยลอยกระทงเหมือนกัน ลงเรือแถวธรรมศาสตร์ไปลอยกลางเจ้าพระยาเลยแหละ
ตุ้ง...ปู้จายในฝันของเราไม่จำกัดสเป็ค จะเอ๊าะๆหรือสูงวัยก็ปิ๊งได้ถ้าหล่อเข้าตาฮ่ะ
คุณไก่...ดีจังที่งานน้อยลง จะแวะมาคุยกันได้บ่อยๆ
แป๊บๆจะสิ้นปีแล้ว คุณไก่เริ่มแพลนงานคริสต์มาสแล้วเหรอคะ ดูท่าจะเป็นงานเลี้ยงใหญ่เลยนะคะ เราเป็นคนไม่ค่อยมีเทศกาลกะใคร ปีใหม่นี้ก็คงอยู่บ้านค่ะ
ณ มน...แหม เขียนเม้นท์ได้เพราะสมกะเป็นนักเขียนเลยนะจ๊ะ ณ มนหายไปหลายวันเลย ขอบคุณนะจ๊ะที่กลับมาก็แวะมาเยี่ยมกัน
โดย: haiku 20 พฤศจิกายน 2551 22:01:29 น.
เรียนเชิญที่บล็อกด้วยนะครับ
อิอิอิ
ขออนุญาติปลื้มครับ
โดย: กะก๋า ฮา 3 สายสะพาย (กะว่าก๋า ) 21 พฤศจิกายน 2551 6:23:57 น.
แขกพิเศษรายงานตัวครับ อิอิอิ
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 21 พฤศจิกายน 2551 9:26:58 น.
การตีความของกลอนจีนผู้เขียนมักจะใช้สิ่งของมาเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงความรู้สึก ดังนั้นการตีความต้องอาศัยการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ควบคู่ไปด้วยกัน
โดย: ตะไคร้หอม 21 พฤศจิกายน 2551 9:38:21 น.
คุณตะไคร้หอม...ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ
เราก็รู้จักบทกวีนี้ตอนเริ่มเรียนภาษาจีนเหมือนกันค่ะ เป็นบทที่สั้นเลยจำได้ง่าย ความหมายก็เพราะดีเนอะ
อ่านสองประโยคสุดท้ายแล้วพยักหน้าตามหงึกๆ เห็นด้วยร้อยปูเซ็งค่า
โดย: haiku 21 พฤศจิกายน 2551 10:23:46 น.
อยากศึกษาบทกวีจีนกับพวกหลักภาษา ฉันทลักษณ์ การแต่ง อะไรพวกนี้ อ่ะครับ หรือเป็นหนังสือแปลมีรูปแบบนี้ก็ได้
ถ้าว่างๆช่วยส่งทางเมล์ Lmpiratat@hotmail.com
ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
โดย: Huang Bi-Da-- IP: 124.120.67.31 29 พฤศจิกายน 2551 22:22:01 น.
เราก็ไม่ค่อยรู้จักหนังสือการแต่งกลอนของจีนเท่าไหร่ค่ะ จะมีที่เป็นหลักเป็นฐานก็หนังสือ "หยกใสร่ายคำ" ของสมเด็จพระเทพฯนี่แหละค่ะ เราว่าหนังสือสอนการเขียนบทกวีจีนของไทยหาได้ค่อนข้างยาก แต่ถ้าคุณอยากศึกษาจริงๆ ที่OCAเปิดคอร์สสอนแต่งโคลงจีนด้วย ลองเข้าเวบสถาบันดูก่อนก็ได้ ที่นี่ค่ะ OCA
โดย: haiku 11 ธันวาคม 2551 14:44:16 น.
รายละเอียดของหนังสือค่ะ
ชื่อหนังสือ บทกวีจีน
โดย จ่าง แซ่ตั้ง
สำนักพิมพ์ ลูก-หลาน จ่าง แซ่ตั้ง
พิมพ์รวมเล่ม ครั้งที่ 2 : เมษายน พ.ศ. 2548, 160 หน้า
ราคา 100 บาท
ISBN 974-929-853-5
บท กวีจีน คือ ผลงานรวบรวมบทกวี 68 บทของกวีจีน โบราณ ในยุคสมัยต่างๆ ตั้งแต่ราชวงศ์ฮ่าน ก่อน ค.ศ. 100-165 ราชวงศ์เอว้ย ราชวงศ์จิ้น รายวงศ์เหลียง ราชวงศ์หนานไป่เฉา ราชวงศ์ซุ่ง ราชวงศ์จิน ราชวงศ์ชิง จนถึงบทกวีชาวบ้าน ค.ศ. 1931 โดยกวีท่านสำคัญของจีนโบราณ 43 ท่าน เช่น ใท้ช่างผู้สันโดษ จูมู่ เจ้าอีื หยวน จี๊ เถ่าเหวียนหมิง หลีป๋อ ตู้ฟู่ ฯลฯ แปลจากต้นฉบับภาษาจีนโบราณสู่ภาษาไทยโดยกวีจ่าง แซ่ตั้ง พร้อมด้วยข้อเขียน ทรรศนะ อธิบายบทกวีทุกบท อ่านง่าย เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษาบทกวี
จะเข้าไปดูรายละเอียดตามลิงค์นี้ก็ได้ค่ะ
บทกวีจีน
โดย: haiku 11 ธันวาคม 2551 21:00:15 น.
หยกใสร่ายคำนี้
ก็มีเก็บสะสมมานานแล้วเหมือนกันค่ะ
ชอบมากๆ...ชอบบทเดียวกับคุณไฮขุเลยค่ะ
เลยถือโอกาสพิมพ์เป็นตัวอักษรมาให้นะคะ
โดย: อรุณพุดตาน 28 มกราคม 2552 22:47:05 น.
โดย: haiku 31 มกราคม 2552 9:41:35 น.